รายงานผลการปฏิบัติ
เรียน อาจารย์สันต์ที่เคารพ
หนูอยากจะรายงานผลการปฏิบัติตามคำสอนของอาจารย์ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับทุกๆท่านที่กำลังปฏิบัติตามคำแนะนำของอาจารย์ค่ะ
หนูได้เข้าคอร์สอบรม GHBY-7 เมื่อวันที่ กุมภาพันธ์ 2560 ปัญหาของหนูคือ ระดับคลอเลสเตอรอลในเลือดสูง และตัวไม่ดี LDL สูงมาตลอดเลยค่ะ สูงเกินค่ามาตรฐานมาตลอด หนูเป็นพยาบาลทราบดีว่าไม่ใช่เรื่องดี ก้อพยายามที่จะลดโดยการควบคุมอาหาร (แต่อาจารย์เชื่อมั้ยค่ะว่าหนูไม่เคยทราบเรื่องไขมันทรานส์ตัวแสบเลย ทั้งๆที่เป็นพยาบาล) พยายามลดอาหารมัน ทอด ออกกำลังกายบ้างโดยออกตอนกลับบ้านตอนเย็นแต่ทำไม่ได้ตลอด จะทำหลังตรวจสุขภาพประจำปีที่ทราบผลเลือด แต่ทำได้น้อยค่ะ เพราะวันไหนเลิกงานมืดจะไม่ได้ออก และจะเลิกงานมืดบ่อยมากค่ะ ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า HDL ไขมันดีสูงอยู่คงไม่เป็นไรมาก จนกระทั่งมา 2 ปีหลังนี้ที่ LDL นางมาแรงมากสูงกว่า 160 จนปีที่แล้ว 177 หนูเริ่มกังวลแล้วค่ะ ต้นปีที่แล้วหนูเผอิญได้อ่านบทความของอาจารย์เรื่องการออกกำลังกายที่ อ.จะเน้นว่าถ้าไม่ได้ออกกำลังหลังจากตื่นนอนตอนเช้าแล้ว อ. จะไม่ยอมทำอะไรเลย หนูเลยเปลี่ยนจากออกกำลังกายตอนเย็นที่ไม่ประสบความสำเร็จ มาออกตอนเช้าหลังตื่นนอน ซึ่งสามารถทำได้เกือบทุกวัน จะไม่ได้ทำวันที่ต้องไปสัมมนาเช้า หรือไปต่างจังหวัด แต่แล้วจู่ๆน้องที่ทำงานเอาบทความของนายแพทย์ท่านหนึ่งที่เขียนในวารสารของกาชาดว่าการออกกำลังกายตอนเช้าที่เราไม่ได้ทานอะไรเลยจะทำให้ตับพัง เสมือนกับคนที่เป็น Alcoholism หนูชักจะเอะยังไง เลยชักจะสับสน พอดีเพื่อนแนะนำ blog ของอาจารย์ให้เข้าไป follow หนูเลยตัดสินใจเข้าคอร์ส GHBY-7 อบรมกับอาจารย์ซะเลย โดยตั้งว่า 1. จะถาม อาจารย์เรื่องออกกำลังกาย และ 2. จะเอาผลเลือดให้อาจารย์ดู (ตามที่หนูแนบ file มาค่ะ) หนูได้ถาม อาจารย์เรื่องออกกำลังกาย อาจารย์บอกว่าออกเวลาไหนก้อได้เอาที่เราสะดวก หนูกลับจากอบรมก้อเริ่มออกกำลังกายตอนเช้าเหมือนเดิมวันละ 30 นาที ทำเกือบทุกวัน ถ้าไม่ต้องออกจากบ้านเช้า ส่วนข้อ 2 ผลเลือดไม่ได้ให้อาจารย์ดูค่ะ เพราะมีคนถาม อาจารย์กันมากวันนั้น หนูเลยเกรงใจ และปัญหาหนูไม่ค่อยรุนแรงเท่าคนอื่น เอาไว้มาปฏิบัติตามที่ อาจารย์สอนก่อนแล้วค่อยว่ากัน
