เรียนคุณหมอสันต์ที่เคารพ
คุณพ่ออายุ 62 ปี ตรวจพบต้อกระจก
คุณหมอแนะนำให้ผ่าตัดและเปลี่ยนเลนส์ อยากจะเรียนถามดังนี้ค่ะ
ก. เลนส์ธรรมดาราคา 6,000 บาท ตามสิทธิ์ราชการ มีคุณภาพดีหรือไม่
ของโรงพยาบาลรามาธิบดี ใช้ยี่ห้อใด ทำด้วยวัสดุอะไร คะ มีเพื่อนบอกว่า ที่รพ.จุฬามีให้เลือก
ถ้าราคาหมื่นกว่าบาทจะดีกว่า แต่ของรพ.รามาฯไม่มีให้เลือก คุณหมอกรุณาแนะนำด้วยค่ะ
ข.เลนส์แบบปรับระยะอัตโนมัติดีกว่าเลนส์ธรรมดาหรือไม่ ราคาประมาณ 30,000 บาท คุ้มราคาไหมคะ
ค. เป็นความจริงหรือไม่ที่อายุ 60 แล้วแม้ไม่เป็นต้อกระจกก็ควรจะเปลี่ยนเลนส์เสียเลย
จะทำให้เห็นชัดเจนขึ้น
รบกวนคุณหมอด้วยค่ะ
ชอบรายการที่คุณหมอให้นักศึกษาแพทย์มาค้นหาสาเหตุของโรค โดยคุณหมอเป็นคนไข้ ที่บ้านติดตามดูทุกครั้ง
เสียดายที่ไม่มีแล้ว บังเอิญค้นหาข้อมูลให้คุณพ่อเจอเว็บไซท์ของคุณหมอ
ดีใจมากเลยค่ะ รีบเขียนมาเรียนถามทันที ขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้
ด้วยความเคารพอย่างสูง
…………………………………………
ตอบครับ
ก่อนตอบคำถามของคุณ ผมขอพูดถึงปูมหลังของโรค ต้อกระจก (cataract) ให้ท่านผู้อ่านทราบเป็นพื้นไว้ให้อ่านคำตอบนี้รู้เรื่องก่อนนะ
ว่าโรคต้อกระจกคือโรคที่ตาค่อยๆมัวขึ้นๆโดยไม่เจ็บไม่ปวด
เกิดจากการหนาตัวและขุ่นของเลนส์ตาตามอายุ
โดยที่กลไกการเกิดแพทย์ก็ยังไม่ทราบกันแน่ชัดว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร
ทราบแต่ว่ามีความสัมพันธ์กับปัจจัยเสี่ยงได้แก่ อายุมาก, สูบบุหรี่,
ดื่มแอลกอฮอล์, อยู่กลางแดดมาก, มีการศึกษาน้อย, มีสุขนิสัยไม่ดี
(เช่นทานอาหารไม่ครบหมู่ ไม่ได้ออกกำลังกาย), เป็นเบาหวาน,
มีการใช้ยาสะเตียรอยด์, เป็นโรคเรื้อรังบางโรค,
บาดเจ็บที่ตา, ตาอักเสบ, ได้รับการฉายรังสี, ได้รับสารพิษหรือยาบางชนิด
เป็นต้น อาการสำคัญของโรคต้อกระจก นอกจากตาจะค่อยมองเห็นภาพไม่ชัด ไม่คม
ต่อมาก็มัว และบอดแล้ว ยังมักมีอการแพ้แสงง่าย คือในที่สว่างมากจะแยกขอบภาพ (contrast) ไม่ออก หรือถ้ามีใครฉายไฟใส่หน้าในที่มืดก็จะมองภาพอะไรไม่เห็น วิธีรักษาต้อกระจกในปัจจุบันมีอย่างเดียว
คือการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์
เอาละ ทีนี้มาตอบคำถามของคุณ
1..ประเด็นคุณหมอแนะนำให้ผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ อย่าลืมว่าคนตัดสินใจคือคนไข้นะ หลักมีอยู่ว่าเมื่อใดก็ตามที่การมองเห็นรบกวนคุณภาพชีวิต
เมื่อนั้นควรผ่าตัด ซึ่งจุดนี้ไม่เท่ากันในแต่ละคน ผู้สูงอายุบางท่านมองหน้าคนแทบจะแยกปากกับจมูกไม่ออก
แต่ท่านก็ยังถือว่าแค่นี้ชีวิตก็โอเค.แล้ว
ขณะที่บางท่านโดยเฉพาะตาแก่ที่ชอบเหล่สาว แค่มองสิวบนใบหน้าสาวๆไม่ถนัดก็มีปัญหากับชีวิตเสียแล้ว
