บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤษภาคม, 2019

เรียนรู้โรคจริงๆ จากคนจริงๆ พลิกผันด้วยตัวเองจริงๆ

     มีสมาชิกคอร์ส RDBY 7 ซึ่งจบครบปีไปแล้ว ได้เขียนจดหมายมาหาเล่าเรื่องของท่าน ผมเห็นว่าบางประเด็นที่มีประโยชน์มากๆแม้กับตัวผมเองซึ่งก็เป็นคนป่วยโรคเดียวกันท่านผู้เขียนนี้ จึงขออนุญาตนำมาเล่าให้ฟัง และขอขอบคุณคุณพิสิฐไว้เป็นอย่างสูงด้วย นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ ..........................................................      สวัสดีครับผม พิสิฐ เพชรพิเชฐเชียร อายุ 50 ปีครับ          เป็น โรคหัวใจขาดเลือด stable angina class2 โรคไตเรื้อรังระยะที่2 (ไตทำงานข้างเดียว GFR 61.55)  แต่ก่อนคิดว่าตัวเราเองเป็นคนดูแลสุขภาพดีมาก ยกตัวอย่างเช่น เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ กาแฟ น้ำอัดลมก็ไม่แตะ กินผักผลไม้เยอะ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ  แข็งแรงดี แต่นั่นเป็นความคิดที่ถูกเพียงบางส่วนเท่านั้น จุดเปลี่ยนของชีวิตครั้งแรกเมื่อตอนอายุ 40 ตรวจพบว่า กรวยไตขวาถูกพังพืดบีบรัด(สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นแต่กำเนิด) รัดจนไตข้างนั้นทำงานไม่ได้ ต้องเข้ารับการผ่าตัด      ครั้งที่สองหลังผ่าตัดได้ 5 ปี ขณะออกกำลังกายตอนเช้า มีอาการแน่นหน้าอกปวดร้าว...

หมอสันต์ตอบคำถามเรื่องกัญชา

กราบเรียนคุณหมอสันต์ คุณแม่อายุ 85 ปีบ่นอยากจะกินกัญชาผมควรจะหาให้ท่านกินไหมครับ ท่านมีอาการนอนไม่หลับและชอบบ่นปวดเมื่อยตามตัว และรบให้หากัญชาหรือน้ำมันกัญชามาให้ท่านรับประทาน เพราะเพื่อนของท่านบอกว่ากินกัญชาแล้วนอนหลับดี กัญชารักษาโรคนอนไม่หลับจริงหรือเปล่า และที่เขาว่ากัญชารักษามะเร็งได้นั้นจริงไหม กัญชามีข้อดีข้อเสียอะไรบ้างครับ ........................................................... ตอบครับ 1. ถามว่าคุณแม่อายุ 85 ปีอยากกินกัญชาจะหาให้ดีไหม ตอบว่าท่านอายุปูนนี้แล้วอยากกินอยากสูบอะไรก็หาให้ท่านเถอะครับ แต่คุณหลบตำรวจเอาเองนะ ผมไม่เกี่ยว 2. ถามว่ากัญชารักษาอาการนอนไม่หลับได้หรือเปล่า ตอบว่างานวิจัยการใช้กัญชาช่วยการนอนหลับยังอยู่ในขั้นอนุบาล ผลที่ได้ตอนนี้ยังสะเปะสะปะสรุปอะไรเป็นตุเป็นตะยังไม่ได้ เท่าที่ผมประเมินภาพรวมจากหลักฐานวิจัยที่มีบ่งชี้ไปทางว่ากัญชาทำให้หลับได้เร็วขึ้น 15-30 นาที ทำให้หลับฝัน (REM sleep) น้อยลง และช่วยลดความกังวลซึ่งอาจส่งผลดีต่อการนอนหลับ 3. ถามว่ากัญชาแก้ปวดได้จริงไหม ตอบว่าจริงครับ เพราะผู้ทบทวนงานวิจัยเกี่ยวกับกัญชาครั้งใหญ่ที่สุดคือสถาบันว...