กลับจากคอร์สอบรม ก้อเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร ออกกำลังกายอย่างมีวินัย คือพยายามออกทุกวัน เท่าที่จะเป็นไปได้ หันมาทานผลไม้ ผัก ปั่น ทาน Nut ถั่ว มันเทศนึ่ง ฟักทองนึ่ง อาหารเช้าทำได้ 100% แต่อาหารเที่ยงเนื่องจากประชุมบ่อยและจะทานอาหารในห้องประชุมจะเลือกไม่ได้ ก้อเลยต้องยกเว้นไว้ 1 มื้อค่ะมีอะไรทานหมด แต่ถ้าเลือกได้จะทานปลาเป็นหลัก หรือไก่ ลดเนื้อหมู ไม่ทานเนื้ออยู่แล้วค่ะ แต่ถ้ามีเบรค จะหลีกเลี่ยงเบเกอรี่ ไขมันทรานส์ที่เพิ่งทราบจากอาจารย์ตอนอบรม (หนูถึงบางอ้อแล้วค่ะว่า ที่ผ่านมาแม้จะออกกำลังกายบ้าง ควบคุมอาหารมันๆ แต่ไม่สามารถลดไขมันตัวเลวในเลือดได้เลย กลับเพิ่มสูงขึ้นอีกต่างหาก เพราะหนูจะมีอบรม สัมมนา ประชุมบ่อยมาก และเบรควันละ 2 ครั้ง ทานเบเกอรี่ตลอด อร่อยตลอดมา ) ส่วนมื้อเย็นก้อจะทานเน้นพืช ผักผลไม้ ทำได้ประมาณ 80% อาจมีทานอย่างอื่นบ้าง แต่ไม่บ่อย ยกเว้นเวลาไปงานต่างจังหวัด จะทานอาหารเย็นที่ร้านอาหาร ก้อว่าไปเป็นมื้อๆค่ะ แต่จะรู้ตัวอยู่ตลอดว่ากำลังทำอะไรอยู่ ลดการทานขนมจุกจิก (พอดีหนูจัดฟันที่ต้องครอบฟัน เวลาทานอาหารต้องถอด เลยทำให้เลิกทานขนมจุกจิกไป เพราะขี้เกียจถอดค่ะ) ออกกำลังหลังตื่นนอนวันละ 30 นาที ผลที่ได้ หนูตรวจเลือดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2560 ผลเลือดออกมาดีเกินกว่าที่หนูคาดเยอะๆๆๆๆๆๆมากค่ะ LDL จาก 177 เหลือ 112 ไม่น่าเชื่อเลยค่ะอาจารย์ น้ำตาลในเลือดปริ่มๆ 100 เหลือ 87 (เลิกน้ำผลไม้กล่อง ทานกาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่คอฟฟี่เมต เสาร์อาทิตย์ทานกาแฟที่บ้านจะใส่แค่นมถั่วเหลืองที่ no sugar added ค่ะ ตามที่พี่ตู่แนะนำให้ทานตอนอบรม)
หนูต้องขอบพระคุณอาจารย์เป็นอย่างมากที่ทำให้หนูมีวันนี้ (พูดเหมือนนางงามค่ะ อิอิ) อันนี้จากใจหนูเลยนะคะ เพราะตลอดมา ไขมันในเลือดของหนูไม่เคยปกติมาตลอด หนูไม่อยากทานยาลดไขมัน จนครั้งนี้ผลเลือดหนูกลับมาปกติได้อย่างไม่น่าเชื่อ หนูจะปฏิบัติตามคำสอนของอาจารย์ต่อไป และตลอดไปค่ะ อาจารย์ค่ะ สิ่งที่อาจารย์ตอบใน blog, ลงใน YouTube, เปิดคอร์สอบรม เป็นสิ่งที่มีคุณค่า และมีประโยชน์เป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกคน
ที่หนูเขียนมานี้เพื่อจะให้เป็นตัวอย่างแก่พี่ๆน้องๆเพื่อนๆ และเพื่อเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร การออกกำลังกาย การรู้ตัวอยู่กับปัจจุบัน ตามคำสอนของอาจารย์ ขอบพระคุณอาจารย์อีกครั้งค่ะ และขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จนะคะ
ขอบพระคุณค่ะอาจารย์ ถ้ามีโอกาสหนูจะไปเข้าคอร์สอบรมกับอาจารย์อีกค่ะ
.....................................
