บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก สิงหาคม, 2019

อายุ 81 อัมพาตจากเนื้องอกในหัวใจ ผ่าดีไม่ผ่าดี

เรียนคุณหมอสันต์ รบกวนปรึกษาค่ะ คุณพ่อเข้ารพ ด้วยอาการเส้นเลือดสมองอุดตัน  ทำmri สมองพบว่าสิ่งที่อุด หลุดไปแล้ว วันแรกยังไม่ได้ทำechoหัวใจ หมอบอกลิ่มเลือด อุดตัน หลังทำถึงพูดว่าเป็นชิ้นส่วนของก้อนเนื้องอกในหัวใจ ทีมแพทย์ต้องการให้ผ่าทันที  ส่วนเราลูกๆรู้สึกไม่แน่ใจว่าควร ผ่าหรือไม่ แจ้งคุณหมอไปว่าจะรอให้พ่อดีขึ้น {ซึ่งหมายถึงพูดจารู้เรื่องกว่านี้ ตอนนี้ตอบเป็นคำๆ ชัดบ้างไม่ชัดบ้างไม่สามารถ บอกได้ว่ารู้สึกหรือต้องการ อะไร ปวดเข้าห้องน้ำยังบอกไม่ได้เลยค่ะ}แล้วจะถามเจ้าตัวเอง คุณหมอเข้ามาในห้อง เข้าไปพูดกับคุณพ่อเอง อธิบายหมด ทุกอย่าง เค้าดูงงๆ ตอนแรกบอกผ่า สักพักบอกไม่ผ่า (ตอนนี้ลักษณะการตอบของเค้าคือจะพูดซ้ำคำสุดท้ายของคำถาม). พยายามจะแจ้งคุณหมอ ดูไม่เป็นผลเท่าไหร่ค่ะ เค้าเลยให้เซ็นเอกสารไม่ผ่า แล้วพูดกับเราว่า”ถ้าคุณปฏิเสธการรักษา ก้อกลับบ้านไป จะมาอยู่ให้เสียเงินทำไม” ตอนนี้เราก้อหน้าทน ยังอยู่ที่รพ เพราะรู้สึกว่าพ่อเรายังไม่พร้อมจะกลับบ้าน นอนอยู่บนเตียงมา9วัน. ไม่ได้ลงจากเตียงเลย เพราะทีมแพทย์ไม่ให้กายภาพ เพราะกลัวก้อนเนื้องอกจะหลุด คุณหมอคะ ช่วยกรุณาแนะนำหน่อยค่ะว่าค...

เมื่อรู้ว่าโคเลสเตอรอลสร้างโดยตับแล้ว เฮ..กินอะไรก็ได้ใช่ไหม

เรียนคุณหมอสันต์ ผมได้ฟังคลิบของนายแพทย์ .... อ้างงานบทความเผยแพร่ของฮาร์วาร์ด ว่าโคเลสเตอรอลส่วนใหญ่ที่ทำให้เป็นโรคหลอดเลือด ร่างกายสร้างขึ้นมาโดยตับ 80% ที่ได้จากอาหารมีเพียง 20% ดังนั้นจึงไม่ต้องระวังอาหารไขมันสูงหรืออาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูง เป็นความจริงแค่ไหนครับ ................................................. ตอบครับ      มีจดหมายถามเข้ามาแยะมากว่าคนนั้นว่ายังงั้นอ้างงานวิจัยทำที่นั่นที่นี่ว่าเชื่อถือได้จริงไหม ผมไม่ตอบให้สักรายเดียว สาเหตุที่แท้จริงก็เพราะเมียห้าม เธอคงกลัวผมจะถูกตื๊บที่ไปวิจารณ์บทความที่เขียนหรือพูดโดยคนอื่นเข้า อีกทั้งผมเองก็เห็นชอบด้วยว่าการเที่ยวไปตัดสินความคิดความเห็นของคนอื่นเขานั้นเป็นพฤติกรรมไร้สาระ เพราะคนทุกคนมีดุลพินิจของตัวเองอยู่แล้ว ก็ให้ผู้อ่านเขาใช้ดุลพินิจของเขาเองโดยเราไม่ต้องไปทำตัวเป็นนักพากย์หรือนักวิจารณ์หรอกว่าคนนี้พูดเข้าท่า คนนั้นพูดไม่เข้าท่า ดังนั้นหากแฟนบล็อกหมอสันต์ได้ข้อมูลมาว่าคนนั้นว่ายังโง้นคนนี้ว่ายังงี้มาไม่ต้องส่งมาให้ผมเม้นท์ว่าจริงไม่จริงนะครับ ถ้าไม่อยากวางยาให้หมอสันต์ได้รับบาดเจ็บ     ...

