คุณเป็นคนบ้าปริยัติ..รู้ตัวหรือเปล่า

(ภาพวันนี้: ดอกคอสมอส)

กราบเรียนอาจารย์สันต์

หนูมาเข้า SR เมื่อ 2020 ตอนนั้นอาจารย์อธิบายวงจรปฏิจจสมุปบาทสั้นๆหนูฟังแล้วเข้าใจดีมาก แต่พอกลับมาก็ลืมคำอธิบายของอาจารย์ในรายละเอียดเสียแล้ว เมื่อนานมานี้มีเหตุการณ์ที่แฟนเขาพูดอะไรที่ไม่ถูกใจหนู คืนนั้นหนูมีใจสั่นรัวเป็นพักๆ และนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะคิดเรื่องที่แฟนเขาพูด ในที่สุดเมื่อทุกข์มากก็พยายามเอาหลักปฏิจจสมุปบาทมาอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ก็อธิบายไม่ได้ คิดไปคิดมาอยู่หลายรอบ ตื่นมาเปิดหนังสือพุทธธรรมก็ยังอธิบายไม่ได้ จึงเขียนมาขอความกรุณาอาจารย์ค่ะ

……………………………………………………..

ตอบครับ

คุณเป็นคนบ้าปริยัติ รู้ตัวหรือเปล่า

ความบ้าปริยัติจะไม่พาคุณไปไหนได้ไกลดอก อย่างมากก็จะเป็นแค่ฝูงไก่ในสุ่ม ไก่ก็คือเหล่าความคิดของคุณ สุ่มก็คือโลกของภาษาที่เป็นที่มาของปริยัติซึ่งเป็นคอนเซ็พท์ที่ครอบหัวคุณอยู่นั่นแหละ

แต่ถามมาผมก็จะตอบไป และจะอธิบายตามสไตล์ของผมซึ่งไม่เหมือนคำอธิบายของผู้ชำนาญปริยัติทั้งหลายก็อย่าว่ากันนะ ถ้าใครค่อนแคะว่าหมอสันต์ไม่รู้เรื่องและพูดผิดก็ให้ยอมรับกับเขาไปเลยว่าผมพูดผิด เพราะผมเป็นคนไม่เอาปริยัติไม่เอาผิดเอาถูกย่อมจะมีโอกาสพูดผิดมากกว่าพูดถูก ผมแค่ทำความรู้จักกับคอนเซ็พท์เหล่านี้เพื่อใช้เป็นสะพานไปสู่การมีประสบการณ์กับของจริงแค่นั้นเอง

คือจุดเริ่มต้นของการเกิดความคิด มันจะต้องมีการประชุมแห่งเหตุ คือมีเหตุสามอย่างมาผสมกัน

ส่วนผสมอันที่ 1. คือความรู้ตัว ซึ่งผมแปลมาจากภาษาอังกฤษว่า consciousness ซึ่งตรงกับภาษาบาลีว่า “วิญญาณ”

ส่วนผสมอันที่ 2. คือคอนเซ็พท์ต่างๆในเชิงภาษาที่มีอยู่ในหน่วยความจำของเราอยู่ก่อนแล้ว เช่นชื่อและรูปร่างที่มนุษย์ตั้งหรือสมมุติให้สิ่งต่างๆ ภาษาอังกฤษใช้เรียกคอนเซ็พท์เหล่านี้ว่า Names and Forms คือ names ก็หมายถึงชื่อต่างๆ forms ก็หมายถึงรูปร่างต่างๆ ภาษาบาลีใช้คำเรียกโลกของภาษานี้ว่า “นามรูป”

ส่วนผสมอันที่ 3. คืออวัยวะรับคลื่นจากภายนอกร่างกายในรูปแบบต่างๆ เช่น ตารับภาพ หูรับเสียง จมูกรับกลิ่น ลิ้นรับรส ผิวรับสัมผัส และใจของเราเองที่อาจจะรับอะไรที่ถูกโยนอะไรเข้ามาได้คล้ายกับอวัยวะอื่นเช่นกัน ภาษาอังกฤษเรียกรวมๆว่า Sense organs ภาษาบาลีเรียกว่า “อายตนะ”

เมื่อมีส่วนผสมทั้งสามเป็นประเดิมอยู่ แล้วมีคลื่นความสั่นสะเทือนใดๆผ่านเข้ามาทางอายตนะ ก็จะถูกส่วนผสมทั้งสาม “จับความ” ออกมาเป็นคอนเซ็พท์ทางภาษาหรือ names and forms ที่เรารู้จักทันทีด้วยความเร็วระดับสายฟ้าแลบ แล้วคอนเซ็พท์นั้นจะ “ตกกระทบ” กับชีวิตที่กำลังดำรงอยู่นี้ อาการตกกระทบนี้ภาษาอังกฤษเรียกว่า contact ภาษาบาลีเรียกว่า “ผัสสะ”

การตกกระทบจะทำให้เกิดความรู้สึกขึ้นบนร่างกายเช่นอาการใจสั่นอาการขนลุกอาการปวดเป็นต้นแล้วตามด้วยความรู้สึกในใจ ความรู้สึกทั้งทางกายและใจภาษาอังกฤษเรียกว่า feeling ภาษาบาลีเรียกรวมๆว่า “เวทนา”

