โรคหลอดเลือดโป่งพองใต้จอตา Polypoidal Choroidal Vasculopathy- PCV
ภาพวันนี้: เฟื่องฟ้าสีส้ม
เรียนคุณหมอ
ผมมีอาการมองอะไรก็ตามที่เป็นเส้นตรงเช่นขอบวงกบประตูจะเห็นว่ามันไม่ตรง มันเหมือนโย้ไปเหมือนภาพที่มีหยดน้ำมาขวางกั้น ไปตรวจตากับหมอตาอย่างละเอียดแล้วสรุปว่าไม่พบอะไรผิดปกติ แต่รู้สึกว่ามันต้องไม่ปกติ จึงไปหา second opinion กับหมอคนตาคนที่สอง ซึ่งบอกว่าสงสัยว่าผมจะเป็นโรค pcv และแนะนำให้ผมไปหาหมอ … ที่โรงพยาบาล … ซึ่งผมก็ไป แล้วก็ได้รับการวินิจฉัยยืนยันว่าเป็นโรค pcv และนัดหมายให้ไปยิงเลเซอร์ร่วมกับฉีดยาเข้าลูกตาเข็มละ 1 แสนบาท ในระหว่างที่ตรวจไปตรวจมาอยู่นี้ อาการมองเส้นตรงเป็นเส้นโย้มันค่อยๆดีขึ้นเอง ผมอยากปรึกษาคุณหมอสันต์ว่ายาเข็มละแสนนี้มันยาอะไร จำเป็นต้องฉีดไหมครับ
ขอบคุณครับ
…………………………………………………………………………….
ตอบครับ
ก่อนอื่น เพื่อเป็นความรู้ไว้ใส่บ่าแบกหามสำหรับท่านผู้อ่านทั่วไป ขอพูดถึงโรค PCV ซึ่งย่อมา Polypoidal Choroidal Vasculopathy แปลว่าโรคหลอดเลือดโป่งพองใต้จอตา สักเล็กน้อย โรคนี้เป็นโรคในกลุ่มโรคจอประสาทตาเสื่อมตามวัย (Age related macular degeneration – AMD) ชนิดที่มีของเหลวไหลออกมากองอยู่นอกหลอดเลือด (exudative) บางทีจึงเรียกว่าจอประสาทตาเสื่อมชนิดแฉะ (wet AMD) มีหลอดเลือดเล็กๆโป่งพองร่วมกับมีเลือดและน้ำเหลืองออกมาออกันอยู่ที่ชั้นใต้จอประสาทตาจนบวมตุ่ยเป็นตุ่มเรียกว่า exudative polyp ทำให้การมองเห็นตรงกลางลานสายตาเสียหรือบิดเบี้ยวไป
เอาละ ทีนี้มาตอบคำถาม
1.. ถามว่ายาที่จะฉีดเข้าตาเข็มละแสนเนี่ยมันยาอะไร ตอบว่าเออ..แล้วผมจะรู้ไหมเนี่ย
จะให้ดีคุณก็ถามหมอตาที่เขาจะฉีดสิครับว่ายาที่จะฉีดมันชื่อยาอะไร ถามผม ผมก็ได้แต่เดาเอาว่ามันคงจะเป็นยาในกลุ่มที่เรียกว่า Anti-vascular endothelial growth factor (anti-VEGF) ตัวนี้มันไม่ใช่ยาแบบทั่วๆไป แต่เป็นแอนตี้บอดี้แบบที่เรียกว่า monoclonal antibody ที่ผลิตโดยการเอาเซลร่างกายของเราเป็นเชื้อ ฉีดเข้าไปในร่างกายสัตว์เพื่อวานให้ร่างกายสัตว์ผลิตแอนตี้บอดี้ต่อเซลร่างกายเราขึ้นมา แล้วเราเอามาใช้ทำลายเซลของร่างกายเราเองที่เราไม่ต้องการ ซึ่งในกรณีนี้ก็คือเซลเยื่อบุหลอดเลือดที่งอกใหม่ในลูกตา นี่ผมเดาเอาจากที่ได้เคยอ่านงานวิจัยหนึ่งชื่อ The EVEREST trial ซึ่งทดลองรักษาโรค PCV เปรียบเทียบสามวิธีระหว่าง (1) ยิงเลเซอร์กระตุ้นยา (photodynamic therapy -PDT) อย่างเดียว (2) ฉีด anti-VEGF อย่างเดียว (3) ทั้งยิงทั้งฉีด พบว่ากลุ่มที่ได้ผลคือยิงเลเซอร์อย่างเดียวกับยิงเลเซอร์ควบฉีด anti-VEGF ผมก็เลยเดาว่าหมอเขาจะเอาวิธีสองอย่างควบนี้มารักษาคุณ เดาผิดเดาถูก ผมไม่รับประกัน
2.. ถามว่าควรจะเดินหน้ารักษาด้วยการยิงเลเซอร์ควบฉีด anti-VEGF ไหม ตอบว่าผมให้ความเห็นในฐานะแพทย์ประจำครอบครัวนะ ไม่ใช่ specialist ผมมีความเห็นว่าการรักษานี้มีจุดประสงค์เพื่อบรรเทาอาการมองเห็นไม่ชัดด้วยการพยายามทำให้ตุ่ม exudative polyp ที่บวมตุ่ยมันแห้งฝ่อลงไป แต่คุณเล่าเองว่าขณะรอกันไปรอกันมาอยู่นี้การมองเห็นของคุณชัดขึ้นมาเองแล้ว ก็แสดงว่าตุ่มบวมน้ำเหลืองและเลือดนั้นมันฝ่อไปเองแล้ว แล้วจะไปยิงไปฉีดมันอีกทำไมละครับ ทั้งนี้คุณต้องเข้าใจนะว่ากลไกพื้นฐานที่ทำให้เกิดโรค PCV ขึ้นมานี้วงการแพทย์ยังไม่มีความรู้เลยว่ามันเกิดจากอะไร การยิงการฉีดนี้ทำเพื่อบรรเทาอาการมองไม่เห็นเท่านั้น ยังไงก็ไม่ได้ไปแก้ไขกลไกพื้นฐานของโรคหรอกครับเพราะเรายังไม่รู้กลไกพื้นฐานของโรคเลย พูดง่ายว่าการรักษานี้ไม่ได้บำบัดสาเหตุให้หาย ได้แค่บรรเทาอาการ หากไม่มีอาการแล้ว ประโยชน์ที่จะได้ก็ไม่มีแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะไปเสี่ยงกับการรักษาแบบรุกล้ำใดๆ ซึ่งมักมาพร้อมกับภาวะแทรกซ้อนระดับหนึ่งเสมอ
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
บรรณานุกรม
- Tan CS, Ngo WK, Chen JP, Tan NW, Lim TH; EVEREST Study Group. EVEREST study report 2: imaging and grading protocol, and baseline characteristics of a randomised controlled trial of polypoidal choroidal vasculopathy. Br J Ophthalmol. 2015 May;99(5):624-8. doi: 10.1136/bjophthalmol-2014-305674. Epub 2015 Mar 10.