ดังนั้นเมื่อไหร่ต้องผ่าตัด ผู้ตัดสินใจคือผู้ป่วย ไม่ใช่ลูกๆหรือแพทย์นะ
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยทางการแพทย์ปัจจุบันสนับสนุนให้เลิกใช้เกณฑ์เดิมที่ต้องรอให้
“ต้อสุก” กล่าวคือรอจนความชัดของการมองเห็น (visual acuity) เหลือต่ำกว่า 20/200 (แปลเป็นภาษาไทยแบบบ้านๆก็คือ “บอดแล้ว”)
เปลี่ยนมาใช้หลักการใหม่ว่ายิ่งทำการผ่าตัดแต่เนิ่น
ยิ่งมีความคุ้มค่าในแง่ของการมีชีวิตเปี่ยมด้วยคุณภาพนานกว่า (quality
adjust life years)
อนึ่ง ในฐานะลูกสาวคนไข้ ก่อนผ่าตัดคุณควรจะคุยกับหมอตาให้ชัวร์ๆก่อนว่าคุณพ่อได้รับการประเมินว่าไม่เป็นโรคอื่นที่มีผลต่อการมองเห็นซ่อนอยู่
เช่นโรคจอประสาทตาเสื่อม (macula degeneration) โรคต้อหิน (glaucoma) โรคเบาหวานลงตา (diabetic retinopathy) เป็นต้น มิฉะนั้นการผ่าตัดต้อกระจกจะกลายเป็นการเกาไม่ถูกที่คันไป
2.. ถามว่า เลนส์ธรรมดาราคา
6,000 บาท
ตามสิทธิ์ราชการของรามา ไม่ดีเท่าของรพ.จุฬาที่มีให้เลือกราคาหมื่นกว่าบาทใช่หรือไม่
แหม แม่คู้น ถามแบบนี้จะหาเรื่องให้หมอเขาตีกันแล้วไหมเนี่ย
ก่อนอื่นผมขออธิบายก่อนว่าสิ่งที่คุณเรียกรวมๆว่าเลนส์ธรรมดา หรือโมโนโฟคอล (monofocal
IOL) นั้น แท้จริงแล้วมันประกอบด้วยชนิดปลีกย่อยอีกหลายอย่าง
เช่นแบบที่แก้ไขตาเอียงด้วยในตัว (toric IOL)
ซึ่งราคาก็แพงกว่าแบบธรรมดา แต่ก็จำเป็นสำหรับคนตาเอียง
ดังนั้นที่ว่ารามามีชนิดเดียวไม่มีให้เลือกนั้นไม่จริงหรอกครับ เพราะเลนส์ตาแม้ว่าจะเป็นโมโนโฟคอลเหมือนกัน
แต่ก็จำเป็นต้องเลือกองค์ประกอบปลีกย่อยไปตามตาคนที่จะใส่ แบบว่าตาใครตามัน
ไม่มีเลนส์ชนิดเดียวใส่ได้รูดมหาราชในทุกคน ยังไงก็ต้องเลือกได้ เพียงแต่กติกากลางคือส่วนเกินสิทธิ์ผู้ป่วยต้องจ่ายเอง
กรณีเลนส์ของแพงของรพ.จุฬาที่คุณว่านั้น ผมเข้าใจว่าเป็น AcrySof IQ (SN60WF) ของบริษัท Alcon
Laboratories, Inc. อันนี้มันเป็นเลนส์อะคริลิกที่มีข้อดีตรงที่อุบัติการณ์เกิดแคปซูลหลังเลนส์ขุ่นหลังผ่าตัด
(posterior capsular opacification) จะเกิดต่ำกว่าเลนส์แบบธรรมดาทั่วไป
ดังนั้นหากแม้นมีเงินที่จะจ่ายเพิ่ม เป็นผมผมก็ยอมจ่ายเพิ่มนะครับ
3. ถามว่าเลนส์แบบปรับระยะอัตโนมัติราคาสามหมื่นบาทดีกว่าเลนส์ธรรมดาหรือไม่
ผมเข้าใจว่าคุณหมายถึงเลนส์มัลติโฟคอล (multifocal) ชนิดพับได้ และปรับความยาวโฟกัสได้เพราะกล้ามเนื้อตาสามารถขยับตัวเลนส์เข้าออกได้ระดับหนึ่ง
ทำให้มองภาพได้ชัดทั้งไกล้และไกลได้ เจ้าที่ดังๆตอนนี้มีสองเจ้าคือ ReStor apodized diffractive IOL ของบริษัทอัลคอน
กับ ReZoom multifocal refractive IOL ของบริษัทแอดวานซ์เมดิคอลออฟติกส์
