จะอยู่ทดแทนพระคุณ หรือจะให้พ่อแม่จัดงานศพให้ตัวเอง
หมอครับ
ทุกวันนี้อายุ 20 แต่ต้องมากินยาความดัน ไปหาหมอก็เพิ่มยาขึ้นๆ มาจาก 1 ไป 2 จาก 2 ไป 3 ชีวิต มียาไขมันอีก ช่วยให้คำแนะนำหน่อยครับ.
สูง173 น้ำหนัก 94 ครับ ก็ตอนแรก จะไปผ่าฟันคุดครับ แต่ผ่าไม่ได้เพราะความดันมันสู งครับ ก็เลยรักษามาจนถึงทุกวันนี้ครั บ ความดันผมเริ่มสังเกตเห็น ตอนนี้รักษามาได้เกือบจะ 2 ปีแล้ วครับ ช่วยให้คำแนะนำครับ ผมไม่อยากกินยาครับ กินวิตามิน c บ้างครับ ผมไม่รู้ผมควรทำอะไร เริ่มยังไง เช้ากินอะไร กลางวันกินอะไร เย็นยังไง ครับ ผมงงสับสน. ผมอยากเลิกกินนานแล้ว ผมกลัว
เรียนอยู่มหาวิทยาลัยครับปี 3 อาหารการกิน เป็นคนที่มีอะไรกินหมดครับ ชอบกินเนื้อไก่ ไก่ทอดลูกชิ้นไส้กรอก ไก่ย่างหมูย่าง เป็นคนกินเยอะครับ รสจัดด้วย หวานเปรี้ยวเค็มเผ็ด จัดเต็มครั บ ปรุงเยอะ และผมก็เคยทำตาม กินวันละมื้อคือกินมื้อเย็น ของ นพ. ญี่ปุ่นครับ ซึ่งรู้สึกน้ำหนักลง เมื่อหยุ ดทำแล้วก็กลับมากินเหมือนเดิมครับ ปัจจุบัน 2 เดือนที่ผ่านมา ก็กินครบ 3 มื้อครับ เช้ากินข้าวราดแกง กลางวันก็แทบจะไม่ได้กิน ถ้ากิ นก็จะกินนมครับ ส่วนเย็นก็กินข้าวราดแกงครับ ขนมบ้าง เครปญี่ปุ่น น้ำอัดลมก็มีบ้าง น้ำผลไม้ก็มีบ้ างครับ ส่วนเรื่องการออกกำลั งกายนานๆๆๆทีจะออกครับ แต่ผมก็เริ่มปรุงน้อยลงนะครั บแต่ก็ปรุง กินก็เหมือนเดิมทุกอย่างครับหมอ
สำหรับการตรวจหาสาเหตุ เคยตรวจปัสวะ ตรวจเลือด วัดความดันแขนและขา และ การอันตราซาวด์ ครับ. ทุกวันนี้ปรับยาเพิ่มขึ้น และก็จด ความดันไปให้หมอที่โรงพยาบาลดู ครับ (ผมเคยกินยาลดความอ้วนด้วยครั บหลายยี่ห้อ + ความรู้น้อย)
..................................................................
