สอนวิธีแปลผลการตรวจปัสสาวะ (UA)


เรียน คุณหมอ

หนูอายุ 24 ปี 8 เดือน ค่ะ พอดีจะเข้าทำงานแบงค์แห่งหนึ่ง
เค้าให้ไปตรวจร่างกาย แต่ผลการตรวจปัสสาวะน่าจะมีปัญหา
เค้าให้ไปตรวจใหม่อีกรอบอ่ะค่ะ รบกวนคุณหมอ
ช่วยแปลผลให้ทราบหน่อยนะคะ

ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

Urine Analysis
Color             Amber
Clarity            Turbid
Sp.Gr            1.025 (1.003-1.03)
pH                5.0 (5-7)
Protein          Negative
Glucose         Negative
Ketone          2+
                   (repeated 1 time)
Urobilinogen   Negative
Bilirubin         Negative
Blood            Negative
Leukocyte      1+
Nitrite            Negative
Microscopic Examination     Centrifuged 10 ml
White blood cell        3-4 cells/HPF (<3)
Red blood cell          0-1 cell/HPF (<5)
Squamous epithelial cell        5-10 cells/HPF (<5)
Bacteria                  Moderate
Amorphous              -
Mucous thread                   2+
……………………………………………..

ตอบครับ

      ผมเคยสอนวิธีแปลผลค่าการตรวจนับเม็ดเลือดหรือ CBC ไปแล้ว คราวนี้จะสอนวิธีแปลผลการตรวจปัสสาวะ หรือ urine analysis (UA) นะครับ
Color ก็แค่บอกว่าฉี่เป็นสีอะไร ของคุณรายงานว่าเป็นสี Amber แปลว่าสีทองอำพัน ฮั่นแน่ ฉี่สีสวยเสียด้วย ในประเด็นสีของปัสสาวะนี้หากเป็นตระกูลเฉดสีเหลืองอ่อนๆรวมทั้งสีทองอำพันก็ถือว่าปกติ แต่หากเป็นสีเหลืองเข้มก็อาจผิดปกติในแง่ที่อาจมีดีซ่านหรือหมายถึงมีน้ำดีออกมาในปัสสาวะ ถ้าเป็นสีส้มหรือสีแดงก็ผิดปกติแน่นอนในแง่ที่ว่าน่าจะมีเลือดปน ถ้าไม่ใช่เพราะเก็บตัวอย่างขณะมีเมนส์ก็ต้องเป็นเพราะมีเลือดออกในทางเดินปัสสาวะ ซึ่งอาจหมายถึงมีนิ่ว หรือไตอักเสบ หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือโน่น เป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะหรือมะเร็งของไตไปเลย ดังนั้นการมีฉี่สีส้มหรือสีแดงจึงต้องถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ไว้ก่อน จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ ในเรื่องสีนี้ยังเป็นไปได้อีกสีหนึ่งคือปัสสาวะสีเป็นโค้ก หมายถึงสีน้ำตาลดำแบบเป๊บซี่โคล่า อันนี้หมายถึงการมีเม็ดเลือดแตกในร่างกายแล้วถูกขับออกมาในปัสสาวะ เช่นคนเป็นโรคขาดเอ็นไซม์จีซิกซ์พีดี (G6PD) มักจะมีอาการเม็ดเลือดแตกง่ายให้เห็นเป็นครั้งคราว หรือบางทีติดเชื้อแรงๆรวมทั้งเชื่อเช่นมาเลเรียก็ทำให้เม็ดเลือดแตกได้ คนสมัยก่อนถึงได้เรียกมาเลเรียว่า “ไข้ปัสสาวะดำ”