ตอบครับ
ขอบคุณมากที่กรุณาเขียนมาแชร์ประสบการณ์ เนื่องจากไม่มีคำถาม จึงไม่ต้องตอบ แต่เนืื้อหาในจดหมายก็เป็นเรื่องราวที่ให้ประโยชน์กับเพื่อนผู้อ่านเป็นอย่างดี
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
หนูอยากจะรายงานผลการปฏิบัติตามคำสอนของอาจารย์ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับทุกๆท่านที่กำลังปฏิบัติตามคำแนะนำของอาจารย์ค่ะ
หนูได้เข้าคอร์สอบรม GHBY-7 เมื่อวันที่ กุมภาพันธ์ 2560 ปัญหาของหนูคือ ระดับคลอเลสเตอรอลในเลือดสูง และตัวไม่ดี LDL สูงมาตลอดเลยค่ะ สูงเกินค่ามาตรฐานมาตลอด หนูเป็นพยาบาลทราบดีว่าไม่ใช่เรื่องดี ก้อพยายามที่จะลดโดยการควบคุมอาหาร (แต่อาจารย์เชื่อมั้ยค่ะว่าหนูไม่เคยทราบเรื่องไขมันทรานส์ตัวแสบเลย ทั้งๆที่เป็นพยาบาล) พยายามลดอาหารมัน ทอด ออกกำลังกายบ้างโดยออกตอนกลับบ้านตอนเย็นแต่ทำไม่ได้ตลอด จะทำหลังตรวจสุขภาพประจำปีที่ทราบผลเลือด แต่ทำได้น้อยค่ะ เพราะวันไหนเลิกงานมืดจะไม่ได้ออก และจะเลิกงานมืดบ่อยมากค่ะ ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า HDL ไขมันดีสูงอยู่คงไม่เป็นไรมาก จนกระทั่งมา 2 ปีหลังนี้ที่ LDL นางมาแรงมากสูงกว่า 160 จนปีที่แล้ว 177 หนูเริ่มกังวลแล้วค่ะ ต้นปีที่แล้วหนูเผอิญได้อ่านบทความของอาจารย์เรื่องการออกกำลังกายที่ อ.จะเน้นว่าถ้าไม่ได้ออกกำลังหลังจากตื่นนอนตอนเช้าแล้ว อ. จะไม่ยอมทำอะไรเลย หนูเลยเปลี่ยนจากออกกำลังกายตอนเย็นที่ไม่ประสบความสำเร็จ มาออกตอนเช้าหลังตื่นนอน ซึ่งสามารถทำได้เกือบทุกวัน จะไม่ได้ทำวันที่ต้องไปสัมมนาเช้า หรือไปต่างจังหวัด แต่แล้วจู่ๆน้องที่ทำงานเอาบทความของนายแพทย์ท่านหนึ่งที่เขียนในวารสารของกาชาดว่าการออกกำลังกายตอนเช้าที่เราไม่ได้ทานอะไรเลยจะทำให้ตับพัง เสมือนกับคนที่เป็น Alcoholism หนูชักจะเอะยังไง เลยชักจะสับสน พอดีเพื่อนแนะนำ blog ของอาจารย์ให้เข้าไป follow หนูเลยตัดสินใจเข้าคอร์ส GHBY-7 อบรมกับอาจารย์ซะเลย โดยตั้งว่า 1. จะถาม อาจารย์เรื่องออกกำลังกาย และ 2. จะเอาผลเลือดให้อาจารย์ดู (ตามที่หนูแนบ file มาค่ะ) หนูได้ถาม อาจารย์เรื่องออกกำลังกาย อาจารย์บอกว่าออกเวลาไหนก้อได้เอาที่เราสะดวก หนูกลับจากอบรมก้อเริ่มออกกำลังกายตอนเช้าเหมือนเดิมวันละ 30 นาที ทำเกือบทุกวัน ถ้าไม่ต้องออกจากบ้านเช้า ส่วนข้อ 2 ผลเลือดไม่ได้ให้อาจารย์ดูค่ะ เพราะมีคนถาม อาจารย์กันมากวันนั้น หนูเลยเกรงใจ และปัญหาหนูไม่ค่อยรุนแรงเท่าคนอื่น เอาไว้มาปฏิบัติตามที่ อาจารย์สอนก่อนแล้วค่อยว่ากัน
