บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก เมษายน, 2020

อยากรู้เชิงลึกเรื่องสารต้านอนุมูลอิสระและกลูต้าไทโอน

กราบเรียนคุณหมอสันต์ หนูเป็นแฟนคลับตัวจริง อยากรู้เรื่องหนึ่งแต่ไม่เห็นมีใครเคยถาม ว่ากลูต้าไทโอนทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายดีขึ้นจริงไหม กลูต้าไทโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีมากจริงไหม มันทำให้หน้าขาวขึ้นจริงไหม แล้วคำว่าสารต้านอนุมูลอิสระที่หนูรู้มาว่ามันเป็นของดี ขณะที่ oxidative stress เป็นของเลว หนูรู้แค่นี้โดยไม่เข้าใจอะไรลึกไปกว่านี้เลย ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าสารต้านอนุมูลอิสระนี้มันเป็นประเด็นจริงๆหรือว่าเป็นแค่เรื่องเลื่อนลอยไม่เกี่ยวกับชีวิตจริง (หนูจบสายวิทย์ อาชีพนักกายภาพบำบัด) หาอ่านที่ไหนก็มีแต่อธิบายอย่างผิวเผิน คุณหมอกรุณาช่วยอธิบายแบบลึกซึ้งแต่เข้าใจง่ายตามสไตล์คุณหมอให้หนูตาสว่างในเรื่องนี้หน่อยนะคะ .................................................................. ตอบครับ      1. ถามว่าเรื่องสารต้านอนุมูลอิสระมันเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องหลอก ถ้าคุณอยากเข้าใจ คุณต้องทนอ่านนะ เรื่องมันยาวและน่าเบื่อ ท่านผู้อ่านท่านอื่นที่ไม่ชอบอะไรยาวและน่าเบื่อให้ผ่านเรื่องนี้ไปได้เลย อีกอย่างหนี่งเนื่องจากผู้ถามเป็นเด็กวิทย์ ผมจะตอบโดยใช้ศัพท์แสงทางวิทย์แบบไม่กระมิดกร...

Ep2. โรคเครียด (vdo หมอสันต์: ชุดรักษาโรคด้วยตัวเอง)

https://www.youtube.com/watch?v=O3PmwYb_Ns8 สวัสดีครับ ผม สันต์ ใจยอดศิลป์ นะครับ เทปนี้เป็นเทป2 หรือ Ep2 ของซีรีส์ รักษาโรคด้วยตัวเอง โดยหมอสันต์ วันนี้เราจะคุยเรื่องการรักษาโรคเครียดด้วยตัวเอง เรื่องเดียวเลย นิยามของโรคเครียด โรคเครียด หรือความเครียด ในมุมมองของการแพทย์ก็คือการที่ร่างกายสนองตอบต่อสิ่งคุกคาม ร่างกายมีระบบประสาทอัตโนมัติไว้ทำเรื่องนี้โดยเฉพาะ เมื่อรับรู้ว่ามีสิ่งคุกคามต่อชีวิตเข้ามา ระบบประสาทอัตโนมัติก็จะสั่งการสนองตอบในลักษณะเตรียมพร้อมจะสู้หรือจะหนี เช่นหลอดเลือดหดตัว กล้ามเนื้อเกร็งตัว หัวใจเต้นเร็ว ความดันเลือดเพิ่มขึ้น เลือดข้นและหนืดขึ้น น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น แต่ระบบที่ไม่จำเป็นต่อภาวะฉุกเฉินจะถูกเบรคไว้ เช่นระบบย่อยอาหาร ระบบสืบพันธ์ ระบบภูมิคุ้มกัน จะทำงานลดลง สาเหตุของโรคเครียด สาเหตุของโรคเครียดในมุมมองทางการแพทย์ก็คือ "สิ่งคุกคาม"หรือ "สิ่งเร้า (stimulus)" ซึ่งก็คือสถานะการณ์รอบตัว สมัยที่เราเป็นมนุษย์ถ้ำ สาเหตุของความเครียดก็คือเสือ สิงห์ กระทิง แรด ที่จะจับเรากินหรือทำร้ายเรา ทั้งหมดนั้นมาแล้วเดี๋ยวเดียวก็ไป แต่สมัยนี้สา...

