23 กรกฎาคม 2567

ปู่สันต์ตอบคำถามเด็กเรื่อง Synchronicity และ Matrix

(ภาพวันนี้ / ชะพลูบนพื้นป่าปลูกที่บ้านบนเขา)

กราบเรียนนายแพทย์สันต์ ใจยอดศิลป์ที่เคารพ

กระผมเป็นนักเรียน รร. … ติดตามอ่านการตอบคำถามของท่านนายแพทย์ประจำเพราะพ่อแม่ก็ติดตามอยู่ ผมมีเรื่องจะสอบถามว่า อะไรคือ synchronicity มีภาพยนตร์เกี่ยวกับเรื่องนี้ไหม และ matrix และในภาพยนตร์เรื่องเดอะแมตริก มันคืออะไร มันเกี่ยวกับคำสอนในศาสนาฮินดูหรือไม่อย่างไรครับ

………………………………………………………

ตอบครับ

ฮี่ ฮี่ วันนี้ขอตอบจดหมายไร้สาระของเด็กหน่อยนะ แบบว่าเปลี่ยนบรรยากาศ อีกอย่างหนึ่งถ้าไม่ตอบเด็กๆบ้างก็จะเสียชื่อหมอสันต์ที่มีโลโก้ว่าใครถามอะไรมาตอบให้หมด (ยกเว้นเรื่องที่จะทำให้คนเขาขายของไม่ได้เพราะเดี๋ยวตัวเองจะถูกแพ่นกะบาลเอา)

1.. ถามว่า synchronicity คืออะไร ตอบว่าก็คือที่คนไทยชอบพูดว่า “ธรรมะจัดสรร” นั่นแหละครับ

คำว่า synchronicity นี้คนใช้คนแรกคือคาร์ล จุง นักจิตวิทยาชาวสวิสที่ชอบไสยศาสตร์ เขาคิดคำนี้ขึ้นมาเพื่อใช้หมายถึงกรณีที่มีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมกันอย่างเชื่อมโยงกันแบบมีความหมาย แต่ไม่ได้เกิดขึ้นแบบเป็นเหตุเป็นผลเกี่ยวเนื่องกันเลย ยกตัวอย่างเช่นสมมุติว่าคุณกำลังตกหลุมรักเด็กผู้หญิงคนหนึ่งแต่เธอย้ายโรงเรียนไปได้สองปีแล้วไม่เคยเจอกันเลย เช้านี้คุณเพิ่งคิดถึงเธออยู่หลัดๆพอตกเย็นวันเดียวกันเธอตัวเป็นๆก็เดินผ่านหน้าบ้านคุณให้คุณเห็นจะๆ เป็นต้น การที่คุณคิดถึงเธอ ไม่ได้เกี่ยวหรือไม่ได้เป็นเหตุให้เธอมาเดินที่หน้าบ้านคุณเลย มันเป็นสองเหตุการณ์ (คุณคิดถึงเธอ และเธอมาเดินที่หน้าบ้าน) ที่ต่างคนต่างเกิด แต่เกี่ยวเนื่องกันอย่างมีความหมาย

2.. ถามว่ามีคนเอาคอนเซ็พท์ซินโครนิซิตี้ไปทำหนังไหม ตอบว่าเท่าที่ผมทราบมีหลายเรื่องนะ แต่ผมไม่เคยดูซักเรื่องเดียวเพราะวัยของปู่สันต์เหลือเวลาน้อยเต็มทีแล้วจนไม่กล้าเอาเวลามานั่งดูหนัง ความจริงเกือบจะได้ดูเรื่องหนึ่งแล้วคือเรื่อง Cloud Atlas แต่ว่าเปิดทีวีไม่เป็น ก็จึงอดดูในนาทีสุดท้าย หิ..หิ

3.. ถามว่า Matrix คืออะไร ตอบว่ามันเป็นคำที่มีหลายความหมายนะ แต่ถ้าจะเอาให้เกี่ยวกับหนัง The Matrix คำนี้หมายถึง “โลกเสมือน (virtual reality)” ที่สร้างขึ้นโดยปัญญาประดิษฐ์ที่หลอกให้คนทั้งโลกเข้าใจผิดว่าโลกที่เขาอยู่อาศัยนั้นมันเป็นโลกจริงๆแต่แท้ที่จริงแล้วมันเป็นโลกเสมือนที่ปัญญาประดิษฐ์ทำขึ้นเพื่อขังคนเป็นทาสเอาไว้รีดใช้พลังงานความร้อนจากร่างกายของพวกเขา

4.. ถามว่าหนังเรื่อง The Matrix เกี่ยวกับคำสอนของศาสนาฮินดูไหม ตอบว่าคำสอนของศาสนาฮินดูเป็นเข่งของความคิดเห็นที่ใครคิดอะไรได้ก็เอาไปเขียนไว้ในหนังสือเวดะ ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้หรือในจักรวาลนี้เกี่ยวโยงกับคำสอนของศาสนาฮินดูได้หมด อย่างโลกเสมือนในหนังเรื่อง The Matrix ก็เหมือนกับโลกจริงซึ่งในคำสอนฮินดูสอนว่ามันเป็นเพียงมายา (Maya) ไม่ใช่ของจริงดอก และการที่พระเอกกับพวกพากันแหกโลกเสมือนออกไปได้ก็เปรียบได้กับการที่ผู้แสวงหาในศาสนาฮินดูบรรลุความหลุดพ้นจากโลกของมายาได้พบกับตัวตนที่แท้จริงของตนที่เรียกว่าพรหม (บรามัน หรือปรมาตมัน) คือถ้าจะเทียบกันก็เทียบได้ประมาณนี้   

5.. ข้อนี้คุณไม่ได้ถามแต่ปู่สันต์แถมให้ ว่าเราใช้โลกเสมือนในหนังเรื่องเดอะแมตริกซ์เป็นแนวทางการใช้ชีวิตของเราได้นะ มองจากมุมของพุทธที่คุ้นเคยอยู่แล้วก็ได้ ทุกชีวิตเกิดมาแล้วก็ต้องตาย ชั่วชีวิตหนึ่งนี้จึงเป็นการเล่นละครอยู่ในโลกมายาเพียงชั่วคราวเท่านั้นแล้วก็ตายกลายเป็นขี้ฝุ่นไปโดยไม่เหลืออะไรไว้ข้างหลังเลย ดังนั้นในการเล่นละครชีวิตนี้ ให้คุณ “อิน” กับบทแค่พอดีๆ อย่า “อิน” มากเกินไปจนเป็นบ้าหรือจนต้องพึ่งยาต้านซึมเศร้าหรือหันเข้าหายาเสพย์ติด..นี่คือประเด็นนำกลับบ้าน

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์