โภชนศาสตร์สำหรับคนทั่วไป

รูปภาพ
     วันนี้ผมเสร็จงานเร็ว กลับมาบ้านบนเขาตั้งแต่บ่ายโมง กำลังคิดจะเสวยสุขด้วยการทำน้ำมะพร้าวเย็นๆไปนั่งละเลียดจิบที่ระเบียงหลังบ้าน แต่เมื่อเดินออกไประเบียงหลังบ้านก็พบว่ากลางหน้าร้อนอย่างนี้ร่มไม้ที่เคยได้อาศัยถูกแดดส่องยอนเป็นมุมเอียงจากทิศเหนือเข้ามาทำให้ระเบียงร้อนจนนั่งไม่ได้เลย จึงรู้ว่ามีโปรเจ็คใหม่ให้ได้ออกแรงอีกแล้ว นั่นก็คือการหาที่นั่งตอนบ่ายในหน้ามหาร้อน ผมเดินสำรวจรอบๆในที่สุดก็มาถูกใจตรงนอกประตูด้านหน้าบ้านซึ่งเคยเป็นที่ปลูกดอกไม้แต่ตอนนี้ปลูกไม่ได้เพราะไม่มีแดด ตรงนี้นอกจากจะร่มแดดอย่างเด็ดขาดในตอนบ่ายแล้วยังมองผ่านสนามออกไปเห็นวิวสวยดีด้วย จึงตกลงปลงใจทำที่นั่งเล็กๆขึ้นที่มุมนี้ ผมคนหนึ่งกับคนสวนชื่อ "ดอน" ช่วยกันทำโปรเจ็คนี้แบบสองแรงแข็งขันในช่วงเวลาบ่ายโมงถึงบ่ายสี่โมง เพื่อความยุติธรรมผมแบ่งงานให้ดอนเป็นคนขนแผ่นหินเก่าๆเหลือใช้ที่ตีนเขาขึ้นมา ส่วนผมเป็นคนเรียงหิน หิ..หิ ท่านอย่าตั้งคำถามเรื่องความยุติธรรมนะ นี่เรียกว่ายุติธรรมดีแล้วเพราะดอนอายุน้อยกว่าผมราวสิบห้าปีเห็นจะได้ และอีกอย่างหนึ่งงานเรียงหินนี่ก็ไม่ใช่ว่าหมูนะ กว่าจะขุดย้ายดินตบดินปูหินเสร...

อนาคตของอาชีพหมอและเภสัชอย่างไหนจะรุ่งกว่ากัน

สวัสดีครับ นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ กระผมขออนุญาตปรึกษาเรื่องเรียนต่อมหาลัยระหว่าง สอบเข้าคณะแพทย์หรือเภสัช เดิมทีผมสนใจสาขาเภสัชครับ แต่เมื่อไม่กี่วันนี้ผมได้มีโอกาสคุยกับอายุรแพทย์ท่านหนึ่ง ผมลองถามว่าเรียนอะไรดีระหว่างสองคณะนี้ ท่านบอกว่าหมอดีกว่าอยู่แล้ว เพราะเภสัชไม่ได้เรียนเรื่องการวินิจฉัย เรื่องโรค anatomy การส่งตรวจทางlab ทักษะวิจัยทางคลินิก ,...ฯลฯ เท่ากับหมอ เรียนแค่เรื่องยาที่ลึกกว่า ลึกถึงระดับโมเลกุล ซึ่งถ้าไม่ได้จะไปวิจัยคิดค้นยาใหม่ๆ อาจไม่จำเป็นต้องเรียนลึกขนาดนั้นก็ได้ เรื่องยาหมอก็ได้เรียนเหมือนกัน และสุดท้ายเรื่องการปรับขนาดยา หมอก็เป็นคนเรียนอยู่ดี แถมจบมาหมอมีต่อเฉพาะทางมากมายหลายสาขา ในขณะที่เภสัชไม่มี ผมฟังๆดูก็คิดว่ามันจริงหลายอย่างนะครับ ตัวอย่างเช่นเทียบกับอายุรแพทย์ที่ลักษณะงานคล้ายๆเภสัชกรคือ รับฟัง วินิจฉัย และจ่ายยา  ผมว่าอายุรแพทย์ทำได้ดีกว่าเพราะเภสัชตามร้านขายยาวินิจฉัยไม่ได้เท่าแพทย์ บางโรคต้องถึงมือแพทย์เท่านั้น  แล้วจริงๆหมอเองไปเรียนเพิ่มเติมทางด้านเภสัชกรรมก็ได้ ผมเห็นหมอบางท่านทำงานเป็นที่ปรึกษาฝ่ายเภสัชกรรมก็มี ทำให้ผมคิดว่าคณะเภสัชนี่..(ข...

