อย่าไปสับสนว่าความสมบูรณ์พูนสุข (wealth) กับเงิน (money) เป็นเรื่องเดียวกันนะ

(ภาพวันนี้: เทียนหยด เมื่อต้นหนาว)

กราบเรียนคุณลุงหมอ

หนูไปลงเรียนคอร์ส … กับ … ซึ่งเขาสอนวิธีทำธุรกิจให้รวย เขาบอกว่าเงินทองความมั่งคั่งมันมีอยู่ไม่จำกัด เราไม่ต้องไปแย่งกับใคร เราคิดว่ามันมีไม่จำกัดและมันจะมาหาเรามันก็จะมา เราคิดและเชื่อว่าจะรวยเราก็จะรวย

จริงอย่างนั้นหรือคะคุณลุงหมอ โดยเฉพาะที่ว่าเงินมันมีอยู่ไม่จำกัดไม่ต้องไปแย่งกับใคร

…………………………………………………………….

ตอบครับ

มาอีกละ พวกนิยมทฤษฎีกฎแรงโน้มถ่วง เอ๊ย..ไม่ใช่ กฎแรงดึงดูด ส่วนใหญ่จะเป็นพวกวัยยี่สิบสามสิบ แต่ผมจะตอบจดหมายอารมณ์นี้บ้างนานๆครั้งเพื่อแก้เบื่อ สำหรับท่านผู้อ่านขาประจำที่ไม่ชอบเรื่องเพี้ยนๆก็ผ่านไปก่อนก็ได้นะครับ

1.. ถามว่าจริงหรือที่ว่าโลกนี้มีเงินเหลือเฟือสำหรับทุกคน ชนิดที่ไม่จำเป็นต้องแย่งกัน หิ หิ ผมแต่งคำถามของคุณให้มันกว้างขึ้นนิดหนึ่ง ให้มีพื้นที่พอจะสวมโลกทัศน์ของหมอสันต์ลงได้ไหม คือผมขอแต่งใหม่ว่า

“จริงหรือที่ว่าโลกนี้มีความสมบูรณ์พูนสุขเหลือเฟือสำหรับทุกคน”

ตอบว่าจริงครับ เพราะโลกนี้หรือจักรวาลนี้โดยธรรมชาติเนื้อแท้ของมันก็เป็นเพียงแค่ศักยภาพความเป็นไปได้ที่ไม่มีขอบเขตจำกัด คำว่าศักยภาพ (potential) นี้ไม่ได้หมายความว่ามันต้องแสดงออกอย่างนั้นอย่างนี้เสมอไป มันย่อมขึ้นกับโอกาสหรือความน่าจะเป็น (probability) ในแต่ละฉากทัศน์ด้วย ยกตัวอย่างเช่นลูกแก้วมังกรเนื้อม่วงที่ผมเพิ่งผ่ากินลูกนี้ มันมีเมล็ดสีดำเล็กๆอยู่ภายในหนึ่งผลนี้แยะมาก แยะชนิดที่หากปลูกมาเป็นต้นแก้วมังกรกันจริงๆที่ดินทั้งมวกเหล็กวาลเลย์นี้อาจจะไม่พอปลูกด้วยซ้ำ นี่คือศักยภาพของแก้วมังกรผลนี้ที่จะเติบโตไปเป็นป่าแก้วมังกรได้หนึ่งป่าใหญ่ๆได้ ฉันใดก็ฉันเพล มนุษย์ทุกคนอัดแน่นด้วยศักยภาพที่จะเข้าถึงและขยายผลเอาพลังชีวิตของตนออกมาแสดงออกเป็นความสมบูรณ์พูนสุขของตนและของคนรอบข้างหรือแม้กระทั่งของโลกได้เยอะมาก คุณจะเรียกว่าไม่มีขีดจำกัดหรือ “เหลือเฟือ” ก็ไม่น่าจะผิด คือศักยภาพนั้นมีแน่ ขอเพียงแต่อย่าเอาสะเป๊คหรือกรอบความคิดที่ถูกครอบมาจากโรงงานผลิตมนุษย์ (อันได้แก่โรงเรียน ครอบครัว สังคม) มาปิดกั้นการแสดงออกของพลังงานชีวิตเสียตั้งแต่ยังไม่ทันได้งอกก็แล้วกัน เปรียบเหมือนแก้วมังกรผลนี้ พอมาเข้าปากผมแล้วอนาคตของมันก็คือถูกชักโครกลงบ่อเกรอะ ศักยภาพที่จะเป็นป่าแก้วมังกรได้ก็หมดลง

