หมอสันต์กราบขออภัย
นานมาแล้วผมได้ยินได้ฟังเรื่องราวของผู้สูงอายุท่านหนึ่งซึ่งเคยเป็นคนมีเกียรติเป็นที่นับถือในวงการของท่านเอง เรื่องเกิดขึ้นเมื่อท่านปฏิเสธไม่ไปงานศพของญาติกันด้วยเหตุผลว่าท่านแก่เงอะงะแล้วไปไม่สะดวก กลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตอันเกิดจากความไม่เข้าใจกัน ถึงขั้นประกาศตัดญาติขาดมิตรกันเลยทีเดียว ผมรับฟังด้วยความเข้าใจท่านผู้สูงอายุท่านนั้นแต่ก็มีความรู้สึกขบขันอยู่ในใจว่าเออหนอ ความยึดถือในบทละครที่ตัวเองเล่นของคนเรานี้บางทีมันมากจนลืมไปว่ามันเป็นแค่ละคร ไม่คิดว่าวันหนึ่งต้องมาเจอเรื่องแบบนี้กับตัวเอง
ผมต้องขอโทษที่อาศัยบล็อกนี้สื่อข้อความวันนี้ ทำให้ท่านผู้อ่านที่คาดหวังจะได้อ่านข้อมูลความรู้เรื่องสุขภาพต้องเสียเวลาเปิดบล็อกโดยไม่ได้อ่านอะไร แต่ผมก็มองไม่เห็นหนทางใดที่จะสื่อความในใจนี้ออกไปเป็นการป้องกันที่จะเกิดกรณีบัวช้ำน้ำขุ่นขึ้นในภายหลัง เพราะคนรู้จักผมมีทั้งใกล้และไกล ทั้งวงในวงนอก มองไม่เห็นวิธีสื่อสารใดๆดีไปกว่าผ่านบล็อกนี้
ประเด็นก็คือผมอยากกราบเรียนให้ทราบล่วงหน้าเพื่อป้องกันการต้องมาพะอืดพอมเพราะต่างไม่รู้ใจกัน ว่าการเสนอให้ผมรับปริญญาดุษฏีก็ดี รับรางวัลก็ดี เป็นกรรมการกิติมศักดิ์หรือสถานะอื่นๆก็ดี หรือแม้กระทั่งเรื่องเล็กๆเช่นขอให้เป็นประธานเปิดงานนิทรรศการ ไปแสดงปาฐกถาเปิดการประชุม ด้วยเจตนาที่ผมเข้าใจดีว่าท่านต้องการสร้างทิศทางหรือตัวอย่างที่ดีในสังคม แต่ผมขอกราบเรียนไว้ล่วงหน้าว่าผมไม่สะดวก ดังนั้นเพื่อไม่ให้บัวช้ำน้ำขุ่น เมื่อใดที่คิดจะให้เกียรติแก่ผมผมขอขอบคุณท่านเสียตั้งแต่ในขั้นตอนที่ท่านคิดนี้เลย แล้วขอให้ท่านกรุณาข้ามผมไปเสีย ที่ผ่านมาแล้วนั้นถือว่าเป็นความผิดพลาดของผมเอง ผมต้องกราบขออภัยด้วยที่ไม่ได้แสดงเจตนาไว้ก่อนทำให้พอปฏิเสธกันไปก็เกิดความไม่เข้าใจกันราวกับไม่เห็นแก่มิตรภาพที่ดีต่อกันมายาวนาน เอาเป็นว่าต่อแต่นี้ไปผมขอ “เคาะ” ทุกกรณี ด้วยเหตุผลง่ายๆว่าผมอายุมากแล้ว แค่จะดำเนินชีวิตประจำวันให้ลื่นไหลอย่างปกติก็ยักแย่ยักยัน เวลาที่เหลืออยู่น้อยนิดนี้ผมเองก็มีความตั้งใจอยู่แล้วว่าจะใช้ไปในเรื่องใด แค่นี้ก็หมดเวลาแล้ว ไม่สามารถแวะไปทำเรื่องอื่นได้อีกจริงๆ
กราบขออภัยอีกครั้ง
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์