Clarity แปลว่าความใสของปัสสาวะอยู่ระดับไหน ถ้าใสก็รายงานว่า clear ถ้าขุ่นอย่างของคุณนี้ก็รายงานว่า Turbid ซึ่งแปลว่าขุ่น การมีปัสสาวะขุ่นถือเป็นความผิดปกติอย่างหนึ่ง ถ้าไม่เป็นเพราะร่างกายกำลังขาดน้ำอยู่อย่างแรง ก็น่าจะมีเหตุอื่นให้ปัสสาวะขุ่น เช่น มีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ โมเลกุลสารเคมีต่างๆรั่วออกมาในปัสสาวะ เช่นโปรตีน น้ำตาล คีโตน ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งสารเคมีแต่ละตัวที่รั่วออกมาเป็นตัวบ่งบอกว่าน่าจะเป็นโรคอะไร
Sp.Gr  ย่อมาจาก specific gravity แปลว่าความถ่วงจำเพาะ หมายถึงความหนาแน่นของน้ำปัสสาวะเมื่อเทียบกับน้ำบริสุทธิ์ คือน้ำบริสุทธิ์โดยนิยามมีความถ่วงจำเพาะเท่ากับ 1.0 ปัสสาวะของคุณมีความถ่วงจำเพาะ 1.025 ถือว่าแม้จะอยู่ในพิสัยปกติ (1.003-1.03) แต่ก็ค่อนไปทางสูง บ่งบอกว่าขณะที่คุณเก็บปัสสาวะนี้ร่างกายกำลังอยู่ในภาวะขาดน้ำ ซึ่งเป็นแคแรคเตอร์ของสาวไทยที่ต้องทำตัวให้ขาดน้ำไว้เสมอจะได้ไม่เสียฟอร์มที่ต้องวิ่งเข้าห้องน้ำบ่อย หารู้ไม่ว่าการทำเช่นนั้นจะทำให้ไตพังง่ายๆไม่รู้ตัว การที่ค่า SpGr สูงนี้ เป็นตัวอธิบายว่าการที่ปัสสาวะขุ่นนั้นอาจจะไม่มีอะไรในกอไผ่ อาจเกิดจากร่างกายขาดน้ำเท่านั้นเอง
pH หมายถึงค่าความเป็นกรดเป็นด่างของปัสสาวะ คือของเหลวทั่วไปที่เป็นกลางไม่เปรี้ยวไม่ฝาดไม่เป็นกรดหรือด่าง ค่า pH จะเท่ากับ 7.4 แต่ปัสสาวะของคนเรานี้ต้องเปรี้ยวถึงจะดี คือต้องเป็นกรดมี pH อยู่ระหว่าง (5.0 – 7.0) ของคุณนี้มี pH 5.0 แม้จะคาบเส้นอยู่ในพิสัยปกติแต่ก็ชวนให้เอะใจว่าทำไมปัสสาวะเปรี้ยวจี๊ด เอ๊ย ไม่ใช่ทำไมปัสสาวะเป็นกรดมากอย่างนั้น อาจมีสารเคมีอะไรที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น บักเตรี ยา อาหาร (เช่นโปรตีน)  อยู่ในปัสสาวะมากผิดปกติ
Protein หมายถึงโมเลกุลโปรตีนที่รั่วออกมาในปัสสาวะ ของคุณนี้รายงานว่าได้ผลลบ (Negative) แปลว่าไม่มีโปรตีนรั่วออกมาในปัสสาวะ การมีโปรตีนรั่วออกมาในปัสสาวะแสดงว่าไตกำลังมีปัญหา อาจจะเป็นโรคได้สารพัดเช่นโรคไตรั่ว (nephrotic syndrome) โรคไตอักเสบ โรคไตเรื้อรัง เป็นต้น
