27 กรกฎาคม 2566

ต่อมลูกหมากโต ฉี่ขัด แต่ยายังเอาอยู่ ควรผ่าตัดดี หรือควรกินยาดี

(ภาพวันนี้ / ศิลปะแบบปล่อยปละละเลย)

เรียนคุณหมอสันต์

ผมอายุ 63 ปี ปัสสาวะติดขัด ไปหาหมอ หมอใช้นิ้วล้วงทวารหนัก บอกว่าเป็นต่อมลูกหมากโต ให้ยามากิน อาการดีขึ้นเล็กน้อย ตอนหลังหยุดกินยา (กลัวมีผลต่อไต) ประมาณ 4 เดือน จนรู้สึกว่าปัสสาวะติดขัดหนักกว่าก่อนไปหาหมอ คือตอนถ่ายปัสสาวะจะเจ็บปวดมาก ถ่ายไม่ค่อยออก เลยต้องกลับมากินยาอีก ตอนนี้อาการดีขึ้นครับ ถามคุณหมอว่าผมควรจะกินยาไปเรื่อยๆ (น่าจะตลอดชีวิต) หรือผ่าตัดดีครับ

หนังสือคัมภีร์สุขภาพดีของหมอสันต์ คลิกภาพดูรายละเอียดได้

…………………………………….

ตอบครับ

ประเด็นการวินิจฉัย โรคที่คุณเป็นคือต่อมลูกหมากโตโดยมีอาการปัสสาวะลำบาก (lower urinary tract symptoms – LUTS) ร่วมด้วย อาการนั้นคุมอยู่ได้ด้วยยา

ประเด็นการรักษา ถามว่า ควรกินยาเรื่อยไปหรือผ่าตัดดี ตอบว่า ตราบใดที่ยายังคุมอาการได้ดีอยู่ ก็ควรกินยาต่อไป ยี่สิบปีสามสิบปีไม่ซีเรียส แต่ถ้ายาเอาไม่อยู่ก็ต้องทำการรักษาแบบรุกล้ำ (ผ่าตัด) ไม่แบบใดก็แบบหนึ่ง แต่หากยาคุมอาการได้ไม่มีใครแนะนำให้ผ่าตัดหรอกครับ ตัวหมอเองเมื่อเป็นก็ไม่ยอมผ่าตัด ผมเคยเห็นหมอศัลยกรรมปัสสาวะที่เป็นโรคนี้มีอาการมากจนนั่งประชุมอยู่ครึ่งวันท่านเดินเข้าห้องน้ำนับสิบครั้งแต่ท่านก็ไม่ยอมผ่าตัด ผมเห็นว่าการผ่าตัดควรจะทำแบบเป็นไม้สุดท้ายเท่านั้น เพราะการผ่าตัดมีภาวะแทรกซ้อนที่ผู้ป่วยมักรับไม่ได้ เช่น ปัสสาวะเล็ด กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ นกเขาไม่ขัน เป็นต้น

ประเด็นการรักษาด้วยยา ยารักษาต่อมลูกหมากโตให้หายยังไม่มี มีแต่ยาบรรเทาอาการ ซึ่งแบ่งเป็นสองชนิด คือ

1.. ยาคลายกล้ามเนื้อหูรูดท่อปัสสาวะ เช่นยา terazosin (Hytrin) หรือ tamsulosin (Flowmax) ยาในกลุ่มนี้ผมแนะนำไม่เหมือนหมอคนอื่น คือผมแนะนำว่ากินบ้างไม่กินบ้างหรือกินๆหยุดๆก็เป็นลูกเล่นที่ดีเหมือนกัน เพราะยาคลายกล้ามเนื้อหูรูดต่อมลูกหมากออกฤทธิ์ผ่านระบบประสาทอัตโนมัติ หากขยันกินต่อเนื่องร่างกายจะค่อยๆปรับตัวสู้กับยาทำให้ต้องใช้ยามากขึ้นๆ ทำให้เกิดการด้านยา (drug tolerance) หากหยุดยาไปสักพักแล้วกลับมากินใหม่ก็จะกลับได้ผลดีอีกครั้ง

2.. ยาต้านฮอร์โมนเพศชาย เช่นยา dutasteride (Avodart) ยาในกลุ่มนี้การกินต่อเนื่องจะให้ผลดีกว่าการกินๆหยุดๆ เพราะยิ่งหยุดฮอร์โมนเพศชายได้ดี ยิ่งเบรคต่อมลูกหมากไม่ให้โตได้มาก

ประเด็นอาหารรักษาต่อมลูกหมากโต นอกจากยาแล้วอาหารอุดมผักผลไม้มีผลลดอาการต่อมลูกหมากโตได้มากกว่าอาหารที่มีผักผลไม้น้อย งานวิจัยที่ฮ่องกงซึ่งติดตามชายจีนอายุ 65 ปีขึ้นไปจำนวน 1998 คน เป็นเวลานาน 4 ปีพบว่ากลุ่มที่กินผักผลไม้มาก (มากกว่า 350 กรัมต่อ 1000 แคลอรี่) มีอาการต่อมลูกหมากโตน้อยกว่าและอาการเดินหน้าช้ากว่ากลุ่มที่กินผักผลไม้ปานกลาง ขณะที่อาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศนั้นไม่ต่างกัน

ประเด็นสมุนไพรรักษาต่อมลูกหมากโต สมุนไพรรักษาต่อมลูกหมากแบบอัดเม็ดใส่ขวดขายนั้นเป็นที่นิยมใช้กันมากทั่วโลก แต่ยังไม่มีหลักฐานวิทยาศาสตร์รองรับว่าได้ผลจริงจังเลยแม้แต่ตัวเดียว ตัวที่เด่นที่สุดคือ Saw palmetto ตัวรองลงไปก็เช่น Beta-sitosterol, Pygeum, Stinging nettle เป็นต้น หากคุณอยากทดลองใช้สมุนไพรก็ลองได้โดยเสี่ยงคุณเอาเอง ตาดีได้ ตาร้ายเสีย ข้อมูลวิทยาศาสตร์ยังมีไม่มากพอที่จะสรุปอะไรได้เป็นตุเป็นตะ

ประเด็นต่อมลูกหมากโตกับวิตามินดี.ต่ำ เรื่องที่น่าสนใจอีกอย่างคืองานวิจัยพบว่าคนเป็นต่อมลูกหมากโตมีวิตามินดีต่ำกว่าคนที่ไม่เป็นต่อมลูกหมากโต ไม่มีใครทราบว่ามันเกี่ยวกันอย่างไร แต่ผมแนะนำให้คุณเจาะดูระดับวิตามินดี หากต่ำกว่าปกติก็ควรขวานขวายออกแดดหรือกินวิตามินดี.เสริมก็ไม่เสียหลาย

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

บรรณานุกรม

  1. Liu ZM, Wong CKM, Chan D, Tse LA, Yip B, Wong SY. Fruit and Vegetable Intake in Relation to Lower Urinary Tract Symptoms and Erectile Dysfunction Among Southern Chinese Elderly Men: A 4-Year Prospective Study of Mr OS Hong Kong. Medicine (Baltimore). 2016 Jan;95(4):e2557. doi: 10.1097/MD.0000000000002557. PMID: 26825896; PMCID: PMC5291566.
  2. Espinosa G, Esposito R, Kazzazi A, Djavan B. Vitamin D and benign prostatic hyperplasia — a review. Can J Urol. 2013 Aug;20(4):6820-5. PMID: 23930605.