บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มิถุนายน, 2015

นิสิตทันตแพทย์ปี 4 ถึงกับต้องร้องไห้ต่อหน้าคนไข้

กราบเรียนอาจารย์ที่เคารพ ผมเป็นนิสิตทันตแพทย์กำลังขึ้นชั้นปี4 ตอนนี้เปิดเทอมมาแล้ว4วัน แต่มันเป็น 4 วันที่ทรมานเหลือเกินสำหรับผม เพราะผมลึกๆเป็นคนกลัวโรงพยาบาล เช่น กลิ่น Sterile ต่างๆในโรงพยาบาล ผู้คนที่เจ็บป่วย คุณหมอหรือพี่ๆพยาบาล มันทำให้ผมเกิดอาการมือไม้สั่น รู้สึกอึดอัด อยากร้องไห้ น้ำตาไหล จิตใต้สำนึกมันสั่งให้ตัวเป็นเช่นนั้น เกิดอาการคล้ายๆเหมือนคนกลัวผี หรือกลัวสัตว์ร้ายที่ไม่ชอบเอามากๆ ต้นเหตุเกิดจากผมเป็นคนอ่อนแอ ไม่สบายง่าย เลยเป็นเหตุให้เข้าโรงพยาบาลบ่อยตั้งแต่เด็กๆ ทุกครั้งไปโรงพยาบาลก็จะไม่ค่อยให้ความร่วมมือการรักษาเท่าไหร่ กลัวคุณหมอ กลัวพี่พยาบาล กลัวรถเข็น กลัวไปหมด ร้องไห้ตลอดจนกระทั้งทำการรักษาเสร็จ เป็นแบบนี้ทุกครั้ง (ไม่เคยมีประวัติที่ไม่ดีเกี่ยวกับโรงพยาบาลเลยนะครับ) และที่สำคัญพอโตมาก็อยากเรียนหมอแต่ต้องสละสิทธิ์ที่นั่งคณะแพทย์ไปเพราะตอนรอวันสัมภาษณ์ตรวจสุขภาพ ผมเกิดความคิดว่าเรายังกลัวสิ่งที่เราเด็กๆกลัวหรือเปล่าเลยไปเดินเล่นนานอยู่หลายวัน ก็จริงๆครับผมยังคงเกิดอาการแบบที่กล่าวอยู่ เลยสละสิทธิ์ไปเพราะครอบครัวไม่อยากให้เราเกิดอาการแบบนั้น ที่บ้านอยากให้เราไปพบ...

น้ำมันปลาแค้ปซูล (Fish Oil) เป็นมิตรหรือศัตรู

เรียน คุณหมอสันต์ครับ          ขอเล่าประวัติผมก่อนครับ คุณพ่อของผมเสียชีวิตแล้วด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตกและเป็นอัมพาต สลับกับอัมพฤกษ์อยู่ 2 ปี ก่อนเสียชีวิตตอนอายุ 52 ปี คุณแม่ปัจจุบันอายุ 77 ปี เป็นเกือบทุกโรคครับ ความดัน เบาหวาน ข้อเข่าเสื่อม (ผ่าตัดเปลี่ยน) และโรคหัวใจ (บายพาส 3 เส้น) ปัจจุบันนั่งรถเข็น เดินได้บ้างเล็กน้อย       ตัวผมเองทำงานออฟฟิศ อายุ 45 ปี สูง 175 ซม.หนัก 85 กก. มีโรคประจำตัว ดังนี้ครับ 1. เป็นเก๊าท์ โดย Attack ครั้งแรกเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว (วัดได้ 6-8 ปัจจุบันทานยา Allopulinol 100 mg วันละ 1 เม็ด) 2. ความดันโลหิตสูง 150/100 (ขณะทานยา Amlodipine 5 mg  ½ เม็ดและ Atenolol 50 mg 1 เม็ด /วัน) 3. ไขมันพอกตับ และตับอักเสบ (SGPT = 50-100 กว่าๆต่อกันมากว่า 10 ปี) 4. ไตรกลีเซอไรด์สูง (200-350 ต่อกันกว่า 5 ปี) 5. HDL = 33 , LDL = 120      โชคดีที่ผมอ่านพบข้อความเรื่องที่คุณหมอแนะนำให้เปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ที่แชร์จากเพื่อนๆผ่าน Facebook ผมทำตามแต่ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ โดยลดแป้งและน้ำตาลแต่ยังไม่ลดไขมั...

