ถามวิธีใช้กฎของแรงดึงดูดดูดเงิน

(ภาพวันนี้: ถั่วฝักยาวหน้าเล้าไก่)

สวัสดีค่ะอาจารย์

มีคำถามเกี่ยวกับเรื่องเงินๆทองๆค่ะ คืออาจารย์คิดยังไงกับความคิดที่ว่าเงินคือปีศาจคะ หนูเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ฝันอยากจะพ้นพันธนาการเรื่องเงินกับเขาเหมือนกัน แต่ยังมีภาระเลี้ยงลูกอยู่

สามีหาเงินคนเดียว ส่วนหนูหากินค่ะ คือหาทุกอย่างที่จะลดค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเขาประหยัดเช่น ปลูกผักทานเอง หาเห็ดตามป่า ไม่ซื้อของฟุ่มเฟีอย รีไซเคิลของใช้ ฯลฯ บางครั้งก็สงสารสามีที่บ่นเกี่ยวกับความไม่มั่นคงที่ทำงาน ที่ยังคลอนแคลนตามสถานการณ์โลกโดยเฉพาะสงครามยูเครนก็มีส่วน ในฐานะผู้นำครอบครัวเขาก็เครียด ทำอย่างไรที่จะทำให้ครอบครัวอยู่รอดถ้าวันหนึ่งต้องตกงาน หนูเองมีความเป็นอยู่แบบพอเพียงและพอใจในสภาพความเป็นอยู่ แม้บ้านต้องเช่า ข้าวต้องซื้อ แต่ก็ไม่ขาดปัจจัยสี่ที่จำเป็น ที่สำคีญพวกเรายังมีสุขภาพแข็งแรงกันอยู่ เราสองคนก็ศึกษาด้านจิตวิญญาณเช่นกันแต่ก็ไม่วายกังวลถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง

หนูเองมาเจอคลิปเกี่ยวกับกฏแรงดึงดูดว่า ถ้าเรามีความคิดที่ดีต่อเงินก็จะสามารถดึงดูดเงินเข้ามาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ถ้าเราคิดลบกับเงิน เขาก็จะไม่มาหาเรา ที่ผ่านมาตัวเองก็ยังมีความคิดลบกับเงินอยู่ เช่นเงินนำพามิตรเทียมบ้าง ทำให้โลภมากขึ้นบ้าง เปลี่ยนนิสัยให้แย่ลงบ้าง ดึงดูดขโมยหรือการโจรกรรม อาชญากรรมไปโน่นเลย จึงทำให้ไม่รวยสักที อิอิ  แต่เมื่อศึกษาเกี่ยวกับกฏแรงดึงดูดที่คนมีชื่อเสียงด้านจิดวิญญาณก็ยังเอามาอ้างอิงว่าดูดเงินก็ได้ก็เริ่มอยากได้อยากมีบ้าง เพราะคิดว่าถ้าเราคำนวณแล้ว  ชั่วชีวิตเราอีกไม่กี่ปีต้องกินต้องใช้อีกเท่าไร เมื่อมีสะสมไว้แล้วก็จะไม่ต้องดิ้นรนหา และหันมาใส่ใจด้านจิตวิญญาณ ช่วยเหลือคนรอบข้างได้ อย่างน้อยก็ญาติพี่น้องเพราะเรามีต้นทุนมาก่อน คือสะสมชีวิตด้านจิตวิญญาณ และธรรมชาติบำบัดล่วงหน้ากว่าพวกเขาแล้ว อยากช่วยเขาที่ยังกังวลหาเงินกันอยู่อย่างน้อยให้มารู้จักด้านนี้กันบ้างก่อนที่ทุกอย่างจะดับไป  การทำตัวอย่างให้พวกเขาดูอาจไม่เพียงพอหรือไม่ทันการณ์ เพราะหลายคนก็เป็นไม้ใกล้ฝั่งกันซะส่วนใหญ่แล้ว ถ้าเรามีความพร้อมให้เขา มีที่อยู่ที่กินอย่างสุขสบาย เขาและเราก็จะพ้นจากโหมด survival และหาความสงบสุขด้านจิคใจอย่างแท้จริง อาจารย์อาจจะคิดว่าเอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ ก็ใช่ค่ะ แต่รู้สึกว่าตัวเองมีศักยภาพ และความพร้อมอย่างเต็มเปี่ยมในการใช้ชีวิต และอยากเผยแพร่ให้ญาติพี่น้องได้เข้าถึง โดยอาศัยเงินเป็นตัวนำทางแต่เป็นทางบวกค่ะ

อาจารย์ว่ามีทางเป็นไปได้และมีข้อแนะนำอย่างไรบ้างคะ

ขอบคุณค่ะ

………………………………………………………….