คำถามของคุณนี้มีงานวิจัยทำไว้นะครับ คือเมื่อปี 2012 นี้เอง หอสมุดโค้กเรนได้ทำการวิจัยแบบเมตาอานาไลซีสคือรวบรวมงานวิจัยเปรียบเทียบดีเสียของเลนส์แบบโมโนกับมัลติโฟคอลทั้งหลายที่ทำไว้ในโลกแล้ววิเคราะห์ใหม่เพื่อดูว่าภาพรวมผลมันเป็นอย่างไร
ก็มีข้อสรุปว่าเลนส์อย่างแพง (มัลติโฟคอล)
มีความคมชัดโดยรวมของภาพทั้งใกล้และไกลดีกว่า
มีอัตราการต้องพีงพาแว่นตาหลังผ่าตัดต่ำกว่าเลนส์อย่างถูก (โมโนวิชั่น) แต่ก็มีปัญหาแสงแทรกตอนกลางคืนทั้งแสงจ้า
(glare) และแสงเป็นวง (halo) มากกว่า (5%
เมื่อใช้เลนส์แพง เทียบกับ 1%เมื่อใช้เลนส์ถูก)
โหลงโจ้งแล้วอย่างไหนจะดีกว่ากันนั้นจึงย่อมขึ้นกับคนไข้แต่ละคน
กล่าวคือหากเป็นคนที่เป็นตายยังไงก็ไม่เอาแว่น และอยากมองเห็นภาพระยะกลาง
(เช่นจอคอมพิวเตอร์ที่ตั้งห่างตัวบนโต๊ะทำงาน) ชัดๆ การเลือกใช้เลนส์อย่างแพง (มัลติโฟคอล)
ก็น่าจะดีกว่า ส่วนคนที่ชอบใส่แว่น พอถอดแว่นแล้วเสียตัวตนของตัวเองไปเลยอย่างผมนี้
หรือคนที่ทั้งชีวิตมองแต่ของใกล้ๆเช่นจอสมาร์ทโฟนเป็นประจำโดยแทบใม่ได้ยกย้ายหัวไปไหน
หรือคนที่ชอบขับรถกลางคืนที่ต้องโดนแสงรถชาวบ้านแยงตาประจำ การใช้เลนส์อย่างถูก (โมโนโฟคอล)
ก็ดีกว่า
4. ถามว่าจริงหรือไม่คนเราอายุหกสิบแล้วควรเปลี่ยนเลนส์ตาซะ ไม่ว่าจะเป็นต้อกระจกหรือไม่ก็ตาม แบบว่าคล้ายกับยางรถยนต์ไง ครบสี่ปีแล้วถือว่าหมดอายุ ดอกสึกหรือไม่สึกก็ต้องเปลี่ยน ฮิ ฮิ ขำตายแหละ ตอบว่าไม่จริงหรอกครับ บ้าแล้ว พูดยังกับว่าอวัยวะของคนเรานี้มันเอาอะไหล่ทดแทนกันง่ายๆ และใส่แล้วมันจะเจ๋งเหมือนของจริงงั้นแหละ เข้าใจชีวิตผิดไปมากเลยนะครับ คุณน้องขา
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
บรรณานุกรม
4. ถามว่าจริงหรือไม่คนเราอายุหกสิบแล้วควรเปลี่ยนเลนส์ตาซะ ไม่ว่าจะเป็นต้อกระจกหรือไม่ก็ตาม แบบว่าคล้ายกับยางรถยนต์ไง ครบสี่ปีแล้วถือว่าหมดอายุ ดอกสึกหรือไม่สึกก็ต้องเปลี่ยน ฮิ ฮิ ขำตายแหละ ตอบว่าไม่จริงหรอกครับ บ้าแล้ว พูดยังกับว่าอวัยวะของคนเรานี้มันเอาอะไหล่ทดแทนกันง่ายๆ และใส่แล้วมันจะเจ๋งเหมือนของจริงงั้นแหละ เข้าใจชีวิตผิดไปมากเลยนะครับ คุณน้องขา
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
บรรณานุกรม
1. American
Academy of Opthalmology. Preferred Practice Pattern®
guidelines ("PPP"). Accessed
on Janyary 29, 2013 at http://one.aao.org/CE/PracticeGuidelines/PPP.aspx?sid=a3043761-ec14-40a0-bb84-d353240d211e
2. Calladine D, Evans JR, Shah S, Leyland M.
Multifocal versus monofocal intraocular lenses after cataract extraction. Cochrane
Database of Systematic Reviews 2012, Issue 9. Art. No.: CD003169. DOI:
10.1002/14651858.CD003169.pub3. Link to Cochrane Library. [PubMed]