ทำบอลลูนแล้วมีจ้ำเลือด จะลดแอสไพรินเหลือแค่วันเว้นวันได้ไหม

เรียนคุณหมอสันต์ครับ ผมทำบอลลูนใส่ขดลวดมาปีกว่าแล้ว ผมแพ้ยา clopidogrel ตอนนี้กินยา baby Aspirin (81 mg) อย่างเดียววันละเม็ดแล้วชอบมีจ้ำเลือดออกตามข้อพับ อยากถามคุณหมอว่าถ้าผมจะลดยาเหลือวันเว้นวันจะดีไหม จะได้ผลไหม จะปลอดภัยไหม หรือว่าผมควรทำอย่างไรดี ..................................................................... ตอบครับ      ก่อนตอบคำผมขอให้ข้อมูลวิจัยเท่าที่วงการแพทย์มีอยู่แก่คุณก่อนนะ      งานวิจัยเชิงระบาดวิทยาพบว่าโหลงโจ้งแล้วการใช้ยาแอสไพรินในขนาดระหว่าง 30 -1500 มก.ต่อวันล้วนให้ผลลดความเสี่ยงที่จะเกิดจุดจบที่เลวร้ายของโรคหลอดเลือดลงไปได้ประมาณ 25% เหมือนกันหมด      โปรดส้งเกตว่ายังมีผู้ป่วยอีกจำนวนหนึ่งซึ่งแม้จะให้ยาไม่ว่าในขนาดใดแล้วแต่ก็ยังดื้อด้านและเกิดจุดจบที่เลวร้ายของโรคขึ้นจนได้      นั่นเป็นเรื่องในร่างกายคน  อีกงานวิจัยหนึ่งใช้วิธีเทียบขนาดแอสไพรินที่ผู้ป่วย 108 คนกิน กับการเอาเลือดของผู้ป่วยออกมาตรวจดูการจับกลุ่มของเกล็ดเลือดในห้องแล็บ พบว่าหากกินยาที่ขนาดวันละ 30 มก. ผู้ป่วย 40% จะได้...

จะรักษากระดูกพรุนด้วยยา denosumab ดีไหม

อายุ 70 ปี เป็นโรคกระดูกพรุน ผลตรวจ T-score ได้ -3.1 หมอแนะนำให้ฉีดยารักษากระดูกพรุนชื่อ  denosumab ไม่ได้มีโรคประจำตัวอะไร ไม่เคยมีกระดูกหักมาก่อน อยากเรียนถามคุณหมอว่าควรจะฉีดยานี้ดีหรือไม่ ........................................................... ตอบครับ      Denosumab ยารักษากระดูกพรุนตัวใหม่นี้เป็นยาคนละกลุ่มกับยาเก่าที่เรียกรวมๆว่า bisphosphonate เนื่องจากคนพากันกลัวยาเก่าว่าหากให้นานไป (เกินห้าปี) แล้วจะเกิดกระดูกหักชนิดแหลมคมและอันตรายมากขึ้น เกิดกรามผุมากขึ้น คนจึงหันมาสนใจยาตัวใหม่นี้ ซึ่งให้โดยวิธีฉีดเข้าใต้ผิวหน้งปีละ 2 ครั้ง มันเป็นโมเลกุลภูมิคุ้มกันของร่างกายมนุษย์ (monoclonal antibody) ที่ออกฤทธิ์ซับซ้อนเล็กน้อย ขออนุญาตอธิบาย กล่าวคือในภาวะปกติเมื่อพระเจ้าสร้างกระดูกมาให้มนุษย์ ก็จะแถมเซลซ่อมบำรุงกระดูกอยู่สองชนิดติดมาด้วย คือเซลสร้างกระดูก (osteoblast) กับเซลทำลายกระดูก (osteoclast) เซลทั้งสองตัวนี้ทำงานตรงกันข้ามขึ้นอยู่กับว่าจะได้รับใบบอกจากฮอร์โมนและวิตามินที่เกี่ยวข้องเช่นฮอร์โมนพาราไทรอยด์ แคลซิโทนิน และวิตามินดี.ว่าอย่างไร บางจังหวะเมื่...