ตอบครับ

1.. ถามว่าหมอสันต์รู้เรื่องกฎของแรงดึงดูดไหม ตอบว่าเคยได้ยิน แต่ไม่รู้จักลึกซึ้งครับ รู้จักแต่กฎแรงโน้มถ่วงของไอแซค นิวตัน หิ หิ

2.. ถามว่าหากใช้กฎของแรงดึงดูดถูกต้องจะดูดเงินเข้ามาหาเราได้ไหม ตอบว่า เออ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้ามันใช้ได้จริงหากคุณดูดได้แยะแล้วขอผมยืมบ้างนะ เผื่อผมมีเหตุต้องใช้เงินด่วนๆ ฮิ ฮิ พูดเล่น ผมไม่รู้ดอก และไม่กระตือรือล้นที่จะไปรู้เรื่องแบบนั้นเพราะมันไม่ใช่สไตล์ของผม สไตล์ของหมอสันต์คือเปิดตัวอ้าซ่า อะร้าอะร่าม อะไรอยากเข้ามาหาตัวผมก็ปล่อยมันเข้ามา อะไรอยากหนีออกไปจากตัวผมก็ปล่อยมันออกไป แค่อยู่ตรงนี้ นิ่งๆ ยอมรับทุกอย่างที่เข้ามา ที่มีอยู่ ที่ออกไป ไม่วิ่งหาอะไรที่ยังไม่มี ไม่ผลักไสอะไรที่มีให้ออกไป นี่เป็นสไตล์ของผมในสมัยนี้ซึ่งเป็นสมัยที่แก่แล้ว

แต่ตอนที่ผมอายุเท่าคุณผมไม่ได้เป็นแบบนี้นะ เมื่อยี่สิบปีก่อนผมซื้อที่ดินและปลูกกระท่อมอยู่ที่บ้านบนเขาที่ผมอยู่ตอนนี้นี่แหละ น้องสาวแท้ๆมาเยี่ยม เธอเป็นคนเรียนหนังสือแยะจบป.นั่นจากจุฬาป.นี่จากมหิดล แต่มาถึงเธอบอกผมว่า

“พี่สันต์ปลูกบ้านอยู่บนเนินอย่างนี้พี่จนกรอบแน่เพราะเงินไหลลงเขาไปหมด พี่ต้องขุดสระดักไว้ข้างล่างตรงใกล้ประตูทางออก”

ผมนีกในใจว่าเธอไปเรียนหนังสืออะไรของเธอนะจึงได้งมงายอย่างนี้ สมัยนี้เงินเขาเป็นตัวเลขอยู่ในแบงค์หรือเป็นธนบัตรใส่กระเป๋าเจมส์บอนด์มันจะกลิ้งลงเขาหลุนๆได้อย่างไร มันยิ่งกว่าคุณใช้กฎแรงดึงดูดอีกนะ นี่น้องสาวผมเล่นใช้กฎแรงโน้มถ่วงของไอแซค นิวตัน มาดูดเงินเลยเชียว แต่มาหาทีไรเธอก็บ่นอยากให้ขุดสระ ผมจึงยอมขุดสระให้เธอสบายใจ ผมไม่เชื่อเธอหรอกว่าผมจะได้เงินจากการนี้ และที่แน่ๆคือผมเสียเงินจ้างรถแบ้คโฮไปหลายหมื่น หึ หึ

3.. ถามว่าหมอสันต์มีความเห็นว่าเงินเป็นของดีหรือเป็นปีศาจ ตอบว่า บ้า..เงินจะเป็นปีศาจไปได้อย่างไร เงินก็ต้องเป็นของดีสิครับ ทำให้คนเราแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการกันได้โดยไม่ต้องเหนื่อยยากทำเองหมด หรืออยากได้อะไรก็ไม่ต้องออกแรงทำร้ายร่างกายหรือบีบบังคับหรือทำสงครามกัน

4.. ถามว่าทำยังไงจึงจะหาเงินได้เยอะๆ ตอบว่าผมไม่ทราบครับ เพราะผมไม่มีประสบการณ์โชกโชนมาทางนี้ เรื่องนี้คุณไปหาเอาข้างหน้าเถอะนะ

5.. แต่ถ้าคุณถามว่าทำอย่างไรจึงจะรวย ผมตอบคุณได้นะ ก่อนอื่นมานิยามความ “รวย” ก่อน อย่าคิดตื้นๆแค่ว่ารวยก็แปลว่ามีเงินเยอะ ให้คิดข้ามช็อตไปว่าเขามีเงินเยอะเพื่ออะไรกัน ก็เพื่อให้ชีวิตมีความสุขใช่ไหม ดังนั้นปลายทางของความรวยก็คือการสามารถทำให้ชีวิตมีความสุข ตรงนี้ผมสอนคุณให้รวยได้นะ คุณเองก็ทำตามได้ ง่ายๆเลย

