บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มกราคม, 2020

หลักฐานวิทยาศาสตร์ปี 2020 เรื่องความอ้วนและการลดน้ำหนัก

     ความอ้วนเป็นโรค อันนี้แน่นอน เพราะความอ้วนทำให้ตายเร็วขึ้น คุณภาพชีวิตแย่ลง และนำไปสู่การเป็นโรคเบาหวาน หัวใจ อัมพาต ความดัน ไขมัน นอนกรน ตับอักเสบ ข้ออักเสบ นิ่วในถุงน้ำดี ถุงน้ำรังไข่ และมะเร็งอีกอย่างน้อย 13 ชนิดโดยที่ 12 ชนิดกำลังเพิ่มจำนวนขึ้นตามโรคอ้วน มีแต่มะเร็งลำไส้ใหญ่เท่านั้นที่ไม่เพิ่ม (คงเป็นเพราะหมอขยันส่องตรวจลำไส้ใหญ่เพื่อคัดกรอง) ความอ้วนทำให้อวัยวะทุกอวัยวะได้รับความเสียหายโดยไม่มีข้อยกเว้นซักอวัยวะเดียว      นอกจากจะเป็นโรคธรรมดาแล้ว ความอ้วนยังเป็นโรคระบาดระดับรุนแรงด้วย คือผู้ป่วยเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว ในอเมริกาตอนนี้สถิติโรคอ้วนกลายเป็นเรื่องที่แพทย์รักษาโรคอ้วนใช้เป็นเรื่องขำขันไว้เบรกอีโก้ของตัวเอง เพราะยิ่งรักษาคนอ้วนยิ่งเยอะ คือ 70% ของคนอเมริกันเป็นโรคอ้วนหรือน้ำหนักเกิน และทุกครั้งที่ทำวิจัยแบบตัดขวางก็จะพบว่า 49% ของคนอเมริกันกำลัง on diet หรือกินอาหารลดความอ้วนไม่แบบใดก็แบบหนึ่งอยู่ [1] และ 80-99% ของคนที่ลดน้ำหนักได้แล้วฉลองดีใจกันไปแล้วแต่ต่อมาอีก 1-3 ปีก็กลับมาอ้วนใหม่เท่าหรือมากกว่าเดิม [2] แปลไทยให้เป็นไทยว่าวิธีลดค...

งานวิจัย ISCHEMIA ให้ผลตอกย้ำว่าการทำหรือไม่ทำบอลลูน/บายพาส ผลก็ไม่ต่างกัน

รูปภาพ
     ออกมาแล้ว แถ่น..แทน..แท้น ISCHEMIA trial ทำหรือไม่ทำบอลลูน/บายพาส ผลก็ไม่ต่างกัน      หลังจากที่คนในวงการโรคหัวใจแอบลุ้นกันมานานถึงแปดปี นั่นคือผลวิจัยเปรียบเทียบงานใหญ่ที่สุดเพื่อพิสูจน์ประสิทธิผลของการรักษาโรคหัวใจด้วยยาและการเปลี่ยนวิธีใช้ชีวิตอย่างเดียว กับด้วยการทำบอลลูนหรือบายพาส ซึ่งมีชื่อเรียกในวงการหมอหัวใจว่างานวิจัย ISCHEMIA โดยทำวิจัยในผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือดที่มีอาการเจ็บหน้าอกเวลาออกแรง (stable angina) รวมทั้งพวกเจ็บระดับหนักปานกลางถึงหนักมากจำนวน 5,179 คน ทำวิจัยใน 320 โรงพยาบาล กระจายอยู่ใน 37 ประเทศ ใช้เงินวิจัยไปร้อยกว่าล้านเหรียญสหรัฐซึ่งสปอนเซอร์โดยเจ้าใหญ่..สถาบันหัวใจปอดและเลือดแห่งชาติสหรัฐ (NHLBI) ผลวิจัยนี้เพิ่งนำเสนอในที่ประชุมสมาคมหัวใจอเมริกันหมาดๆเมื่อเดือนพย. 2019 ที่ผ่านมานี้เอง ยังไม่ทันได้ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารการแพทย์ แต่ผมเห็นเป็นเรื่องใหญ่จึงเอามาเล่าให้ฟังก่อน      วิธีการวิจัยคือสุ่มเอาผู้ป่วยที่เป็นโรคหลอดเลือดห้วใจตีบที่มีอาการเจ็บแน่นหน้าอกเมื่อออกแรงหรือเมื่อเครียด (stable angina) ที่สวนห...