คำสอนเป็นแค่คู่มือการใช้งาน (user's manual)

     ช่วงนี้หลานสาวซึ่งเป็นฝรั่งมาอยู่ด้วย มารอเข้า spiritual retreat ด้วย เด็กฝรั่งสมัยนี้มีจำนวนหนึ่งที่สนใจทางด้านจิตวิญญาณแบบไม่เกี่ยวกับศาสนาใดๆอย่างจริงจัง เจ้าหลานคนนี้ก็เหมือนกัน ลองมาฟังบทสนทนาที่ผมคุยกับเธอในคืนวันแรกที่เธอมาถึงที่บ้าน ราเชล      ฉันเข้าใจถูกหรือเปล่า ว่าศาสนาพุทธไม่ได้เป็นศาสนา แต่เป็นวิธีใช้ชีวิต นพ.สันต์      ถูกแล้ว ศาสนาพุทธเป็นเครื่องมือในการใช้ชีวิต หรือถ้าจะพูดให้ชัดกว่านั้นก็คือเครื่องมือในการใช้ชีวิตที่แท้จริงเป็นสิ่งที่ทุกคนมีอยู่แล้วคือ "กาย"นี้ และ "ใจ"นี้ ศาสนาพุทธเป็นคู่มือการใช้งาน (user's manual) ในการใช้งานกายนี้และใจนี้มากกว่า ราเชล      ที่คุณพูดถึงว่ากายนี้และใจนี้เป็นเครื่องมือ ฉันไม่เข้าใจ นพ.สันต์      พระพุทธเจ้าสอนว่าชีวิตซึ่งเรามองเผินๆว่าประกอบด้วย "กาย" นี้ (body) และ "ใจ"นี้ (mind) ในความเป็นจริงมันประกอบขึ้นจากการมารวมกันชั่วคราวขององค์ประกอบย่อยห้าอย่าง คือ 1. รูป หรือร่างกายที่เป็นเนื้อหนัง (physical body) 2. เวทนา หรือความรู้สึก (feel...

ผมเป็นคนชอบย้ำคิดย้ำทำ (compulsiveness)

เรียนคุณหมอสันต์ที่เคารพ ผมเป็นคนชอบย้ำคิดย้ำทำ หมอจิตเวชให้ผมกินยาแต่ผมไม่ยอมกิน ผมไม่เชื่อว่ายาจะทำให้ผมเลิกย้ำคิดย้ำทำได้ เพียงแต่ผมยังไม่รู้ว่าผมจะเลิกความคิดนี้ได้อย่างไร คุณหมอช่วยอธิบายกลไกของการย้ำคิดย้ำทำและแนะนำทางออกให้ผมหน่อยครับ ขอบพระคุณคุณหมอมากครับ ..................................................... ตอบครับ      ผมจะตอบคำถามโดยไม่ได้ตอบคุณคนเดียวนะ แต่จะตอบให้ผู้อ่านอื่นๆที่ไม่ได้ถามด้วย เพราะการย้ำคิดย้ำทำไม่ได้เกิดกับผู้ป่วยจิตเวชเท่านั้น แต่เกิดกับทุกๆคน      ถ้าเราสังเกตสิ่งต่างๆที่จับต้องมองเห็นได้ (physical) ในธรรมชาติรอบตัวเรา มันมีความซ้ำซากหรือเป็นรอบๆ (cyclical) อยู่ในที เพราะธรรมชาติของมวลสารมันมีแรงดูดแรงผลัก (gravity) ต่อกัน เล็กที่สุดตั้งแต่อีเล็คตรอนที่หมุนรอบแก่นกลางของอะตอมไม่รู้จบ ใหญ่ขึ้นมาก็โลกหมุนรอบตัวเอง ดวงจันทร์หมุนรอบโลก โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ ทุกอย่างมีความซ้ำซากเป็นรอบๆหมด นี่มันเป็นธรรมชาติของสิ่งหยาบๆที่จับต้องมองเห็นได้ ความเป็นรอบๆนี้ก็คือกลไกการถูกบังคับให้ย้ำทำ (compulsiveness) อยู่ในที   ...

ขอความรักบ้างได้ไหม?