ข้องใจเรื่องน้ำตาลฟรุ้คโต้ส (Fructose)

เรียนคุณหมอสันต์ ดิฉันอายุ 63 ปี (ที่บอกอายุก็เพื่อให้คุณหมอตอบคำถามของดิฉันก่อน) คือดิฉันมีความสับสนเรื่องน้ำตาลฟรุ้คโต้ส ข้อมูลหลายทางบอกว่าน้ำตาลฟรุ้คโต้สเป็นของไม่ดีต่อสุขภาพ แต่มีวันหนึ่งไปฟังบรรยายของท่านวิทยากรชื่อ ....... ท่านบอกว่าน้ำตาลฟรุ้คโต้สเป็นสารธรรมชาติ มีอยู่ในผลไม้ทุกชนิด ดังนั้นให้กินน้ำตาลฟรุ้คโต้สเข้าไปเถอะ น้ำตาลทรายก็ทำมาจากอ้อย น้ำตาลปี๊บก็เป็นน้ำตาลธรรมชาติเหมือนกัน กินๆเข้าไปเหอะ ดิฉันจึงสงสัยว่าความจริงเกี่ยวกับผลของน้ำตาลฟรุ้คโตสต่อสุขภาพนี้เป็นอย่างไร ....................................................... ตอบครับ      ประเด็นที่ 1. การพูดคนละเรื่องเดียวกัน      ปัญหาการพูดคนละเรื่องเดียวกันนี้มีอยู่เสมอ มีมาตั้งแต่สมัยยังไม่มีอินเตอร์เน็ทแล้ว นานมาแล้วสมัยยังทำงานแอคทีฟอยู่ผมไปประชุมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติเพื่อกำหนดมาตรฐานเรื่องการช่วยชีวิตคนหัวใจหยุดเต้น นั่งประชุมกันอยู่ที่เมืองดัลลัส (สหรัฐ) ประชุมกันไปได้ครึ่งวัน ที่ประชุมจึงสรุปได้ว่าทั้งหมดที่พูดกันมาเนี่ย พวกเรากำลังพูดคนละเรื่องเดียวกัน ที่เรื่องแบบนี้เ...

ทุ่มเทเลี้ยงลูก แต่ทำไมสิ่งที่ได้มาจึงเป็นอย่างนี้

คุณหมอสันต์คะ เมื่อเราเลี้ยงลูกขึ้นมาคนหนึ่ง เราอยากให้เขาเป็นคนที่มีความสุขกับชีวิต และมีคุณค่าต่อสังคม  เราจะตายไปด้วยความภาคภูมิใจที่ลูกจะเป็นตัวแทนของเรา ทำสิ่งที่เราควรจะทำแต่ยังทำไม่ได้หรือไม่ได้ทำต่อไป บนโลกใบนี้ แต่มาถึงวันนี้ หลังจากความพยายามทุ่มเทให้เวลาและพลังทั้งหมดที่เรามีให้กับการเลี้ยงลูก สิ่งที่เราได้มาคืออะไรหรือ ลูกที่ขี้เกียจ นอนดึก ตื่นสายเที่ยงวัน ไร้ระเบียบวินัย ไม่มีความรับผิดชอบ อย่าว่าแต่ต่อสังคมหรือต่อครอบครัวเลย แม้กระทั่งต่อตัวเองนับตั้งแต่สุขภาพและความเป็นอยู่ของตัวเองก็ไม่สนใจ ไม่เห็นหัวจิตหัวใจของคนอื่น โดยเฉพาะของพ่อแม่ตัวเอง มีแต่ take ไม่เคย give  พ่อแม่จะไหว้วานให้ทำอะไรนิดหน่อยเช่นแก้ปัญหาแม่เข้าไลน์กับเพื่อนไม่ได้ทั้งที่หากเขาจะช่วยสำหรับเขามันก็ง่ายนิดเดียว แต่แม่รอไปเถอะชาติหนึ่ง ไม่สนหรอก กว่าจะเรียนหนังสือจบต้องกราบกรานอ้อนวอนกันแทบตาย เรียนจบแล้วงานการก็ไม่ยอมทำ เพื่อนของพ่อเสนองานที่บริษัทของเขาให้ก็ไม่เอา เอาแต่กิน นอน เล่นคอม แม้จะช่วยงานเล็กๆน้อยเช่นเอาขยะไปทิ้งถังหน้าบ้านก็ไม่ทำ ทิ้งให้แม่ทำเองหมด ตัวเองมีเวลาให้กับเฟสบุค อินสต...