งานวิจัยการรำมวยจีน ไท้ชิ..ชี่กง
(ภาพวันนี้: อ่อมแซ่บ ความงามในความรกหลังบ้านเพื่อน)
คุณหมอสันต์ครับ
ผมอายุ 80 แล้ว ไม่เคย และไม่ชอบออกกำลังกาย อย่างดีก็ขับมอเตอร์ไซค์ไปนั่งกินกาแฟที่ร้านอาโกซึ่งรุ่นเดียวกัน แต่ตอนนี้รู้สึกว่าร่างกายมันไม่ค่อยนิ่ง มันสั่นๆโยกๆ คล้ายขามันไม่มีแรง จะยืนก็ต้องกางขาไว้ ลูกหลานก็สั่งให้ออกกำลังกายแต่ตัวพวกมันเองไม่เห็นมีใครออกกำลังกายสักคน อยากถามหมอสันต์ว่าวัยอย่างผมและไม่ชอบออกกำลังกายมาก่อน หากจะเริ่มออกกำลังกายควรจะเลือกออกแบบไหนดี
…………………………………………………………………
ตอบครับ
ถามว่า 80 แล้วไม่ถนัดการออกกำลังกายแต่เพิ่งมาเห็นความจำเป็น ควรจะออกกำลังกายแบบไหนดี ผมแนะนำตามหลักฐานวิจัยในคนรุ่นนี้ว่า..รำมวยจีนไงครับ รำมวยจีนหรือไท้ชิ หรือชี่กง หรือจะเรียกอะไรก็แล้วแต่ ที่มีฐานรากอยู่ที่การเคลื่อนไหวช้าๆ นุ่มๆ นวลๆ เนิบๆ
ผมเองก็สอนรำมวยจีนอยู่เป็นประจำนะ ไม่ได้สอนความถูกต้องของท่าตระกูลโน้นตระกูลนี้ดอก แต่สอนให้ได้ประโยชน์ด้านสุขภาพ พูดถึงฐานราก ผมสรุปเองเออเองหลังจากสอนด้วยตัวเองมานานหลายปีว่าการรำมวยจีนมันมีฐานรากอยู่ห้าอย่าง คือ
(1) สติ
(2) การเคลื่อนไหว หรือพูดให้เท่หน่อยก็คือ กระบวนท่า
(3) การหายใจ คือจับกระบวนท่าแล้ว ขณะเดียวกันก็จับดูการหายใจไปพร้อมกันด้วย
(4) การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ คือขณะเคลื่อนไหว ก็สั่งให้กล้ามเนื้อทุกส่วนผ่อนคลายอยู่ในที เหมือนร่างกายนี้ไม่มีกระดูก
(5) การรับรู้ “ชี่” หรือพลังชีวิต อันนี้เป็นสุดยอดวิชา ใหม่ๆไม่รู้จักไม่เป็นไร นานไปก็จะรู้เอง มันหมายถึงว่าร่างกายเรานี้มันมีพลังชีวิตซ้อนทับอยู่ เมื่อเราหายใจเข้า พลังชีวิตจากภายนอกเข้ามา เมื่อเราหายใจออก พลังชีวิตแผ่สร้านวิ่งวนไปทั่วร่างกาย แผ่ออกไปสู่ภายนอกผ่านทุกรูขุมขน เรารับรู้มันได้ในรูปของความรู้สึกวูบวาบ ซู่ซ่า จิ๊ดๆจ๊าดๆ เจ็บๆคันๆ เมื่อชำนาญแล้วเราจะรู้สึกว่าร่างกายตันๆนี้หายไป ที่กำลังร่ายรำอยู่เนี่ยเป็นแค่กลุ่มก้อนของพลังชีวิตที่ไม่มีขอบเขตชัดเจนแน่นอน
เมื่อตะกี้ผมบอกว่าผมเชียร์การรำมวยจีนไปตามผลวิจัยที่มี คือนับถึงวันนี้งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์การแพทย์พิสูจน์โดยการแบ่งกลุ่มเปรียบเทียบได้แน่ชัดแล้วว่าไทชิหรือจี้กงสร้างผลดีอย่างน้อยเจ็ดอย่างคือ
1.. ทำให้การทรงตัวดีขึ้น งานวิจัยพบว่ากลุ่มผู้สูงอายุที่รำมวยจีนสัปดาห์ละ 1-3 ครั้ง ลดโอกาสเกิดลื่นตกหกล้มลงได้ 43% คือลดได้เกือบครึ่งหนึ่ง นี่มันดีกว่ากินหรือฉีดยารักษากระดูกพรุนอีกนะ
2.. ลดอาการปวด ทั้งอาการปวดหลัง ปวดคอ ปวดออฟฟิศซินโดรม ข้ออักเสบรูมาตอยด์ หรือปวดกล้ามเนื้อและเอ็น ช่วยได้หมด มันดีเสียจนสมาคมโรคข้ออเมริกัน (ACR) แนะนำให้รำมวยจีนรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ก่อนที่จะคิดอ่านใช้ยารักษา
3.. ทำให้สมองเฉียบคม ไท้ชีได้รับการพิสูจน์ว่าลดความเสื่อมถอยของสมองและการขี้หลงขี้ลืม และถูกจัดให้เป็นเครื่องมือหนึ่งในปรับการใช้ชีวิตเพื่อป้องกันโรคสมองเสื่อม
4.. ลดการป่วยจากโรคเรื้อรัง แม้ในคนที่มีปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจอยู่ แต่การรำมวยจีนก็ทำให้อัตราป่วยด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจและสมองลดลง
5. ทำให้อารมณ์ดี ในบรรดางานวิจัยการรำมวยจีนทั้งหลาย ประเด็นการใช้แก้ซึมเศร้าเป็นประเด็นที่ถูกวิจัยมากที่สุด เมื่อยำรวมผลวิจัยทั้งหลายแบบเมตาอานาไลซีส พบว่า 82% ของงานวิจัยเหล่านั้นสรุปได้ว่าการรำมวยจีนทำให้อารมณ์ดีขึ้น ลดความกังวล และเป็นวิธีรักษาโรคซึมเศร้าที่มีประสิทธิผล
6.. ลดความเครียด การได้จดจ่ออยู่ที่หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ ผ่อนคลาย ช่วยการวางความคิด ลดความกังวล
7.. ช่วยการนอนหลับ งานวิจัยพบว่าผู้สูงอายุที่รำมวยจีนสม่ำเสมอมีการนอนหลับดีกว่าผู้ที่ไม่ได้รำมวยจีน
กล่าวโดยสรุป คุณพี่เลือกการรำมวยจีนดีที่สุด การจะเริ่มเรียนก็ไม่ลำบากอะไร ไม่ต้องไปหาครูที่ไหน เปิดยูทูปแล้วทำตามเขาไปเลย ประเด็นไม่ใช่อยู่ที่รำยากหรือรำไม่เป็น หรือจำท่าไม่ได้ ไม่ใช่ประเด็นเลย จำท่าไม่ได้ก็เอาท่าเดียวหรือสองท่าก็พอ ก็ได้ประโยชน์แล้ว ประเด็นมันอยู่ที่ขี้เกียจรำ เป็นผู้สูงอายุแล้วอย่าขี้เกียจ และอย่าไปเกี่ยงว่าก็พวกลูกหลานเองพวกเขาก็ดีแต่พูด เราอาวุโสกว่า เราต้องเป็นตัวอย่างให้พวกเขา ใช่ไหมครับคุณพี่
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์