2.. ถามว่าอะไรเป็บเบาะแสที่จะเข้าถึงความสมบูรณ์พูนสุขที่ว่านี้ ตอบว่าก็พลังชีวิตของคุณไง ท่านผู้อ่านจำได้ไหมผมเคยแนะนำแฟนบล็อกนี้ท่านหนึ่งที่มีปัญหาหลงทิศหลงทางในการใช้ชีวิตว่าให้ตามตัวชี้นำเล็กซึ่งเป็นเบาะแสถึงพลังชีวิตที่จำเพาะสำหรับตัวเราไป ไม่ว่าจะเป็นความสุขเล็กๆ ความตื่นเต้นเล็กๆ ความอยากรู้เล็กๆ ความมหัศจรรย์เล็กๆ เป็นต้น ก็เพราะพลังชีวิตคือตัวกำหนดความสมบูรณ์พูนสุข (wealth) ในชีวิตที่แท้จริง แม้มนุษย์เรานี้มองเผินๆเหมือนกับว่าเราถูกหล่อมาจากโรงงาน (โรงเรียน ครอบครัว สังคม กฎหมาย) ว่าจะต้องคิดจะต้องทำจะต้องชอบอย่างนี้เหมือนกันหมด แต่ความจริงไม่ใช่ การหล่อหลอมเกิดขึ้นจริงแต่มันหล่อหลอมได้แค่ชั้นของความคิดหรือชั้นของคอนเซ็พท์ในใจซึ่งเป็นชั้นที่มีอายุสั้นมากหากคุณไม่รีไซเคิลมันซ้ำๆซากๆมันก็จะหมดฤทธิ์ทันที แต่พ้นไปจากความคิดซึ่งเป็นชั้นเบื้องตื้นนี้ เบื้องลึกของแต่ละชีวิตคือการแสดงออกของพลังชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับตัวเขา หรือพูดแบบเด็กวิทย์ก็คือเป็นย่านความถี่เฉพาะสำหรับแต่ละคน ซึ่งถ้าเขาได้เปิดให้พลังนั้นได้แสดงออกมาเขาก็จะท็อปฟอร์มในการเกิดมามีชีวิตครั้งหนึ่งนี้

3.. อย่าไปสับสนว่าความสมบูรณ์พูนสุข (wealth) กับเงิน (money) เป็นเรื่องเดียวกันนะ ถ้าคุณสับสนตรงนี้คุณจะกลายเป็นคนหิวเงินหรือบ้าเงินไปตลอดชาติไม่ว่าคุณจะมีเงินเท่าใดก็อาจจะไม่หายหิวไม่หายบ้า เพราะเงินเป็นเพียงสัญลักษณ์อย่างหนึ่งในหลายๆสัญญลักษณ์ของความสมบูรณ์พูนสุข ถ้าคุณเจาะจงไปวิ่งตามเอาที่เงิน มันมีโอกาสที่คุณอาจจะพลาดเป้าไม่ได้พบความสมบูรณ์พูนสุขเลย ตรงนี้สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแฟนบล็อกที่เป็นผู้ใหญ่แล้วและมีเงินมีทองมากแล้วทั้งหลาย แต่ถ้าคุณวิ่งไปตามเบาะแสของพลังชีวิตที่เบ่งบานในตัวคุณ อย่างไรคุณก็จะได้พบกับสมบูรณ์พูนสุขในชีวิตแน่นอน เพราะความสมบูรณ์พูนสุขในชีวิตก็คือนิยามของการมีพลังชีวิตมากมายเหลือเฟือนั่นเอง

4.. การที่เราอยากจะเป็นคนรวย จริงๆแล้วก็คือเราอยากมีความสุข ถูกแมะ ทำไมคุณไม่ลองมีความสุขกับสิ่งที่มีอยู่แล้วก่อนละครับ ลมหายใจนี่เป็นของที่มีอยู่แล้ว คุณลองหาความสุขกับมันหรือยัง เพราะมัน (ลมหายใจ) นี่แหละที่เป็นต้นกำเนิดของพลังชีวิตของคุณซึ่งจะสร้างความสมบูรณ์พูนสุงในชีวิตให้คุณ ของอย่างอื่นเช่น ดวงอาทิตย์ขึ้น ดวงอาทิตย์ตก พระจันทร์เต็มดวง น้ำค้างบนยอดหญ้าตอนเช้า เมฆไหลบนท้องฟ้า แสงแดดเมื่อสาดลงบนใบไม้แล้วเกิดแสงและเงาสลับกันอย่างซับซ้อนสวยงาม คุณเคยลองมองดูมันบ้างไหม หรือลองทำอะไรสักอย่างง่ายๆเช่นถอนหญ้าแห้วหมูในกระถางต้นไม้แบบใส่ใจทำอย่างจริงจังและละเมียดดูบ้างสิ หรือแม้กระทั่งน้ำประปาที่คุณอาบอยู่ทุกวัน คุณเคยสัมผัสความเย็นและความใสสะอาดของมันอย่างใส่ใจแล้วรับรู้ความสุขที่เกิดขึ้นบ้างไหม ลองของง่ายๆพวกนี้ดูก่อนไม่เสียหลาย เรียกว่าซ้อมมีความสมบูรณ์พูนสุขไว้โดยไม่ต้องรอให้มีเงิน ลองดูนะ

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

กินคีโตไข่ต้มไก่ต้มทุกวันแล้วหลอดเลือดหัวใจตีบ

ความแก่..เหมือนหมาถูกต้อนเข้ามุมให้จนตรอก

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

เปลี่ยนอาหาร ปั่นจักรยาน น้ำตาลลด ความดันลด แต่ไขมันทำไมไม่ลด

ท่านอายุเก้าสิบแล้วยังไม่รู้ แล้วท่านจะรู้มันไปทำพรื้อละครับ

สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตคนเราคือความเบิกบาน (Joy)

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

มะเร็งต่อมลูกหมากแพร่กระจายไปกระดูกขาแล้ว จะไปต่อไงดี