อย่างเป็นอัตโนมัติ ความรู้สึกซึ่งมีทั้งแบบที่เราชอบและแบบที่เราไม่ชอบ จะก่อความคิดรูปแบบหนึ่งขึ้นมาทันทีคือความอยาก ภาษาอังกฤษเรียกว่า desire หรือ craving ภาษาบาลีใช้คำว่า “ตัณหา” คือชอบก็อยากเข้าหากอดเกี่ยวเอาไว้ ไม่ชอบก็อยากหนีให้ห่างๆ จะเห็นว่าหากปล่อยให้ล่วงเลยมาถึงตรงนี้เราได้หลุดออกจากการอยู่ตรงกลางไปแล้วนะ

ความอยากจะเหนี่ยวนำให้เกิดความคิดอีกแบบหนึ่งตามกันมาติดๆชนิดหายใจรดต้นคอกันมาเลย คือความยึดมั่นถือมั่น ภาษาอังกฤษเรียกว่า attachment ภาษาบาลีใช้คำว่า “อุปาทาน” ณ ตรงนี้แหละคือสำนึกว่าเป็นบุคคล หรือตัวตน ที่เป็นต้นตอของความคิดที่เป็นเหตุแห่งทุกข์ทั้งหลาย เรื่องราวต่อจากนี้คุณปะติดปะต่อเอาเองได้

ประเด็นสำคัญผมขอไฮไลท์จุดเดียว คือส่วนผสมสามส่วนคือ (1) ความรู้ตัว (2) ชื่อและรูปร่างของสรรพสิ่งในใจเรา และ (3) อวัยวะรับคลื่นจากภายนอกนั้น เรามีของเราอยู่แล้ว จะไปลบทิ้งหรือตั้งธงว่า..ถ้าไม่มีสิ่งนี้ มันเป็นไปไม่ได้ เพราะมันมีของมันอยู่แล้ว ดังนั้น ณ จุดที่ความรู้สึก (feeling) บนร่างกายหรือในใจเกิดขึ้นนี่ต่างหากที่เป็นจุดสำคัญ หากสติดี ตามรู้ได้ทัน ความคิดต่อยอดจะไม่ทันเกิดขึ้น การขยันหัดรับรู้ความรู้สึกบนร่างกาย หรือการขยันทำ body scan จึงมีคุณด้วยประการฉะนี้

ผมตอบคำถามคุณจบแล้วนะ ก่อนจบขอย้ำกับคุณอีกหน่อยว่าคุณอย่าไปบ้าปริยัติ ผมจะบอกเคล็ดลับของการเข้าถึงความสงบเย็นและสร้างสรรค์อันเป็นสิ่งที่ดีงามที่สุดที่ชีวิตคนเราพึงเข้าถึงได้มันมีหลักง่ายๆอยู่ว่าความสงบเย็นและสร้างสรรค์มันมีของมันอยู่แล้วในตัวเรา แต่เรามองไม่เห็นเข้าถึงไม่ได้เพราะความคิดของเรามันมากเกินไปจนกลายเป็นฉากหรือกรอบบังเอาไว้ อุปมาเหมือนน้ำคลองหน้าฝนที่ทั้งขุ่นคลั่กทั้งไหลแรงและปั่นป่วนย่อมบังไม่ให้เห็นทรายที่ท้องคลองเหมือนอย่างน้ำใสในหน้าแล้งฉันใดก็ฉันนั้น แค่วางความคิดลงไปให้หมด ใจที่ว่างจากความคิดก็จะโปร่งใสเปิดให้เห็นความสงบเย็นและสร้างสรรค์ที่มีของมันอยู่แล้ว และวิธีปฏิบัติก็มีอย่างเดียว คือปฏิบัติสมาธิวิปัสนา หรือพูดแบบฝรั่งก็คือ meditation meditation meditation ไม่ใช่ไปบ้าปริยัติ

อามิตตาภะ..พุทธะ หิ หิ

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

……………………………………………………………………….

ปล. ท่านสามารถ สอบถามข้อมูลและลงทะเบียน เข้าแค้มป์สุขภาพทุกแค้มป์ ได้ที่ เวลเนสวีแคร์เซ็นเตอร์ โทร : 063-6394003 หรือ Line ID : @wellnesswecare หรือ คลิก https://lin.ee/6JvCBsf CBsf

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

กินคีโตไข่ต้มไก่ต้มทุกวันแล้วหลอดเลือดหัวใจตีบ

ความแก่..เหมือนหมาถูกต้อนเข้ามุมให้จนตรอก

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

เปลี่ยนอาหาร ปั่นจักรยาน น้ำตาลลด ความดันลด แต่ไขมันทำไมไม่ลด

ท่านอายุเก้าสิบแล้วยังไม่รู้ แล้วท่านจะรู้มันไปทำพรื้อละครับ

สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตคนเราคือความเบิกบาน (Joy)

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

มะเร็งต่อมลูกหมากแพร่กระจายไปกระดูกขาแล้ว จะไปต่อไงดี