เริ่มตั้งแต่เช้าตรู่เลยนะ คุณออกไปยืนนอกบ้าน สูดอากาศยามเช้าลึกๆเต็มปอดหลายๆที รับรู้พลังชีวิตจากภายนอกที่เข้ามาสู่ตัวคุณ ผ่อนคลายร่างกาย รับรู้ความรู้สึกซู่ซ่าของร่างกายที่กระดี๊กระด๊ารับวันใหม่

พอดวงอาทิตย์ขึ้น ให้คุณมองดูความสวยงามของยามพระอาทิตย์ขึ้น ฝึกเบิกบานกับธรรมชาติที่มันมหัศจรรย์และชวนเบิกบานเป็นบ้า

เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ รับรู้ว่าถึงคุณจะเป็นแค่ฝุ่นเม็ดเล็กๆแต่คุณก็เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้ มองท้องฟ้าให้เห็นความเบิกบานที่ภายในใจคุณ

คราวนี้คุณถอดรองเท้าออกเดินเท้าเปล่าบนพื้นดิน จะเป็นพื้นหญ้าหรือพื้นขี้ฝุ่นก็ได้ทั้งนั้น ให้เท้าคุณสัมผัสดินสัมผัสหญ้า รับรู้ feel ความรู้สีกที่ฝ่าเท้า รับรู้ความเบิกบานที่ได้มาเดินสัมผัสผืนดินอันเป็นเสมือนแม่ที่ให้กำเนิดร่างกายนี้และวันหนึ่งร่างกายนี้ก็จะกลับไปสู่ดิน ความเป็นหนึ่งเดียวกับผืนดินจะทำให้คุณมีความเบิกบานมั่นคงไม่หวาดกลัวอะไรง่ายๆ

ยามที่คุณก้มลงล้างหน้า เปิดเอาน้ำใสๆใส่ในสองอุ้งมือกอบ มองดูน้ำในอุ้งมืออย่างซาบซึ้งและเป็นหนึ่งเดียวกับมัน อ้า น้ำสะอาด ร่างกายคุณสองในสามเป็นน้ำ คุณกับน้ำเป็นพวกเเดียวกันที่แยกกันไม่ออก ยามที่คุณอาบน้ำจะด้วยฝักบัวหรือขันตักราดก็ตาม รับรู้ความฉ่ำเย็นของน้ำที่ชโลมทั่วร่างกาย ว่ามันเป็นความสงบเย็น เป็นความเบิกบาน

ทั้งหมดนั้นสิ่งที่คุณรับรู้ได้คือความรู้สึกเบิกบาน (enjoyment) ซึ่งเป็นความรู้สึก (feeling) โดยไม่ต้องคิดบังคับหรือชักนำอะไร ความเบิกบานในภาวะปลอดความคิด เป็นความสุขที่ลุ่มลึกและลึกซึ้ง

คุณทำอย่างผมว่านี้ให้ได้ ทำให้เป็นก่อนนะ ทำทุกวัน คือมีความสุขกับสิ่งที่คุณมีอยู่แล้วให้เป็นก่อน คุณถึงจะรวยได้ ถ้าคุณทำยังไม่เป็น คือมีความสุขกับสิ่งที่คุณมีอยู่แล้วยังไม่ได้ ถึงคุณจะหาเงินมาได้คุณก็ยังไม่บรรลุความรวยอยู่ดี เพราะของที่ผมพูดมาข้างต้นทั้งหมดล้วนเป็นของดีๆใหญ่ๆและให้พลังผ่าน feeling ซึ่งเป็นความสุขที่แรงกว่าทั้งนั้น ถ้าคุณยังไม่มีปัญญาใช้มันให้เกิดความสุขแล้วคุณจะไปหวังอะไรกับความสุขจากเงินซึ่งต้องไปอาศัยความคิดอีกต่อหนึ่งก่อนจึงจะสร้างความสุขให้คุณได้ ชื่อว่า “ความคิด” คุณจะไปหวังพึ่งมันว่าจะเป็นตัวให้ความสุขแบบถาวรแก่คุณนั้น..ยากส์..ส์ (เติมเอสด้วยนะ แปลว่ายากมาก)

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

กินคีโตไข่ต้มไก่ต้มทุกวันแล้วหลอดเลือดหัวใจตีบ

ความแก่..เหมือนหมาถูกต้อนเข้ามุมให้จนตรอก

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

เปลี่ยนอาหาร ปั่นจักรยาน น้ำตาลลด ความดันลด แต่ไขมันทำไมไม่ลด

ท่านอายุเก้าสิบแล้วยังไม่รู้ แล้วท่านจะรู้มันไปทำพรื้อละครับ

สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตคนเราคือความเบิกบาน (Joy)

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

มะเร็งต่อมลูกหมากแพร่กระจายไปกระดูกขาแล้ว จะไปต่อไงดี