ถามหาทางเลือกเมื่อเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบสามเส้น

(ภาพวันนี้: เช้าตรู่หน้าบ้าน)

กราบสวัสดีค่ะ  คุณหมอสันต์ ใจยอดศิลป์ ที่เคารพค่ะ

หนูชื่อ … เพศ ญ  อายุ 55 ปี  สูง 157  หนัก 60 กก.
โรคประจำตัว : ความดันโลหิตสูง  หลอดเลือดหัวใจตีบค่ะ
เดิม เคยหนักถึง 68.5 กก. เคยมีอาการแสบ แน่นหน้าอก หมอวินิจฉัยเป็นกรดไหลย้อน รักษา และหาย
หมอให้ลดน้ำหนัก   จึงพยายามลดลง ไป 8.5 กก สภาพกาย อาการต่างๆ ดีขึ้น
ต่อมา เมื่ออายุครบ รับสวัสดิการตรวจร่างกายโปรแกรมของ ญ อายุ 50 ++ จึงมีการเดินบนสายพาน  แพทย์จึงพบอาการหลอดเลือดหัวใจตีบ แนะนำ MRI  ไม่เห็น แนะนำให้ฉีดสีและสวนหัวใจ
ตอนนี้ ทานยา 6 ตัว 
Lorata 50 mg 2 เม็ด, Prenolol 50 mg 1 เม็ด, Lipostat 20 mg 1 เม็ด
Miracid 20 mg 1 เม็ด,  Apolet 75 mg 1 เม็ด,  Aspent-M 81 mg 1 เม็ด

เมื่อ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้เข้ารับการฉีดสี เพื่อตรวจหา และสวนหัวใจ  ที่ รพ. …
คุณหมอให้ดูภาพจากจอ ชี้ให้เห็นเส้นเลือดหัวใจที่มีพบอาการตีบ พบว่ามากเกินกว่าการจะทำบอลลูนหัวใจ 
คุณหมอจึงแนะนำให้ไปปรึกษาคุณหมอด้านบายพาส
ตัวหนู ไม่อยากบายพาส 1. กลัว กังวล ผลข้างเคียงในอนาคต 2. ติดขัดเรื่องค่าใช้จ่าย ซึ่งน่าจะสูงมาก  
จึงเสิรช หาข้อมูลแนวทางรักษาแบบทางเลือก อาการเส้นเลือดหัวใจตีบทางอินเทอร์เน็ต
พบข้อมูลของคุณหมอ อ่านอยู่เยอะพอสมควร จึงตัดสินใจหาช่องทางติดต่อคุณหมอ
กราบขออนุญาตรบกวนขอคำปรึกษาค่ะ
1) ตามผลการตรวจที่หนูแนบมา  สามารถใช้การรักษาแบบทางเลือกนี้ได้หรือไม่คะ ปรับเปลี่ยนการทานอาหาร  ออกกำลังกาย เป็นคนไม่ดื่ม ไม่สูบ อยู่แล้ว แต่ เป็นคนเครียดง่ายค่ะ เป็นคนละเอียด คนเป๊ะ
2) ทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับหนูทางไหนดีที่สุดคะ
กราบขอบพระคุณ คุณหมอเป็นอย่างสูงมาล่วงหน้าค่ะ
ภาวนา ให้คุณหมอได้รับ Email ของหนูค่ะ

……………………………………………………..

ตอบครับ

ก่อนตอบ ผมขอสรุปปัญหาสุขภาพของคุณก่อนนะ ว่ามีปัญหาเรียงตามลำดับความสำคัญดังนี้

(1) เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ระยะไม่มีอาการ ได้ตรวจสวนหัวใจแล้วพบว่าหลอดเลือด LM ปกติ แต่มีรอยตีบกระจายอยู่ทั่วหลอดเลือดหลักทั้ง 3 เส้น (LAD, Lcx, RCA)