ควรฉีดหรือไม่ควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ระหว่างโควิด19 ระบาด

สวัสดีค่ะคุณหมอ ... ยังติดตามอ่านบทความของคุณหมอตลอดนะคะ และยังคงประพฤติปฏิบัติคนคามที่ได้เรียนจากคุณหมอในแค้มป์ RD2 แม้จะยังไม่ได้ทาน plant base diet 100% ก็ตาม น้ำหนักก็ค่อยๆลง จนอาการปวดเข่าบรรเทาเบาบางจนสามารถเดินได้เฉลี่ยวันละ 7-8 กิโล เดินจงกรมและนั่งสมาธิได้วันละ 1 ชั่วโมง ทุกอย่างก็ดูจะเข้าร่องเข้ารอยดีค่ะ วันนี้มีเรื่องรบกวนอยากเรียนถามคุณหมอว่า ในขณะที่โรค Covid 19 กำลังระบาด เราควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ไหมคะ เห็นมีคุณหมอออกมาแนะนำแย้งกันอยู่ กลุ่มหนึ่งบอกว่าควรฉีด อีกกลุ่มไม่แนะนำให้ฉีด จึงขอเรียนปรึกษาคุณหมอสันต์ว่ามีความเห็นอย่างไรคะ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ ......................................................... ตอบครับ      1. ถามว่าระหว่างโควิด19 ระบาดควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ไหม ตอบว่าควรฉีดไปตามปกติครับ      องค์การอนามัยโลก (WHO) เองก็กลัวแพทย์จะเข้าใจผิดในเรื่องนี้จึงได้ออกคำแนะนำเรื่องนี้อย่างเจาะจงว่าในระหว่างโควิด19 ระบาด การฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน (VPD) ต้องฉีดให้ครบตามปกติอย่าหยุด มิฉะนั้นจะไปสร้าง...

กินยา NSAID อยู่ต้องหยุดกินระหว่าง COVID19 ระบาดไหม

เรียนคุณหมอสันต์ มีเพื่อนส่งลิงค์นี้มาให้ว่า BMJ วิจัยแล้วว่ายา NSAID ทำให้เป็นโควิด19 หนักขึ้น ทำให้หนูกังวลเพราะหนูเป็นรูมาตอยด์ และหมอให้กินยา Arcoxia ทุกวัน จะขอหมอให้หยุดยาก็ไปรพ.ไม่ได้ มันจะทำให้หนูติดเชื้อโควิด19 ง่ายขึ้นไหม หรือถ้าติดแล้วหนูจะเป็นแรงกว่าธรรมดาไหม ขอบพระคุณคุณหมอนะคะ ....................................................... ตอบครับ       ประเด็นที่ 1. การใช้ประโยชน์จากหลักฐานวิทยาศาสตร์      ข้อมูลที่คุณอ้างถึงว่าตีพิมพ์ใน BMJ นั้น [1] มันเป็นจดหมายถึงบรรณาธิการ ไม่ใช่ผลวิจัย ซึ่งตรงนี้ผมขอถือโอกาสแวะคุยนิดหนึ่งถึงวิธีตีค่าความเชื่อถือได้ (appraisal) ของข้อมูล ว่าเราดูหลายองค์ประกอบรวมกันเรียงตามลำดับดังนี้      (1) ชั้นของหลักฐานวิจัย เช่นถ้าเป็นการวิจัยสุ่มตัวอย่างแบ่งกลุ่มเปรียบเทียบ (RCT) ก็เป็นชั้นสูงสุด ถ้าเป็นการวิจัยในคนแต่ไม่ได้สุ่มตัวอย่างแบ่งกลุ่มก็เป็นชั้นรองลงมา ถ้าเป็นการวิจัยในแล็บหรือในสัตว์ก็เป็นหลักฐานชั้นต่ำ ส่วนความเห็นของผู้เชี่ยวชาญหรือจดหมายถึงบรรณาธิการนั้นไม่ใช่หลักฐานวิทยาศาสตร์เลย ...

