ปวดแบบปลายประสาทอักเสบ กินยามานานแล้วไม่หาย จะเลิกกินยาได้ไหม

ภาพวันนี้: ท้องฟ้าแห้ง ใบไม้เหลือง รับเทศกาลลี่ชุน (ตรุษจีน)

เรียน คุณหมอสันต์ครับ

          ขอสอบถามคุณหมอหน่อยครับ ผมมีอาการแสบร้อนที่ฝ่ามือฝ่าเท้า โดยเฉพาะที่เท้าไม่สามารถเหยียบพื้นได้เลยต้องใช้ผ้ารองเท้าหรือเวลาอยู่ในบ้านจะใช้รองเท้านิ่มๆที่เป็นผ้า อาการเหล่านี้จะเป็นมากเวลาก่อนนอนประมาณซัก 1-3 ทุ่ม ไปพบคุณหมอๆบอกว่าเป็นโรคปลายประสาทอักเสบ ตอนนี้คุณหมอให้ทานยา ไลลิก้าและ ลาโมไตจีนส์ 75mg เช้าเย็น ครั้งละ 1เม็ด ทานยามาประมาณ1ปีแล้วยังไม่หาย ผมควรทานยาต่อมั้ยครับ หรือไม่ทราบว่าคุณหมอมีแนวทางการรักษาอย่างอื่นมั้ยครับ

ขอบคุณครับ

…………………………………………………………….

ตอบครับ

1.. ถามว่ามีอาการปวดแสบปวดร้อนฝ่าเท้า กินยาบรรเทาอาการมา 1 ปีแล้วไม่หาย ควรจะกินยาต่อไหม ตอบว่า อ้าว.. ก็ในเมื่อกินมาตั้งนานแล้วมันก็ยังบรรเทาอาการไม่ได้ แล้วจะกินต่อไปทำไมละครับ อย่าลืมว่ายา pregabalin (Lyrica) ก็ดี ยา lamotrigine (Lamictal) ก็ดี ล้วนเป็นยากันชักซึ่งเอามาใช้บรรเทาอาการปลายประสาทอักเสบโดยที่ไม่ได้รักษาโรคที่เป็นสาเหตุ คือไม่ใช่ยาที่จะรักษาให้โรคหายอยู่แล้ว เมื่อมันบรรเทาอาการไม่ได้ก็ควรหยุดกิน อีกประการหนึ่งยาสองตัวนี้ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทกลางโดยตรง ยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทกลางทุกตัวกินนานไปก็ล้วนจะก่อผลข้างเคียงทางระบบประสาททั้งสิ้น รวมถึงอาการนอนไม่หลับ การมองเห็นเสียไป การเคลื่อนไหวและทรงตัวเสียไป เกิดความผิดปกติในการคิด สับสน กล้ามเนื้ออ่อนแรง และ…สมองเสื่อม ดังนั้นถ้าจำเป็นต้องกินก็กินให้สั้นที่สุด เลิกให้เร็วที่สุด ไม่ใช่กินกันเป็นปีๆ แต่ว่าหากกินมานานอย่างคุณนี้การจะเลิกต้องค่อยๆเลิกคือค่อยๆลดขนาดลงโดยใช้เวลาเลิกนานเป็นเดือน ไม่งั้นจะเกิดการลงแดง จนอาจชักแด๊กๆหรือไปฆ่าตัวตายได้

2.. ถามว่าหมอสันต์มีวิธีรักษาปลายประสาทอักเสบไหม ตอบว่าไม่มีครับ หิ หิ แต่มีข้อมูลที่อาจจะเป็นประโยชน์ให้คุณเอาไปทดลองดู คือ

2.1 ได้เคยมีการทำวิจัยเอาผู้ป่วยเบาหวานที่มีอาการปลายประสาทอักเสบแบบปวดแสบปวดร้อนรุนแรงมา 21 คน เอามาขังไว้ในโรงพยาบาลแล้วบังคับให้กินอาหารที่มีแต่พืชไม่มีเนื้อสัตว์หรือนมหรือไข่เลย บวกกับให้เดินออกกำลังกายทุกวันวันละครึ่งชั่วโมง ผลปรากฎว่า 17 คนอาการปวดหายไปเลย บางมีอาการตื้อๆค้างอยู่บ้าง ผลพลอยได้คือทุกคนน้ำหนักลดเฉลี่ยคนละ 4.5 กก. เลิกยากินรักษาเบาหวนได้หมด และลดยาฉีดลงได้เฉลี่ยครึ่งหนึ่ง และเมื่อติดตามดูผู้ป่วยทั้ง 17 คนที่หายปวดว่าเมื่อจบงานวิจัยแล้วเขาจะกลับไปกินเนื้อสัตว์อีกหรือเปล่า พบว่า 16 คนไม่กลับไปกินเนื้อสัตว์เลย มีคนเดียวที่กลับไปกินเนื้อสัตว์ เพราะคนที่ปวดประสาทแบบถึงกึ๋นมาแล้วจะให้ทำอะไรนานแค่ไหนก็ทำได้ทั้งนั้น ขอให้หายปวดเถอะ