สวัสดีค่ะคุณหมอ หนูเป็นแฟนเพจในเฟสบุ้คของคุณหมอและติดตามอ่านเป็นประจำค่ะ หนูเปิดเจอคลิปท่านพุทธทาสโดยบังเอิญเมื่อปีที่แล้วค่ะ เนื่องจากวุ่นวายใจจากความรัก เมื่อได้มีโอกาสฟัง หนูคิดว่าชีวิตของตนสงบขึ้นและมองเห็นธรรมชาติที่เป็นมิตรกับตัวเองค่ะ หนูดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมาฟังจนหมด รวมทั้งเริ่มอ่านหนังสือด้วยค่ะ บ่อยครั้งที่หนูได้อ่านข้อเขียนจากคุณหมอ และหนูรู้สึกว่าแก่นของข้อเขียนนั้นมาจากความจริงเหมือนที่หนูได้เข้าใจจากท่านพุทธทาส หนูรู้สึกดีใจมากค่ะ หนูพอใจในชีวิตตัวเองทุกอย่างค่ะ แม้มีความไม่สมบูรณ์แบบบ้าง แต่ก็ไม่มีทุกข์ ยกเว้นเรื่องความรักค่ะ หนูไม่เคยมีความรักที่ผูกมัดเลยค่ะ ไม่เคยมีใครมามอบรักให้แบบคนรัก จะมีก็แต่แบบผ่านมาผ่านไป หนูอายุ 29 ปี ค่ะ เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย กำลังจะเรียนต่อปริญญาเอกค่ะ หนูเคยคิดว่าการได้รับความรักจากผู้ชายสักคนเป็นสิ่งที่หนูต้องได้รับ เหมือนการรับปริญญา แต่บ่อยครั้งที่หนูผิดหวัง เพราะไม่ได้รับความรักและใส่ใจจากผู้ชายที่คบหาดูใจ ทุกครั้งที่ผิดหวัง หนูจะเป็นทุกข์มากค่ะ ร้องไห้ฟูมฟาย แต่คนรอบตัว ทั้งครอบครัวและเพื่อนก็เป็นกำลังใจให้หนููเสมอ หนูยังไขปริศนาน...

เมื่อพยาบาลเป็น stroke

กราบเรียนท่านอ.สันต์ที่เคารพ         หนูชื่อ ... เป็นพยาบาลอายุ 44 ปี นน. 68 สูง 162 Bp 120/70 ถูก Dx. เป็น strokeเมื่อเดือน ... ไปพบพ.ด้วยอาการพูดติดขัดขากรรไกรแข็งประมาณ 5 วินาทีแล้วอาการก็หายไปไม่มีอาการอ่อนแรงหรือชาที่ใดเลย MRI พบ lacuna infarction at rt. centrum พ.ค้นหาสาเหตุการเป็น เพราะไม่มีโรคประจำตัวใดๆผล lab ปัจจุบัน LDL158. HDL 60 chol. 232 Fbs. 100 bp120/70 อื่นๆผลปกติ แต่ผล protein s ต่ำกว่าปกติจึงตรวจซำ้รอผลวันที่17ตค.    ยาที่ได้รับดังนี้ Asa 81mg  Applet ละลายลิ่มเลือด Trental 400 mg Sim 10 mg Ranitidine    หนูไม่อยากทานยามาก เพราะทานแล้วเหนื่อยเพลียปวดตามขาไม่สุขสบายใน 2 เดือนแรกแต่ก็อดทนทานตาม พ. สั่งมาตลอด 3 เดือน เพื่อป้องกันการเป็นซ้ำแต่หลัง 3 เดือนหนูแอบหยุดยาเอง โดยทานแต่Asa 81 mg ตัวเดียว เพราะกลัวอันตรายจากยาก็เยอะมากเช่นกัน และอาการทั่วไปเป็นปกติดีค่ะ ดีกว่าตอนทานยามากหลายตัว และควบคุมอาหารมันเลี่ยงอาหารทานแป้งหรือนำ้ตาลโดยเฉพาะตอนเย็นบางทีหลังทานบ้างหากไม่มีอะไรทานแต่ไม่บ่อยนัก นน.ลดจาก 71 กก.เหลือ 68 กก.ในเวลา 2...

CR-2..หมอสันต์ใจแคบกับวิธีรักษามะเร็งเกินไปหรือเปล่า

     วันนี้จะพูดถึงการเปลี่ยนแปลงวิธีทำแค้มป์รีทรีตฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็ง (Cancer Retreat)      เมื่อผมทำแค้มป์รีทรีตฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็ง (Cancer Retreat - CR1) เมื่อปีที่แล้ว เมื่อผมเริ่มต้นด้วยการอารัมภบทกับสมาชิกแค้มป์ว่า "แค้มป์นี้ไม่ใช่แค้มป์ที่จะรักษามะเร็งให้หาย แต่เป็นแค้มป์ที่จะช่วยให้ทุกท่านเปลี่ยนทัศนคติต่อโรคมะเร็งและอยู่กับมันได้โดยไม่ทุกข์"  พอจบชั่วโมงนั้นสมาชิกท่านหนึ่งก็มาเปรยกับผมว่า       "คุณหมอสันต์ใจแคบกับวิธีรักษามะเร็งเกินไปหรือเปล่า"      ความหมายของเธอคือผมจำกัดตัวเองอยู่แค่การแพทย์แผนปัจจุบันผ่าตัดฉายแสงเคมีบำบัดแบบคับแคบจนสรุปว่ามะเร็งที่จบการรักษาเหล่านี้แล้วหากไม่หายก็คือไม่หาย ผมจำได้ว่าได้แก้ตัวไปน้ำขุ่นๆว่าผมจำเป็นต้องอิงหลักฐานวิทยาศาสตร์เพราะผมเป็นแพทย์แผนปัจจุบัน แต่ก็มีความตะหงิดในใจขึ้นมาสองประการ คือ      (1) ที่ว่าเมื่อผ่าตัดฉายแสงเคมีบำบัดแล้วไม่หายก็คือไม่หาย ผมได้ศึกษาหลักฐานวิจัยครบถ้วนหรือยังก่อนที่จะสรุปอย่างนั้น       (2) การทำแค้มป์รี...