ฉีดยากระตุ้นการสร้างเม็ดเลือด (Epo) พอเม็ดเลือดมากขึ้นแล้วกลับกลัว

     รักษาโรคไตเรื้อรังอยู่ ได้รับยาฉีดกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือด erythropoienin เป็นประจำ บางครั้งแม้ Hb สูงเกิน 12 ก็ยังได้ยาฉีดอยู่ ได้อ่านพบว่าการฉีดยานี้ทั้งๆที่ Hb สูงเกิน 12 แล้วมีผลทำให้เสียชีวิตมากขึ้น ทำให้กังวล ................................................... ตอบครับ      ประเด็นที่ 1. ประโยชน์ของยากระตุ้นการสร้างเม็ดเลือด (Erythropoietin)      ผมเรียกชื่อยานี้ว่า Epo ละกันนะ ตั้งแต่มียานี้ออกมาเมื่อยี่สิบปีก่อน ชีวิตของคนป่วยโรคไตเรื้อรังดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การที่ยานี้ช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงทำให้โรคโลหิตจางซึ่งเกิดจากไตผลิต Epo ไม่ได้กลับดีขึ้นทันที ทำให้ความทุพลภาพลดลงอย่างมาก ผู้ป่วยออกกำลังกายได้มากขึ้น สมองแจ่มขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้น อัตราตายจากโรคหลอดเลือดก็ลดลงด้วย ดังนั้นการใช้ยานี้ดึงปริมาณเม็ดเลือด (ซึ่งวัดจาก Hb หรือ Hct ก็ได้) ขึ้นมาใกล้ระดับปกติ คือให้ Hb อยู่ประมาณ 11-12 gm/dl หรือ Hct อยู่ประมาณ 33 - 36% จึงมีแต่ได้กับได้ และถือเป็นมาตรฐานการรักษาที่ยอมรับกันทั่วไป (การเทียบค่า Hb กับ Hct ให้ใช้สูตร...

จดหมายจากนางสาวผู้ยังไม่ทันได้เจนจัดอะไรในชีวิต

เรียน คุณหมอที่เคารพ      หนูตกตะกอนข้อคิดจากคำแนะนำที่คุณหมอเขียนเรื่อง ขอความรักบ้างได้ไหม เมื่อหลายเดือนก่อน หนูอ่านหลายรอบมากค่ะ และพยายามทำความเข้าใจ จนคิดว่าพอเข้าใจตามสมควร      หนูทิ้งระยะเวลาหลายเดือน เพื่อกลับมาอ่านอีกครั้ง แม้หนูจะสามารถจำเนื้อหาทั้งหมดได้ แต่หนูก็ขอยอมรับว่าหนูยังปฏิบัติไม่ได้ทั้งหมด แต่หนูพยายามอย่างมากในการรู้ตัวอยู่กับชีวิตตรงหน้า หนูเคยเรียนการละครค่ะ ได้ acting เกรด A หนูคิดว่าพอจะเข้าใจประเด็นที่คุณหมอแนะนำให้หนูสวมบทบาทเป็นเจ้าหญิงให้กับความคิดที่เกิดในโลกทัศน์ของความรัก หนูคิดว่าหนูพอทำได้ด้วยนะคะในเรื่องความรัก รวมถึงเรื่องงานและเรื่องชีวิตในมิติอื่น      หนูรู้สึกดีใจค่ะที่หนูได้เข้าใจเรื่องการรู้ตัวในวันนี้ ณ เดี๋ยวนี้ หนูดีใจและอยากขอบพระคุณคุณหมอที่แนะนำหนู เมื่อนึกถึงคำว่าความรักในแบบที่คุณหมอเขียนให้หนูเข้าใจ หนูก็นึกถึงแต่รักที่แม่มอบให้หนู หนูก็คิดว่าหนูเจอความรักอยู่แล้ว เจอมาตั้งแต่เกิดด้วย รวมถึงพ่อด้วย แม้อาจไม่เท่าแม่ แต่หนูคิดว่าก็คงเป็นชนิดเดียวกัน      หนูเลยคิดว่าความร...

