หมอสันต์ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์
(หมอสันต์ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ บทความนี้เป็นคำแปลของคำสัมภาษณ์ ส่วนที่คุยกันเป็นภาษาอังกฤษอยู่ข้างล่าง)
นสพ.
ในช่วงโควิด19 คุณหมอมองเห็นแนวโน้มในการใช้ชีวิตของผู้คนอย่างไรบ้าง
หมอสันต์
แนวโน้มที่ 1. ก็คือการที่แรงงานจำนวนมากต้องอพยพกลับชนบทเพราะไม่มีงานทำ ส่วนหนึ่งไปพยายามดำเนินชีวิตแบบพอเพียงตามที่พระเจ้าอยู่หัว ร.9 สอนไว้
แนวโน้มที่ 2. คือการที่ทุกอย่างส่งตรงถึงบ้านได้ (home delivery) ผู้คนเรียนรู้ถึงวิธีสั่งซื้อแล้วให้เขามาส่งถึงบ้านมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือของใช้
แนวโน้มที่ 3. คือการหันมาทำอาหารอย่างง่าย ในยุโรปอเมริกาผู้คนเรียนรู้วิธีทำขนมปังในครัว ในเมืองไทยคนจำนวนมากหัดทำครัวเอง หัดต้มไข่ หัดทอดปลาโดยใช้ลมร้อนแทนน้ำมัน หัดทำเมนูอาหารง่ายๆอื่นๆ บางคนก็ชอบการทำอาหารไปเลย และนี่จะกลายเป็นชีวิตปกติใหม่หรือ new normal ของเขา
แนวโน้มที่ 4. คือการเพิ่มความสำคัญของอินเตอร์เน็ท ทุกอย่างผ่านทางอินเตอร์เน็ท ไม่ว่าจะเป็นความบันเทิง ความรู้ การออกกำลังกาย โยคะ การดูแลสุขภาพ ผมเองยังได้เริ่มใช้เว็บบินาร์สอนหมอที่ฟิลิปปินส์ไปสี่ร้อยกว่าคนเมื่อเดือนก่อน สัปดาห์หน้าผมกับเพื่อนหมอคนอเมริกันในอเมริกาจะจัดสัมนาทางเน็ทเรื่องโภชนาการแบบกินพืชเป็นหลัก สอนให้กับคนลงทะเบียนเรียนเข้ามาประมาณ 1000 คนทั่วโลก แล้วผมก็ได้เปิดคลินิกออนไลน์ให้คำปรึกษาคน (ไทย) ทั่วไปเรื่องการดูแลสุขภาพทุกเย็นวันอังคาร ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้มานั่งทำสิ่งเหล่านี้ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะโควิด19 ใครจะสอนอะไรใครต้องไปที่อินเตอร์เน็ทหมด ดังนั้นการที่ทุกอย่างขึ้นไปอยู่บนอินเตอร์เน็ทจึงเป็นแนวโน้มที่ชัดเจน
แนวโน้มที่ 5. ก็คือการจัดการโรคเรื้อรังด้วยตนเอง เมื่อไปโรงพยาบาลไม่ได้ ผู้คนก็ค่อยๆเรียนรู้วิธีจัดการโรคเรื้อรังของตัวเองไปทีละนิด แม้กระทั่งเรียนรู้วิธีที่จะปรับยาเอง นี่เป็นสิ่งที่คนไข้ไม่เคยสนใจทำมาก่อน ผมถือว่าแนวโน้มนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะโรคเรื้อรังเกือบทั้งหมดไม่อาจหายได้ด้วยการไปโรงพยาบาลหรือกินยาผ่าตัดทำบอลลูน มันหายได้ด้วยการเปลี่ยนวิธีใช้ชีวิตโดยตัวผู้ป่วยเอง
แนวโน้มที่ 6. ก็คือการอยู่ห่างๆกัน (social distancing) หลายคนเริ่มชอบชีวิตแบบวิเวก มีอยู่คนหนึ่งเขียนเล่าว่ากลับไปบ้านนอกแล้วถูกอบต.เขากักตัวไว้ที่เถียงนา เธอได้เรียนรู้ความสุขจากการปลีกวิเวกและชอบมัน คนแบบนี้ต่อไปจะเดินทางน้อยลง และอยู่คนเดียวมากขึ้น
แนวโน้มที่ 7. คือการอยู่ติดบ้านมากขึ้น เมื่อถูกบังคับให้อยู่ห่างๆกัน บ้านก็กลายเป็นที่อยู่ที่ดีที่สุด คนก็เลยต้องทำอะไรก๊อกๆแก๊กๆเพื่อปรับปรุงบ้านแต่งบ้าน บ้างก็ทำสวนปลูกต้นไม้ นิสัยใหม่ๆเหล่านี้คงจะเปลี่ยนตลาดสินค้าอุปโภคไปบ้างพอควรในอนาคต
นสพ.