ผลตรวจน้ำตาลสะสมในคนเป็นทาลาสซีเมียเชื่อถือไม่ได้ใช่ไหม

เรียนอาจารย์สันต์ ขอเรียนถามว่าดิฉันอายุ 52 ปี น้ำหนัก 50-51 kgs มาตลอด 5  ปี เป็น alpha thalassemia trait มีระดับน้ำตาลหลังอดอาหาร (FBS) ประมาณ 99-105 และระดับน้ำตาลสะสม (HbA1c) อยู่ที่ 5.8-6.2 ขึ้นๆ ลงๆ แบบนี้ มาเกือบ 5 ปี ตรวจเลือดทุก 6 เดือน คุณหมอที่ดูแลบอกว่ายังไม่ต้องทานยา  คำถามคือ เคยได้รับฟังมาว่าการเป็นโรคเลือดมีผลต่อการทดสอบ HbA1c เนื่องจากเป็นการทดสอบน้ำตาลที่เกาะอยู่บนเม็ดเลือดแดง เลยทำให้คิดว่าค่าที่ได้สูงปริ่มๆ เป็นค่าจริงหรือไม่ และเคยมีข้อมูลทางการวิจัยกล่าวไว้บ้างหรือไม่คะ ขอบพระคุณล่วงหน้าในความกรุณา .... ตึก Microbiology รพ. .... ............................................................. ตอบครับ      ก่อนจะตอบคำถามของคุณ ไหนๆคุยกันเรื่องการตรวจค่าน้ำตาลในเลือดแล้วผมขอเกริ่นให้ท่านผู้อ่านทั่วไปทราบเกณฑ์วินิจฉัยเบาหวานปัจจุบันนี้ว่าทำได้สี่แบบ คือ 1. ตรวจน้ำตาลหลังอดอาหาร (FBS) ถ้าได้ 126 mg/dL ขึ้นไปถือว่าเป็นเบาหวาน 2. ตรวจน้ำตาลในเลือดหลังให้กินน้ำตาลสองชั่วโมง (GTT) ถ้าได้มากกว่า 200 mg/dL ถือว่าเป็น 3. ตรวจน้ำตาลสะสมในเม็ด...

ปฏิบัติธรรมมาหลายสิบปีแล้วทำไมยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น

คุณหมอคะ ดิฉันปฏิบัติธรรมมาหลายสิบปี ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เวลานั่งสมาธิก็ไม่เคยได้เคยเห็นอะไรอย่างคนอื่นเขาบ้าง สายหลวงปู่ ... ดิฉันไปมาครบทุกองค์แล้วจนพวกท่านจากไปกันหมดแล้ว แต่ดิฉันก็ไม่ก้าวหน้าไปไหน นี่ดิฉันก็อายุมากแล้ว จะทันได้ถึงฝั่งกับเขาหรือคะ ........................................ ตอบครับ      คุณวางอะไรเป็นเป้าหมายละครับ เป้าหมายการปฏิบัติตนสู่ความหลุดพ้น คือการสร้างความลื่นไหลให้กับชีวิต เพื่อเปลี่ยนชีวิตที่แข็งทื่อติดขัดให้กลายเป็นชีวิตที่ยืดหยุ่นลื่นไหล เพื่อปลดล็อคที่ขัดข้องให้คลายความแข็งขืน เพื่อให้ตัวเองเป็นคนที่ joyful และ sensible หมายความว่าสงบเย็นเบิกบานและหนักแน่นมั่นคง ซึ่งทั้งหมดนั้นมันเป็นเรื่องของเดี๋ยวนี้นะ ไม่เกี่ยวกับเรื่องเวลาว่าคุณอายุกี่ปี จะทันหรือไม่ทัน       แต่ถ้าคุณคาดหมายว่า ณ จุดหนึ่งของกาลเวลาที่ยังมาไม่ถึงคุณจะได้พบกับประสบการณ์หลุดพ้นแบบพิศดารระดับการจุดประทัดดอกไม้ไฟ นั่นคุณกำลังมุ่งหน้าไปสู่ความบ้าแล้วนะ ถ้าอย่างนั้นคุณไม่ต้องบรรลุธรรมก็ดีแล้ว เพราะถ้าบรรลุคุณอาจจะได้ไปโรงพยาบาลหลังคาแดงแทนที่จะเขียนมาหาหม...

