ฝ่ามือเหลือง ผิวเหลือง ถูกเพื่อนไล่ให้ไปหาหมอ

วันนี้ตอบจดหมายควบสองฉบับเรื่องเดียวกัน ท่านที่หนึ่งถามเรื่องของเด็ก อีกท่านถามเรื่องของผู้ใหญ่ เรื่องเดียวกัน ตอบให้ฉบับเดียวนะ

สวัสดีค่ะ คุณหมอ

     ได้อ่านบทความเรื่องตัวเหลืองไปบ้างแล้วค่ะแต่จะรบกวนขอถามเน้นย้ำ สำหรับเด็ก 1.3 ขวบ อีกครั้งค่ะ หนูกับแฟน กินเจ มา 10 ปีแล้วค่ะ ก่อนมีลูกหนูมีกรรมพันธุ์แม่เป็นธาลัสซีเมีย หนูเป็นธารลัสชนิด E แบบซ่อน (ไม่เข้าใจ ได้ตรวจตอนท้องถึงรู้ค่ะ) ตอนนี้ลูก 1.3 ขวบ ที่ผ่านมา ปั่นอาหารให้ลูกทานค่ะ
ข้าวกล้อง ถั่ว 5 สี ผักใบเขียว งาดำ งาขาว แฟล๊ก มันฝรั่ง ฟักทอง แครอท มะเขือเทศ เห็ดต่างๆ บีทรูท งาม่อน ฯลฯ พยายามให้ได้ผัก 5 สี และเน้นผักใบเขียวค่ะ ผักใบเขียว ตำลึง คะน้า บล๊อคโคลี ผักบุ้ง ยอดมะรุม ใบยอ วอเตอเครส ต้มหม้อเดียวกัน ปั่นรวมกัน แช่ฟรีซ กินได้ประมาณ 1 อาทิตย์ ถ้าจะกินพรุ่งนี้ ก็จะเอามาแช่ตู้ธรรมดาก่อน 1 คืน ก่อนทานอุ่นไมโครเวฟก่อนค่ะ
ผลไม้ ฝรั่ง แอปเปิ้ล กล้วย มะม่วงสุก ขนุน แตงโม มีอะไรก็กินได้หมดค่ะ ปั่นบ้าง ไม่ปั่นบ้าง โดยเฉพาะช่วงนี้ มะม่วงสุกเกือบทุกมื้อค่ะ
หมอให้เสริมธาตุเหล็กอาทิตย์ละครั้งค่ะ (เด็กไทยกินเสริมจนอายุ 1.6 ขวบ) ตอนนี้ยังกินนมแม่อยู่ค่ะ ลูกแข็งแรง อารมณ์ดีค่ะ ไม่ป่วยเลย
คำถามคือ
1.ตอนนี้ลูก ตัวเหลือง โดยเฉพาะมือ เท้าเหลือง ค่ะ ผิดปกติไหมคะ ต้องไปตรวจไหมคะ
2.อาหารที่เอาทุกอย่างปั่นรวมกัน ใช้ได้ไหมคะ
ถ้าภาพไม่ถูกกาลเทศะ ขออภัยคุณหมอด้วยนะคะ
ขอบพระคุณค่ะ

...........................................

ตอบครับ

     1. ถามว่าผิวสีเหลืองเกิดจากอะไร ผิวที่มีสีเหลืองมากขึ้นนอกจากเม็ดสี(melanin) ตามธรรมชาติ เป็นสีของ beta carotene ซึ่งมีอยู่ในพืชอาหารที่กินนั่นแหละโดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่ออกสีส้ม สีแดง และสีเหลือง มันเป็นตัวตั้งต้นให้ร่างกายสร้างเป็นวิตามินเอ. (provitaminA) เรื่องความปลอดภัยของเบต้าแคโรทีนนี้แม้ในวงการแพทย์ก็เคยถกเถียงกันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเบต้าแคโรทีนที่ผลิตจากระบบอุตสาหกรรมแล้วเอามาใส่ในอาหารเสริมเพื่อเพิ่มวิตามินเอ. ในที่สุดก็เกิดการประชุมเพื่อทบทวนหลักฐานวิทยาศาสตร์ในเรื่องความปลอดภัยของเบต้าแคโรทีนขึ้นที่เมืองโฮเฮนไฮม์ (Hohenheim) ประเทศเยอรมันนี ถ้าผมจำปีไม่ผิด ในปี ค.ศ. 2009 ซึ่งได้ข้อสรุปที่ใช้กันในวงการแพทย์จนทุกวันนี้ว่าเบต้าแคโรทีนไม่ว่าจะมาจากอาหารธรรมชาติหรือที่ผลิตมาทางอุตสาหกรรมล้วนเป็นสารอาหารที่ปลอดภัยต่อร่างกายไม่ว่าร่างกายจะได้รับมากแค่ไหน ทั้งนี้โดยยอมรับว่าการที่มันสะสมใต้ผิวหนังและทำให้ผิวเป็นสืเหลืองนั้นเป็นธรรมชาติของมันโดยไม่มีผลเสียต่อร่างกายแต่อย่างใด