ตอบครับ
นี่เป็นครั้งแรกที่แฟนบล็อกเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังครบเครืื่องทั้งโรคความดัน โรคไขมัน โรคอ้วน และกำลังไต่บันไดเพิ่มยาขึ้นไปอีกๆๆ แต่ว่าเพิ่งมีอายุ 20 ปีเท่านั้นเอง ยี่สิบนะ โปรดฟังให้ดี หนอจั๊บ นี่..เดี๋ยวนี้พันธุ์ไทยเป็นอย่างนี้แล้วนะคะ ท่านสารวัตรขา
แล้วท่านผู้อ่านโปรดสังเกตเอาจากเนื้อความในจดหมายนะ น้องเขาเล่าว่าแพทย์ได้ทำการตรวจวินิจฉัยทั้งวัดความดันท่อนบนท่อนล่างเพื่อวินิจฉัยแยกภาวะหลอดเลือดใหญ่คอดแต่กำเนิด (coarctation of aorta) เจาะเลือดดูฮอร์โมนเพื่อวินิจฉัยแยกต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติ และตรวจอุลตร้าซาวด์เพื่อวินิจฉ้ยแยกเนื้องอกของต่อมหมวกไตที่มักปล่อยฮอร์โมนทำให้ความดันสูงในวัยเด็ก ทั้งหมดนี้ได้ผลลบ แปลว่าสามารถวินิจฉัยได้เด็ดขาดแล้วว่าไม่ใช่ความดันสูงแบบทุติยภูมิ (secondary hypertension) ซึ่งเกิดจากเหตุที่แก้ได้ คำวินิจฉัยที่สุดท้ายจึงเป็นโรคความดันสูงปฐมภูมิ (primary hypertension) ซึ่งเป็นความดันสูงของแท้ที่พบในผู้ใหญ่ทั่วไปนั่นเอง
แล้วอะไรเล่าที่เป็นปัจจัยชักนำมาสู่การเป็นโรคร้ายที่วงการแพทย์ยังไม่มีปัญญารักษาให้หายนี้ตั้งแต่อายุยี่สิบ คำตอบก็อยู่ในคำบอกเล่าของน้องเขาทั้งหมดนั่นแหละครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องอาหาร คือกินอาหารเนื้อสัตว์ที่ปรุงด้วยการผัดทอดเป็นอาหารหลัก เขาเล่าเองว่าชอบกินเนื้อไก่ ไก่ทอด ลูกชิ้น ไส้กรอก ไก่ย่าง หมูย่าง ข้าวราดแกง (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าวขาวราดด้วยของผัดทอด) นม ขนม เครปญี่ปุ่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ กินแยะ จัดเต็ม ส่วนการออกกำลังกายนั้น ถ้าเป็นคนอื่นจะกระมิดกระเมี้ยนโกหกว่าก็ได้ออกบ้างพอสมควรเพื่อให้ฟังดูดี แต่นี่น้องเขาบอกตรงๆเลยว่า..นานๆๆๆทีจะออกครับ กล่าวโดยสรุป อาหารที่มีเนื้อสัตว์ปรุงด้วยการผัดทอดและธัญพืชขัดสี นม น้ำตาล รวมทั้งน้ำผลไม้คั้นใส่น้ำตาลโดยทิ้งกากไป ล้วนเป็นอาหารชักนำให้เกิดโรคหลอดเลือดในรายของน้องท่านนี้
ถามว่าแต่อายุเพิ่งยี่สิบเองนะ โรคมันเป็นเร็วขนาดนี้เลยหรือ ตอบว่างานวิจัยผ่าศพคนหนุ่มคนสาวที่ตายด้วยเหตุอื่นพบว่าโรคไขมันพอกหลอดเลือดเริ่มปรากฎชัดเจนตั้งแต่อายุ 15 ปีแล้ว สมัยผมทำงานอยู่เมืองนอก เด็กฝรั่งอายุเก้าขวบสิบขวบที่เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ผ่าศพดูก็มีโรคไขมันพอกหลอดเลือดที่หัวใจแล้ว
ถามว่าอายุยี่สิบต้องมากินยาลดความดันเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ แล้วอนาคตจะเป็นอย่างไร หมอสันต์พอทำนายให้ได้ไหม ตอบว่าได้สิ เรื่องทำนายอะไรร้ายๆนี่ถนัดเลย ผมเคยเล่าไปหลายครั้งแล้วว่างานวิจัยพบว่าในบรรดาตัวชี้วัดสุขภาพทั้งหลาย ความดันเลือดเป็นตัวที่แม่นยำที่สุดที่จะทำนายว่าใครจะตายช้าใครจะตายเร็ว เอาละ ผมทำนายนะ