ทุกประเด็นเกี่ยวกับพยาธิตัวตืด

กราบเรียนคุณหมอสันต์ ผมเข้าใจว่าผมมีพยาธิตัวตืด มันออกมาขาวๆทางอุจจาระ ผมถ่ายรูปมาให้คุณหมอดูด้วย ใช่มันไหมครับ ถ้าใช่ ผมควรจะกินยาอย่างไรดี ผมไปถามร้านขายยาเขาแนะนำให้กินยา Benda สามวัน แบบนั้นมันจะโอเค.ไหมครับ ผมเข้าใจว่าผมติดมาเพราะผมกินผักสดที่ชาวสวนเอาขี้หมูขี้วัวรด ถ้าอย่างนี้ก็หมายความว่าผมควรจะต้องเลิกกินผักสดไปเลยใช่ไหมครับ หรือว่าต้องเอาเคมีอะไรล้างผัก แล้วอย่างผมนี้จะเป็นพยาธิตัวตืดขึ้นสมองแล้วชักได้ไหมครับ ......................................................... ตอบครับ      1. ถามว่ารูปที่ส่งมาให้เป็นตัวตืดใช่ไหม ตอบว่า..ใช่ครับ เป็นเหมือนเส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กท่อนสั้นๆราวสองซม.เนี่ยแหละ ใช่เลย เป็นปล้องแก่ของพยาธิตัวตืด หลักฐานแค่นี้ก็พอที่จะวินิจฉัยได้อย่างมั่นใจแล้ว      2. ถามว่ากินยาเบ็นด้า (mebendazole) สามวันหายไหม ตอบว่าไม่หายครับ เพราะยามีเบ็นดาโซลไม่ใช่ยารักษาพยาธิตัวตืด มันจะไปหายได้อย่างไร      3. ถามว่าควรจะกินยาอะไรอย่างไร ผมแนะนำว่าให้ไปหาหมอให้เขาจ่ายยาให้ดีกว่า แต่ถ้าคุณดื้อดึงไม่ยอมไปและขอรู้ชื่อยาที...

ลูกสาวอายุ 13 ยังไม่มีประจำเดือนแต่ตั้งครรภ์ได้ไง?

