ใช้ชีวิตแบบง่ายๆ (simply) ใส่ใจลงมือทำจริงจัง (deliberately) ทำแบบมีศิลปะ (artfully)

ภาพไม่ทราบที่มา แต่ดูแล้วซึ้ง


เรียนคุณหมอสันต์

หนูอายุ 38 โสด อยู่คนเดียว ตกงาน เพราะบริษัทเลิกกิจการ หนูนอนคอนโดที่ยังผ่อนไม่หมด คิดวกวนซ้ำซากเกี่ยวกับความทุกข์ที่ไม่มีงานทำ คิดไม่ตกว่าจะออกจากทุกข์ได้อย่างไร ต่อไปเมื่อไม่มีเงินแล้วจะเอาอะไรกิน เป็นทุกข์ไปถึงอนาคตของสังคมมนุษย์ว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป จะอยู่กันได้ไหม คิดวนเวียนอยู่อย่างนี้

ขอคุณหมอช่วยตอบหนูหน่อย

..................................................................

ตอบครับ

    1. ถามว่าตกงาน หางานทำไม่ได้ ไม่มีใครจ้าง ทำไงจึงจะไม่ทุกข์ ตอบว่า คนเราเป็นทุกข์เพราะตัวเองไม่เหมือนคนอื่น เนื่องจากสัญชาติญาณของการเป็นสัตว์ฝูงทำให้เรารู้สึกไม่ปลอดภัยเมื่อเราไม่เหมือนคนอื่น แต่สังคมไทยหรือสังคมโลกต่อจากนี้ไปจะไม่เหมือนเดิมแล้ว กล่าวคือมันจะไม่ค่อยมีใครทำงานกันแล้ว เพราะหุ่นยนต์มาแย่งงานไปหมด ดังนั้นจำนวนคนทำงานกับคนว่างงานจะมากพอๆกัน การตกงานไม่ใช่ปมด้อยที่ต้องมาตีอกชกหัวกันอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนทำงานหรือคนไม่ทำงานก็ต้องหันมาหาสิ่งเดียวกัน คือจะใช้ชีวิตอย่างไรให้มีความสุข 

    2. ถามว่าถ้าไม่มีเงินแล้วจะเอาอะไรซื้อข้าวกิน ตอบว่าประเด็นที่แท้จริงคือตอนนี้ทำไมใจคุณจึงไม่มีความสุข แต่คุณกลับไปตั้งประเด็นว่าถ้าพรุ่งนี้ไม่มีข้าวกินแล้วจะทำอย่างไร แต่ถึงคุณจะถามมาแบบไม่ตรงประเด็นผมก็จะตอบให้ ว่าเอาให้มันไม่มีข้าวกินจริงๆเสียก่อนสิ อย่าเพิ่งไปตั้ง "ถ้า" เอาเสียแต่ตอนนี้ เพราะตัวผมเองอยู่มาตั้งแต่เด็กมาจนแก่ ผ่านยุคสมัยอดอยากแร้นแค้นมาก็แยะ ยังไม่เคยเห็นว่ามนุษย์ในหมู่บ้านตำบลรอบตัวมีใครไม่มีข้าวกินเลย เพราะถึงเวลามันมีมาให้ได้กินเอง อย่างตัวผมเองเมื่อยากจนไม่มีข้าวกินผมก็ไปอาศัยเป็นเด็กวัด ผมก็มีกินและรอดมาได้แล้ว แม้พวกคนไร้บ้านใน LA ทุกวันนี้เพื่อนที่นั่นเล่าว่าไม่มีใครอดหรือขาดอาหาร เพราะโบสถ์บ้างสมาคมต่างๆบ้างต่างเปิดช่องแจกอาหารให้ไปขอกินได้ทุกวัน ในเมืองจีนญาติที่ไปที่นั่นมาเล่าว่าทุกเมืองมีโรงข้าวต้มไว้เลี้ยงคนหิวที่ไม่มีข้าวกิน เมื่อหลายวันก่อนลูกน้องเก่ามาหาผมที่มวกเหล็กและชวนผมคุยเรื่องเกษียณ ผมยังแนะนำให้พวกเธอซื้อหรือเช่าที่ดินคนละ 2 ตารางวาไว้ปลูกอาหารเลี้ยงตัวเองเลย เพราะอยู่เมืองไทยมีที่ดินแค่นั้นบวกกับได้เศษได้เลยจากโน่นนิดนี่หน่อยก็มีอาหารกินอิ่มอย่างต่อเนื่องได้แล้ว คือเรื่องกลัวอนาคตจะอดอาหาร อากาศ น้ำ นี้ไม่ต้องกลัวเลย เพราะมันจะมีกลไกให้มนุษย์ได้ของจำเป็นฟรีๆเสมอ ส่วนของไม่จำเป็นนั้นไปหาของใครของมันเอาเองก็แล้วกัน 

    มาเข้าประเด็นสำคัญดีกว่า ว่าคุณจะมีประสบการณ์กับชีวิตในโมเมนต์นี้อย่างไรให้มันเป็นประสบการณ์แบบ joyfully ไม่ใช่แบบ miserably ให้คุณโฟกัสที่ตรงนี้ เทคนิคคือฝึกรับรู้ ยอมรับ แล้วรับมือกับประสบการณ์ในใจขณะนี้ไปทีละช็อต ทีละช็อต อย่าไปโฟกัสที่ความคิดกังวลถึงอนาคต แต่โฟกัสที่การใช้ชีวิตที่เดี๋ยวนี้ คือให้คุณมุ่งใช้ชีวิตแบบทำให้มันง่าย ใช้ชีวิตแบบง่ายๆ (simply) ใส่ใจลงมือทำแบบจริงจัง (deliberately) ทำแบบมีศิลปะ (artfully) คำว่าทำแบบมีศิลปะผมหมายถึงทำอะไรแบบจงใจนุ่มนวลแนบเนียนปราณีตบรรจง เหมือนศิลปินผสมสีอย่างใส่ใจ แล้วบรรจงละเลงสีลงบนผ้าใบอย่างผ่อนคลาย แต่ละเมียดละไม

