การปกป้องลูกไม่ให้ง่าว เอ๋อ สึ่งตึง คือพันธกิจหลัก
หนูมีเรื่องจะสอบถามนะค่ะ
หนูผ่าตัด CA Thyroid ไปเมื่อวันที่ 9 พ.ค.2556 และกลืนแร่ ไปเมื่อวันที่ 9 ส.ค.2556 ตอนนี้หนูตั้งครรภ์ได้ 6 เดือนแล้วค่ะ หนูปรึกษากับหมอที่รักษาหนูแล้วค่ะ หมอบอกว่าสามารถตั้งครรภ์ได้ และตอนปลายเดือน พ.ย.2559 หมอปรับยาให้หนูใหม่ เนื่องจากแคลเซียมต่ำ (ยาที่กินอยู่เป็นประจำ)ยาแอลฟ่าแคลซิดลอล0.25มคก(ALFACALCIDOL) กิน 1 เม็ด เช้า ยาแคลเซียมคาร์บอเนต600มก(CALCIUM CO3) กิน 3 เม็ด 4 เวลา เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน(เคยกิน 2 เม็ด 4 เวลา) และยาเอลทรอกซิน 0.1 มก(ELTROXIN) 1 เม็ด ก่อนอาหารเช้า และเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2560 หนูไปหาหมอตามนัด แต่กลับไม่เจอหมอคนที่ผ่าตัดให้หนู หมอย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วค่ะ เจอหมอคนใหม่ หนูบอกว่าหนูตั้งครรภ์อยู่ เขาบอกหนูว่า ทำไมปล่อยให้ท้อง รู้ไหมว่ามีโรคประจำตัว เขาเลยบอกให้หนูมาคุยกับหมอที่หนูฝากท้อง เขาบอกว่ากลัวมีผลกระทบกับเด็ก หนูเครียดมาก หนูก็เลยไปเจาะเลือดที่โรงพยาบาล ผลเลือดวันที่ 4 ก.ค.60 free T4 = 0.761 , TSH = 75.72 , Free T3 = 1.56 และ แคลเซียม 9.13 หนูก็เลยเอาไปให้หมอใกล้บ้านที่หนูเคยรักษาดู หมอเลยปรับยาให้ใหม่ ยาแอลฟ่าแคลซิดลอล0.25มคก(ALFACALCIDOL) กิน 1 เม็ด เช้า ยาแคลเซียมคาร์บอเนต600มก(CALCIUM CO3) กิน 3 เม็ด 4 เวลา เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน และยาเอลทรอกซิน 0.1 มก(ELTROXIN) 1 เม็ดครึ่ง ก่อนอาหารเช้า(เคยกิน 1 เม็ดเช้า) และหมอนัดเจาะเลือดใหม่ ผลเลือดวันที่ 15 ส.ค.2560 หลังจากที่ปรับยาไทรอยด์แล้วค่ะ free T4 = 1.21 , TSH = 3.01 ,Free T3 = 2.06 และ แคลเซียม 9.30 ค่ะ
หนูอยากทราบว่า
1. ยาที่หนูกินอยู่ทั้ง แคลเซียม ไทรอยด์ และวิตามินดี มีผลต่อลูกในท้องไหมค่ะ โดยเฉพาะยาไทรอยด์ค่ะ เห็นเภสัชที่ รพ.ที่หนูไปรับยาถามว่าทำไมหมอไม่ให้หยุดยาไทรอยด์ หนูเลยบอกว่า ถ้าหนูหยุดยาไทรอยด์ ไทรอยด์หนูจะต่ำค่ะ หนูกลัวมากเลยค่ะ ไม่รู้จะปรึกษาใครค่ะ แต่หนูเคยอาจเพจของคุณหมอ หนูเลยคิดว่ายาไทรอยด์ไม่มีผลต่อเด็กค่ะ
2.ขณะหนูตั้งท้อง หนูต้องกินยาไทรอยด์ไปตลอดจนคลอดใช่ไหมค่ะ
....................................................................