กราบเรียนคุณหมอสันต์ ลูกสาวอายุ 13 ปี ยังไม่เคยมีประจำเดือนเลย แล้วท้องโตขึ้น ไปตรวจจึงรู้ว่าตั้งครรภ์ ดิฉันเป็นงงจริงๆว่ายังไม่มีประจำเดือนเลยตั้งครรภ์ได้ด้วยหรือ แล้วก็โรคซ้ำกรรมซัด หมอที่โรงพยาบาล ... ไม่ยอมทำแท้งให้ ครูที่โรงเรียนก็จะให้หยุดไม่ให้ไปโรงเรียนต่อ ไปหาคนรับจ้างทำแท้งก็ไม่มีใครรับทำเพราะเห็นเป็นเด็กคงกลัวความเสี่ยง สงสารลูกมาก มีคนแนะนำให้ซื้อกระบอกดูดสุญญากาศมาทำเอง ดิฉันจะทำได้ไหม ดิฉันควรจะทำอย่างไรดี ..................................................... ตอบครับ      ท่านผู้อ่านท่านอื่นอ่านจดหมายนี้แล้วอาจจะรู้สึกว่านี่เป็นกรณีที่แปลกประหลาดพิกล แต่คนที่เป็นหมอที่ประจำอยู่ในประเทศไทยแลนด์ที่ติดตามข้อมูลข่าวสารทางการแพทย์อย่างสม่ำเสมออ่านแล้วรู้สึกธรรมดามาก เพราะเมืองไทยเรานี้เป็นที่รู้กันดีว่าถูกจัดหมวดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น (teenage pregnancy) สูง คือสูงถึงระดับ 50 ครรภ์ต่อทุกการตั้งครรภ์ 1,000 ครรภ์ เทียบกับเพื่อนบ้านที่วัยรุ่นของเขาก็มีเซ็กซ์กันครึกโครมไม่ได้น้อยหน้ากว่าไทยแลนด์แต่อัตราการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นเขาต่ำมาก เ...

ศึกสายเลือด พี่น้องแก่งแย่งผลประโยชน์กัน

กราบเรียนคุณหมอที่เคารพนับถือ      ขอโทษที่จะต้องเขียนยาวนะคะ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นได้บั่นทอนและทำลายจิตใจส่งผลกระทบต่อหลายคนตามมาค่ะ ครอบครัวมีพี่น้องหลายคน ที่บ้านมีกิจการครอบครัวที่คุณแม่เป็นคนบริหารและมีน้องช่วยแบบเต็มตัว 1 คน พี่ๆทำงานราชการไม่เคยมาช่วยงานเลย จนเมื่อถึงเวลาอายุราชการได้จบลงจึงจะเริ่มอยากเข้ามาช่วย แต่วีธีการของเขาได้เข้ามาแบบไม่บริสุทธิ์ใจเท่าไหร่เพราะว่าหาเหตุมาตำหนิ หาประเด็นจนทำให้น้องต้องจบชีวิตงานแบบไม่สวยงาม หมดความน่าเชื่อถือ แต่ก็ยังพี่บางคนที่คิดว่าอย่างไรก็ยังให้เครดิตน้องคนที่ช่วยกิจการมาตลอด ทุกอย่างที่มีได้หรือได้มาคือเงินรายได้จากกิจการนั้นและร่วมกันบริหารกับคุณแม่      ทุกวันนี้เวลาล่วงเลยมาเป็นปี พี่ที่เกษียณอายุมาสานต่อแบบขุดคุ้ยช่องทางการได้รายได้แบบที่ทุกอย่างของรายได้ให้เข้าตัวเองกัน กิจการนี้เป็นกิจส่วนตัวแบบสุจริต เรียนถามคุณหมอ ดิฉันและพี่น้องที่ไม่ได้มีความอยากได้สมบัติ แต่รู้สึกเสียใจ เสียดายสมบัติที่ช่วยกันหามาตั้งแต่ทุนที่พ่อได้ทิ้งไว้ กำลังจะถูกผลาญและนำมาครอบครองเป็นของเขาโดยตรง พวกเราควรจะทำตัว วางตัว ป...