คุณหมอช่วยขยายความหน่อยได้ไหมว่าการกินอาหารพืชเป็นหลักนั้นกินอย่างไร มีประโยชน์อย่างไร และในอนาคตอาหารแบบไหนที่จะเป็นกระแสหลัก
หมอสันต์
หลักพื้นฐานก็คือ โภชนาการแบบกินพืชเป็นหลัก (Plant based nutrition - PBN) เป็นรูปแบบการกินที่แคลอรี่ส่วนใหญ่ได้มาจากพืช ไม่ใช่ได้มาจากเนื้อนมไข่เป็นหลักอย่างในปัจจุบัน ดั้งเดิมแล้วอาหารแบบพืชเป็นหลักนี้มีสามคำสำคัญคือ
คำที่ 1. "พืชเป็นหลัก" หมายความว่าสุดโต่งไปข้างหนึ่งก็คือกินแต่พืช ไล่มาจนถึงกินพืชมากๆกินเนื้อนมไข่ให้น้อยที่สุด ดังนั้นแหล่งหลักของแคลอรี่ก็จะเป็นธัญพืชไม่ขัดสี ถั่ว นัท ผักต่างๆ เป็นต้น
คำที่ 2. "ใกล้เคียงธรรมชาติ หรือ Whole food" หมายความว่าอาหารควรอยู่ในรูปแบบที่ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด ผ่านกระบวนการสกัดหรือขัดสีให้น้อยที่สุด ถ้าเป็นธัญพืชก็เป็นธัญพืชไม่ขัดสี
คำที่ 3 "ไขมันต่ำ" ซึ่งในทางปฏิบัติสำหรับอาหารไทยก็คือการหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันผัดทอดอาหาร
นับถืงวันนี้ หลักฐานวิทยาศาสตร์ที่มีล้วนบ่งชี้ไปทางเดียวกันว่าอาหารแบบพืชเป็นหลักนี้สัมพันธ์กับการป้องกันและรักษาโรคเรื้อรังได้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ เบาหวาน ความดัน และโรคอ้วน
หลายสิบปีก่อนหน้านี้สถิติได้พิสูจน์ให้เห็นชัดแล้วว่ากระบวนการรักษาด้วยยาและการผ่าตัดของวิชาแพทย์แผนปัจจุบันล้มเหลวในการลดอัตราตายของโรคเรื้อรัง ในทางตรงกันข้ามกลับทำให้จำนวนคนป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โภชนาการแบบกินพืชเป็นหลักจึงเป็นทางไปที่เหลืออยู่ทางเดียวที่จะป้องกันและพลิกผันโรคเรื้อรังได้ ในช่วงเวลาหลายสิบปีข้างหน้านี้
นสพ.
เราจะสร้างชีวิตดีมีความสุขได้อย่างไรในช่วงที่ยากลำบากนี้?
นพ.สันต์
ในยุคโควิด 19 นี้เป็นช่วงเวลาดีที่สุดที่จะปฏิรูปการดูแลสุขภาพ โควิด19 ทำให้คนสนใจจะทำตัวให้มีภูมิคุ้มกันโรคดีไม่ติดโรคง่าย สนใจที่จะรักษาโรคเรื้อรังของตัวเองเพราะรู้ว่าการเป็นโรคเรื้อรังทำให้ตายจากโควิด19 ได้ง่ายขึ้น การจะทำตัวให้ภูมิคุ้มกันโรคดีไม่ติดโรคง่าย ก็ต้องทำห้าหกอย่างต่อไปนี้ คือ
ออกกำลังกาย, นอนหลับให้พอ, กินอาหารที่มีสัดส่วนของพืชผักผลไม้มากๆ, รักษาน้ำหนักให้พอดีไม่ให้อ้วน, จัดการความเครียดให้ดี, และขยันออกแดด หรือไม่ก็กินวิตามินดี.เสริมถ้าออกแดดไม่ได้
ทั้งหมดนี้ผมเรียกรวมๆว่าการปรับเปลี่ยนวิธีใช้ชีวิตอย่างสิ้นเชิง นี่เป็นเวลาที่จะลงมือทำแล้ว
นสพ.