วัคซีนสำหรับผู้ใหญ่ ควรฉีดอะไรบ้าง

สวัสดีค่ะคุณหมอสันต์ คือหนูมีเรื่องอยากวอบถามเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนในโรคเบื่องต้นต่างๆ สำคัญกับเราแค่ไหนค่ะ ฉีดรึไม่ฉีดดีค่ะ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ไวรัสตับบี หัดเยอรมัน ตอนเด็กหนูเคยฉีดมาบ้างแต่จำไม่ได้ว่าฉีดอะไรบ้าง😬 ตอนนี้หนูอายุ37ปีแล้ว อาศัยอยู่ต่างประเทศ ที่นี้มีโดยส่วนใหญ่คุณหมอจะให้ฉีดวัคซีนต่างๆ แต่หนูไม่รู้ว่าฉีดรึไม่ฉีดดี เพราะเยอรมันยาแต่ละตัวแรงมาก ผู้คนอยู่ได้ก็เพราะยาเท่าที่เห็นผู้สูงอายุ (ความคิดเห็นส่วนตัว รึอาจจะด้วยความที่หนูชอบแบบรักษาธรรมชาติก่อน ) คุณหมอช่วยตอบหน่อยนะค่ะ 🙏 กราบขอบพระคุณค่ะ .........................................................      มีจดหมายถามถึงวัคซีนในผู้ใหญ่ค้างหลายฉบับ ขอรวบยอดตอบรวมกันไปในฉบับเดียว ว่าวัคซีนที่มาตรฐานสากล (ACIP) แนะนำให้ฉีดในผู้ใหญ่ ผมเรียงให้ดูโดยนับตั้งแต่ผู้มีอายุมากลงไป ดังนี้      1. วัคซีนปอดอักเสบแบบรุกล้ำ (IPV) ควรฉีดทุกคนเมื่ออายุ 65 ปีขึ้นไป โดยฉีดสองเข็ม (PCV13 + PPSV23) ห่างกัน 6-12 เดือน แล้วจะมีผลคุ้มกันตลอดชีวิต ปอดอักเสบแบบรุกล้ำพูดภาษาบ้านๆก็คือติดเชื้อในกระแสเลือดนั่นเอง ...

จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นความรู้ตัวจริง ไม่ใช่สิ่งที่ความคิดสร้างขึ้น