กลับจากคอร์สอบรม ก้อเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร ออกกำลังกายอย่างมีวินัย คือพยายามออกทุกวัน เท่าที่จะเป็นไปได้ หันมาทานผลไม้ ผัก ปั่น ทาน Nut ถั่ว มันเทศนึ่ง ฟักทองนึ่ง อาหารเช้าทำได้ 100% แต่อาหารเที่ยงเนื่องจากประชุมบ่อยและจะทานอาหารในห้องประชุมจะเลือกไม่ได้ ก้อเลยต้องยกเว้นไว้ 1 มื้อค่ะมีอะไรทานหมด แต่ถ้าเลือกได้จะทานปลาเป็นหลัก หรือไก่ ลดเนื้อหมู ไม่ทานเนื้ออยู่แล้วค่ะ แต่ถ้ามีเบรค จะหลีกเลี่ยงเบเกอรี่ ไขมันทรานส์ที่เพิ่งทราบจากอาจารย์ตอนอบรม (หนูถึงบางอ้อแล้วค่ะว่า ที่ผ่านมาแม้จะออกกำลังกายบ้าง ควบคุมอาหารมันๆ แต่ไม่สามารถลดไขมันตัวเลวในเลือดได้เลย กลับเพิ่มสูงขึ้นอีกต่างหาก เพราะหนูจะมีอบรม สัมมนา ประชุมบ่อยมาก และเบรควันละ 2 ครั้ง ทานเบเกอรี่ตลอด อร่อยตลอดมา ) ส่วนมื้อเย็นก้อจะทานเน้นพืช ผักผลไม้ ทำได้ประมาณ 80% อาจมีทานอย่างอื่นบ้าง แต่ไม่บ่อย ยกเว้นเวลาไปงานต่างจังหวัด จะทานอาหารเย็นที่ร้านอาหาร ก้อว่าไปเป็นมื้อๆค่ะ แต่จะรู้ตัวอยู่ตลอดว่ากำลังทำอะไรอยู่ ลดการทานขนมจุกจิก (พอดีหนูจัดฟันที่ต้องครอบฟัน เวลาทานอาหารต้องถอด เลยทำให้เลิกทานขนมจุกจิกไป เพราะขี้เกียจถอดค่ะ) ออกกำลังหลังตื่นนอนวันละ 30 นาที ผลที่ได้ หนูตรวจเลือดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2560 ผลเลือดออกมาดีเกินกว่าที่หนูคาดเยอะๆๆๆๆๆๆมากค่ะ LDL จาก 177 เหลือ 112 ไม่น่าเชื่อเลยค่ะอาจารย์ น้ำตาลในเลือดปริ่มๆ 100 เหลือ 87 (เลิกน้ำผลไม้กล่อง ทานกาแฟดำ ไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่คอฟฟี่เมต เสาร์อาทิตย์ทานกาแฟที่บ้านจะใส่แค่นมถั่วเหลืองที่ no sugar added ค่ะ ตามที่พี่ตู่แนะนำให้ทานตอนอบรม)
หนูต้องขอบพระคุณอาจารย์เป็นอย่างมากที่ทำให้หนูมีวันนี้ (พูดเหมือนนางงามค่ะ อิอิ) อันนี้จากใจหนูเลยนะคะ เพราะตลอดมา ไขมันในเลือดของหนูไม่เคยปกติมาตลอด หนูไม่อยากทานยาลดไขมัน จนครั้งนี้ผลเลือดหนูกลับมาปกติได้อย่างไม่น่าเชื่อ หนูจะปฏิบัติตามคำสอนของอาจารย์ต่อไป และตลอดไปค่ะ อาจารย์ค่ะ สิ่งที่อาจารย์ตอบใน blog, ลงใน YouTube, เปิดคอร์สอบรม เป็นสิ่งที่มีคุณค่า และมีประโยชน์เป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกคน
ที่หนูเขียนมานี้เพื่อจะให้เป็นตัวอย่างแก่พี่ๆน้องๆเพื่อนๆ และเพื่อเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร การออกกำลังกาย การรู้ตัวอยู่กับปัจจุบัน ตามคำสอนของอาจารย์ ขอบพระคุณอาจารย์อีกครั้งค่ะ และขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จนะคะ
ขอบพระคุณค่ะอาจารย์ ถ้ามีโอกาสหนูจะไปเข้าคอร์สอบรมกับอาจารย์อีกค่ะ
.....................................
ตอบครับ
ขอบคุณมากที่กรุณาเขียนมาแชร์ประสบการณ์ เนื่องจากไม่มีคำถาม จึงไม่ต้องตอบ แต่เนืื้อหาในจดหมายก็เป็นเรื่องราวที่ให้ประโยชน์กับเพื่อนผู้อ่านเป็นอย่างดี
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