ปัจจุบันนี้คนสนใจการดูแลร่างกาย แล้ววิธีดูแลจิตใจละ?
นพ.สันต์
แน่นอนว่าความเครียดเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เป็นโรคเรื้อรังหรือทำให้โรครุนแรงขึ้น การจะจัดการความเครียด พูดโต้งๆเลยก็คือต้องวางความคิดลงเพราะความเครียดล้วนเกิดจากความคิด ความคิดเป็นส่วนผสมของความจำและจินตนาการของเราเอง ดังนั้นความคิดจะดำเนินไปได้ก็ต่อเมื่อเรายอมรับคอนเซ็พท์เรื่องอนาคตและอดีต (psychological time) ว่ามันมีอยู่จริง ถ้าเราจะอยู่แต่ที่เดี๋ยวนี้ ความคิดไม่มีที่อยู่ ที่เดี๋ยวนี้มีแต่ความรู้ตัวไม่มีความคิดจึงไม่เครียด ดังนั้นผมแนะนำให้ฝึกสติสมาธิ เริ่มด้วยการฝึกทำกิจกรรมเช่นนั่งสมาธิ โยคะ รำมวยจีน พอมีสติแข็งแรงขึ้นก็ถ่ายโอนทักษะนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ให้มีความรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา ทั้งหมดนี้มันจะง่ายขึ้นถ้าอุทิศเวลาให้สักวันละหนึ่งชั่วโมงเพื่อการฝึกนี้
นสพ.
แล้วจะเริ่มที่ตรงไหนก่อนดีละคะ และอะไรคือความท้าทาย
นพ.สันต์
การเปลี่ยนวิธีใช้ชีวิตอย่างสิ้นเชิงให้เริ่มสามอย่างนี้ก่อนคือ ออกกำลังกาย กินพืชเป็นหลัก และฝึกวางความคิด
เมื่อผมพูดว่าฝึกวางความคิดผมไม่ได้ห้ามไม่ให้ทำงานนะ คุณจะทำงานวันละกี่ชั่วโมงก็ทำไป แต่นอกเวลาทำงานขอให้ฝึกวางความคิด
ความท้าทายก็คือคนเรามักจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าเราตกอยู่ในกับดักของการคิดซ้ำซาก เพราะคนเราเสพย์ติดการคิดแบบซ้ำซากนี้เสียแล้ว แต่การฝ่าข้ามการเสพย์ติดความคิดเพื่อออกไปสู่ภาวะรู้ตัวอยู่โดยไม่คิดนี่จำเป็น ไม่งั้นเราไปไหนไม่รอด ยังไม่ต้องไปคิดทำอะไร เพราะทำอะไรก็จะทำไม่สำเร็จหากวางความคิดยังไม่เป็น
แล้วทางด้านจิตใจทั้งหมดนี้จะเริ่มที่ไหนก่อน ก็เริ่มด้วยกิจกรรมฝึกสติสมาธิก่อน จะเป็นฝึกนั่งสมาธิ หรือโยคะ หรือรำมวยจีนก็ได้
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
.........................................................................................
What kind of lifestyle trends you have observed during Covid-19?
the first trend, is migration of workforce back to rural area. Attempt to establish the self sufficient living as once instructed by King Bhumibol
the second trend, is home delivery. People learn to make full use of home delivery, be it food or any commodity products.
the third trend is The coming of simple cooking. People learn to make bread in America and EU. The same as in Thailand people learn to boil eggs or to fry fish with hot air and do other simple cooking. Some fall in love with cooking and take it as a part of their new normal life.
the fourth trend is everything is done on internet. Be it education, entertainment, exercise, yoga and health care. I myself had started webinar teaching 400 doctors in philipines last month. Next week I and friends in US will conduct a plant based nutrition seminar for about 1000 health care professionals worldwide. Also since the beginning of COVID19 I have started a clinic on line to which general public can ask any health questions. I never thought I will be doing this sort of things before COVID19. But now here we are. If you want to teach anyone about anything, you are forced to do it on internet.