(2) เป็นโรคความดันเลือดสูง

(3) เป็นโรคไขมันในเลือดสูง

(4) เป็นคนขี้เครียด

เอาละ คราวนี้มาตอบคำถาม

1.. ถามว่าตามผลการตรวจสวนหัวใจที่ส่งมา จะรักษาแบบการแพทย์ทางเลือกได้ไหม หิ หิ นี่หมอสันต์กลายเป็นแพทย์ทางเลือกไปเสียแล้วหรือนี่ จุ๊..จุ๊ ขอเวลานอกประกาศตรงนี้นิดหนึ่งนะ วิธีที่หมอสันต์แนะให้ผู้ป่วยพลิกผันโรคเรื้อรังด้วยตัวเองเช่นอาหาร การออกกำลังกาย การจัดการความเครียด เป็นวิธีของวิชาแพทย์แผนปัจจุบัน (modern medicine) นะจ๊ะคุณน้องขา เป็นแก่น เป็นราก เป็นทั้งปัจจุบันและอนาคตของวิชาแพทย์แผนปัจจุบัน สรุปมาจากหลักฐานวิจัยทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ตีพิมพ์ไว้ในวารสารการแพทย์ระดับดีที่ชัวร์ป๊าด แน่นปึ๊ก ไม่ใช่การแพทย์ทางเลือกที่พัฒนามาจากทางสมุดข่อย หรือความรู้แต่โบราณของเผ่าพันธ์ หรืออะไรทำนองนั้นนะครับ เอ๊ะ นี่หมอสันต์เผลอโวยวาย แล้วตั้งใจจะตอบคำถามเรื่องอะไรนี่ อ้อ นึกออกละ ถามว่าผลตรวจสวนหัวใจแบบนี้ จะรักษาแบบไม่ทำผ่าตัดบายพาส ไม่ทำบอลลูนได้ไหม ตอบจากงานวิจัยขนาดใหญ่หลายชิ้นโดยเฉพาะงานวิจัย COURAGE ว่าได้แน่นอนครับ คนที่เป็นโรคหัวใจตีบแบบคุณนี้ สองเส้นบ้าง สามเส้นบ้าง เจ็บหน้าอกเกรด 1-3 โดยที่หลอดเลือด LM ยังปกติดี ไม่ว่าจะรักษาแบบรุกล้ำ คือทำบอลลูนหรือบายพาส หรือจะรักษาแบบไม่รุกล้ำ วัดจากการเกิดจุดจบที่เลวร้ายในช่วงเวลา 10-15 ปีแล้ว พบว่าได้ผลไม่ต่างกัน

2.. ถามว่าทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณทางไหนดีที่สุด ตอบเป็นสองระยะนะ

2.1 ระยะแรกที่ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า มีสองทางเลือกให้คุณ คือ (1) ทำบอลลูนหรือบายพาส กับ (2) ไม่ทำอะไรรุกล้ำทั้งสิ้น ระหว่างทางเลือกทั้งสองนี้ผลไม่ต่างกัน คุณจะเลือกทางไหน เอาแบบที่คุณชอบเลยครับ

2.2 ในระยะยาว สิ่งที่คุณต้องทำอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงหากยังไม่อยากตายก่อนเวลาอันควร คือคุณจะต้องเปลี่ยนการกินการใช้ชีวิตของคุณเสียใหม่เพื่อให้ปัจจัยเสี่ยงที่นำมาสู่การเป็นโรคนี้ลดลงหรือหายไป ภาษาแพทย์เรียกว่า risk factors management นี่คือการรักษาโรคที่แท้จริงและคุณต้องทำด้วยตัวเองไม่มีหมอคนไหนมาทำให้คุณได้ การทำบอลลูนหรือบายพาสก็ดี การไม่ทำบอลลูนหรือไม่ทำบายพาสก็ดี การขยันกินยาก็ดี ล้วนไม่ได้ทำให้โรคของคุณหาย โรคมันจะเดินหน้าต่อไป จำตรรกะง่ายๆของผมไว้ว่า