ดูแลคุณแม่จนตัวเองกลายเป็นคนกลัวโรคอัลไซเมอร์

เรียนคุณหมอสันต์ ดูแลคุณแม่อายุ 91 ตัวเองก็ 64 แล้ว เหนื่อยหนักหนาสาหัสมาก คุณแม่เป็นอัลไซเมอร์แต่ว่าแอคทีฟกว่าเดิม พูดมากกว่าเดิม แถมยังร้ายกว่าเดิม เอาไปฝากที่เลี้ยงดูผู้สูงอายุเขาก็พูดเกลี้ยกล่อมให้เอากลับทุกวันเพราะทำให้เขาเหนื่อยกายเหนื่อยใจจนเขาไม่อยากได้ ที่เขียนมาหาคุณหมอนี้ไม่ได้จะถามเรื่องคุณแม่ แต่จะถามเรื่องตัวเอง ว่าแก่แล้วจะทำอย่างไรไม่ให้เป็นโรคสมองเสื่อม เพราะตอนนี้กลัวเหลือเกิน ขอบพระคุณค่ะ ........................................................ ตอบครับ      คำแนะนำของวงการแพทย์      หากมองจากมุมของผลวิจัยทางการแพทย์ การจะป้องกันและรักษาโรคขี้หลงขี้ลืมหรืออัลไซเมอร์ ต้องทำดังนี้ 1. กินอาหารพืชเป็นหลักแบบไขมันต่ำ กินพืชเยอะๆ ให้หลากหลาย กินเนื้อสัตว์น้อยๆ 2. ออกกำลังกายทุกวัน ซึ่งต้องควบทั้งการออกกำลังกายแบบแอโรบิก แบบเล่นกล้าม และแบบเสริมการทรงตัว ในส่วนของแอโรบิกนั้น พบว่ายิ่งหนักยิ่งป้องกันสมองเสื่อมได้ดี 3. ปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ เพราะการนอนไม่หลับ หรือการนอนหลับที่ไม่สนิท ทำให้สมองเสื่อม 4. จัดการความเครียดด้วยวิธี...

คนตัวเป็นๆที่เลิกยารักษาโรคซึมเศร้าได้ด้วยการฝึกสมาธิแทน

สวัสดีครับอาจารย์ ...จาก SR.. นะครับ หลังจากวันที่เข้าคอร์ส ... ค่อยๆ ลดยาโรคซึมเศร้าที่กินตอนกลางวันไปหมด แล้วก็เลิกกินยาตอนกลางคืนไปเลย ใช้วิธีนั่งสมาธิที่เรียนมา มานั่งก่อนนอน 15 นาที ก็หลับง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนแต่ก็ยังตื่นกลางดึกบ้าง แต่ก็ถือว่าดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้เยอะครับ และไปเรียนศิลปะเพื่อลดความเครียดของตัวเอง หลังจากเรียนศิลปะรู้สึกมีสมาธิขึ้นเยอะเลยครับอาจารย์ (หลังๆ มา รู้สึกว่าตัวเองชอบศิลปะมากๆ ใช้เวลาว่างกับศิลปะ ไม่มีเวลาให้คิดฟุ้งซ่านเลยครับ ) ทุกวันนี้ก็ยังใช้วิธีที่อาจารย์สอนมาอยู่ครับ ถ้ารู้สึกแย่เมื่อไหร่ก็จะอยู่กับความรู้สึกแย่นั้น แล้วคอยสังเกตดูอยู่ห่างๆ คอยให้มันค่อยๆ หายไปเอง ถ้ามีโอกาส ... จะกลับไปร่วมคอร์สอีกนะครับอาจารย์ แนบรูปที่ไปเรียนศิลปะมาให้อาจารย์ดูด้วยนะครับ ................................................................. ตอบครับ      โอ้ ฝีมือสีน้ำดีมากนี่ catch อารมณ์ได้ดีมาก มีอนาคตนะเนี่ย      ดีแล้วที่ลดยาไปได้แยะและเลิกบางส่วนได้       การที่ทำงานศิลปะได้ดีแสดงว่าการจะเกิดปัญญาญาณ ...