So the everything moving to internet is an obvious trend.
the fifth trend is self managing a disease. People cannot get access to hospitals or doctors as usual. Bit by bit they learn to manage their own diseases. The thing that they never pay attention to previously. This is a very good and powerful trend in health care. Because nearly all chronic diseases in many years to come will not be cured by hospital establishment or doctor's prescription, but by total lifestyle modification done by the patients themselves.
the Sixth trend is, of course, social distancing. People learn to appreciate solitude and some adopt it as part of their new normal. These people will travel less, and and enjoy more time alone.
The Seventh trend is home living. Once social distancing is adopted, home is the best place to stay. People learn to do small home improvement, gardening, and home leisure activities. All these will change consumer market quite a bit.
Could you elaborate more about plant-based diet? What are the benefits and will it be the future of eating?
Basically PBN is a food pattern in which the majority of calories come from plants, not from animal meat or dairy products as it currently be. Classically PBN has 3 key words
Key word (1) is Plant based. Means it is plant only diet or at least plant mainly diet. Depends on how strict ones prefer. That means all or most of calories come from plants such as whole grains, bean, nut, fruits, vegetables.
Key word (2) is Whole food. Means the food should be as close to it's natural form as possible. It should be minimally processed or extracted. If it is grain it should be whole grain or non polished grain.
Key word (3) is Low fat. If possible it should have low calories, particularly low in saturated fat content.
So far the scientific evidence have shown the relation between plant-based nutrition and reversing of chronic disease such as heart disease, diabetes, obesity and hypertension.
Since previously it has been already proven by statistic that all hi-tech medical procedures and all type of medicine tablets have failed to reverse the so-called NCDs. These include heart disease, diabetes, obesity, and hypertension. Plant-based nutrition is the only main proven method that helps reversing the NCDs. So, sure enough PBN will be a big medical revolution part of chronic disease management in the decades to come.
How could we create the sense of wellness in such an unprecedented time?
In this COVID19 era is a very good time for self healthcare reform. Because of COVID19, people concern about their immunity and seek what should they do in order not to contract the virus. Also people concern about reversing their chronic disease so that in case they happen to contract the virus their mortality rate will be on the low side. So this is the very time to change lifestyle in view of improving immunity and reversing chronic diseases.
To improve immunity ones need to quite a few things
Firstly, to do exercise regularly
Secondly, to get adequate sleep
Thirdly, to consume diet high in fruits and vegetables
Fourthly, to maintain a healthy weight
Fifthly, to do stress management
And The last one, sixthly, is to get sunlight exposure /or take vitamin D supplement if sunlight exposure is not possible
To reverse chronic disease we nearly need to do the same things at least which include
1. Exercise
2. Plant-based nutrition
3. Stress management
In short, I call all these a total lifestyle modification. This is the time to do it. Now. We have enough information to guide us what is good what is not. The only thing need to be done is Just doing it.
Right now people is focused on physically preventing themselves from Covid-19, how can we look after the mind?
Sure enough, stress in one factor that suppress immunity and is one contributing factor to chronic diseases. So, stress management is sure another thing in to do list.
How to manage one's stress. Put it bluntly, all stress is created by our own thought. So, to drop the thought is the way to manage stress. Thought is a combination of our own memory and our imagination. So thought always operates in dimension of psychological time. I mean in the future and in the past. So to manage stress is practicing to live in the now. In the now there is no thought. In the now there is only consciousness or awareness which is stress-free. To practice living in the now, I suggest starting with mindfulness in all activities. Start practice with such activities as meditation, yoga, tai chi. Then bring mindfulness into every minute of day to day living.
It will be much easier to set aside one hour a day for this practice.
Where should one start if they want to have a healthy and balanced lifestyle and what might be the challenge to do so?
To do total lifestyle modification you need only three things. Or three tasks to accomplished
task (1) Do exercise.
task (2) Eat wisely. I mean eat PBN diet.
task (3) Drop all the thought.
Of course when I said drop all the thought I mean except only when doing work in working hours. After working hours it is better to live consciously without thinking of the future or the past.
Just do these three things then one's life will become a healthy life.
The challenge is that people usually pretend that they do not aware of being trapped in a repetitive recycling of their own thought.
Because people are addicted to this thought recycling.
Breaking this thought recycling is the only way to go. Otherwise one will be trapped there forever. No use talking about any change then.