ตอบครับ
1. ถามว่ายาที่กินทั้งแคลเซียม ฮอร์โมนไทรอยด์ และวิตามินดี.มีผลต่อทารกในครรภ์ใหม ตอบว่า "ไม่มี" ครับ การที่เภสัชกรที่รพ.บอกว่ายาฮอร์โมนไทรอยด์มีผลต่อเด็กนั้น ท่านคงจะเข้าใจข้อมูลผิดไป หรือท่านอาจจะจำยาสับสน ยาฮอร์โมนไทรอยด์ (Eltroxin)นั้น ในทำเนียบพิษยาเขาจัดเป็นยา category A แปลว่ามีความปลอดภัยต่อทารกในครรภ์สูงสุดคือ 100% การไม่กินยาต่างหากที่จะมีผลต่อทารกในครรภ์ เพราะหากขาดฮอร์โมนไทรอยด์ทารกในครรภ์จะกลายเป็นคนง่าว คนเอ๋อ คนสึ่งตึง คุณรู้จักคำสามคำนี้ไหม มันแปลได้ความหมายเดียวกัน ผมจะอธิบายคำแปลด้วยเพลงคำเมืองเหนือที่ผมชอบร้องตอนผมเป็นเด็กหนุ่มๆนะ
"...เขาว่าตัวอ้าย เป็นคนสึ่งตึง
มีสองสลึง ป๋ายแถมซาวห้า
คิดๆขึ้นมา ใคร่หุย กินยาหมูตุ้ย ตะวา
เปิ้นจุ๊อ้ายว่า มีวิตามิน..."
แปลเป็นภาษาไทยภาคกลางได้ความว่า
"...เขาว่าตัวพี่นี้เป็นคนปัญญาทึบ
มีสองสลึง บวกอีกยี่สิบห้าสะตางค์ ก็แปลว่าเป็นคนสามสลึง หรือไม่เต็มบาทนะแหละจ๊ะ
คิดๆขึ้นมามันน่าร้องไห้ เมื่อวานนี้พี่กินยาหมูอ้วนไป
เขาหลอกพี่ว่ามันมีวิตามิน...อะจ๊าก..ก"
แคว่ก แคว่ก แคว่ก ตะแล้น ตะแล้น ตะแล้น
ขอโทษ เผลอนอกเรื่อง กลับมาเข้าเรื่องดีกว่า ที่เภสัชกรของคุณบอกว่ายาไทรอยด์มันอันตรายกับทารกในครรภ์ ท่านคงจำสลับกับยาต้านไทรอยด์เช่นยาพีทียู.(PTU) และยาเมทิมาโซล (methimazole) ผมขอพูดถึงด้วยเสียเลยเผื่อแฟนบล้อกที่เป็นไฮเปอร์ไทรอยด์ที่ต้องกินยาพวกนี้แล้วตั้งท้อง เพราะเคยมีรายงานทางระบาดวิทยาและรายงานเคสผู้ป่วยไม่กี่รายว่าการกินยานี้สัมพันธ์กับการเกิดความพิการของทารกในครรภ์ ทำให้แม้แต่หมอก็เกิดความกลัวยาเมทิมาโซลกันทั่วไป แต่ว่ามันเป็นความกลัวแบบคนกลัวผี ไม่เคยมีใครเห็นผีจริงๆสักคน กล่าวคือหลักฐานทั้งสองแบบ (งานวิจัยระบาดวิทยาและรายงานเคสผู้ป่วย) นี้ ไม่ใช่หลักฐานที่จะเอามาบอกได้ว่าอะไรทำให้เกิดอะไร หมายความว่าไม่ใช่หลักฐานที่ปรักปรำได้ว่ายาเมทิมาโซลทำให้ทารกพิการ อาจเป็นแค่ว่าการพบทารกพิการร่วมกันการใช้ยาเมทิมาโซลนั้นเป็นความฟลุ้คที่สองอย่างมาจ๊ะเกิดในคนๆเดียวกันโดยบังเอิญโดยที่ทั้งสองอย่างนั้นไม่มีผลต่อกันเลย อธิบายอย่างนี้จะรู้เรื่องไหมเนี่ย ไม่รู้เรื่องก็ไม่เป็นไร ผ่านไปก่อน ต่อมาได้มีการทำวิจัยแบบแบ่งกลุ่มเปรียบเทียบแบบตามดูไปข้างหน้า (cohort study) ซึ่งเป็นหลักฐานระดับสูงกว่าเชื่อถือได้มากกว่า โดยเอาหญิงตั้งครรภ์ที่กินยาเมทิมาโซล 241 คน มาติดตามดูเปรียบเทียบกับหญิงตั้งครรภที่กินยาอื่นที่รู้แน่ชัดว่าไม่มีผลต่อทารกในครรภ์รวมทั้งยาพีทียู. จำนวน 1089 คน