รู้สึกเบื่อ เหนื่อย พอแล้ว ขอแยกตัวกลับ

กราบเรียนคุณหมอสันต์ที่เคารพและนับถือสุดๆค่ะ ขอรบกวนปรึกษาคุณหมอในเรื่องขี้หมามากๆหน่อยค่ะ คุณหมอคะดิฉันเลือกทางไหนดีระหว่างหน้าที่ภรรยาที่คอยดูแลสามีที่แสนวิเศษกับชีวิตเงียบสงบท่ามกลางสายลมแสงแดดที่ตนรักแต่ต้องแลกกับการทิ้งความรับผิดชอบต่อสามี ดิฉันอายุ 53 สามี 55  ลูกโตรับผิดชอบตัวเองไปหมดแล้ว ทรัพย์สมบัติก็มีพอเกษียณได้แล้วจากฝีมือสามีคนเดียว สามีมีบุคลิกจริงจัง เครียดง่าย เครียดนาน ไม่สนใจเรื่องสุขภาพ ชีวิตให้ความหมายกับคำว่าหัวหน้าครอบครัวเท่านั้น จะกินอยู่หลับนอนยังไงก็ได้ขอให้ได้หาเงิน และปกป้องดูแลคนในครอบครัว เวลาเครียดมากๆ ก็ขอดื่มแอลกอฮอล์คลายเครียด  สามีจึงมีปัญหาสุขภาพมาเป็นสายๆเช่นหมอนรองกระดูกเคลื่อนจนนั่งแทบไม่ได้ ความดันโลหิตสูง คอเรสรอลเริ่มสูง ส่วนดิฉันเองเป็นสายสุขภาพอย่างแรง ติดตามยึดแนวทางของหมอสันต์มานานแสนนาน ปลูกผักกินเอง กินอาหารพืชผักเป็นหลัก เราก็เลยง้างกันเรื่องนี้เป็นระยะๆ มาถึงตอนนี้ดิฉันรู้สึกเบื่อ เหนื่อย พอแล้ว ขอแยกตัวกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัดใช้ชีวิตกับสายลมแสงแดดกับการดูแลสุขภาพตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อลูกหลานในอนาคต แต่กลับกลายเป็...

ถามหมอสันต์เรื่องการวางแผนการศึกษาของลูก

คุณหมอสันต์คะ หนูกับแฟนอยากปรึกษาคุณหมอด่วนเรื่องการศึกษาของลูกชาย เขากำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยปีหน้า แฟนอยากกัดฟันส่งเขาไปเรียนออสเตรเลีย แต่ดูเขาเนือยๆผิดเพื่อนวัยเดียวกัน ความรู้เขาไม่น่าห่วง เพราะหนูให้เขากวดวิชากับอาจารย์ดีๆมาตั้งแต่ป.5 หนูกำลังไม่มั่นใจ เรียนในประเทศ ต่างประเทศ เรียนแพทย์ หรือเรียนธุรกิจ ลูกชายเขาไม่ออกเสียงอะไรเลย เหมือนกับว่าพ่อแม่เองไงเองงั้น ไม่กระตือรือล้นเลย ขอบคุณค่ะ ...................................................... ตอบครับ       1. ให้เลิกคิดส่งลูกเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเสีย      มาถึงสมัยนี้ การส่งลูกเข้าเรียนมหาวิทยาลัยให้จบปริญญาตรีเป็นก้าวพลาดครั้งใหญ่ที่สุดของพ่อแม่ อย่าไปพูดไกลถึงปริญญาโทเอกหรือโพสท์ด็อค โห..นั่นเป็นความคิดที่โบราณและไร้สาระมากที่สุด ฟังแล้วต้องรีบไปล้างหูเลย เพราะคนเราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตอย่างสงบเย็น เบิกบาน และสร้างสรรค์ แต่มหาวิทยาลัยจะทำให้เด็กไม่มีวันได้พบสิ่งเหล่านั้น มหาวิทยาลัยเป็นที่ที่จะดองสมองเด็กจากการเป็นคนที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และมีความสามารถสำรวจขุดค้นมาแต่กำเนิดให้กลายเป็...

รุ่นพี่เขาว่ามะนาวเป็นด่าง..จริงหรือคะ

คุณหมอคะ รุ่นพี่คนหนึ่งส่งข้อมูลเรื่อง corona virus มาให้ อ้างว่ามาจาก John Hopkins University อ่านดูแล้วก็พอเข้าใจ แต่งานวิจัย ทำในปี 1991 เลยทำให้สงสัยว่า เป็นข้อมูลที่ถูกต้องหรือไม่ ถ้าเป็น fake information ก็ขออภัยด้วยค่ะ ถ้าถูกต้องจะได้ส่งต่อให้คนอื่นๆต่อไป อีกเรื่องหนึ่ง เขาบอกว่า lemon มีค่า pH 9.9 และ lime มีค่า pH 8.2 ทั้ง2 ตัวนี้น่าจะเป็นกรดมากกว่าเป็นด่าง คิดว่าน่าจะลองเอาน้ำมะนาวมาวัดpH ดู ฝากคุณหมอพิจารณาด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ .................................................................. ตอบครับ      1. ถามว่าธรรมชาติของไวรัสที่ผู้ร่อนข่าวสารอ้างว่าเอามาจากงานวิจัยในวารสาร JOURNAL OF VIROLOGY, Apr. 1991, P. 1916-1928. Vol. 65, No. 4 ทั้งหมดนั้นเป็นของจริงหรือไม่ ตอบว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้องตามที่เขาคัดลอกมา ข้อมูลนี้ยังใช้ได้อยู่ แม้จะตีพิมพ์ไว้นานแล้วก็ตาม      2. ถามว่าเรื่องอาหารเป็นด่างรักษาไวรัสนั้นเป็นข้อมูลจริงเช่นกันหรือไม่ ตอบว่าไม่เกี่ยวกัน ข้อมูลวิจัยเรื่องธรรมชาติของไวรัสก็เรื่องหนึ่ง ส่วนที่ผู้ร่อนข่าวสารชักจูงให้กินอาหารเ...