Glucose หมายถึงโมเลกุลของน้ำตาลกลูโคสที่รั่วออกมาในปัสสาวะ ของคุณรายงานว่าไม่มี ถ้าของใครมีน้ำตาลรั่วออกมาในปัสสาวะก็แสดงว่ามีน้ำตาลในเลือดสูง หรือเป็นเบาหวานนั่นเอง
Ketone หมายถึงมีโมเลกุลของคีโตนรั่วออกมาในปัสสาวะ ของคุณรายงานว่ามี 2+ หมายความว่ามีมากพอควร (1+ เท่ากับมีแต่น้อย 2+ เท่ากับมีปานกลาง 3+ เท่ากับมีมาก) แปลว่าผิดปกติละสิครับ เขาระบุไว้ด้วยว่าตรวจซ้ำอีกครั้งก็ยังผิดปกติอยู่นั่นแล้ว แสดงว่าผิดปกติจริงๆไม่ใช่ความคลาดเคลื่อนของแล็บ
ดังนั้นมารู้จักคีโตนกันหน่อยนะว่ามันคืออะไร ทำไมถึงมาโผล่ในฉี่ของเราได้ คือปกติกระบวนการขับเคลื่อนร่างกายของเรานี้จะต้องมีเม็ดพลังที่เรียกว่าอะเซติลโคเอ  (AcetylCoA) ไปช่วยเซลต่างๆทำงานจึงจะมีชีวิตปกติอยู่ได้ การจะได้เม็ดพลังนี้มามีสองทางเท่านั้น หนึ่งคือย่อยโมเลกุลกลูโคสเอาเม็ดพลัง สองคือย่อยโมเลกุลคีโตนเอาเม็ดพลัง ปกติร่างกายจะใช้กลูโคสเพราะเราได้มาง่ายๆจากอาหารคาร์โบไฮเดรตเช่นน้ำตาลและแป้ง ต่อเมื่อไม่มีกลูโคส ตับจึงจะย่อยไขมัน ทั้งไขมันที่กินเข้าไปหรือไขมันที่สะสมไว้ ออกมาเป็นกรดไขมันอิสระ (free fatty acid หรือ FAA) แล้วย่อยต่อไปเป็นคีโตน เมื่อได้คีโตนแล้วก็เอาไปให้เซลใช้เป็นเม็ดพลัง แต่บางที่หากส่งคีโตนให้เซลมากเกินไปเซลก็ประท้วงไม่ใช้คีโตนเสียดื้อๆ ทำให้คีโตนเหลือบานเบอะ ต้องระบายออกมาทางลมหายใจเป็นกลิ่นน้ำยาล้างเล็บ หรือไม่ก็ระบายออกไปทางปัสสาวะ คนที่มีคีโตนมากจนต้องระบายทิ้งเช่นนี้ไม่ใช่คนปกติ ต้องมีอะไรผิดพลาดสักอย่างหนึ่งที่ทำให้ไม่มีกลูโคสใช้ เช่นคนที่ขาดอาหาร โดยเฉพาะพวกนางแบบที่ชอบกินแล้วอ๊วก กินแล้วอ๊วก  หรือคนที่ลดความอ้วนด้วยสูตร No Carb คือกินแต่เนื้อสัตว์และไขมันแต่ไม่กินคาร์โบไฮเดรตเลย หรือคนที่เป็นโรคเบาหวาน ซึ่งเซลร่างกายเอากลูโคสไปต่อยเป็นเม็ดพลังไม่ได้ ทำให้แม้จะมีกลูโคสบานเบอะ แต่ก็ใช้ไม่ได้ ต้องหันไปใช้ไขมันแทน หรือคนที่ร่างกายขาดน้ำอย่างแรง หรือคนที่ได้รับบาดเจ็บ เป็นต้น
คนที่มีกลิ่นน้ำยาล้างเล็บหรือกลิ่นคีโตนออกมาทางลมหายใจนี้ เวลาไปเข้าเครื่องตรวจแอลกอฮอล์ของตำรวจมีหวังโดนจับเพราะเครื่องแยกไม่ออกว่านี่เป็นคีโตนหรือนี่เป็นแอลกอฮอล์ ในบางประเทศเช่นสวิเดนซึ่งมีรถชนิดที่ดักจับแอลกอฮอล์จากลมหายใจของคนขับ ถ้าคนขับเมามาก รถจะสตาร์ทไม่ติด เคยมีคนที่มีคีโตนออกมาในลมหายใจมากจากการลดความอ้วนด้วยสูตร No Carb ขึ้นไปขับรถแบบนี้แล้วขับไม่ได้ เพราะสตาร์ทรถไม่ติด