ผลปรากฎว่าทั้งสองกลุ่มมีอัตราการเกิดทารกพิการไม่แตกต่างกันเลย นั่นหมายความว่าหลักฐานที่สูงกว่านี้บ่งชี้ว่ายาเมทิมาโซลไม่ได้ทำให้เกิดความพิการของทารกในครรภ์มากไปกว่าความพิการตามความฟลุ้คหรือตามดวง ต่อมาก็มีงานวิจัยอีกสองชุดที่ทำการวิจัยเปรียบเทียบแบบย้อนหลัง (retrospective study) ก็ไม่พบว่าการกินยาเมทิมาโซลทำให้ทารกพิการเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด แล้วก็มีอีกงานวิจัยหนึ่งเปรียบเทียบความเสี่ยงของการเกิดไฮโปไทรอยด์ในเด็กทารกที่แม่กินยาเมทิมาโซลเทียบกับแม่ที่กินยาโพรพิลไทโอยูราซิลหรือพีทียู. (PTU) ก็พบว่าโอกาสเกิดความพิการไม่แตกต่างกันเช่นกัน กล่าวโดยสรุป ยาไทรอยด์ ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมนไทรอยด์ หรือยาต้านไทรอยด์ ไม่มีผลก่อความพิการต่อทารกในครรภ์แต่อย่างใดทั้งสิ้น
การเป็นโรคไทรอยด์แล้วไม่กินยานั่นแหละที่มีผลต่อทารก กล่าวคือถ้าเป็นไฮโปไทรอยด์ก็จะทำให้ลูกเป็นคนสึ่งตึงอย่างที่เล่าไปแล้ว ถ้าเป็นไฮเปอร์ไทรอยด์ก็จะทำให้เกิดปัญหากับการตั้งครรภ์และการคลอดสาระพัดแบบ รวมทั้งการตายขณะคลอด คลอดมาน้ำหนักน้อย คลอดมาเป็นคอหอยพอก หรือเป็นไฮโปไทรอยด์ ดังนั้นแม่ที่เป็นโรคของต่อมไทรอยด์ไม่ว่าแบบไฮโปหรือไฮเปอร์แม้ขณะตั้งครรภก็ต้องกินยาต่อเนื่อง ห้ามหยุดยาเด็ดขาด
พูดถึงความกลัวยาเมทิมาโซลของแพทย์นี้ลามไปถึงหมอเด็กนู่นเลยนะ คือกลัวว่าแม่กินยาเมทิมาโซลแล้วให้ลูกดูดนมลูกจะกลายเป็นเด็กสึ่งตึง ซึ่งเป็นความกลัวที่ไร้สาระ หลักฐานวิทยาศาสตร์มีอยู่ว่าเป็นความจริงที่เมื่อตามไปตรวจดูน้ำนมแม่แล้วพบว่ายาพีทียู.และเมทิมาโซลออกไปอยู่ในน้ำนมแม่ (พีทียู.ออกไปน้อยกว่า) แต่งานวิจัยเปรียบเทียบแม่ที่กินยาเมทิมาโซลด้วยให้นมลูกด้วยจำนวน 139 คนก็ไม่พบว่าลูกของแม่ที่กินยาเมทิมาโซลด้วยให้นมบุตรด้วยจะมีปัญหาในเรื่องพัฒนาการของเด็กหรือง่าวเอ๋อแต่อย่างใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าให้ยาในขนาดที่ต่ำกว่า 20 มก.ต่อวันนั้นไม่ได้ทำให้ทารกเป็นไฮโปไทรอยด์แน่นอน
2. ถามว่าขณะตั้งท้อง ต้องกินยาไทรอยด์ไปตลอดจนคลอดใช่ไหม ตอบว่า ก็ใช่อะสิครับ ถ้าคุณไม่อยากให้ลูกของคุณถูกหลอกให้กินยาหมูตุ้ย อย่าลืมว่าคุณเป็นแม่คนแล้วนะ ภาระกิจหลักของคุณคือการปกป้องลูกไม่ให้เป็นคนง่าว คนเอ๋อ คนสึ่งตึง ดังนั้นคุณต้องตั้งใจกินยาไปจนคลอด
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
บรรณานุกรม
1. Martínez-Frías ML, Cereijo A, Rodríguez-Pinilla E, Urioste M. Methimazole in animal feed and congenital aplasia cutis. Lancet. 1992;339(8795):742–3.
2. Clementi M, Di Gianantonio E, Pelo E, Mammi I, Basile RT, Tenconi R. Methimazole embryopathy: delineation of the phenotype. Am J Med Genet. 1999;83(1):43–6.
3. Valdez RM, Barbero PM, Liascovich RC, De Rosa LF, Aguirre MA, Alba LG. Methimazole embryopathy: a contribution to defining the phenotype. Reprod Toxicol. 2007;23(2):253–5. Epub 2006 Nov 28.
4. Barbero P, Ricagni C, Mercado G, Bronberg R, Torrado M. Choanal atresia associated with prenatal methimazole exposure: three new patients. Am J Med Genet A. 2004;129A(1):83–6.
5. Di Gianantonio E, Schaefer C, Mastroiacovo PP, Cournot MP, Benedicenti F, Reuvers M, et al. Adverse effects of prenatal methimazole exposure. Teratology. 2001;64(5):262–6.
6. Momotani N, Ito K, Hamada N, Ban Y, Nishikawa Y, Mimura T. Maternal hyperthyroidism and congenital malformation in the offspring. Clin Endocrinol (Oxf) 1984;20(6):695–700.
7. Wing DA, Millar LK, Koonings PP, Montoro MN, Mestman JH. A comparison of propylthiouracil versus methimazole in the treatment of hyperthyroidism in pregnancy. Am J Obstet Gynecol. 1994;170(1 Pt 1):90–5.
8. Marchant B, Brownlie BE, Hart DM, Horton PW, Alexander WD. The placental transfer of propylthiouracil, methimazole and carbimazole. J Clin Endocrinol Metab. 1977;45(6):1187–93.
9. Azizi F, Khoshniat M, Bahrainian M, Hedayati M. Thyroid function and intellectual development of infants nursed by mothers taking methimazole. J Clin Endocrinol Metab. 2000;85(9):3233–8.
10. Azizi F, Hedayati M. Thyroid function in breast-fed infants whose mothers take high doses of methimazole. J Endocrinol Invest. 2002;25(6):493–6.
หนูผ่าตัด CA Thyroid ไปเมื่อวันที่ 9 พ.ค.2556 และกลืนแร่ ไปเมื่อวันที่ 9 ส.ค.2556 ตอนนี้หนูตั้งครรภ์ได้ 6 เดือนแล้วค่ะ หนูปรึกษากับหมอที่รักษาหนูแล้วค่ะ หมอบอกว่าสามารถตั้งครรภ์ได้ และตอนปลายเดือน พ.ย.2559 หมอปรับยาให้หนูใหม่ เนื่องจากแคลเซียมต่ำ (ยาที่กินอยู่เป็นประจำ)ยาแอลฟ่าแคลซิดลอล0.25มคก(ALFACALCIDOL) กิน 1 เม็ด เช้า ยาแคลเซียมคาร์บอเนต600มก(CALCIUM CO3) กิน 3 เม็ด 4 เวลา เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน(เคยกิน 2 เม็ด 4 เวลา) และยาเอลทรอกซิน 0.1 มก(ELTROXIN) 1 เม็ด ก่อนอาหารเช้า และเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2560 หนูไปหาหมอตามนัด แต่กลับไม่เจอหมอคนที่ผ่าตัดให้หนู หมอย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วค่ะ เจอหมอคนใหม่ หนูบอกว่าหนูตั้งครรภ์อยู่ เขาบอกหนูว่า ทำไมปล่อยให้ท้อง รู้ไหมว่ามีโรคประจำตัว เขาเลยบอกให้หนูมาคุยกับหมอที่หนูฝากท้อง เขาบอกว่ากลัวมีผลกระทบกับเด็ก หนูเครียดมาก หนูก็เลยไปเจาะเลือดที่โรงพยาบาล ผลเลือดวันที่ 4 ก.ค.60 free T4 = 0.761 , TSH = 75.72 , Free T3 = 1.56 และ แคลเซียม 9.13 หนูก็เลยเอาไปให้หมอใกล้บ้านที่หนูเคยรักษาดู หมอเลยปรับยาให้ใหม่ ยาแอลฟ่าแคลซิดลอล0.25มคก(ALFACALCIDOL) กิน 1 เม็ด เช้า ยาแคลเซียมคาร์บอเนต600มก(CALCIUM CO3) กิน 3 เม็ด 4 เวลา เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน และยาเอลทรอกซิน 0.1 มก(ELTROXIN) 1 เม็ดครึ่ง ก่อนอาหารเช้า(เคยกิน 1 เม็ดเช้า) และหมอนัดเจาะเลือดใหม่ ผลเลือดวันที่ 15 ส.ค.2560 หลังจากที่ปรับยาไทรอยด์แล้วค่ะ free T4 = 1.21 , TSH = 3.01 ,Free T3 = 2.06 และ แคลเซียม 9.30 ค่ะ
หนูอยากทราบว่า
1. ยาที่หนูกินอยู่ทั้ง แคลเซียม ไทรอยด์ และวิตามินดี มีผลต่อลูกในท้องไหมค่ะ โดยเฉพาะยาไทรอยด์ค่ะ เห็นเภสัชที่ รพ.ที่หนูไปรับยาถามว่าทำไมหมอไม่ให้หยุดยาไทรอยด์ หนูเลยบอกว่า ถ้าหนูหยุดยาไทรอยด์ ไทรอยด์หนูจะต่ำค่ะ หนูกลัวมากเลยค่ะ ไม่รู้จะปรึกษาใครค่ะ แต่หนูเคยอาจเพจของคุณหมอ หนูเลยคิดว่ายาไทรอยด์ไม่มีผลต่อเด็กค่ะ
2.ขณะหนูตั้งท้อง หนูต้องกินยาไทรอยด์ไปตลอดจนคลอดใช่ไหมค่ะ
....................................................................
ตอบครับ
1. ถามว่ายาที่กินทั้งแคลเซียม ฮอร์โมนไทรอยด์ และวิตามินดี.มีผลต่อทารกในครรภ์ใหม ตอบว่า "ไม่มี" ครับ การที่เภสัชกรที่รพ.บอกว่ายาฮอร์โมนไทรอยด์มีผลต่อเด็กนั้น ท่านคงจะเข้าใจข้อมูลผิดไป หรือท่านอาจจะจำยาสับสน ยาฮอร์โมนไทรอยด์ (Eltroxin)นั้น ในทำเนียบพิษยาเขาจัดเป็นยา category A แปลว่ามีความปลอดภัยต่อทารกในครรภ์สูงสุดคือ 100% การไม่กินยาต่างหากที่จะมีผลต่อทารกในครรภ์ เพราะหากขาดฮอร์โมนไทรอยด์ทารกในครรภ์จะกลายเป็นคนง่าว คนเอ๋อ คนสึ่งตึง คุณรู้จักคำสามคำนี้ไหม มันแปลได้ความหมายเดียวกัน ผมจะอธิบายคำแปลด้วยเพลงคำเมืองเหนือที่ผมชอบร้องตอนผมเป็นเด็กหนุ่มๆนะ
"...เขาว่าตัวอ้าย เป็นคนสึ่งตึง
มีสองสลึง ป๋ายแถมซาวห้า
คิดๆขึ้นมา ใคร่หุย กินยาหมูตุ้ย ตะวา
เปิ้นจุ๊อ้ายว่า มีวิตามิน..."
แปลเป็นภาษาไทยภาคกลางได้ความว่า
"...เขาว่าตัวพี่นี้เป็นคนปัญญาทึบ
มีสองสลึง บวกอีกยี่สิบห้าสะตางค์ ก็แปลว่าเป็นคนสามสลึง หรือไม่เต็มบาทนะแหละจ๊ะ
คิดๆขึ้นมามันน่าร้องไห้ เมื่อวานนี้พี่กินยาหมูอ้วนไป
เขาหลอกพี่ว่ามันมีวิตามิน...อะจ๊าก..ก"
แคว่ก แคว่ก แคว่ก ตะแล้น ตะแล้น ตะแล้น
ขอโทษ เผลอนอกเรื่อง กลับมาเข้าเรื่องดีกว่า ที่เภสัชกรของคุณบอกว่ายาไทรอยด์มันอันตรายกับทารกในครรภ์ ท่านคงจำสลับกับยาต้านไทรอยด์เช่นยาพีทียู.(PTU) และยาเมทิมาโซล (methimazole) ผมขอพูดถึงด้วยเสียเลยเผื่อแฟนบล้อกที่เป็นไฮเปอร์ไทรอยด์ที่ต้องกินยาพวกนี้แล้วตั้งท้อง เพราะเคยมีรายงานทางระบาดวิทยาและรายงานเคสผู้ป่วยไม่กี่รายว่าการกินยานี้สัมพันธ์กับการเกิดความพิการของทารกในครรภ์ ทำให้แม้แต่หมอก็เกิดความกลัวยาเมทิมาโซลกันทั่วไป แต่ว่ามันเป็นความกลัวแบบคนกลัวผี ไม่เคยมีใครเห็นผีจริงๆสักคน กล่าวคือหลักฐานทั้งสองแบบ (งานวิจัยระบาดวิทยาและรายงานเคสผู้ป่วย) นี้ ไม่ใช่หลักฐานที่จะเอามาบอกได้ว่าอะไรทำให้เกิดอะไร หมายความว่าไม่ใช่หลักฐานที่ปรักปรำได้ว่ายาเมทิมาโซลทำให้ทารกพิการ อาจเป็นแค่ว่าการพบทารกพิการร่วมกันการใช้ยาเมทิมาโซลนั้นเป็นความฟลุ้คที่สองอย่างมาจ๊ะเกิดในคนๆเดียวกันโดยบังเอิญโดยที่ทั้งสองอย่างนั้นไม่มีผลต่อกันเลย อธิบายอย่างนี้จะรู้เรื่องไหมเนี่ย ไม่รู้เรื่องก็ไม่เป็นไร ผ่านไปก่อน ต่อมาได้มีการทำวิจัยแบบแบ่งกลุ่มเปรียบเทียบแบบตามดูไปข้างหน้า (cohort study) ซึ่งเป็นหลักฐานระดับสูงกว่าเชื่อถือได้มากกว่า โดยเอาหญิงตั้งครรภ์ที่กินยาเมทิมาโซล 241 คน มาติดตามดูเปรียบเทียบกับหญิงตั้งครรภที่กินยาอื่นที่รู้แน่ชัดว่าไม่มีผลต่อทารกในครรภ์รวมทั้งยาพีทียู. จำนวน 1089 คน ผลปรากฎว่าทั้งสองกลุ่มมีอัตราการเกิดทารกพิการไม่แตกต่างกันเลย นั่นหมายความว่าหลักฐานที่สูงกว่านี้บ่งชี้ว่ายาเมทิมาโซลไม่ได้ทำให้เกิดความพิการของทารกในครรภ์มากไปกว่าความพิการตามความฟลุ้คหรือตามดวง ต่อมาก็มีงานวิจัยอีกสองชุดที่ทำการวิจัยเปรียบเทียบแบบย้อนหลัง (retrospective study) ก็ไม่พบว่าการกินยาเมทิมาโซลทำให้ทารกพิการเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด แล้วก็มีอีกงานวิจัยหนึ่งเปรียบเทียบความเสี่ยงของการเกิดไฮโปไทรอยด์ในเด็กทารกที่แม่กินยาเมทิมาโซลเทียบกับแม่ที่กินยาโพรพิลไทโอยูราซิลหรือพีทียู. (PTU) ก็พบว่าโอกาสเกิดความพิการไม่แตกต่างกันเช่นกัน กล่าวโดยสรุป ยาไทรอยด์ ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมนไทรอยด์ หรือยาต้านไทรอยด์ ไม่มีผลก่อความพิการต่อทารกในครรภ์แต่อย่างใดทั้งสิ้น
การเป็นโรคไทรอยด์แล้วไม่กินยานั่นแหละที่มีผลต่อทารก กล่าวคือถ้าเป็นไฮโปไทรอยด์ก็จะทำให้ลูกเป็นคนสึ่งตึงอย่างที่เล่าไปแล้ว ถ้าเป็นไฮเปอร์ไทรอยด์ก็จะทำให้เกิดปัญหากับการตั้งครรภ์และการคลอดสาระพัดแบบ รวมทั้งการตายขณะคลอด คลอดมาน้ำหนักน้อย คลอดมาเป็นคอหอยพอก หรือเป็นไฮโปไทรอยด์ ดังนั้นแม่ที่เป็นโรคของต่อมไทรอยด์ไม่ว่าแบบไฮโปหรือไฮเปอร์แม้ขณะตั้งครรภก็ต้องกินยาต่อเนื่อง ห้ามหยุดยาเด็ดขาด
