(เรื่องไร้สาระ-10) โปรเจ็คสวนดอกไม้หน้ากระท่อม

 

บนคือฟัก ล่างคือพริก ที่เป็นโรคหงิก
   วันนี้หมดแรงจากการทำงานเตรียมการสอนทางเว็บบินาร์กับหมออเมริกัน ขอไม่ตอบคำถามหนึ่งวัน คุยเรื่องไร้สาระแทนดีกว่า

     เพราะตอนนี้ผมกำลังเริ่มโปรเจ็คใหม่อีกแล้ว 

    แถ่น แทน แท้น..

     โปรเจ็คสวนดอกไม้หน้ากระท่อม แต่ก่อนจะเริ่มเรื่องโปรเจ็คใหม่ ขอทบทวนถึงโปรเจ็คเก่า "ป่าอาหาร" ขนาดราว 12 ตรว. ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจนกว่าจะหมดแรงจอบ มาถึงวันนี้ผลิตอาหารได้ชนิดกินไม่ทันเลยนะครับ เอาไปฝากชาวบ้านก็ไม่ไหว เพราะขี้เกียจขับรถตระเวนแจก หน้านี้หน้าฝน ผลผลิตออกมาเร็วมาก ผักต่างๆเช่นโหระพา แมงลัก กระเพราะ ยี่หร่า ไม่ต้องพูดถึง มีมากเกินไป ถั่วฝักยาว ถั่วพู มะเขือเทศ กระเจี๋ยบ ได้กินทุกสัปดาห์ ฟักทองญี่ปุ่นก็ออกแต่ต้นกับออกดอกดีแต่ไม่มีลูก ท่าทางมันโดนอากาศร้อนแล้วสะเปิร์มมันคงเป็นหมัน ส่วนแตงโมนั้นผมหลงปลูกเลี้ยงต้อยอยู่ตั้งนานจนมันออกลูกหลายลูกขนาดน้องๆลูกฟุตบอลแต่ท้ายที่สุดก็ถูกหนอนเจาะกินเรียบไม่เหลือไว้ให้สักลูกเลย ที่ปลูกง่ายที่สุดได้ผลทันทีคือฟัก กำลังออกลูกเป่งขึ้นๆ ข้างล่างคือพริกซึ่งแย่ไปเพราะโรคหงิก แต่ก็กำลังฟื้นตัวเองออกลูกเหลือง เขียว แดงให้เห็น 

อยากจะเลี้ยงมดแดง เอาไว้ดูเล่น

     เหนือศีรษะมดแดงก็กำลังฉวยโอกาสช่วงใบไม้มีแยะเร่งการทำรัง ท่าทางรังอ้วนๆอย่างนี้ไข่มดแดงคงจะแยะ สมัยเด็กๆผมชอบกินไข่มดแดง แต่ไม่มีเทคโนโลยีที่จะสอยไข่มดแดง จึงได้แต่มองและร้องเพลงของพิทยา บุญยรัตพันธ์ุ นักร้องขวัญใจวัยรุ่นสมัยโน้นอย่างผม เรื่องมีอยู่ว่าเธอบอกให้ครูช่วยแต่งเพลงให้เธอร้องเพื่อบอกใบ้แก่เสี่ยใหญ่คนหนึ่งที่มานั่งเฝ้าฟังเธอร้องเพลงที่สีดาไนท์คลับ ราชดำเนิน ทุกคืน เพื่อเป็นนัยให้ทราบว่าไปเสียเถอะท่านเจ้าขา อย่ามาหวังลมๆแล้งๆอะไรกับหนูเลย เนื้อเพลงของเธอมีว่า

     "..โถ.มดแดง

อุตส่าห์แอบแฝง พวงมะม่วง.

ชะเง้อชะแง่ แลแต่ผล ทั้งพวง

ไม่เคยล่วงรู้ รสโอชา..

อะรูมิไร้ โตเร็วกว่ามะละกอเท่าตัว

โถ.มดแดง

อดแห้งอดแล้ง ยังคอยท่า

เพียงคิดเพียงหวัง

ดั่งเจ้าของ สมญา

ปรารถนาเพียงหวังชม.."