"...สิทธิการิยะ ท่านว่าคนที่เป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเช่นโรคหลอดเลือดนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย หากไม่รีบพลิกผันโรคด้วยตัวเองก็จะไม่ได้แก่ตาย ที่จะได้อยู่ทดแทนบุญคุณพ่อแม่ปฏิบัติวัตรฐากยามท่านป่วยและปิดตาท่านเมื่อสิ้นใจนั้นอย่าหวัง ในทางตรงกันข้ามพ่อแม่จะต้องเดือดร้อนเป็นเจ้าภาพวิ่งเต้นจองวัดจองวาเพื่อทำพิธีเผาศพให้ลูก
ส่วนพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกมาแบบหวังจะให้ลูกมาดูแลหยอดข้าวหยอดน้ำตัวเองตอนแก่นั้นหากเริ่มต้นด้วยการให้ลูกกินทุกอย่างที่ขวางหน้าที่ลูกรบกินอย่างทุกวันนี้ก็ฝันไปเถอะ เพราะถึงเวลาจริงพ่อแม่นี่แหละจะต้องเป็นผู้คอยดูแลหยอดข้าวหยอดน้ำให้ลูกตัวเองที่เป็นอัมพาตหรือทุพลภาพไปเพราะโรคหลอดเลือด นี่ไม่ได้ทำนายแบบแช่งนะ แต่ทำนายจากหลักฐานเชิงประจักษ์ เพราะงานวิจัยปัจจัยเสี่ยงในคนหนุ่มสาวล้วนให้ผลตรงกัน เมื่อไม่กี่เดือนก่อนผมเองก็มีผู้ป่วยอีกท่านหนึี่งอายุ 25 ปีเองและอ้วนพอๆกับท่านเจ้าของจดหมายนี้แต่เป็นอัมพฤกษ์ปากเบี้ยวต้องเข้าโรงพยาบาลซะแล้ว"
เขียนมาถึงตอนนี้ผมนึกอยากนิมนต์พระเซ็นมาให้พรคนไทยทีี่มีลูกยุคนี้ คือเรื่องเล่าในอดีตมีอยู่ว่าชาวบ้านญี่ปุ่นนิมนต์พระเซ็นมาเขียนยันต์เป็นสิริมงคลงานขึ้นบ้านใหม่ หลวงพ่อเซ็นมาถึงก็เขียนโฉลกความว่า
"..ขอให้ปู่ย่าตายาย ตายก่อน
แล้วพ่อแม่จึงตาย
แล้วลูกจึงตาย
แล้วหลานจึงตาย .."
ชาวบ้านที่ลงทุนนิมนต์พระมาก็เอะอะว่าอุตสาห์นิมนต์มาฉันแต่หลวงพ่อมาทำอย่างนี้ก็เปลืองข้าวสุก..เอ๊ย ไม่ใช่ก็ทำลายศรัทธาของญาติโยมหมดสิ นิมนต์มาเขียนยันต์ให้พร ดันมาเขียนแช่ง หลวงพ่อก็ชี้แจงว่า
"ที่อาตมาเขียนให้นะมันพรชั้นเลิศนะ เพราะทุกคนต้องตายอยู่แล้ว แต่อาตมาให้ตายตามคิว จะได้ไม่พลิกความคาดหมายทุกข์โศกกันมากไง"
เลิกนอกเรื่องมาตอบคำถามของน้องอายุ 20 ปีท่านนี้ดีกว่า ถามว่าควรจะทำตัวอย่างไร ตอบว่าความรู้ทางแพทย์เท่าที่มีแนะนำว่าการจะลดความดันเลือดสูงลงด้วยตัวเอง ควรจะทำต่อไปนี้ คือ
1. ลดน้ำหนักอย่างเอาเป็นเอาตาย งานวิจัยที่รวบรวมโดย NCEP พบว่าถ้าลดน้ำหนักได้ 10 กก. จะลดความดันตัวบนลงได้ถึง 20 มม. ผมเคยเขียนเรื่องการลดความอ้วนไปแล้วหลายครั้งในบล็อกนี้ ลองหาอ่านดู
2. ปรับโภชนาการ ทานอาหารที่มีไขมันต่ำมีแคลอรี่ต่ำและมีผักและผลไม้มากๆ ทานวีแกนหรือมังสะวิรัติเลยได้ยิ่งดี จะลดความดันได้ถึง 14 มม. สูตรอาหารที่ลดความดันได้ดีแน่นอนเรียกว่าสูตร DASH diet ซึ่งก็คือมังสะวิรัติ (ที่เน้นธัญพืชไม่ขัดสี ถั่ว ผลเปลือกแข็งหรือ nuts และเมล็ดหรือ seeds) บวกปลาและอาหารทะเล ถ้าทานเนื้อก็ต้องไม่ติดมัน ถ้าจะดื่มนมก็เป็นนมไร้ไขมัน และหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันปรุงอาหาร
3. ออกกำลังกายให้ได้ระดับมาตรฐาน คือออกกำลังกายจนเหนื่อยหอบแฮ่กๆร้องเพลงไม่ได้อยู่นานครั้งละอย่างน้อย 30 นาทีสัปดาห์ละอย่างน้อย 5 ครั้ง จะลดความดันได้ถึง 9 มม.
