เรื่องกิ๊กกับอุ๊บอิ๊บจะมาร้องเพลง และเรื่องอยากส่องตรวจมะเร็งลำไส้ใหญ่แบบเบิกได้
ก่อนตอบคำถามวันนี้ขอแจ้งข่าวไร้สาระหน่อยนะครับ ก่อนหน้านี้ผมเคยบอกว่าค่ำวันที่ 5 กย. 63 ผมชวนครูสไมล์มาดีดเปียโนร้องเพลงที่บ้านโกรฟเฮ้าส์ เชิญแฟนบล็อกที่สนใจเข้าฟังได้ฟรี ตอนนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าจะมีหนุ่มนักเล่นไวโอลินคลาสสิกแวะมาแจมด้วย บรรยากาศคงจะครึกครื้นมากขึ้น
แล้วก็มีข่าวดีเพิ่มมาอีกว่า วันถัดมาคืออาทิตย์ที่ 6 กย. 63: ช่วงบ่ายๆเย็น 16.00-18.00 น. คุณกิ๊ก (พงษ์พันธ์ จันทร์เนตร์) จะมาเล่นเปียโนให้คุณอุ๊บอิ๊บ (พชรมน นภัสธนาเกียรติ) ร้องเพลงทำรายการแบบ Live ที่บ้านโกรฟเฮ้าส์ คือมาทดลองกำธรเสียงของบ้านไม้ แฟนบล็อกหมอสันต์ที่สนใจแวะชมและฟังได้ฟรีเช่นกัน คุณกิ๊กเป็นนักแต่งเพลงทำค่ายเพลงชื่อ Impression Sound Studio ซึ่งแต่งและผลิตเพลงไทยระดับละเมียดที่สมัยนี้ไม่มีใครอื่นเขาทำกันแล้ว เพลงหนึ่งที่กิ๊กแต่งชื่อ "ริมน้ำคืนหนึ่ง" ชนะเลิศประกวดเพลงระดับนานาชาติที่อังกฤษ ผมเอาลิงค์ที่คุณกิ๊กเล่นเปียโนและคุณอุ๊บอิ๊บร้องเพลงชื่อ "ใครคนหนึ่ง" แบบไลฟ์เล่นๆสบายๆออกยูทูปมาแปะให้ท่านที่สนใจลองคลิกไปชมและฟัง
โอเค. คราวนี้มาตอบคำถามประจำวัน
พี่สาวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 4 อายุ 46 ปี ตอนนี้ดิฉันอายุ 42 ปี การขับถ่ายก็ถ่ายได้ทุกวัน ไม่มีเลือด น้ำหนัก 57 กก. สูง 162 ซม. เป็นพาหะไวรัสตับบี
คุณหมอทางเดินอาหารไม่ให้ส่องกล้อง ให้ตรวจเลือด ดูความซีดกับ ค่ามะเร็ง ส่วนคุณหมอศัลยกรรมลำไส้ใหญ่ให้รีบตรวจแล้วบอกว่าให้ตรวจเร็วที่สุด ควรจะตรวจตั้งแต่อายุ 36 ปี โดยเอาอายุของพี่สาวลบ 10 คะ
ค่าตรวจก็สูงนะคะ โรงพยาบาลจุฬา นอกเวลา 16,000 บาทคะ ประกันสังคมที่วิภาราม คิดว่าไม่น่าจะทำให้นะคะ
อยากให้คุณหมอแนะนำหน่อยคะพี่สาวจ่ายค่าคีโมนอกบัญชี แบบพุ่งเป้าเข็มละ 75,000 บาท พยายามช่วยกันจ่ายคะ ถ้ามีใครเป็นอีกสักคนก็คงแย่เหมือนกันคะ
.................................
ตอบครับ
ปกติการส่องตรวจลำไส้ใหญ่เพื่อป้องกันมะเร็งทำเมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไปโดยทำห่างๆ 10 ปีครั้ง ยกเว้นในกรณีของคนที่มีความเสี่ยงพิเศษควรทำเมื่ออายุต่ำกว่านี้ การมีสมาชิกครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ก็ถือว่ามีความเสี่ยงพิเศษ ที่สมควรตรวจก่อนอายุ 50 ปี คือตรวจได้ตั้งแต่อายุ 30-35 ปีเลย
ส่วนประเด็นที่ว่าจะเบิกสามสิบบาทหรือประกันสังคมหรือราชการได้หรือเปล่า ถ้าเป็นการตรวจเพื่อป้องกันโรค (preventive colonoscopy) เบิกไม่ได้ทุกกรณีครับ เพราะกองทุนทั้งสามเป็นกองทุนเพื่อรักษาโรค ไม่ใช่กองทุนเพื่อป้องกันโรค ส่วนกองทุนป้องกันโรคนั้น ไม่มี หิ หิ นี่มันเป็นนโยบายของชาติ เพราะนโยบายของชาติลอกแบบมาจากนโยบายบริษัทประกันชีวิตประกันสุขภาพ ซึ่งมีคอนเซ็พท์พื้นฐานว่าหากมีการลงทุนเรื่องการป้องกันโรคจะทำให้ขายกรมธรรมยาก เพราะเมื่อคนไม่ป่วยไม่ตายกันง่ายๆก็จะทำให้คนไม่กลัวป่วยไม่กลัวตาย แล้วใครจะซื้อกรมธรรมประกันป่วยประกันตาย ถูกไหม
ถ้าคุณอยากจะเบิกได้คุณอย่าบอกว่าผมชี้โพรงให้นะ คุณต้องมองหาอาการนำอะไรสักอย่าง แล้วคุณก็ไปหาหมอด้วย "อาการนำ" นั้น เอาอาการที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งลำไส้ใหญ่นะ เช่นนิสัยการขับถ่ายดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเคยถ่ายทุกวันตอนนี้ท้องผูกหรือท้องอืดสลับท้องเสีย หรือให้หนักยิ่งกว่านั้นก็คือรู้สึกว่าสีของอุจจาระเข้มขึ้น ไม่แน่ใจว่ามีเลือดออกหรือเปล่า อะไรอย่างนี้เป็นต้น แล้วบอกด้วยว่ามีญาติเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ แพทย์ก็จะมีข้อบ่งชี้มากพอที่จะตรวจเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการวินิจฉัยอาการผิดปกติ ซึ่งตามบาลีถือว่าอยู่ในสายของการรักษา ดังนั้น ผ่าง ผ่าง ผ่าง เบิกได้ แต่ถ้าจะไปขอส่องกล้องเพราะญาติเป็นมะเร็งเหตุผลเดียว เป็นเรื่องในสายการป้องกันโรค เบิกไม่ได้ เพราะสโลแกนและทิศทางการสาธารณสุขของชาติในขณะนี้คือรัฐทุ่มเงินให้กับการรักษาแบบไม่อั้นจนเงินหมด ส่วนการป้องกันนั้นให้ประชาชนไปขวานขวายเอาเองเพราะเงินของรัฐหมดแล้ว หิ หิ จบข่าว
อ้อ แล้วอย่าบอกใครว่าหมอสันต์สอนให้พูดกับหมออย่างนี้ สอนคนไข้อย่างนี้มันผิดจริยธรรมวิชาชีพ ซึ่งหมอที่ดีไม่ควรทำ
สันต์