โรคสมองเสื่อมสไตล์ "หญิงแก่บ้าอำนาจ"

สวัสดีคุณหมอค่ะ      ขอโทษที่รบกวนคุณหมอนะคะ ตอนนี้ทำอะไรกันไม่ถูกจริงๆค่ะ คุณแม่อายุ 75 ปี  คุณหมอระบบประสาท ทำการ mri และคุณหมอจิตแพทย์ลงความเห็นว่า คุณแม่เส้นเลือดตีบที่สมองส่วนหน้า   ทำให้มีอาการพาร์กินสัน และโรคสมองเสื่อม และยังมีอาการหลงผิด คือเห็นภาพหลอน แล้วคิดไปเองว่าคุณพ่อพาผู้หญิงเข้าบ้าน อาละวาดใส่คุณพ่อทั้งวันทั้งคืนค่ะ แม้ว่าทุกคนในบ้านจะพยายามอธิบายค่อยๆบอก ค่อยๆพูดคุณแม่ก็ไม่ฟังค่ะ คุณแม่จะพูดว่า ฉันผิด ฉันเลว เข้าข้างแต่พ่อ เข้าข้างผู้หญิงคนนั้นที่พามา โดนคุณไสย หลงเสน่ห์กันไปหมด ใครพูดอะไรไม่ได้เลยค่ะ  พยายามคุยดีดีก็แล้ว   จนคุณหมอจิตแพทย์ บอกให้คุณพ่อดุ ห้ามพฤติกรรม แล้วปล่อยคุณแม่ไว้คนเดียว ซึ่งก็ไม่ได้ผลค่ะ พูดไม่หยุด พอทุกคนบอกให้ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งคุย โกธร โมโหเลยค่ะ คุยด้วยไม่ได้เลย ไม่สามารถใช้เหตุผลใดๆด้วยได้  แล้วก็กลับมาพูดว่าคุณพ่อ คุณพ่อเดินหนี ไม่คุย ไม่ฟัง ตามที่คุณหมอจิตแพทย์แนะนำ  ก็ไม่ยอมค่ะ โกรธ โมโห กรี๊ด ตีคุณพ่อ ทุกคนห้ามคุณแม่ แล้ว เดินหนี พอไม่มีใครฟัง ก็โมโห จนไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะ เครียดกันทั้งบ้า...

คุยกันเรื่องสถิติเพื่อการอ่านงานวิจัยและตำราแพทย์

ถึง อาจารย์สันต์ ใจยอดศิลป์      สวัสดีครับ ผมนศพ. ... เป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 6 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ครับ ผมได้อ่านบทความเรื่อง “เรื่องสถิติการแพทย์ คนที่ไม่อยากให้ชีวิตลำบากโปรดอย่าอ่าน” ที่โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2555 เพราะด้วยความที่อยากทบทวนความเข้าใจอีกรอบ เพราะไม่ได้ใช้นานแล้ว ทำให้ผมเข้าใจได้ง่ายขึ้นมาก สร้างวิธีจำของตัวเองง่ายขึ้น แต่ในช่วงท้ายของบทความ ที่เขียนอธิบายยกตัวอย่างว่า Specificity กับ PPV มีความหมายต่างกันนั้น PPV ไม่น่าจะมีค่าเท่ากับ 1 หรือ 100% แต่น่าจะมีค่าเท่ากับ 10,000 หารด้วย 3 + 10,000 เท่ากับ 0.9997 หรือ 99.97% นะครับ ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าบทความที่เคยเขียนไปแล้วจะแก้ไขใหม่ได้หรือไม่ หรือผมเองที่เข้าใจผิด รบกวนอาจารย์ช่วยชี้แนะด้วยครับ ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง นศพ. ... .............................................................. ตอบครับ      แฮ้..ดีใจ มีคนอ่านบทความของผมจริงจังจนจับผิดที่ผมเขียนได้ โห บทความเก่าตั้งแปดปียังมีคุณอ่านอยู่นะ คุณหมอไม่ได้เข้าใจอะไรผิดดอกครับ ผมเขียนผิดเอง ผมได้แก้ให้แล้ว...