Urobilinogen เป็นสารต้้งต้นที่โมเลกุลฮีม (heme) ซึ่ง 85% มาจากเม็ดเลือดแดง 15% มาจากเซลตับและอื่นๆ ฮีมทั้งหลายเมื่อเซลต้นสังกัดตายลง ตัวฮีมเองก็ถูกย่อยสลาย (metabolized) กลายเป็นน้ำดี (bilirubin) ซึ่งตัวนี้มันไม่ชอบไปกับน้ำ จึงไม่ออกไปทางปัสสาวะ แต่จะถูกขนมาที่ตับเพื่อเชื่อม (conjugate) กับกรดกลูโคโลนิกแล้วถูกขับออกไปทางท่อน้ำดี ไปออกในลำไส้ แล้วถูกจับแยกจากกรดกลูโคโลนิกกลายเป็นยูโรบิลิโนเจน (urobilinogen) ซึ่งมีสีใสปิ๊ง ก่อนที่จะถูกบักเตรีทำให้กลายเป็นยูโรบิลิน (urobilin) ซึ่งมีสีเหลืองอ๋อย ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนไปเป็นสะเตอร์โคบิลิน (sterocbilin) ซึ่งเป็นสีเหลืองปนน้ำตาลอยู่ในอุจจาระ ในเส้นทางนี้ยูโรบิลิโนเจนส่วนหนึ่งได้หลบรอดพ้นจากการถูกเปลี่ยนเป็นยูโรบิลินแล้วถูดดูดซึมจากลำไส้กลับเข้าสู่กระแสเลือดอีกครั้ง เนื่องจากตัวยยูโรบิลิโนเจนนี้ชอบไปกับน้ำ มันจึงถูกส่งไปถูกขับทิ้งที่ไต ที่นั่นมันจะถูกเปลี่ยนเป็นยูโรบิลินอีก ทำให้ปัสสาวะมีสีเหลืองอ๋อย
การแปลความหมายค่ายูโรบิลิโนเจนก็คือถ้ามันสูงผิดปกติ แสดงว่ามีน้ำดีถูกขับออกไปในอุจจาระมาก ทำให้เกิิดยูโรบิลิโนเจนขึ้นในลำไส้มาก แล้วก็ถูกดูดซึมกลับเข้ามาในกระแสเลือดมาก จึงออกไปทางปัสสาวะมาก สรุปว่าเป็นดีซ่านชนิดที่ท่อน้ำดีไม่อุดตัน เช่นดีซ่านจากเม็ดเลือดแตกเป็นต้น ทำไมถึงรู้ละว่าท่อน้ำดีไม่อุดตัน อ้าว ก็ถ้าท่อน้ำดีอุดตันน้ำดีก็ออกไปในลำไส้ไม่ได้ แล้วยูโรบิลิโนเจนมันจะมาจากไหนละ ถูกแมะ
แล้วถ้ามันต่ำผิดปกติละ ตอบว่าการแปลความหมายต้องแยกเป็นสองกรณี ในกรณีที่ไม่มีดีซ่าน ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะในการทำงานของระบบร่างกายปกตินั้นไม่มียูโรบิลิโนเจนออกมาในปัสสาวะเลยนั่นและเจ๋ง ปกติ ดี โลด แต่ถ้าร่างกายอยู่ในภาวะดีซ่าน หมายถึงว่าตัวเหลืองตาเหลืองอ๋อย เจาะเลือดมีดีซ่านจริงๆ แต่ปัสสาวะไม่มียูโรบิลิโนเจนออกมาเลย แสดงว่าเป็นดีซ่านที่เกิดจากท่อน้ำดีอุดตันเข้าแล้ว เพราะเมื่อท่อน้ำดีอุดตัน น้ำดีก็ไหลไปลงลำไส้ไม่ได้ จึงท้นเข้ามาในกระแสเลือด เมื่อไม่มีน้ำดีไหลไปลงลำไส้ ก็ไม่เกิดยูโรบิลิโนเจนในลำไส้ ก็ไม่มีการดูดซึมยูโรบิลิโนเจนกลับเข้ามาในเลือด ก็ไม่มียูโรบิลิโนเจนในปัสสาวะ แม้จะมีดีซ่าน ทำให้หมอวินิจฉัยชนิดของดีซ่านได้จากการดูผลตรวจน้ำปัสสาวะได้
          Bilirubin หมายถึงน้ำดี ของคุณไม่มี คนที่มีน้ำดีออกมาในปัสสาวะแสดงว่ากำลังมีปัญหาดีซ่าน เช่นตับกำลังอักเสบ หรือทางเดินน้ำดีกำลังอุดตัน หรือเม็ดเลือดกำลังแตก เป็นต้น
          Leukocyte หมายถึงสารจากเม็ดเลือดขาว ถ้ามีมากก็แสดงว่ามีเม็ดเลือดขาวออกมาในปัสสาวะมาก
Nitrite คือสารพวกไนไตรท์ ซึ่งปกติไม่มีในปัสสาวะ จะมีก็เฉพาะในภาวะที่มีการติดเชื้อบักเตรีชนิดที่สร้างไนไตรท์ได้ หรือไม่ก็เกิดเลือดออกในปัสสาวะขนาดหนัก ของคุณไม่มีไนไตรท์เราก็จะข้ามตรงนี้ไป