Where to start. Start at mindfulness practicing activities such as meditation, Yoga, Tai Chi.
................................
นสพ.
ในช่วงโควิด19 คุณหมอมองเห็นแนวโน้มในการใช้ชีวิตของผู้คนอย่างไรบ้าง
หมอสันต์
แนวโน้มที่ 1. ก็คือการที่แรงงานจำนวนมากต้องอพยพกลับชนบทเพราะไม่มีงานทำ ส่วนหนึ่งไปพยายามดำเนินชีวิตแบบพอเพียงตามที่พระเจ้าอยู่หัว ร.9 สอนไว้
แนวโน้มที่ 2. คือการที่ทุกอย่างส่งตรงถึงบ้านได้ (home delivery) ผู้คนเรียนรู้ถึงวิธีสั่งซื้อแล้วให้เขามาส่งถึงบ้านมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือของใช้
แนวโน้มที่ 3. คือการหันมาทำอาหารอย่างง่าย ในยุโรปอเมริกาผู้คนเรียนรู้วิธีทำขนมปังในครัว ในเมืองไทยคนจำนวนมากหัดทำครัวเอง หัดต้มไข่ หัดทอดปลาโดยใช้ลมร้อนแทนน้ำมัน หัดทำเมนูอาหารง่ายๆอื่นๆ บางคนก็ชอบการทำอาหารไปเลย และนี่จะกลายเป็นชีวิตปกติใหม่หรือ new normal ของเขา
แนวโน้มที่ 4. คือการเพิ่มความสำคัญของอินเตอร์เน็ท ทุกอย่างผ่านทางอินเตอร์เน็ท ไม่ว่าจะเป็นความบันเทิง ความรู้ การออกกำลังกาย โยคะ การดูแลสุขภาพ ผมเองยังได้เริ่มใช้เว็บบินาร์สอนหมอที่ฟิลิปปินส์ไปสี่ร้อยกว่าคนเมื่อเดือนก่อน สัปดาห์หน้าผมกับเพื่อนหมอคนอเมริกันในอเมริกาจะจัดสัมนาทางเน็ทเรื่องโภชนาการแบบกินพืชเป็นหลัก สอนให้กับคนลงทะเบียนเรียนเข้ามาประมาณ 1000 คนทั่วโลก แล้วผมก็ได้เปิดคลินิกออนไลน์ให้คำปรึกษาคน (ไทย) ทั่วไปเรื่องการดูแลสุขภาพทุกเย็นวันอังคาร ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้มานั่งทำสิ่งเหล่านี้ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะโควิด19 ใครจะสอนอะไรใครต้องไปที่อินเตอร์เน็ทหมด ดังนั้นการที่ทุกอย่างขึ้นไปอยู่บนอินเตอร์เน็ทจึงเป็นแนวโน้มที่ชัดเจน
แนวโน้มที่ 5. ก็คือการจัดการโรคเรื้อรังด้วยตนเอง เมื่อไปโรงพยาบาลไม่ได้ ผู้คนก็ค่อยๆเรียนรู้วิธีจัดการโรคเรื้อรังของตัวเองไปทีละนิด แม้กระทั่งเรียนรู้วิธีที่จะปรับยาเอง นี่เป็นสิ่งที่คนไข้ไม่เคยสนใจทำมาก่อน ผมถือว่าแนวโน้มนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะโรคเรื้อรังเกือบทั้งหมดไม่อาจหายได้ด้วยการไปโรงพยาบาลหรือกินยาผ่าตัดทำบอลลูน มันหายได้ด้วยการเปลี่ยนวิธีใช้ชีวิตโดยตัวผู้ป่วยเอง
แนวโน้มที่ 6. ก็คือการอยู่ห่างๆกัน (social distancing) หลายคนเริ่มชอบชีวิตแบบวิเวก มีอยู่คนหนึ่งเขียนเล่าว่ากลับไปบ้านนอกแล้วถูกอบต.เขากักตัวไว้ที่เถียงนา เธอได้เรียนรู้ความสุขจากการปลีกวิเวกและชอบมัน คนแบบนี้ต่อไปจะเดินทางน้อยลง และอยู่คนเดียวมากขึ้น
แนวโน้มที่ 7. คือการอยู่ติดบ้านมากขึ้น เมื่อถูกบังคับให้อยู่ห่างๆกัน บ้านก็กลายเป็นที่อยู่ที่ดีที่สุด คนก็เลยต้องทำอะไรก๊อกๆแก๊กๆเพื่อปรับปรุงบ้านแต่งบ้าน บ้างก็ทำสวนปลูกต้นไม้ นิสัยใหม่ๆเหล่านี้คงจะเปลี่ยนตลาดสินค้าอุปโภคไปบ้างพอควรในอนาคต
นสพ.