      ผมไม่รู้ว่าฟังแล้วเสี่ยใหญ่จะเก็ทหรือเปล่า เพราะเธอไม่ได้เล่าตอนจบ เอาเถอะ กลับมาชมป่าอาหารกันต่อดีกว่า มะเขือม่วงก็ออกลูกแยะ มะเขือเปราะยิ่งออกลูกยั้วเยี้ยต้องทิ้งให้เกลื่อนโคนต้น ส่วนมะเขือพวงนั้นรีดตัวขึ้นไปออกลูกเหนือศีรษะระดับเดียวกับปลีกล้วย เท่ไปอีกแบบ กระเจี๊ยบเขียวต้นก็สูงใหญ่มากต้องแหงนคอตั้งบ่าจึงจะเห็นลูก หม่อนก็โตรวดเร็วทำท่าจะสูงเกินมือเอื้อม ผมจึงจับเอาเชือกผูกกิ่งโน้มลงหาดินและรูดใบเพื่อให้มันออกลูกดกขึ้น

     แล้วก็มีต้นหนึ่งชื่ออะรูมิไร้ อะไรมิรู้ ผมถ่ายรูปมาด้วย ผมเองซื้อมาปลูกแต่ลืมชื่อเขาไปเสียแล้ว รู้แต่ว่ากินได้ มันโตเร็วกว่ามะละกอที่มาพร้อมกันหนึ่งเท่าตัว จึงถ่ายรูปให้หมอสมวงศ์เอาไปถามในอินเตอร์เน็ทได้คำตอบว่ามันคือต้นมันปู ขอบพระคุณผู้กรุณาให้คำตอบ รู้อย่างนี้ก็ดีแล้ว ต่อไปจะลองเอามาจิ้มน้ำพริกกิน

กระท่อมที่ใช้การไม่ได้แต่ลุคยังดี ซ้ายมือคือหางนกยูงไทยสีเหลืองและแดง
     

สวนจะอยู่ระหว่างบึงน้ำ นาข้าว และกระท่อม

     มาเข้าเรื่องโปรเจ็คใหม่ "สวนดอกไม้หน้ากระท่อม" กันเลย ความเป็นมาก็คือหมอสมวงศ์มีความคิดจะเปิดบ้านบนเขาช่วงหน้าหนาวปลายๆปีนี้สักหนึ่งครั้งเพื่อให้แฟนบล็อกหมอสันต์ได้มาดูวิว ดื่มกาแฟ ทานของว่างในวันหยุดทำนองเป็นการแบ่งความสุขให้กันและกัน ผมเห็นได้ทีก็เลยร่างโปรเจ็คสวนดอกไม้หน้ากระท่อมเสนอให้พิจารณา โดยอ้างว่าคนมาบ้านทั้งทีจะมีแต่วิวให้ดูก็กระไรอยู่นะ น่าจะมีสวนดอกไม้ให้เดินเล่นเพลิดเพลินหน่อย อีกประการหนึ่งกระท่อมไม้หลังนี้แม้จะโกโรโกโสใช้การไม่ได้แล้วแต่ลุคของมันยังโออยู่นะ แล้วก่อนหน้านี้นานหลายปีมาแล้วก็เคยมีน้องคนหนึ่งมาช่วยปลูกดอกไม้ที่หน้ากระท่อมนี้ไว้ให้บ้างแล้ว แม้ว่าปัจจุบันมันจะถูกทิ้งร้างไปหลายปีแต่บางต้นก็ยังเหลือให้เห็นทรากอยู่ หากออกแบบสวนดอกไม้นี้ให้เป็นกิจจลักษณะก็อาจจะได้สวนที่น่ารักไม่แพ้ที่ไหนในเมืองไทยก็ได้ โดยผมวางแผนว่าสวนจะอยู่ระหว่างบึงน้ำกับนาข้าว และกระท่อม เนื้อที่ทั้งหมดประมาณหนึ่งงาน วันนี้จะพาสำรวจก่อนนะ ว่ามีดอกไม้อะไรอยู่แล้วบ้าง

