หัวใจเต้นปกติ แต่หยุดไปบางจังหวะ (Sick Sinus Syndrome)

เรียนคุณหมอสันต์ที่นับถือยิ่ง

ดิฉันชื่อ ... คะ อยู่ที่ ... ได้ติดตามท่านใน YouTube มาปีกว่าแล้วคะ และเชื่ออย่างยิ่งว่าแนวทางการรักษาของท่านเป็นแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับดิฉันคะ เมื่อเดือนกค 2566 ดิฉันได้จี้หัวใจไปคะ ด้วยอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะและชีพจรต่ำ (40) ในเวลาเดียวกัน จนวูปไปคะ
ตอนนี้ดิฉันเริ่มมีชีพจรต่ำอีก ปวดศีรษะ ใจเต้นเร็วแบบสั่นๆทั้งคืนมาเดือนนึงแล้วคะ แต่คุณหมอประจำที่ไปพบ ยังคงบอกว่ารอได้คะ
ดิฉันทราบรู้ตัวดีว่าอาการทั้งหมดนี้ 80% เกิดจากความเครียดที่ดิฉันจัดการไม่ได้เลยคะ เป็นเรื่องชีวิตคู่คะ เรารู้จักกัน 40 ปี มันยากที่จะเลิกกันแล้วไม่คิดอะไรคะ ตอนนี้ดิฉันนอนไม่ได้ และชีพจรเต้น 46 มีเส้นรากยาวหลายครั้ง เหมือนจะไม่ไหวแล้วคะ
ดิฉันฟังคุณหมอพูดทางYouTube แล้วคิดว่าท่านจะเป็นคนเดียวที่ช่วยชีวิตดิฉันได้คะ ดิฉันเชื่อในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แต่ไม่สามารถนำพระธรรมที่ดิฉันเข้าใจมาใช้ช่วยชีวิตตนเองได้คะ ดิฉันไม่มีเงินเยอะมากพอที่จะไปรักษาแบบแพงๆ ดิฉันยังใช้สิทธิราชการอยู่คะ ดิฉันไม่กลัวถ้าจะตาย แต่ไม่อยากเป็นภาระให้ลูกคะ
ขอขอบพระคุณที่ท่านกรุณาอ่านอีเมล์ดิฉัน และจะรอคอยคำตอบจากท่านนะคะ ช่วยกรุณารับดิฉันเป็นคนไข้ด้วยนะคะ
ด้วยความเคารพนับถือยิ่ง
....
Sent from my iPhone

........................................................



ตอบครับ

    1. ถามว่าความเชื่อที่ว่าแนวทางการรักษาของหมอสันต์เป็นแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณเองจริงไหม ตอบว่าไม่จริงดอกครับ ผู้ป่วยคนหนึ่งก็ต้องมีแนวทางการรักษาเฉพาะตัวเขาหรือเธอแบบหนึ่ง ไม่มีแนวทางของหมอคนไหนจะรักษาผู้ป่วยได้ทุกคนแบบรูดมหาราชครอบจักรวาลดอกครับ

    2. ถามว่าฟังหมอสันต์พูดทางยูทุปแล้วจะคิดว่าเจ้าหมอคนนี้เป็นคนเดียวที่จะช่วยชีวิตฉันได้นั้นเข้าท่าไหม ตอบว่าใครคิดอย่างนั้นก็บ้าแล้ว คือได้เป็นบ้าก่อนตายแน่นอน การจะมีชีวิตที่ดีและไม่ทุกข์ คนที่จะทำได้หรือช่วยเราได้มีคนเดียวคือตัวเราเอง คนอื่นทำได้อย่างมากก็แค่ชี้นิ้วอยู่ห่างๆ หากชีวิตนี้ไปหวังพึ่งคนอื่นก็จบเห่ไปพร้อมกับปัญหาทุกข์ที่หมักหมมโดยไม่ทันได้รับการแก้ไข

    3. ถามว่าป่วยเป็นหัวใจเต้นช้า ไปรับการจี้แล้วก็ยังไม่ดีขึ้น ชีพจรต่ำกว่า 40 บางครั้งมีอาการวูบหมดสติไป หมอฝรั่งบอกว่าไม่เป็นไรรอไปก่อนได้ ควรจะรอตามหมอเขาว่าดีไหม ตอบว่าผมพิเคราะห์ดูคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่ส่งมาให้แล้วมันเป็นจังหวะการเต้นปกติ (sinus) แต่มีบางจังหวะที่การเต้นหายไปดื้อๆ (sinus pause) แม้อัตราการเต้นในภาพรวมยังไม่เลวนัก (48 ครั้ง/นาที) แต่อาการวูบหมดสติไปนั้นเป็นลางบอกว่าไม่อาจจะรอต่อไปได้ สมควรได้รับการสืบค้นหาสาเหตุที่ค้นได้เช่น (1) การตรวจสอบรายการยาที่ใช้ประจำและหยุดยาที่ทำให้หัวใจเต้นช้าเช่นยาลดความดันกลุ่มยากั้นเบต้าไปเสีย (2) การเจาะเลือดดูฮอร์โมนต่อมไทรอยด์เพื่อวินิจฉัยแยกโรคไฮโปไทรอยด์ ถ้าพบว่ามีโรคนี้ก็รักษาเสีย ถ้าไม่มีทั้งสองสาเหตุก็ควรวินิจฉัยแบบเหมาเข่งไปก่อนว่าเป็นโรค Sick Sinus Syndrome ที่เกิดจากอะไรไม่รู้ แล้วควรทำการรักษาเพื่อป้องกันการเสียชีวิตกะทันหันไปก่อนทันทีด้วยการใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้า (internal pace maker) ถ้าหมอฝรั่งไม่ทำให้ก็ควรกลับมาใช้สิทธิสามสิบบาทหรือสิทธิสวัสดิการราชการของเมืองไทยทำได้ฟรี ไม่ต้องใช้เงินสักบาท ไม่ต้องไปรักษาแบบแพงๆที่ไหนเลย