     ทำไมการเลิกกินเนื้อสัตว์มากินแต่พืชจึงรักษาอาการปวดประสาทได้ วงการแพทย์ก็ไม่รู้เหมือนกัน ได้แต่เดาเอา เช่นเดาว่าคงเป็นเพราะไขมันทรานส์ซึ่งมีอยู่ตามธรรมชาติในอาหารเนื้อสัตว์ไปก่อการอักเสบในเส้นประสาท เพราะมีงานวิจัยเอาเข็บเจาะดูดชิ้นเนื้อเยื่อไขมันใต้ผิวหนังที่ก้นของคนกินเนื้อกินนมมาตรวจเปรียบเทียบกับเนื้อเยื่อไขมันของคนที่ไม่กินเนื้อไม่กินนม พบว่าเนื้อเยื่อไขมันของคนกินเนื้อกินนมมีไขมันทรานส์เป็นส่วนประกอบ ขณะที่คนไม่กินเนื้อไม่กินนมไม่มีไขมันทรานส์เป็นส่วนประกอบ

     บ้างก็เดาว่าคงเป็นเพราะกินพืชแล้วการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงเส้นประสาทดีขึ้น เพราะงานวิจัยการตัดชิ้นเนื้อปลายประสาทผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมาตรวจพบว่าหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงปลายประสาทนั้นตีบแคบหรืออุดตันเสียส่วนหนึ่ง ระดับออกซิเจนในเนื้อเยื่อบริเวณนั้นต่ำกว่าในเลือดดำเสียอีก ทำให้ปลายประสาทขาดออกซิเจนจนปวดขึ้น

     น่าประหลาดที่วงการแพทย์ไม่มีการพูดถึงงานวิจัยนี้เลย ในการสอนแพทย์ก็ได้แต่พูดกรอกหูนักศึกษาแพทย์เช้าเย็นว่าปลายประสาทอักเสบไม่มีวิธีรักษาให้หาย ตัวผมเองก็เพิ่งมาอ่านพบงานวิจัยนี้เมื่อตอนที่ผมตัดสินใจรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบของตัวเองด้วยการเปลี่ยนอาหารมากินแต่พืชเป็นหลัก ผมเข้าใจว่าที่วงการแพทย์ไม่มีการพูดถึงงานวิจัยนี้เป็นเพราะแพทย์เกือบทั้งหมดเป็นนักบริโภคเนื้อสัตว์ จึงไม่ถนัดที่จะพูดถึงสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำหรืออาจจะทำไม่ได้

2.2 การทบทวนงานวิจัยระดับดี 7 งานซึ่งวิจัยการใช้วิตามินบี.12 รักษาอาการปลายประสาทอักเสบพบว่ามีอยู่ 3 งานวิจัยที่พบว่าวิตามินบี.12 ช่วยได้ แต่อีก 4 งานวิจัยพบว่าวิตามินบี.12 ไม่ได้ช่วยอะไร แม้เรื่องนี้ยังเป็นเรื่องเถียงกันไม่ตกฟาก (controversy) ในวงการแพทย์อยู่ แต่ผมแนะนำว่าจากข้อมูลเท่าที่มีอยู่นี้มันไม่เสียหลายที่คุณจะทดลองกินวิตามินบี.รวมซึ่งมีวิตามินบี.12 ร่วมอยู่ด้วยเพื่อรักษาอาการปลายประสาทอักเสบดู หากได้ผลก็ดีไป หากไม่ได้ผลก็แล้วไป

2.3 ตัวผมเองก็เคยมีประสบการณ์กับอาการปวดที่ไม่รู้เลิกรู้รามาก่อน วิธีที่ผมใช้เองคือ “เอาธรรมะเข้าขย่ม” หมายความว่าผมยอมรับอาการปวด คือการเกิดมาเป็นคนนี้การจะต้องเจ็บปวดนั้นมันเป็นของแน่ แต่การจะเป็นทุกข์ทรมานเพราะความปวดหรือไม่นั้นเรามีสิทธิ์เลือกได้ เพราะความปวด (pain) นั้นเป็นความรู้สึก (feeling) ส่วนความทุกข์ทรมาน (suffering) นั้นเป็นความคิด (thought) ความคิดจะเกิดขึ้นต่อยอดบนความรู้สึกเสมอถ้าเราเผลอ แต่ถ้าเราเอาความสนใจมาจดจ่อสังเกตได้ตั้งแต่เมื่อมันเป็นความปวด ความคิดต่อยอดจะไม่เกิดขึ้น หรือหากเกิดขึ้นแล้วหากเราเฝ้าสังเกตอยู่ ความคิดนั้นก็จะฝ่อหายไปเอง นี่มันเป็นธรรมชาติของความคิด คือมันจะหลบหน้าความรู้ตัวเสมอ นี่มันเป็นธรรมะภาคปฏิบัติขั้นสูง คุณลองเอาไปฝึกปฏิบัติดูนะครับ

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

บรรณานุกรม

1. Crane MG, Sample C. Regression of diabetic neuropathy with total vegetarian (vegan) diet. J Nutr Med. 1994;4:431–439.
2. Sun Y, Lai MS, Lu CJ. Effectiveness of vitamin B12 on diabetic neuropathy: systematic review of clinical controlled trials. Acta Neurol Taiwan. 2005;14:48–54.

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

กินคีโตไข่ต้มไก่ต้มทุกวันแล้วหลอดเลือดหัวใจตีบ

ความแก่..เหมือนหมาถูกต้อนเข้ามุมให้จนตรอก

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

เปลี่ยนอาหาร ปั่นจักรยาน น้ำตาลลด ความดันลด แต่ไขมันทำไมไม่ลด

ท่านอายุเก้าสิบแล้วยังไม่รู้ แล้วท่านจะรู้มันไปทำพรื้อละครับ

สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตคนเราคือความเบิกบาน (Joy)

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

มะเร็งต่อมลูกหมากแพร่กระจายไปกระดูกขาแล้ว จะไปต่อไงดี