วิธีกินและวิธีใช้ชีวิตของคุณที่ผ่านมานำคุณมาสู่การเป็นโรคนี้

คุณไม่มีทางหายจากโรคนี้ได้หากคุณยังกินและยังใช้ชีวิตแบบเดิม

รายละเอียดปลีกย่อยว่าจะกินอย่างไร จะใช้ชีวิตอย่างไรมีมากและผมพูดซ้ำซากบ่อยมาก ผมคงไม่พูดซ้ำในที่นี้อีก ให้คุณหาอ่านเอาในบล็อกเก่าๆที่ผมตอบไปหลายครั้ง แล้วลงมือทำตามนั้น ลงมือทำเองเลย มีคนทำตามแล้วประสบความสำเร็จในการพลิกผันโรคของตัวเองได้เยอะมาก คุณก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น แต่ถ้าทำไปแล้วเกิดรู้สึกไม่ชัวร์ หรือยังเข้าใจไม่ชัด ก็ให้หาโอกาสมาเข้าแค้มป์พลิกผันโรคด้วยตัวเอง (RDBY)

3.. ถามมาสองข้อ ก็ตอบสองข้อ ครบแล้ว หายกันแล้วนะ คราวนี้เป็นการคุยเล่น

คุณเล่าว่าคุณเป็นคนละเอียด เป็นคนเป๊ะ ฮิ..ฮิ..ฮิ ช่างเป็นคนเข้าใจตัวเองดีจริง ปกติหากจะถือกันตามวิชาแพทย์แบบคลาสสิก โรคหัวใจขาดเลือดเป็นโรคของผู้ชาย แต่ระยหลังมานี้ผู้หญิงค่อยๆสปริ๊นท์ไล่กวดมาติดๆ ยังไม่มีข้อมูลวิจัยเรื่องแคแรคเตอร์ของผู้หญิงที่ป่วยเป็นโรคนี้ แต่ผมสังเกตเอาจากผู้ป่วยผู้หญิงที่เป็นโรคนี้ที่ผมรักษาเองว่าส่วนใหญ่เป็น..คุณนายละเอียด ผมไม่ทราบว่าหญิงเป๊ะได้รับการยกย่องเป็นคุณนายแล้วหรือยัง ถ้าได้แล้วก็ต้องบอกว่าส่วนใหญ่เป็นคุณนายละเอียด และคุณนายเป๊ะ

ถ้าจะนิยามคุณนายละเอียด และคุณนายเป๊ะ ก็คือคนที่ถูกขังอยู่ในกรงความคิดของตัวเองและเกรี้ยวกราดอาละวาดว้ากเพ้ยอยู่ในกรงนั้น เพราะคอนเซ็พท์ที่ดีๆ หรือพูดแบบบ้านๆว่าความ “บ้าดี” ทั้งหลายนั้น มันคือความคิดที่คุณกุขึ้นมาเองนะ กุขึ้นมาเพื่อปกป้องหรืออวยอีโก้หรือตัวตนของคุณเอง คุณต้องมองให้เห็นก่อนว่าคุณกับความคิดเป็นคนละอันกัน ให้เริ่มจากตรงนี้ก่อน เมื่อวานนี้เอง ผมเพิ่งตอบจดหมายแฟนบล็อกท่านหนึ่ง รู้สึกจะหัวเรื่องชื่อ “ขอให้หมอสันต์แนะนำวิธีที่ง่ายกว่านี้” ปัญหาเดียวกันกับคุณแต่คนละสถานะการณ์ คุณไปอ่านดูนะ อ่านดู แล้วให้คุณทดลองทำตามนั้นเลย

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

กินคีโตไข่ต้มไก่ต้มทุกวันแล้วหลอดเลือดหัวใจตีบ

ความแก่..เหมือนหมาถูกต้อนเข้ามุมให้จนตรอก

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

เปลี่ยนอาหาร ปั่นจักรยาน น้ำตาลลด ความดันลด แต่ไขมันทำไมไม่ลด

ท่านอายุเก้าสิบแล้วยังไม่รู้ แล้วท่านจะรู้มันไปทำพรื้อละครับ

สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตคนเราคือความเบิกบาน (Joy)

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

มะเร็งต่อมลูกหมากแพร่กระจายไปกระดูกขาแล้ว จะไปต่อไงดี