ไหนๆมันจะเป็นเงินกงเต๊กอยู่แล้ว จะไปสงวนเงินสดสุดชีวิตทำไม

คุณหมอสันต์ครับ ผมอ่าน ( https://visitdrsant.blogspot.com/2020/04/19.html ) ที่คุณหมอว่ารัฐบาลอเมริกันพิมพ์เงินออกมามากจนเงินจะกลายเป็นแบงค์กงเต๊ก ก็ในเมื่อมันจะกลายเป็นแบงค์กงเต๊กอยู่แล้ว คุณหมอจะแนะนำให้คนที่มีเงินน้อยอย่างเราสงวนเงินสดสุดชีวิตไปทำไมละครับ รีบใช้ๆมันไปเสียก่อนที่มันจะกลายเป็นเงินกงเต๊กไม่ดีกว่าหรือครับ ................................................................ ตอบครับ      ผมไม่อยากให้บล็อกนี้เป็นที่คุยกันเรื่องเงินทองและการทำมาหากินนะครับ เพราะไม่ใช่เรื่องที่ผมมีความรู้ ผมจึงตอบไปตามคอมมอนเซ้นส์หรือสามัญสำนึกแบบไม่มีกรอบของหลักวิชา ซึ่งการตอบแบบลูกทุ่งลุ่นๆอย่างนี้อาจทำให้ผมถูกตื้บได้ แค่ตอบครั้งที่แล้วไปครั้งเดียวก็มีความเห็นจากท่านผู้อ่านจากแวดวงธนาคารว่าคุณหมอแนะนำให้คนหยุดชำระหนี้อย่างนี้จะไม่ดีกระมัง ดังนั้นผมขอตอบจดหมายเรื่องเงินทองและการทำมาหากินฉบับนี้เป็นครั้งสุดท้ายเพราะจดหมายนี้สืบเนื่องมาจากบทความที่แล้ว ต่อไปจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว เพราะผมต้องการให้บล็อกของผมเป็นที่ตอบจดหมายเพื่อช่วยให้คนดูแลสุขภาพของตัวเองได้ด้วยตัวเ...

เซ็กซ์ พรหมจรรย์ และวิปัสนา

     หนูอายุจา38แล้วค่ะ แม่ชอบบอกให้มีผัวมีลูกซะ แถมจาให้หนูเอาผัวฝรั่งด้วย หนูละปวดกบาล ขี้เกียจฟังแกพล่าม  หนูเป็นโสดมานานแล้วคะ สบายตัวสบายใจดี เบาดี (พอหนูมีหลานละ หนูยังปวดหัวแทนแม่มันเลยค่ะ ไหนจาลูกจาผัว) #โชคดีหนูไม่มีผัว ไม่มีลูกด้วย เย้...      แต่ในหนังสือ ข้ามห้วงมหรรณพ มันก็บอกว่าสิ่งมีชีวิตทุกอย่าง พอเกิดมาก็เป็นไปตามสันชาตญาน เช่น แม้แต่อมีบาก็ยังอยากสืบพันธุ์ขยายพันธุ์หาทางขยายพันธุ์จนได้      อย่างคนเรา พอ14 เราก็มีอารมณ์อยากมีแฟน อยากมีเซ๊กส์พอ20กว่ามีแฟนแล้วเราก็อยากแต่งงาน ละก็อยากมีลูก พอแก่มาเราก็อยากมีหลาน อยากมีเหลน(หนูก็เคยเป็น ตอนนั่นมีแฟนคนแรกอายุ23 หนูก็มีความรู้สึก โลดสดสวย อยากแต่งงาน อยากแต่งงาน ไปบอกแม่ แต่แฟนหนูจน มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว หนูก็เพ้อเรื่องงานแต่งอยู่คนเดียว)      แต่ทุกวันนี้หนูทำตรงข้ามกับที่หนังสือบอกไว้ คือหนูถือพรหมจรรย์เลิกมีเซ๊กส์ละหนูก็โสดนานเลย คุณหมอว่าเราควรใช้ชีวิตแบบฝืนฮอร์โมนแบบที่หนูทำมั๊ยคะ? คือพอมีกามารมณ์ หนูก็พยายามมอดละเบี่ยงเบนความสนใจไปทำอย่างอื่นซะ ดูเห...