พูดถึงความกลัวยาเมทิมาโซลของแพทย์นี้ลามไปถึงหมอเด็กนู่นเลยนะ คือกลัวว่าแม่กินยาเมทิมาโซลแล้วให้ลูกดูดนมลูกจะกลายเป็นเด็กสึ่งตึง ซึ่งเป็นความกลัวที่ไร้สาระ หลักฐานวิทยาศาสตร์มีอยู่ว่าเป็นความจริงที่เมื่อตามไปตรวจดูน้ำนมแม่แล้วพบว่ายาพีทียู.และเมทิมาโซลออกไปอยู่ในน้ำนมแม่ (พีทียู.ออกไปน้อยกว่า) แต่งานวิจัยเปรียบเทียบแม่ที่กินยาเมทิมาโซลด้วยให้นมลูกด้วยจำนวน 139 คนก็ไม่พบว่าลูกของแม่ที่กินยาเมทิมาโซลด้วยให้นมบุตรด้วยจะมีปัญหาในเรื่องพัฒนาการของเด็กหรือง่าวเอ๋อแต่อย่างใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าให้ยาในขนาดที่ต่ำกว่า 20 มก.ต่อวันนั้นไม่ได้ทำให้ทารกเป็นไฮโปไทรอยด์แน่นอน
2. ถามว่าขณะตั้งท้อง ต้องกินยาไทรอยด์ไปตลอดจนคลอดใช่ไหม ตอบว่า ก็ใช่อะสิครับ ถ้าคุณไม่อยากให้ลูกของคุณถูกหลอกให้กินยาหมูตุ้ย อย่าลืมว่าคุณเป็นแม่คนแล้วนะ ภาระกิจหลักของคุณคือการปกป้องลูกไม่ให้เป็นคนง่าว คนเอ๋อ คนสึ่งตึง ดังนั้นคุณต้องตั้งใจกินยาไปจนคลอด
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
บรรณานุกรม
1. Martínez-Frías ML, Cereijo A, Rodríguez-Pinilla E, Urioste M. Methimazole in animal feed and congenital aplasia cutis. Lancet. 1992;339(8795):742–3.
2. Clementi M, Di Gianantonio E, Pelo E, Mammi I, Basile RT, Tenconi R. Methimazole embryopathy: delineation of the phenotype. Am J Med Genet. 1999;83(1):43–6.
3. Valdez RM, Barbero PM, Liascovich RC, De Rosa LF, Aguirre MA, Alba LG. Methimazole embryopathy: a contribution to defining the phenotype. Reprod Toxicol. 2007;23(2):253–5. Epub 2006 Nov 28.
4. Barbero P, Ricagni C, Mercado G, Bronberg R, Torrado M. Choanal atresia associated with prenatal methimazole exposure: three new patients. Am J Med Genet A. 2004;129A(1):83–6.
5. Di Gianantonio E, Schaefer C, Mastroiacovo PP, Cournot MP, Benedicenti F, Reuvers M, et al. Adverse effects of prenatal methimazole exposure. Teratology. 2001;64(5):262–6.
6. Momotani N, Ito K, Hamada N, Ban Y, Nishikawa Y, Mimura T. Maternal hyperthyroidism and congenital malformation in the offspring. Clin Endocrinol (Oxf) 1984;20(6):695–700.
7. Wing DA, Millar LK, Koonings PP, Montoro MN, Mestman JH. A comparison of propylthiouracil versus methimazole in the treatment of hyperthyroidism in pregnancy. Am J Obstet Gynecol. 1994;170(1 Pt 1):90–5.
8. Marchant B, Brownlie BE, Hart DM, Horton PW, Alexander WD. The placental transfer of propylthiouracil, methimazole and carbimazole. J Clin Endocrinol Metab. 1977;45(6):1187–93.
9. Azizi F, Khoshniat M, Bahrainian M, Hedayati M. Thyroid function and intellectual development of infants nursed by mothers taking methimazole. J Clin Endocrinol Metab. 2000;85(9):3233–8.
10. Azizi F, Hedayati M. Thyroid function in breast-fed infants whose mothers take high doses of methimazole. J Endocrinol Invest. 2002;25(6):493–6.