จดหมายฉบับที่ 1.      ผมติดตามบทความของอาจารย์มาโดยตลอดและที่ผ่านมาอาจารย์มักเน้น self inquiry ในการเข้าถึงความรู้ตัวมาโดยตลอด แต่ทำไมช่วงหลังอาจารย์กลับเน้นถึงการทำ body scan และการรับรู้พลังงาน (grace) จากภายนอก ทั้งๆ ที่การทำ body scan นั้นต้องอาศัยประสาทสัมผัส คือร่างกายเพื่อเข้าถึงความรู้ตัว (knowing) มันเป็นแค่ครึ่งทางเมื่อเทียบกับการทำ self inquiry ที่ใช้การตั้งคำถามว่ารู้ตัวหรือเปล่า? ใครคือผู้รู้? จนเกิดปัญญาญาณ (intution) โดยที่ไม่ต้องอาศัยอายตนะใดๆ และจะนำไปสู่ความรู้ตัวโดยตรง ทำไมเราต้องกลับไปทำ body scan ผ่านอายตนะที่เป็นครึ่งทางแห่งความรู้ตัวด้วยครับ? มันเหมือนเป็นการถอยหลังเข้าคลองหรือไม่? รบกวนอธิบายเพื่อความกระจ่างเพื่อสู่หนทางเข้าถึงความรู้ตัวด้วยครับ จดหมายฉบับที่ 2      ไม่ว่าจะทำ body scan โดยไม่ใช้ภาษาและความคิด แต่ท้ายที่สุดก็ต้องใช้ self enquiry ( who am i ) กับตัวเองเพื่อให้ถึงภาวะความตื่นรู้ใช่หรือไม่ครับ? แต่ถ้าถามตัวเองเราจะติดกับดักของภาษากับความคิดในสิ่งที่เราหมั่นถามตัวเองบ่อยๆ สุดท้ายเราจะตรวจสอบตัวเองอย่างไรครับว่าเราอยู...

ปฐม ก. กา ระบบภูมิคุ้มกันโรค (Immunology System)

     มีจดหมายจากพยาบาลบ้าง นักศึกษาบ้าง เขียนมาถามเรื่องระบบภูมิคุ้มกันโรคค้างอยู่หลายฉบับ บางฉบับก็ทำให้รู้ว่าผู้เขียนมาแม้จะใช้ความรู้ด้านนี้ทำงานช่วยผู้ป่วยอยู่แล้วแต่ก็ยังเข้าใจระบบภูมิคุ้มกันโรคอย่างสบสนอลหม่านแบบที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่าจับแพะชนแกะ วันนี้ผมจึงขอใช้พื้นที่บล็อกนี้เขียนสรุปย่อวิชาภูมิคุ้มกันวิทยา (Immunology) อีกสักครั้ง โดยจะย่อเรื่องทั้งหมดให้เหลือไม่กี่หน้าและจะย่อชนิดที่ชาวบ้านทั่วไปอ่านรู้เรื่องด้วย จึงขอเขียนแบบประหยัดถ้อยคำ เอาแต่เนื้อ ไม่วอกแวก ท่านที่ไม่ชอบอะไรซีเรียสให้ผ่านเรื่องนี้ไปได้เลยนะครับ ……………………………………….. ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (Immunity System)      ระบบภูมิคุ้มกันคือกลไกของร่างกายในการต่อสู้และทำลายเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมจากภายนอกไม่ให้ก่อโรคกับร่างกายได้ ระบบนี้มีกลไกการทำงานเป็นสองชั้น คือชั้นแรกเป็นระบบภูมิคุ้มกันแบบครอบจักรวาลโดยไม่เจาะจงว่าผู้รุกรานเป็นใคร ชั้นที่สองเป็นแบบมุ่งทำลายเป้าที่เจาะจง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้     ชั้นแรก: ระบบภูมิคุ้มกันแบบครอบจักรวาล (Innate immune system)  ...