ปฐม ก. กา สู่ความหลุดพ้นสำหรับคนวัยทำงาน

สวัสดีครับ อาหมอ      ผมอ่านบทความของอาหมอ แล้วเข้าใจการใช้ชีวิตมากขึ้น แต่ก็ยังมีข้อสงสัยว่า เราจะวางความคิดลงได้อย่างไร ในเมื่อเรายังมีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบหลายอย่าง เช่น ครอบครัว ลูก เป็นต้น เพราะบางครั้งเราก็ยังมีความเป็นห่วงอยู่ จะมีวิธีคิดอย่างไรให้เราสบายใจไม่เป็นห่วงมากจนเกินไป ถ้าเราตัวคนเดียวความข้องใจนี้คงหมดไป รบกวนอาหมอช่วยแนะนำด้วยครับ จาก คนที่ยังวางความคิดได้ไม่หมด ............................................................... ตอบครับ      วันนี้หยิบคำถามเบสิกขึ้นมาตอบบ้างนะ ไม่เฉพาะสำหรับผู้แสวงหาหน้าใหม่เท่านั้น แต่ยังเผื่อฟลุ้คว่าหน้าเก่าที่ก้าวหน้ามากแล้วแต่ติดแหง็กอยู่ที่ไหนสักแห่งไปต่อไม่ได้ อ่านแล้วอาจจะได้คิดอะไรบางอย่างที่มีประโยชน์กับตัวเองขึ้นมา       ประเด็นที่ 1. ภาพใหญ่ของการใช้เวลา      ชีวิตคนเราวันหนึ่งมี 24 ชั่วโมง คือ      เวลานอน ราว 8 ชั่วโมง      เวลาทำงาน อีกราว 8 ชั่วโมง คือทำจริงบ้างไม่ทำจริงบ้างนับหมด      เวลาอื่นๆนอกเวลาทำง...

ความในใจที่อยากจะบอกเมื่อได้มาเข้าแคมป์ RDBY ของคุณหมอสันต์ ใจยอดศิลป์

รูปภาพ
     มีสมาชิกแค้มป์ RDBY ท่านหนึ่ง ได้กรุณาเขียนเล่าเรื่องของตัวเองมาให้เพื่อแชร์ความรู้กับเพื่อนในกลุ่ม เขียนขึ้นมาจากหัวใจของตัวเอง สำนวนน่ารักน่าอ่านมาก ผมจึงขออนุญาตนำลงในบล็อกนี้ ซึ่งท่านก็อนุญาตด้วยดี ต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเลยนะครับ สันต์ ...........................................................      ผมขอแนะนําตัว ผมชื่อ นายกิติยศ วีรเธียรภิญโญ อายุ 62 ปี ปัจจุบันเกษียณแล้ว ผมได้บํานาญจากการทํางานและการใช้ชีวิตอย่างผิดๆ มา 3 โรค คือโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง (NCD) ต้องกินยาวันละกว่า 10 เม็ด ค่าหมอค่ายาเฉลี่ยเดือนละหนึ่งหมื่นบาท ผมขอออกตัวก่อน ผมเป็นคนที่ไม่ชอบเล่นกีฬา ไม่ชอบออกกําลังกาย เป็นคนตามใจปากชอบกินอาหารอร่อย เจ้าไหนว่าอร่อยเป็นอันว่าเสร็จผม คําฝรั่งว่า “YOU ARE WHAT YOU EAT” คําพูดนี ้จริงแท้ที่สุด ผมเพิ่งเข้าใจ ความเชื่อเดิมของผม คือ ผมต้องกินยาไปตลอดชีวิต เพราะเชื่อว่าโรคที่เป็นอยู่ไม่มีวันหาย ความเชื่อนี้เกิดจากความเชื่อว่ามาจากพันธุกรรม และจากความเห็นของคุณหมอหลายๆ ท่าน จึงคิดว่าในเมื่อมันรักษาไม่หายก็ต้องทําใจอยู่...