พยับหมอก อยู่หน้าดอกตะล่อม

   อย่างน้อยก็มีพยับหมอกสีครามเหลือทรากอยู่ตรงหน้าบานไม่รู้โรยหรือดอกตะล่อมสีม่วงแดงซึ่งหัวแข็งยิ่งกว่าแมวเก้าชีวิต ห่างออกไปมีดาวกระจายขึ้นเองประปราย พูดถึงดาวกระจาย ถ้าไม่มีดอกไม้ฝรั่งมาแข่ง ให้มันอยู่ของมันเองโดดๆโดยมีแบคกราวด์สีทึบเสียหน่อย มันก็สวยนะ ไม่เชื่อดูรูปที่ผมถ่ายมา

ดาวกระจาย ถ้าไม่มีคู่แข่ง จึงจะสวย

     
พวงชมพู กับอะไรไม่รู้สีฟ้าๆ
พวงครามที่เหลืออยู่



















แฮปปิเนส
หน้าฝนอย่างนี้ดอกไม้อื่นๆที่รอดชีวิตมาได้ก็มีแต่ดอกไม้ไทยพันธ์ทนทายาด เช่นยี่โถ พวงชมพู พวงคราม แฮปปิเนส เป็นต้น ส่วนดอกไม้ฝรั่งนั้นล่องจุ๊นไปหมดแล้วต้องรอไปปลูกใหม่ปลายปี 

     แผนของผมในการทำโครงการนี้คือจะสร้างสวนดอกไม้แบบสวนมั่ว (cottage garden) เล็กๆขึ้นมาใหม่ ให้มีทางเดินชมสวนจากบึงน้ำ เลียบนาข้าว เลี้ยวไปเลี้ยวมาผ่านดอกไม้เมืองหนาวบ้าง เมืองร้อนบ้าง ไปจนถึงชานกระท่อม ซึ่งผู้มาเยือนสามารถนั่งดูวิวจากชานกระท่อม มองข้ามสวนดอกไม้ นาเข้า บึงน้ำ ไปยังภูเขาที่อยู่ไกลออกไปได้ ระยะเวลาที่ใช้ทำโครงการทั้งหมดก็สามเดือนคือให้ทันเปิดบ้านรับแขกตอนปลายปีนี้  แรงงานก็สองแรง คือผมกับลุงดอน ผมนั้นมีข้อจำกัดที่มีเวลาทำสวนแค่สัปดาห์ละครั้งอย่างมาก ส่วนลุงดอนนั้นมีข้อจำกัดที่ต้องรอเจ้านาย สรุปว่าจะทำสวนเสร็จทันหรือไม่ยังไม่ทราบ งบประมาณรวมก็ตั้งจากรายรับที่จะขายกาแฟและคุ้กกี้ได้ในวันสองวันที่เปิดบ้าน เพราะฉะนั้นหากท่านมาชมสวน อย่าคาดหมายว่าสวนจะสวยล้ำหน้าราคากาแฟที่หมอสมวงศ์ตั้งไว้นะครับ เพราะงบทำสวนมาจากตรงนั้น หิ หิ 

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ 



โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

กินคีโตไข่ต้มไก่ต้มทุกวันแล้วหลอดเลือดหัวใจตีบ

หนังสือคัมภีร์สุขภาพดี (Healthy Life Bible) จะพิมพ์ครั้งที่ 3 แน่นอนแล้ว เชิญสั่งซื้อได้

ความแก่..เหมือนหมาถูกต้อนเข้ามุมให้จนตรอก

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตคนเราคือความเบิกบาน (Joy)

วิตามินดีเกิน 150 หมอบอกมากเกินไป ท้ังๆที่ไม่ได้ทานวิตามินดี

Life Skill Camp for Kids แค้มป์ทักษะชีวิตเยาวชนที่มิวเซียมสยาม 16 พย. 67