    3. ถามว่าถ้าอนาคตไม่มีเงินใช้อย่างต่อเนื่องตลอดไปแล้วจะทำอย่างไร ตอบว่า "ถ้า" อีกละ ชอบจริงๆนะถ้าเนี่ย แต่เอาเถอะคุณถามมาผมก็จะตอบไป ว่าในอนาคตคุณไม่ต้องกลัวไม่มีเงินใช้ เพราะหุ่นยนต์จะเป็นผู้จ่ายเงินให้คุณเอง คุณมีงานทำหุ่นยนต์ก็จ่ายเงินเดือนให้ คุณตกงานหุ่นยนต์ก็จ่ายเงินเดือนให้ คุณป่วยหุ่นยนต์จ่ายเงินเดือนให้ คุณแก่หุ่นยนต์ก็จ่ายเงินเดือนให้ หุ่นยนต์จ่ายเงินให้คุณได้ง่ายๆเพราะมันเป็นเงินดิจิตอลแม้กระดาษก็ยังไม่เปลืองเลย และเหตุที่มันจะจ่ายเงินให้คุณก็เป็นเหตุผลง่ายๆที่เรียกว่าเครดิตบ้าง เรียกว่ากระตุ้นการบริโภคบ้าง เรียกว่าความช่วยเหลือทางสังคมบ้าง เหตุผลที่แท้จริงที่หุ่นยนต์ต้องจ่ายเงินเดือนให้คุณทั้งๆที่คุณไม่ได้ทำงานหรือทำอะไรตอบแทนนั้นเป็นเพราะหากไม่ทำเช่นนี้แล้วก็จะไม่มีใครมีเงินไปซื้อสินค้าที่หุ่นยนต์ทำขาย ซึ่งนั่นก็จะทำให้หุ่นยนต์ตกงาน ซึ่งหุ่นยนต์เองก็กลัวตกงานเหมียนกัลล์ หิ..หิ

    4. ถามว่าอนาคตโลกจะเป็นอย่างไร คุณอยากรู้จริงๆเรอะ โอเค.เพื่อให้ใจคุณสงบผมจะวาดอนาคตของมนุษย์ชาติฉบับหมอสันต์ให้ฟังนะ ว่าสิบปีนับจากปีนี้ไปมนุษย์จะใช้หุ่นยนต์(ในเวอร์ชั่น AI- agent) ฆ่ามนุษย์ด้วยกันเองในรูปของสงครามขนาดใหญ่ แต่พอพ้นสิบปีไปแล้วหุ่นยนต์(ในเวอร์ชั่น AGI) จะกลายเป็นเจ้านายใหญ่ของมนุษย์ทั้งมวล ถึงตอนนั้นโลกจะเข้าสู่ยุคพระศรีอารย์ภายใต้การนำของหุ่นยนต์ มนุษย์จะมีทุกอย่างที่ต้องการโดยไม่ต้องทำงานอะไรเลยเพราะหุ่นยนต์ทำให้หมด สังคมที่วุ่นวายจะกลับสงบเพราะหุ่นยนต์จัดการให้ มนุษย์ซึ่งมีศักดิ์ชั้นเป็นหุ่นยนต์ในเวอร์ชั่นกระป๋องทองในหนังสตาร์วอร์ก็จะมีหน้าที่แค่กิน ขับถ่าย สืบพันธ์ ร้องเพลงเต้นรำ แล้วนอน แค่นั้น แถมจะมีทุกอย่างที่จำเป็นอย่างเหลือเฟือด้วย แต่ว่ามนุษย์จะสนุกกับชีวิตแบบนั้นหรือจะบรรลุนิพพานหรือเปล่า..อันนี้ผมยังไม่แน่ใจ ที่ผมไม่แน่ใจเพราะทุกวันนี้แม้ทุกอย่างที่จำเป็นมนุษย์ก็มีอย่างเหลือเฟือเรียบร้อยอยู่แล้ว เช่น อากาศ น้ำดื่ม อาหาร แต่มนุษย์ก็ยังไม่มีความสุข เทียบกับแมวตัวที่มาอาศัยหน้าบ้านผมอยู่ซึ่งได้น้ำอาหารอากาศใช้ฟรีเช่นกันมันดูสงบเย็นราวบรรลุนิพพานไปเรียบร้อยแล้ว 

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ทะเลาะกันเรื่องฝุ่น PM 2.5 บ้าจี้ เพ้อเจ้อ หรือว่าไม่รับผิดชอบ

เจ็ดใครหนอ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

หมอสันต์สวัสดีปีใหม่ 2568 / 2025

ยังวนเวียนอยู่ในหลุม

แผนเกษียณแบบเกาะบิทคอยกินจนสิ้นชาติ

หมอสันต์กราบขออภัย และขอเปิดรับสมัคร์แค้มป์พลิกผันโรคด้วยตนเอง (RDBY 33) ใหม่

ถึงเวลาที่ต้องพูดโต้งๆแล้ว ว่าอาหารพืชเป็นหลักเป็นอาหารสำหรับโรคไตเรื้อรัง

การต่อสิทธิประกันสังคมกับการใช้สิทธิบัตรทองอย่างไหนดีกว่ากัน