คุณหมอช่วยขยายความหน่อยได้ไหมว่าการกินอาหารพืชเป็นหลักนั้นกินอย่างไร มีประโยชน์อย่างไร และในอนาคตอาหารแบบไหนที่จะเป็นกระแสหลัก
หมอสันต์
หลักพื้นฐานก็คือ โภชนาการแบบกินพืชเป็นหลัก (Plant based nutrition - PBN) เป็นรูปแบบการกินที่แคลอรี่ส่วนใหญ่ได้มาจากพืช ไม่ใช่ได้มาจากเนื้อนมไข่เป็นหลักอย่างในปัจจุบัน ดั้งเดิมแล้วอาหารแบบพืชเป็นหลักนี้มีสามคำสำคัญคือ
คำที่ 1. "พืชเป็นหลัก" หมายความว่าสุดโต่งไปข้างหนึ่งก็คือกินแต่พืช ไล่มาจนถึงกินพืชมากๆกินเนื้อนมไข่ให้น้อยที่สุด ดังนั้นแหล่งหลักของแคลอรี่ก็จะเป็นธัญพืชไม่ขัดสี ถั่ว นัท ผักต่างๆ เป็นต้น
คำที่ 2. "ใกล้เคียงธรรมชาติ หรือ Whole food" หมายความว่าอาหารควรอยู่ในรูปแบบที่ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด ผ่านกระบวนการสกัดหรือขัดสีให้น้อยที่สุด ถ้าเป็นธัญพืชก็เป็นธัญพืชไม่ขัดสี
คำที่ 3 "ไขมันต่ำ" ซึ่งในทางปฏิบัติสำหรับอาหารไทยก็คือการหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันผัดทอดอาหาร
นับถืงวันนี้ หลักฐานวิทยาศาสตร์ที่มีล้วนบ่งชี้ไปทางเดียวกันว่าอาหารแบบพืชเป็นหลักนี้สัมพันธ์กับการป้องกันและรักษาโรคเรื้อรังได้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ เบาหวาน ความดัน และโรคอ้วน
หลายสิบปีก่อนหน้านี้สถิติได้พิสูจน์ให้เห็นชัดแล้วว่ากระบวนการรักษาด้วยยาและการผ่าตัดของวิชาแพทย์แผนปัจจุบันล้มเหลวในการลดอัตราตายของโรคเรื้อรัง ในทางตรงกันข้ามกลับทำให้จำนวนคนป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โภชนาการแบบกินพืชเป็นหลักจึงเป็นทางไปที่เหลืออยู่ทางเดียวที่จะป้องกันและพลิกผันโรคเรื้อรังได้ ในช่วงเวลาหลายสิบปีข้างหน้านี้
นสพ.
เราจะสร้างชีวิตดีมีความสุขได้อย่างไรในช่วงที่ยากลำบากนี้?
นพ.สันต์
ในยุคโควิด 19 นี้เป็นช่วงเวลาดีที่สุดที่จะปฏิรูปการดูแลสุขภาพ โควิด19 ทำให้คนสนใจจะทำตัวให้มีภูมิคุ้มกันโรคดีไม่ติดโรคง่าย สนใจที่จะรักษาโรคเรื้อรังของตัวเองเพราะรู้ว่าการเป็นโรคเรื้อรังทำให้ตายจากโควิด19 ได้ง่ายขึ้น การจะทำตัวให้ภูมิคุ้มกันโรคดีไม่ติดโรคง่าย ก็ต้องทำห้าหกอย่างต่อไปนี้ คือ
ออกกำลังกาย, นอนหลับให้พอ, กินอาหารที่มีสัดส่วนของพืชผักผลไม้มากๆ, รักษาน้ำหนักให้พอดีไม่ให้อ้วน, จัดการความเครียดให้ดี, และขยันออกแดด หรือไม่ก็กินวิตามินดี.เสริมถ้าออกแดดไม่ได้
ทั้งหมดนี้ผมเรียกรวมๆว่าการปรับเปลี่ยนวิธีใช้ชีวิตอย่างสิ้นเชิง นี่เป็นเวลาที่จะลงมือทำแล้ว
นสพ.
ปัจจุบันนี้คนสนใจการดูแลร่างกาย แล้ววิธีดูแลจิตใจละ?
นพ.สันต์
แน่นอนว่าความเครียดเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เป็นโรคเรื้อรังหรือทำให้โรครุนแรงขึ้น การจะจัดการความเครียด พูดโต้งๆเลยก็คือต้องวางความคิดลงเพราะความเครียดล้วนเกิดจากความคิด ความคิดเป็นส่วนผสมของความจำและจินตนาการของเราเอง ดังนั้นความคิดจะดำเนินไปได้ก็ต่อเมื่อเรายอมรับคอนเซ็พท์เรื่องอนาคตและอดีต (psychological time) ว่ามันมีอยู่จริง ถ้าเราจะอยู่แต่ที่เดี๋ยวนี้ ความคิดไม่มีที่อยู่ ที่เดี๋ยวนี้มีแต่ความรู้ตัวไม่มีความคิดจึงไม่เครียด ดังนั้นผมแนะนำให้ฝึกสติสมาธิ เริ่มด้วยการฝึกทำกิจกรรมเช่นนั่งสมาธิ โยคะ รำมวยจีน พอมีสติแข็งแรงขึ้นก็ถ่ายโอนทักษะนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ให้มีความรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา ทั้งหมดนี้มันจะง่ายขึ้นถ้าอุทิศเวลาให้สักวันละหนึ่งชั่วโมงเพื่อการฝึกนี้
นสพ.
แล้วจะเริ่มที่ตรงไหนก่อนดีละคะ และอะไรคือความท้าทาย
นพ.สันต์
การเปลี่ยนวิธีใช้ชีวิตอย่างสิ้นเชิงให้เริ่มสามอย่างนี้ก่อนคือ ออกกำลังกาย กินพืชเป็นหลัก และฝึกวางความคิด
เมื่อผมพูดว่าฝึกวางความคิดผมไม่ได้ห้ามไม่ให้ทำงานนะ คุณจะทำงานวันละกี่ชั่วโมงก็ทำไป แต่นอกเวลาทำงานขอให้ฝึกวางความคิด
ความท้าทายก็คือคนเรามักจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าเราตกอยู่ในกับดักของการคิดซ้ำซาก เพราะคนเราเสพย์ติดการคิดแบบซ้ำซากนี้เสียแล้ว แต่การฝ่าข้ามการเสพย์ติดความคิดเพื่อออกไปสู่ภาวะรู้ตัวอยู่โดยไม่คิดนี่จำเป็น ไม่งั้นเราไปไหนไม่รอด ยังไม่ต้องไปคิดทำอะไร เพราะทำอะไรก็จะทำไม่สำเร็จหากวางความคิดยังไม่เป็น
แล้วทางด้านจิตใจทั้งหมดนี้จะเริ่มที่ไหนก่อน ก็เริ่มด้วยกิจกรรมฝึกสติสมาธิก่อน จะเป็นฝึกนั่งสมาธิ หรือโยคะ หรือรำมวยจีนก็ได้
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
.........................................................................................
What kind of lifestyle trends you have observed during Covid-19?
the first trend, is migration of workforce back to rural area. Attempt to establish the self sufficient living as once instructed by King Bhumibol
the second trend, is home delivery. People learn to make full use of home delivery, be it food or any commodity products.
the third trend is The coming of simple cooking. People learn to make bread in America and EU. The same as in Thailand people learn to boil eggs or to fry fish with hot air and do other simple cooking. Some fall in love with cooking and take it as a part of their new normal life.
the fourth trend is everything is done on internet. Be it education, entertainment, exercise, yoga and health care. I myself had started webinar teaching 400 doctors in philipines last month. Next week I and friends in US will conduct a plant based nutrition seminar for about 1000 health care professionals worldwide. Also since the beginning of COVID19 I have started a clinic on line to which general public can ask any health questions. I never thought I will be doing this sort of things before COVID19. But now here we are. If you want to teach anyone about anything, you are forced to do it on internet.