จะเต็มร้อยกับชีวิต ก็กลัวเปลืองตัว

รูปภาพ
     ก่อนตอบคำถามวันนี้ หมอสันต์ขอภูมิใจนำเสนอโปรเจ็คใหม่ที่เพิ่งทำเสร็จไปหมาดๆ ชื่อ "โปรเจ็คแมวดิ้น" เรื่องมีอยู่ว่าก่อนหน้านี้ผมกับหมอสมวงศ์มีดำริว่าบ้านที่อยู่ทุกวันนี้มันใหญ่เกินไป ถ้าสองตายายแก่ได้ที่แล้วลูกชายโทนคงไม่มีปัญญาดูแลบ้าน จึงคิดกันว่าจะไปหาซื้อคอนโดใกล้รถไฟฟ้าให้เขาสักห้อง เผื่อว่าวันข้างหน้าดูแลบ้านใหญ่ไม่ไหวสองตายายจะได้ย้ายไปอยู่มวกเหล็กอย่างสบายใจ ตระเวณดูคอนโดไปที่สองที่แล้วก็ทำใจไม่ได้ เพราะชีวิตบนคอนโดมันเป็นชีวิตที่ไม่ติดดิน ไม่มีต้นไม้ ไม่ถูกสะเป๊คคนแก่ที่มีกำพืดมาจากบ้านนอกอย่างผม จึงเปลี่ยนใจพักไว้ก่อน อยู่มาวันหนึ่งเห็นโครงการทาวน์เฮ้าส์ใกล้ที่เขาจะทำสถานีรถไฟฟ้าเมืองทองธานีจึงแวะไปดู ก็พบว่าทาวน์เฮ้าส์สมัยนี้แม้จะสร้างดีขึ้นราคาแพงขึ้นแต่ก็มีเอกลักษณ์ว่าอยู่ติดดินแต่ก็ไม่มีดินให้เหยียบ ดูไปดูมาเผอิญมีอยู่หลังหนึ่งอยู่ชายขอบหมู่บ้านมีที่ดินชายธงติดอยู่หลังบ้านประมาณเท่าแมวดิ้น คือ 15 ตรว.และไกลถนนหน่อยทำให้เงียบดี ผมจึงบอกหมอสมวงศ์ว่าหลังนี้โอเค.พอมีที่สีเขียวให้ปลูกหญ้า เอาเลยนะ หมอสมวงศ์ท้วงว่าลูกเขาไม่มีเวลามาตัดหญ้าหรอก ผมบอกว่าก็หญ้าพลาสต...

โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองชนิดไม่จำเพาะเจาะจง (UCTD)

เรียน อาจารย์สันต์ ดิฉันอยากเรียนถามแนวทางการรักษาโรคโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองชนิดไม่จำเพาะเจาะจง (UCTD - undifferentiated connective tissue disease) รักษากับอาจารย์ ... รพ. .... ผลแล็บล่าสุด เนื่องจากผลแลบล่าสุด จากอ. กิตติ โตเต็มโชคชัยการ รพ.พญาไท 2 ดังไฟล์ที่แนบ จึงขอเรียนรบกวนถาม 1. เนื่องจากดิฉันมีอาการข้อเข่าเสื่อมข้างขวาอักเสบร่วมด้วยประมาณ 4 เดือน ซึ่งกระทบกิจวัตรประจำวัน และได้รับยาล่าสุดตามไฟล์แนบ อยากเรียนถามว่า เราต้องกินยานานแค่ไหนถึงจะดีขึ้น และสามารถลดขนาดยาลง จนในที่สุดสามารถดูแลตัวเองด้วยวิธีเข้าแคมป์ที่คุณหมอจัด ซึ่งในที่สุดไม่ต้องทานยาและควบคุมอาการโดยใช้อาหารและธรรมชาติบำบัดตามแนวทางคุณหมอ 2.คุณหมอมีความคิดเห็นอื่นแนะนำนอกเหนือจากการรักษาปัจจุบันเพื่อลดอาการอักเสบและสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติในเร็ววันอย่างไรคะ (คือไม่อยากทานยากดภูมิ และสเตอรอยด์ค่ะ) ขอบพระคุณอย่างสูง Sent from my iPad ............................................................... ตอบครับ      ก่อนตอบคำถาม ขออธิบายให้ท่านผู้อ่านคนอื่นๆได้ร่วมเรียนรู้เรื่องโรคของเนื้อเยื่อเกี่ย...

