ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างโควิด19 อย่าคิดหยุดยาแอสไพริน
เรียนคุณหมอสันต์ที่เคารพ
ผมอายุ 64 ปี หลังจากที่ทำตามคลิปของคุณหมอมาได้ปีกว่า ทั้งการหยุดกินเนื้อสัตว์ ไม่ผัดทอดอาหาร และออกเดินสลับกับจ๊อกกิ้งเกือบทุกวัน ผมเลิกยาเบาหวาน ยาความดัน ยาลดไขมัน ได้หมดแล้ว เหลือแต่ยาแอสไพริน ตัวผมเองไม่เคยเจ็บหน้าอก ไม่เคยเข้านอนโรงพยาบาล แต่หมอก็ให้กินมาห้าปีแล้ว ผมจะหยุดยาแอสไพรินได้ไหมครับ
ขอบคุณหมอมากครับที่ช่วยเผยแพร่ความรู้จนผมนำมาปฏิบัติได้ผลดีต่อตัวเอง
............................................................
ตอบครับ
ขอบคุณครับที่เขียนมา นี่ก็เป็นตัวอย่างตัวเป็นๆอีกท่านหนึ่งที่เป็นประจักษ์พยานว่าเรื่องสุขภาพนี้ ขอให้ลงมือทำเท่านั้น แล้วมันจะดีเอง อย่างรายนี้ไม่เคยเห็นหน้ากันเลย แค่ดูคลิปแล้วทำตามก็ดีขึ้นเลย ดีขึ้นชนิดที่หยุดยารักษาโรคแรงๆอย่างความดันเลือดสูง ไขมันในเลือดสูง และโรคเบาหวาน ได้
ถามว่าจะหยุดยาแอสไพรินดีไหม ตอบว่าสำหรับคนทั่วไปที่ยังไม่เคยเป็นโรคระดับเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันหรืออัมพาตเฉียบพลัน การใช้ยาแอสไพรินหรือยาต้านเกล็ดเลือดตัวอื่นใช้กันแบบที่เรียกว่าเพื่อ "การป้องกันปฐมภูมิ (primary prevention)" ซึ่งการใช้แบบนี้คำแนะนำมาตรฐานสากล (ACC/AHA Guidelines 2019) แนะนำว่าไม่จำเป็น คือใช้กับไม่ใช้ก็ไม่ต่างกัน ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับความชอบของคุณว่าอยากจะใช้หรืออยากจะหยุด
แต่ตอนนี้เป็นช่วงการระบาดของโควิด19 อาจจะไม่ใช่เวลาที่เหมาะกับการหยุดยาแอสไพริน เพราะมีรายงานผู้ป่วยบ่อยพอสมควรว่าการติดเชื้อโควิดทำให้เลือดจับตัวกันเป็นก้อนง่าย (coagulopathy) และเป็นเหตุการตายที่บ่อย จนในอเมริกาตอนนี้หากมีผู้ติดเชื้อโควิด19 เข้ารพ.ปุ๊บหมอจะตรวจ d-dimer (ตัวชี้วัดเศษของไฟบรินที่ก่อลิ่มเลือด) ปั๊บ หากพบว่าสูงหมอจะฉีดยากันเลือดแข็งเลย ดังนั้นหากคุณคิดจะหยุดแอสไพริน เอาไว้รอให้โควิด19 จบก่อนดีไหม เพราะใครจะไปรู้ วันหนึ่งรัฐบาลอั้นไม่ไหวอาจจะตัดสินใจเลิกกดโรค ผู้คนก็จะเริ่มติดเชื้อ ซึ่งตัวคุณก็อาจจะเป็นหนึ่งในจำนวนผู้ติดเชื้อก็ได้
อีกประเด็นหนึ่ง การจะเลิกแอสไพรินนี้ไม่ควรเลิกพรวดพราด เพราะมีรายงานว่าการเลิกยานี้แบบพรวดพราดทำให้อุบัติการของอัมพาตเฉียบพลันและกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันสูงขึ้นในช่วงเลิกยาใหม่ๆ หากโควิดจบแล้วและคิดจะเลิกยาจริง ต้องค่อยๆเลิก คือลดขนาดโด้สลงทีละครึ่งทุก 2 สัปดาห์ ใช้เวลาประมาณ 3 เดือนจึงหยุดยาแบบเบ็ดเสร็จได้
มองอีกด้านหนึ่ง ยาตัวนี้มันก็มีความดีของมันหลายอย่าง นอกจากจะต้านเกล็ดเลือดไม่ให้เลือดแข็งตัวเร็วแล้ว การกินยาแอสไพรินยังลดโอกาสเป็นมะเร็งลงได้เล็กน้อย จนองค์กรวิชาชีพบางองค์กรเช่นวิทยาลัยอุรุแพทย์อเมริกัน (ACCP) ได้ออกคำแนะนำให้คนอายุ 50 ปีขึ้นไปกินแอสไพรินวันละเม็ดเพื่อป้องกันมะเร็ง ดังนั้น หากคุณไม่มีปัญหากับผลข้างเคียงของแอสไพริน ผมว่ากินยานี้ไว้ก็ดีกว่าอยู่เปล่าๆนะ
ถามว่าหมอสันต์กินยาแอสไพรินไหมเพราะหมอสันต์เป็นทั้งโรคหัวใจขาดเลือดและเป็นทั้งโรคกลัวมะเร็ง ตอบว่าไม่ได้กินหรอกครับ เพราะผมเป็นโรคขี้เครียดอยู่ด้วย เคยกินยานี้แล้วมันปวดท้อง เลยไม่กินดีกว่า
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
2. Guyatt GH, Akl EA, Crowther M, et al. Antithrombotic Therapy and Prevention of Thrombosis, 9th ed: American College of Chest Physicians evidence-based clinical practice guidelines. Chest 2012; 141(2)(Suppl):7S-47S.