So the everything moving to internet is an obvious trend.
the fifth trend is self managing a disease. People cannot get access to hospitals or doctors as usual. Bit by bit they learn to manage their own diseases. The thing that they never pay attention to previously. This is a very good and powerful trend in health care. Because nearly all chronic diseases in many years to come will not be cured by hospital establishment or doctor's prescription, but by total lifestyle modification done by the patients themselves.
the Sixth trend is, of course, social distancing. People learn to appreciate solitude and some adopt it as part of their new normal. These people will travel less, and and enjoy more time alone.
The Seventh trend is home living. Once social distancing is adopted, home is the best place to stay. People learn to do small home improvement, gardening, and home leisure activities. All these will change consumer market quite a bit.
Could you elaborate more about plant-based diet? What are the benefits and will it be the future of eating?
Basically PBN is a food pattern in which the majority of calories come from plants, not from animal meat or dairy products as it currently be. Classically PBN has 3 key words
Key word (1) is Plant based. Means it is plant only diet or at least plant mainly diet. Depends on how strict ones prefer. That means all or most of calories come from plants such as whole grains, bean, nut, fruits, vegetables.
Key word (2) is Whole food. Means the food should be as close to it's natural form as possible. It should be minimally processed or extracted. If it is grain it should be whole grain or non polished grain.
Key word (3) is Low fat. If possible it should have low calories, particularly low in saturated fat content.
So far the scientific evidence have shown the relation between plant-based nutrition and reversing of chronic disease such as heart disease, diabetes, obesity and hypertension.
Since previously it has been already proven by statistic that all hi-tech medical procedures and all type of medicine tablets have failed to reverse the so-called NCDs. These include heart disease, diabetes, obesity, and hypertension. Plant-based nutrition is the only main proven method that helps reversing the NCDs. So, sure enough PBN will be a big medical revolution part of chronic disease management in the decades to come.
How could we create the sense of wellness in such an unprecedented time?
In this COVID19 era is a very good time for self healthcare reform. Because of COVID19, people concern about their immunity and seek what should they do in order not to contract the virus. Also people concern about reversing their chronic disease so that in case they happen to contract the virus their mortality rate will be on the low side. So this is the very time to change lifestyle in view of improving immunity and reversing chronic diseases.
To improve immunity ones need to quite a few things
Firstly, to do exercise regularly
Secondly, to get adequate sleep
Thirdly, to consume diet high in fruits and vegetables
Fourthly, to maintain a healthy weight
Fifthly, to do stress management
And The last one, sixthly, is to get sunlight exposure /or take vitamin D supplement if sunlight exposure is not possible
To reverse chronic disease we nearly need to do the same things at least which include
1. Exercise
2. Plant-based nutrition
3. Stress management
In short, I call all these a total lifestyle modification. This is the time to do it. Now. We have enough information to guide us what is good what is not. The only thing need to be done is Just doing it.
Right now people is focused on physically preventing themselves from Covid-19, how can we look after the mind?
Sure enough, stress in one factor that suppress immunity and is one contributing factor to chronic diseases. So, stress management is sure another thing in to do list.
How to manage one's stress. Put it bluntly, all stress is created by our own thought. So, to drop the thought is the way to manage stress. Thought is a combination of our own memory and our imagination. So thought always operates in dimension of psychological time. I mean in the future and in the past. So to manage stress is practicing to live in the now. In the now there is no thought. In the now there is only consciousness or awareness which is stress-free. To practice living in the now, I suggest starting with mindfulness in all activities. Start practice with such activities as meditation, yoga, tai chi. Then bring mindfulness into every minute of day to day living.
It will be much easier to set aside one hour a day for this practice.
Where should one start if they want to have a healthy and balanced lifestyle and what might be the challenge to do so?
To do total lifestyle modification you need only three things. Or three tasks to accomplished
task (1) Do exercise.
task (2) Eat wisely. I mean eat PBN diet.
task (3) Drop all the thought.
Of course when I said drop all the thought I mean except only when doing work in working hours. After working hours it is better to live consciously without thinking of the future or the past.
Just do these three things then one's life will become a healthy life.
The challenge is that people usually pretend that they do not aware of being trapped in a repetitive recycling of their own thought.
Because people are addicted to this thought recycling.
Breaking this thought recycling is the only way to go. Otherwise one will be trapped there forever. No use talking about any change then.
Where to start. Start at mindfulness practicing activities such as meditation, Yoga, Tai Chi.
................................