    4.   ถามว่าเป็นคนเชื่อในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แต่ไม่สามารถนำพระธรรมที่เข้าใจมาใช้ช่วยชีวิตตนเองได้ จะทำอย่างไรดี ตอบว่าความเชื่อนั้นเป็นเรื่องหนึ่งคุณอยากเชื่ออะไรก็เชื่อไป แต่มันไม่เกี่ยวอะไรเลยกับการช่วยชีวิตตนเอง การช่วยชีวิตตนเองในกรณีของคุณนี้ก็คือการวางความคิดที่เป็นเหตุของทุกข์ทั้งหลายลงไปเสียให้เกลี้ยง มันเป็นเรื่องของการปฏิบัติในชีวิตจริงไปทีละขณะ ทีละขณะ ไม่ว่าใจของคุณจะเกิดประสบการณ์ขึ้นบนการเคลื่อนไหวก็ดี หรือเกิดในรูปของความรู้สึกบนร่างกายก็ดี หรือเกิดเป็นความคิดขึ้นในใจก็ดี ให้เอาสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นแหละเป็นฐานในการฝึกใช้สติ (attention) เฝ้าสังเกตดูมันโดยไม่เผลอให้มันลากไป คุณต้องลงมือปฏิบัติในชีวิตจริงไปอย่างนี้ จึงจะช่วยชีวิตตัวเองได้

    5. ถามว่าแต่งงานมี ผ. เป็นตัวเป็นตนมา 40 ปีแล้วชีวิตมีแต่ปัญหา จะเลิกก็เลิกไม่ลง จึงเครียด เครียด เครียด จะทำอย่างไรดี ตอบว่าอย่าไปโทษ ผ. ของคุณว่าเป็นต้นเหตุเพราะมันไม่จริง ความเครียดทั้งหมดเกิดจากการที่ใจของคุณสนองตอบต่อสถานะการณ์รอบตัวของคุณไปในทางที่ทำให้คุณเครียดเอง วิธีแก้มีวิธีเดียวก็คือให้คุณยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบตัวของคุณตอนนี้อย่างไม่มีเงื่อนไขก่อน รวมทั้งยอมรับ ผ. ของคุณด้วยว่าเมื่อเขาได้แค่นี้เราก็ยอมรับว่าเขาได้แค่นี้ ในการยอมรับ (acceptance) นี้ในภาคปฏิบัติให้คุณคอยท่องคาถาสี่คำ คือ ขอบคุณ ขอโทษ ให้อภัย เมตตา แล้วสนองตอบต่อแต่ละสิ่งเร้าแต่ละประสบการณ์ออกไปให้สอดคล้องกับคาถาใดคาถาหนึ่งในสี่คาถานี้ แล้วคุณจะหายเครียดได้เอง 

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

ปล. ในเรื่องความเครียด หากพยายามแล้วชีวิตยังไม่ดีขึ้น เมื่อกลับมาเมืองไทยให้หาโอกาสมาเข้าแค้มป์ Spiritual Retreat เผื่อว่าจะเกิดทักษะที่นำไปจัดการความเครียดได้ดีขึ้น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

กินคีโตไข่ต้มไก่ต้มทุกวันแล้วหลอดเลือดหัวใจตีบ

หนังสือคัมภีร์สุขภาพดี (Healthy Life Bible) จะพิมพ์ครั้งที่ 3 แน่นอนแล้ว เชิญสั่งซื้อได้

ความแก่..เหมือนหมาถูกต้อนเข้ามุมให้จนตรอก

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

วิตามินดีเกิน 150 หมอบอกมากเกินไป ท้ังๆที่ไม่ได้ทานวิตามินดี

หมอสันต์กราบขออภัย และขอเปิดรับสมัคร์แค้มป์พลิกผันโรคด้วยตนเอง (RDBY 33) ใหม่

Life Skill Camp for Kids แค้มป์ทักษะชีวิตเยาวชนที่มิวเซียมสยาม 16 พย. 67

สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตคนเราคือความเบิกบาน (Joy)