ระวังเมื่อคุณอยู่ใต้ต้นกัลปพฤษ์
(ภาพวันนี้: ราชพฤกษ์)
ผมจำได้คลับคล้ายคลับคลาถึงนิทานโบราณเรื่องหนึ่ง เรื่อง “ต้นกัลปพฤกษ์” ไม่แน่ว่าอยู่ในหนังสือเวดะ หรือหนังสือไหน เรื่องมีอยู่ว่ามีอีตาคนหนึ่งเดินเล่นเพลินไปหน่อย จนไปถึงสวรรค์โดยไม่รู้ตัว รู้สึกเพลียก็อยากหาที่งีบ เหลือบไปเห็นใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งมีหญ้านุ่มๆเป็นบริเวณกว้างพอเอกเขนกได้ก็เอาละวะ ซักงีบ
พอตื่นขึ้นมาก็รู้สึกหิว คิดในใจว่าถ้าได้ของอร่อยๆโน่นนี่นั่นมากินตอนนี้ก็น่าจะดีนะ พอคิดจบของอร่อยเหล่านั้นก็โผล่ขึ้นมาวางเรียงไว้ตรงหน้าเลย อารมณ์หิวก็รีบกินโดยไม่ต้องสืบสาวราวเรื่องว่าอาหารมาจากไหน
อิ่มหมีพีมันดีแล้วก็รำพึงในใจว่าอ้า..า อิ่มอย่างนี้ได้สักกรึ๊บสองกรึ๊บก็จะเริ่ยม พอคิดจบทั้งวิสกี้ ทั้งเบียร์ และไวน์ที่เคยชื่นชอบก็ถูกรินใส่แก้วมาวางตรงหน้า อารามกำลังอยากก็คว้ากรึ๊บจนหนำใจ
อิ่ม และกริ่มดีแล้ว จึงมีเวลามองไปรอบตัวและคิดพิจารณา ใคร่ครวญ ไตร่ตรอง ใครกันนะที่เอาอาหารมาให้ เอาสุรามาประเคน หรือว่าที่นี่มันมี…ผี
คิดยังไม่ทันจบดี พวกผีสารพัดเผ่าพันธ์ก็มาเดินเพ่นพ่านอยู่รอบๆตัว ขวักไขว่น่ากลัวเต็มไปหมด
เขาคิดว่า ไอ้หยา.. ไอ้ผีพวกนี้มันคงไม่ได้มาดี เดี๋ยวมันคงมารุมทำร้ายและบีบคอตูข้าแน่นอน
แล้วผีพวกนั้นก็เฮโลมารุมทำร้ายเขาจริงๆ ตัวหนึ่งขึ้นนั่งทับบนหน้าอก เอาสองมือที่มีแต่กระดูกบีบคอเขาแน่นจนหายใจเกือบไม่ออก
เขาคิดว่าแย่แล้ว ตูข้าคงจะมาตายเพราะเจ้าพวกผีนี้ซะแล้ว
คิดเสร็จ เขาก็ตายจริงๆ…จบ
แล้วผู้เฒ่าที่เล่านิทานก็เฉลยว่าเพราะอีตาคนนั้นเขาไม่รู้ว่าเขากำลังนอนอยู่ใต้ต้นกัลปพฤกษ์ หรือ Tree of Heaven (ฟังชื่อเหมือนหนังน้ำเน่าเกาหลีคุ้นๆนะ แต่ไม่เกี่ยวกันหรอก) ซึ่งเป็นต้นไม้สาระพัดนึก ใครไปอยู่ตรงนั้นนึกอะไรก็จะเกิดเรื่องแบบนั้นหรือเป็นแบบนั้นขึ้นมาในชีวิตจริง
เอ๊..วันนี้หมอสันต์เป็นอะไรไปนะ เขียนเรื่องไร้สาระขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
หิ..หิ เหตุที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาผมมีประเด็นเดียว คือบนเส้นทางหันกลับจากนอกเข้าใน ค่อยๆวางความคิดลงไป จนเข้าไปเป็นความรู้ตัว ตรงที่หมดความคิด หมดอีโก้แล้วนั่นแหละ ตรงนั้นมันเปรียบได้กับการนั่งอยู่ใต้ต้นกัลปพฤกษ์ ถ้าคุณหมดความคิดจริงๆแล้วมันไม่มีปัญหาอะไรดอก เพราะเมื่อไม่มีอีโก้ คุณก็ไม่รู้จะคิดหาอะไรไปให้ใครอีกต่อไปแล้ว เพราะอีโก้หรือ identity มันไม่มีแล้ว เมื่อไม่มีความคิด นั่งอยู่ตรงนั้นมันก็ไม่มีปัญหา
แต่มันมีปัญหาเมื่อคุณยังอยู่ในระยะเริ่มต้นจะหันหลังกลับจากนอกเข้าใน ขณะที่ใจก็ยังเต็มไปด้วยความคิดที่จะปกป้องหรืออุ้มชูอีโก้อยู่ แต่บางโมเมนต์ใจมันก็เกือบว่าง และอิทธิพลของต้นกัลปพฤกษ์มันก็เริ่มออกฤทธิ์แผ่วๆ ตรงใกล้ชายขอบใกล้ร่มเงาของต้นกัลปพฤกษ์นั้นแหละ ให้ระวังความคิดของคุณให้ดี เพราะคุณคิดอะไร สิ่งนั้นมันจะมา คุณกลัวอะไร สิ่งนั้นมันจะมา ยิ่งคุณขยันคิดถึงสิ่งร้ายๆเลวๆ สิ่งร้ายๆเลวๆก็จะยิ่งขยันเข้ามาหาคุณ ประเด็นของผมมีแค่นั้น
อย่าถามผมว่ากลไกการออกฤทธิ์หรือ mechanism of action มันเป็นอย่างไรนะ เพราะผมไม่รู้
หิ หิ..จบข่าว
…………………………………………………………….
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์