4. ลดเกลือในอาหารลงให้เหลือระดับจืดสนิทจะลดความดันลงได้ถึง 8 มม.
5. เป็นความดันเลือดสูงอย่าริดื่มแอลกอฮอล์ แต่ถ้าดื่มแอลกอฮอล์อยู่มาก ให้ลดเหลือแต่น้อย จะลดความดันลงได้อีก 4 มม.
ทั้งห้าข้อนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย แต่จะลงมือทำหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความเอาจริงเอาจังหรือความบันดาลใจ (motivation) ของแต่ละคน ตรงนี้ให้คุณนั่งจับเข่าคุยกับตัวเองว่าชีวิตนี้คุณจะเอาอย่างไรแน่ จะทดแทนพระคุณพ่อแม่ด้วยการมีชีวิตอยู่เพื่อรอจัดงานศพให้ท่าน หรือจะให้พ่อแม่ต้องมาทุกข์โศกจัดงานศพให้คุณ
ในกรณีที่คุณพยายามทำเองแล้วไม่สำเร็จ ให้หาเวลามาเข้าคอร์สพลิกผันโรคด้วยตัวเอง (RDBY) คุณจะได้ประโยชน์จากคอร์สนี้ในระยะยาวมากที่สุด
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
บรรณานุกรม
1. McMahan CA, Gidding SS, Malcom GT, Schreiner PJ, Strong JP, Tracy RE, Williams OD, McGill HC; Pathobiological Determinants of Atherosclerosis in Youth (PDAY) Research Group. Cardiovasc Pathol. 2007 May-Jun;16(3):151-8.
2. Arts J1, Fernandez ML, Lofgren IE. Coronary heart disease risk factors in college students. Adv Nutr. 2014 Mar 1;5(2):177-87. doi: 10.3945/an.113.005447.
3. Strong JP, Malcom GT, McMahan CA, Tracy RE, Newman WP, 3rd, Herderick EE, Cornhill JF. Prevalence and extent of atherosclerosis in adolescents and young adults: implications for prevention from the Pathobiological Determinants of Atherosclerosis in Youth Study. JAMA. 1999;281:727–35
4. Burke JD, Reilly RA, Morrell JS, Lofgren IE. The University of New Hampshire's Young Adult Health Risk Screening Initiative. J Am Diet Assoc. 2009;109:1751–8
5. Fernandes J, Lofgren IE. Prevalence of metabolic syndrome and individual criteria in college students. J Am Coll Health. 2011;59:313–21
6. Morrell JS, Lofgren IE, Burke JD, Reilly RA. Metabolic syndrome, obesity, and related risk factors among college men and women. J Am Coll Health. 2012;60:82–9
7. Huang TT, Shimel A, Lee RE, Delancey W, Strother ML. Metabolic risks among college students: prevalence and gender differences. Metab Syndr Relat Disord. 2007;5:365–72