น้ำลายไหลยืด ต้องพกผ้าเช็ดหน้าตลอดเวลา
(ภาพวันนี้: ผึ้งกำลังพยายามกินเกษรดอกบานเช้า)
เรียนคุณหมอสันต์
ฉันอายุ 67 ปี ไม่เคยเป็นอัมพาตอัมพฤกษ์ มีปัญหาว่าน้ำลายไหลยืดจนต้องพกผ้าเช็ดหน้าไว้คอยซับตลอดเวลา มันเกิดจากอะไร และควรจะแก้ไขอย่างไร
…………………………………………..
ตอบครับ
ผมถือเป็นหลักกม. ทางสถิติว่าจดหมายของคุณซึ่งถามเรื่องน้ำลายไหลยืดเข้ามา เป็นกม.ที่บ่งบอกว่าสังคมแฟนบล็อกของหมอสันต์ได้กลายเป็น “สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด (Super-Aged Society)” โดยสมบูรณ์แล้ว เพราะคำถามแบบนี้ ถ้าไม่ใช่สูงอายุตัวจริงเสียงจริง ย่อมไม่ถามมาแน่นอน หิ หิ
มาตอบคำถามของคุณดีกว่า
1.. ถามว่าอายุมากแล้วน้ำลายไหลยืดเกิดจากอะไร ตอบว่าเกิดได้จากหลายสาเหตุดังนี้
1.1 กลไกระบบประสาทควบคุมกล้ามเนื้อใบหน้า โดยเฉพาะกล้ามเนื้อรอบปาก (orbicularis oris) เสียการทำงานไป เช่นในกรณีอัมพาตเฉียบพลัน โรคสมองพิการ โรคพาร์คินสัน เป็นต้น
1.2 มีเหตุให้น้ำลายไหลมากกว่าปกติ เช่นกินอาหารเป็นกรดมาก หรือกำลังตั้งครรภ์
1.3 กลไกการกลืนเสียหาย เช่นการสำรอกอาหารในโรคกรดไหลย้อน การติดเชื้อปากและคอ คออักเสบ ทอนซิลอักเสบ ไซนัสอักเสบ มะเร็งหลอดอาหาร
1.4 กล้ามเนื้อใบหน้าและรอบปากอ่อนแอและลีบลง จากการที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน เช่นอยู่คนเดียวนั่งๆนอนๆดูทีวีและแชทไลน์ทั้งวันไม่ได้พูดจาสื่อสารกับใคร
2.. ถามว่าควรแก้ปัญหาน้ำลายไหลยืดอย่างไร ตอบว่าน้ำลายไหลยืดถ้าเป็นในเด็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบไม่ต้องแก้เพราะเมื่อโตขึ้นจะหายเอง หรือถ้าเป็นในผู้ใหญ่ขณะนอนหลับก็ไม่ต้องแก้เพราะขณะหลับกล้ามเนื้อทุกมัดคลายตัวหากนอนในทางมุมปากอยู่ต่ำน้ำลายมันก็ไหลอยู่แล้ว แต่ถ้าไหลยืดทั้งๆที่ตื่นอยู่ ควรรักษาตัวเอง ดังนี้
2.1 ฝึกกล้ามเนื้อคุมการพูดและการกลืน ซึ่งเป็นหลักพื้นฐานของ speech therapy โดยมุ่งในสี่ประเด็นคือ (1) สร้างสติกำกับ (Awareness) ขณะใช้กล้ามเนื้อ (2) ฝึกการประสานงาน (coordination) ของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ (3) ฝึกความแข็งแรง(strength) ของกล้ามเนื้อ (4) ฝึกความอึดหรือทนทาน(endurance) ของกล้ามเนื้อ
ซึ่งมีกลุ่มกล้ามเนื้อที่ต้องฝึกสี่กลุ่ม คือ
2.1.1 กล้ามเนื้อลิ้น โดยการ (1) แลบลิ้น, (2) เลียรอบริมฝีปาก, (3) กระดกลิ้น
2.1.2 กล้ามเนื้อริมฝีปาก ด้วยการ (1) ปิดปากเป่าลมออกมาระหว่างริมฝีปากบนล่างเป็นเสียงเครื่องยนต์ บรื้อ..อ, (2) เม้มปากแน่นๆนานๆ, (3) ทำปากจู๋แบบจูบเสียงดังจุ๊บๆๆ, (4) เม้มปากแล้วพ่นลมออกมาเสียงดังปัง ปึ้ง
2.2.3 กล้ามเนื้อกราม ด้วยการ (1) อ้าปากแล้วโยกกรามล่างไปซ้าย, (2) โยกกรามล่างไปขวา, (3) อ้าปากกว้างค้างไว้นานๆ (4) กัดฟันแน่นๆนานๆ
2.2.4 กล้ามเนื้อแก้ม ด้วยการ (1) ปิดปากแล้วเป่าลมให้แก้มตุ่ย, (2) สลับกับปิดปากแล้วดูดลมให้แก้มบุ๋ม, (3) ยิ้มและยิงฟัน
3. ผ่อนคลายร่างกายและยิ้มที่มุมปากเป็นประจำ
4. ฝึกท่าร่างให้ศีรษะตั้งตรงอยู่เสมอ เพราะน้ำลายมักไหลในท่ากึ่งก้มหน้า
ฝึกพูดชัดถ้อยชัดคำดังๆ อ่านออกเสียงดังๆ ฝึกร้องเพลง
5. ฝึกกลืนน้ำลายอย่างตั้งใจ ฝึกกลืนเนียนๆเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น อาจใช้จิบน้ำช่วย
6. การใช้ยาลดน้ำลายเมื่อการฝึกไม่ได้ผล ยาที่ใช้เช่น Scopolamine (Transderm Scop) แปะผิว ออกฤทฺธิ์นาน 72 ชม. Glycopyrrolate (Robinul) และกรณีระยะสุดท้ายของชีวิต หมอนิยมใช้ยา Atropine sulfate หยดใส่ปาก
7. การผ่าตัดดึงกล้ามเนื้อเป็นมาตรการสุดท้ายเมื่อวิธีอื่นไม่ได้ผล
ทั้งหมดนี้คือหลักวิชา คุณเอาไปฝึกปฏิบัติดูเองนะครับ ไม่ต้องไปโรงพยาบาลหานักพูดบำบัดดอก ฝึกทำเองนั่นแหละดีที่สุด สูงอายุแล้วอย่ามีอะไรนิดก็จะหาหมอหาผู้ช่วย คิดแบบนั้นต้องไปซื้อคอนโดที่เขาขายข้างโรงพยาบาล ให้เอาแบบหมอสันต์ สูงอายุแล้วทำทุกอย่างที่อยากทำด้วยตัวเอง ทำไม่ได้ก็ฝึกเอา
สำหรับแฟนบล็อกที่น้ำลายยังไม่ไหลยืด อย่าเป็นปลื้มว่าจะไม่เป็น มันอาจจะยังสูงวัยไม่ได้ที่ ให้เริ่มฝึกกล้ามเนื้อเสียตอนนี้เป็นการป้องกันซึ่งง่ายกว่าการมารักษา
ส่วนสำหรับแฟนบล้อกผู้ชายที่เกิดอาการนี้ขณะดูคลิปที่เพื่อนชายด้วยกันส่งมาให้ ต้องไปใช้วิธีรักษาอีกแบบ คือให้เวลาดูคลิปให้นั่งใกล้ๆม. จะได้คุมประพฤติสะดวก หิ..หิ
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์