Microscopic Examination     แปลว่าการส่องกล้องจุลทรรศน์ดูปัสสาวะ

Centrifuged 10 ml แปลว่าเอาปัสสาวะ 10 ซีซี.มาปั่นแล้วเอาตะกอนที่ปั่นได้มาส่อง
White blood cell แปลว่าเม็ดเลือดขาว ของคุณตรวจพบ  3-4 เซลต่อหนึ่งจอกล้องจุลทรรศน์ ซึ่งก็ถือว่ามีมากกว่าปกติจนน่าสงสัยว่าจะมีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะหรือเปล่า
          Red blood cell แปลว่าเม็ดเลือดแดง ของคุณมี 0-1 เซลต่อจอ ถือว่าปกติ
          Squamous epithelial cell แปลว่าเซลเยื่อบุผิว ของคุณออกมา 5-10 เซลต่อจอ ซึ่งมากกว่าปกติ แสดงว่าอาจเก็บตัวอย่างปัสสาวะแบบมีการปนเปื้อน หรืออาจมีการติดเชื้อหรืออักเสบเกิดขึ้น
          Bacteria ก็คือบักเตรี ของคุณรายงานว่ามีมากปานกลาง ปกติปัสสาวะไม่ควรมีบักเตรี เพราะมันเป็นกรด บักเตรีอยู่ไม่ได้ ถ้ามีบักเตรีแสดงว่ามีการติดเชื้อ แต่ถ้าเราฉี่แล้วตั้งทิ้งไว้นานกว่าห้องแล็บจะมารับไปตรวจ บักเตรีในอากาศก็อาจเข้าไปเจริญเติบโตในปัสสาวะได้เหมือนกัน เรียกว่าเป็นผลบวกเทียม หรือเป็นความผิดพลาดทางเทคนิค
          Amorphous แปลว่าผลึกในน้ำปัสสาวะ เช่นผลึกกรดยูริก เป็นต้น ของคุณรายงานว่าไม่มี ถ้ามีก็บ่งบอกว่าสารที่ตกผลึกนั้นมีมาก ถ้ามากถึงขนาดหนักก็จะกลายเป็นนิ่วนั่นแล
          Mucous thread หมายถึงเยื่อเมือกที่เห็นเป็นเส้นๆในกล้อง มีความหมายคล้ายๆกับเซลเยื่อบุผิว คือมีมากก็บ่งบอกถึงการอักเสบ
          กล่าวโดยสรุป ปัสสาวะของคุณมีความผิดปกติตรงที่มีสารคีโตนสูง มีความถ่วงจำเพาะสูง มีความเป็นกรดสูง มีจำนวนเม็ดเลือดขาวมาก มีเซลเยื่อบุมาก ทั้งหมดนี้บ่งบอกว่าคุณอาจจะอยู่ในภาวะใดภาวะหนึ่งต่อไปนี้ ได้แก่

1.      ร่างกายอาจขาดน้ำรุนแรง
2.      อาจเป็นโรคขาดอาหารหรืออดอาหารมากเกินไป
3.      อาจเป็นเบาหวาน
4.      อาจมีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

          จะเป็นโรคอะไรแน่นั้นยังไม่รู้ ผมแนะนำให้คุณดื่มน้ำมากๆวันละอย่างน้อย 2 ลิตร ทานอาหารให้ได้สัดส่วนถูกต้องและพอเพียง ทำอย่างนี้สักสองสัปดาห์ แล้วไปตรวจร่างกายซ้ำ โดยคราวนี้ควรตรวจทั้งการวิเคราะห์ปัสสาวะ (UA) การเพาะหาเชื้อบักเตรีในปัสสาวะ (urine culture) และการตรวจเลือดดูสภาวะเบาหวาน (FBS หรือ HbA1c) ด้วย จึงจะตอบคำถามคุณได้เด็ดขาดว่าคุณป่วยเป็นอะไร หรือว่าอาจจะไม่มีอะไรในกอไผ่เลยก็ได้ 

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

ทะเลาะกันเรื่องฝุ่น PM 2.5 บ้าจี้ เพ้อเจ้อ หรือว่าไม่รับผิดชอบ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

แจ้งข่าวด่วน หมอสันต์ตัวปลอมกำลังระบาดหนัก

เลิกเสียทีได้ไหม ชีวิตที่ต้องมีอะไรมาจ่อคิวต่อรอให้ทำอยู่ตลอดเวลา

ไปเที่ยวเมืองจีนขึ้นที่สูงแล้วกลับมาป่วยยาว (โรค HAPE)

หมอสันต์สวัสดีปีใหม่ 2568 / 2025

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

"ลู่ความสุข" กับ "ลู่เงิน"