ส่วนที่คนไข้ต้องทำเองสำคัญกว่าส่วนที่หมอต้องทำ

คุณหมอสันต์คะ ขอถามสุขภาพคุณแม่อายุ 84 ปีไม่มีโรคประจำตัว ต่อมาหลอดเลือดหัวใจตีบ ใส่ stent ได้ยามาหลายขนานมาก BP 54/49 p 56 ได้ยาenaril 5 ครึ่งเม็ด metoprolol2.5mg 1/4 tab ASA 81 mg 1*1 clopidogel 1*1 losartan 50 1*1 cardevelol 25mg ยาลดไขมันก่อน lasix40mg1*1อีก เมื่อวานมีอาการคอแข็ง ตาลายตอนลุกเดินค่ะ นน 42 กก แพทย์ก็สั่งไม่ให้หยุดยา จะทำอย่างไรคะ .................................................. ตอบครับ      1. ในการกินยาทุกตัว ผู้ป่วยหรือผู้ดูแล จะต้องรู้ว่ายาตัวไหนกินเพื่ออะไร มีผลข้างเคียงและข้อพึงระวังอย่างไรบ้าง เมื่อเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงขึ้น ต้องหยุดยาเองทันทีแล้วแจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อปรับขนาดหรือเปลี่ยนยา นี่คือวิธีการกินยาแผนปัจจุบันที่ถูกต้อง ไม่ใช่หมอให้กินก็กิน เกิดอะไรขึ้นไม่รู้ไม่ชี้และไม่กล้าหยุดยาด้วยเพราะหมอไม่ได้สั่ง แล้วเมื่อไหร่จะได้เจอหมออีกครั้งละครับ เฉลี่ยก็เดือนสองเดือน แต่ว่าพิษเฉียบพลันของยานั้นต้องหยุดยาที่เป็นต้นเหตุภายในเวลาเป็นชั่วโมงนะครับ อย่าว่าแต่เป็นวันหรือเป็นเดือนเลย ถ้าไปรอเจอกันอีกเดือนคนไข้ก็ตายก่อนพอดี     ...

วันนี้ผมมีความรู้สึกเหมือนตอนเรียนอยู่อเมริกา วันนั้นผมตัดสินใจฆ่าตัวตาย

วันนี้ผมมีความรู้สึกเหมือนตอนเรียนอยู่อเมริกา วันนั้นผมตัดสินใจจะฆ่าตัวตาย แต่มีเหตุติดขัดเล็กๆน้อยๆจึงทำไม่สำเร็จ มาวันนี้ผมมีความรู้สึกแบบวันนั้นขึ้นมาอีกแล้ว คือความรู้สึกไม่อยากอยู่ ตอนนี้ผมอยู่คนเดียว ที่ห้องเช่าส่วนตัว ไม่ได้มีใครมาทำอะไรให้ผมเสียใจหรอก เพียงแต่ผมมีความรู้สึกอย่างนั้นขึ้นมาอีก เหมือนมันจะขึ้นมาแบบไม่มีอะไรเป็นเหตุ หรือถ้าจะคิดหาสาเหตุจริงๆมันก็คงพอจะมีบ้าง ผมเหงาละมัง วันหยุดยาวช่วงปีใหม่นี้ผมว่างแต่ผมก็ไม่ยอมไปเยี่ยมคุณแม่ คุณแม่แต่งงานใหม่ คุณพ่อก็แต่งงานใหม่ คุณแม่จุกจิกหยุมหยิม คุณพ่อก็พูดอยู่แต่ว่าผมเป็นผู้ใหญ่แล้ว ต้องดูแลตัวเอง อย่าเอาอะไรไปใส่ให้พ่ออีกเพราะพ่อก็จะรับไม่ไหวแล้ว เพื่อนร่วมงานที่พอจะคุยกันได้ก็มีเหตุให้หมางเมินกันไป ผมคงเหงา ความรู้สึกอย่างนั้นจึงเกิดขึ้นอีก ผมควรจะทำอย่างไรครับคุณหมอ ...................................................... ตอบครับ      1. ถ้าคุณอยู่กับคนอื่นแล้วคุณเป็นทุกข์ คุณอาจจะโทษคนอื่นได้ แต่นี่คุณอยู่คนเดียวแท้ๆแล้วยังเป็นทุกข์อีก แสดงว่าคุณกำลังคบเพื่อนเลวเสียแล้ว ผมหมายถึงตัวคุณนั่นแหละเป็นเพื่อน...