ลมหายใจคือด้ายที่ผูกคุณกับร่างกายนี้ไว้ด้วยกัน

     หมอสันต์ตอบคำถามสมาชิก RDBY ซึ่งถามว่าคำพูดในสไลด์เรื่องการจัดเวลาเพื่อตัวเอง ซึ่งบรรทัดหนึ่งบอกว่า "อ่าน user manual" นั้นหมายความว่าอย่างไร ...................................................      คำว่า user manual หรือคู่มือการใช้งานทุกคนก็รู้ว่าเมื่อเราได้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์อะไรที่ซับซ้อนมาสักชิ้นหนึ่ง ผู้ผลิตมักจะให้คู่มือการใช้งานติดมาด้วย คนขยันก็จะอ่าน คนขี้เกียจก็จะทิ้งไปแต่ไปใช้วิธีมั่วๆลองหมุนปุ่มโน่นนี่นั่นบนอุปกรณ์เอาแบบลองผิดลองถูกแล้วส่วนใหญ่ก็พอจะใช้อุปกรณ์ได้ระดับหนึ่ง  แต่อาจจะได้ใช้ความสามารถของอุปกรณ์นั้นเพียงเล็กน้อยไม่เต็มศักยภาพที่เขาออกแบบมาให้มันทำได้ อย่างเช่นโทรศัพท์ไอโฟนที่ใช้ๆกันอยู่นี้ มีกี่คนในหมู่พวกเราที่อ่านคู่มือการใช้งานก่อนใช้มัน คุณคงเคยได้ยินผลวิจัยการใช้ไอโฟนว่าผู้ซื้อที่ตัดสิ้นใจเปลี่ยนรุ่นจากรุ่นเก่าไปซื้อรุ่นใหม่แต่ละรุ่นนั้น ได้ใช้งานมันเพียง 7% ของขีดความสามารถที่ไอโฟนเก่ามันทำได้เท่านั้น พูดง่ายๆว่าเราใช้มันไม่เต็มศักยภาพที่มันมี      ชีวิตนี้ ร่างกายนี้ ก็เป็น machine หรือเป็น...

ให้ชีวิตนี้เป็นการแสดงออกของความเบิกบานจากในตัวเองไปสู่ภายนอก

ปัจจุบันอายุ 58 ปี(ชาย)งานไม่ได้ทำแล้ว เงินทองมีใช้ไม่ขาดมือ ตอนนี้มีอาการเบื่อไปหมดทุกอย่างอาหารก็กินไม่ค่อยลงสิ่งที่เคยชอบก็ไม่ชอบไปทุกอย่าง กลายเป็นคนไม่มีกิจกรรมอะไรเลยในชีวิตตอนนี้คิดก็คิดลบไปหมดกลัวนี่กังวลนั่นห่วงลูกห่วงหลานไปหมด ชีวิตไม่มีความสุขเลย เรียนถามหมอสันต์ว่าผมต้องมีวิธีคิดอย่างไรดีและช่วยชี้ทางออกของชีวิตด้วยหาทางออกไม่เจอ ขอขอบคุณคุณหมอมา ณ.โอกาศนี้มากครับ ...................................................... ตอบครับ      1. ประเด็นธรรมชาติของมนุษย์      ธรรมชาติของมนุษย์ก็เป็นอย่างนี้แหละ ถ้าเป็นหมาแมว เมื่อท้องมันหิว มันมีหนึ่งปัญหา แล้วมันก็ดิ้นรนจนท้องอิ่ม พอท้องมันอิ่ม มันหมดป้ญหา หลับปุ๋ยสบาย      แต่มนุษย์ถ้าท้องยังหิว มนุษย์ก็มีหนึ่งปัญหาเหมือนกัน ต้องดิ้นรนหากินให้ท้องอิ่มเหมือนกัน แต่พอท้องอิ่มแล้วคราวนี้มนุษย์จะมีเป็นร้อยปัญหาเลยเชียว เหมือนอย่างที่คุณยกตัวอย่างว่ากลัวนี่กังวลนั่นห่วงลูกห่วงหลานและเหนือสิ่งอื่นใด..เบื่อ..อ...อ เพราะมนุษย์มีของดีสองอย่างที่เหนือกว่าสัตว์คือความจำและจินตนาการ แต่ใช้ไม่...