     2. ถามว่าการเป็นโรคทาลาสซีเมีย หรือเป็นพาหะของโรคทาลาสซีเมีย มีส่วนทำให้ตัวมีสีเหลืองขึ้นได้ไหม ตอบว่ามีส่วนครับ โดยที่กลไกที่ทำให้เกิดสีเหลืองนั้นเป็นคนละกลไกกับการสะสมเบต้าแคโรทีนจากอาหาร คือเม็ดเลือดของคนเป็นโรคหรือเป็นพาหะของโรคทาลาสซีเมียจะรูปร่างเล็กและบิดเบี้ยวทำให้มีอายุสั้นและแตกสลาย (hemolysis) หมดอายุเร็ว เมื่อเม็ดเลือดแตกแล้วตับจะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นน้ำดี ซึ่งส่วนหนึ่งจะบ่าท้นเข้ามาในกระแสเลือดเรียกว่าเป็นดีซ่านทำให้ตัวเหลือง แต่ตัวเหลืองแบบดีซ่านจะแตกต่างจากตัวเหลืองจากเบต้าแคโรทีนตรงที่ดีซ่านน้ำดีที่ทำให้เป็นสีเหลืองอยู่ในกระแสเลือดซึ่งเราจะเห็นความเหลืองนี้ชัดที่ลูกตาขาวและน้ำปัสสาวะเพราะตรงลูกตาขาวความเหลืองในหลอดเลือดฝอยจะเห็นชัดเนื่องจากสีตัดกับสีขาวของลูกตา ขณะที่น้ำดีในเลือดจะถูกขับออกไปทางปัสสาวะทำให้ปัสสาวะเป็นสีเหลืองเข้ม ส่วนการเหลืองจากเบต้าแคโรทีนนั้นเป็นการเหลืองในชั้นนอกของหนังกำพร้า (stratum corneum) ซึ่งจะเห็นความเหลืองนี้ชัดที่ฝ่ามือฝ่าเท้าและผิวหนังส่วนที่สีอ่อน ยิ่งสีผิวอ่อนก็ยิ่งเห็นความเหลืองชัดขึ้น โดยที่สีปัสสาวะเป็นปกติ

     3. ถามว่าแล้วมีโรคอะไรที่ทำให้เป็นดีซ่านรุนแรงกว่าการเป็นพาหะทาลาสซีเมียได้ไหม ตอบว่ามีครับ มีอยู่สองกรณีคือ

     (1) กรณีที่เกิดตับอักเสบรุนแรง เซลตับตายลงเป็นจำนวนมาก น้ำดีในเซลตับก็จะบ่าท้นออกมาในกระแสเลือดได้ และ

     (2) กรณีที่มีการอุดกั้นการไหลของน้ำดี เช่นเป็นนิ่วหรือเนื้องอกหรือมีการอักเสบในท่อน้ำดี

     ทั้งสองกรณีนี้เป็นเรื่องค่อนข้างเฉียบพลัน มักจะมีอาการรุนแรงเช่น มีไข้ อ่อนเปลี้ยเพลียแรง คลื่นไส้อาเจียนหรือการย่อยอาหารไขมันเสียไป และปัสสาวะสีเหลืองจัดจนเป็นเหลืองปนเขียว เป็นกรณีแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการเกิดผิวหนังเป็นสีเหลืองจากเบต้าแคโรทีน

      4. ถามว่าฝ่ามือเหลืองหรือผิวหนังมีสีเหลืองต้องไปหาหมอไหม ตอบว่าถ้าไม่มีไข้และปัสสาวะไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองเข้มขึ้นมาแบบฉับพลันทั้งๆที่ร่างกายไม่ได้ขาดน้ำก็ไม่ต้องไปหาหมอดอกหรอกครับ เพราะมันเป็นแค่การเหลืองจากสีของเบต้าแคโรทีนซึ่งไม่ใช่โรคที่ต้องรักษา ถ้าไปหาหมอ หมอเขาก็จำเป็นต้องตรวจโน่นตรวจนี่เพื่อเอาหลักฐานมาพิสูจน์ว่าคุณไม่มีอะไรผิดปกติทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่ามันจะปกติ แล้วจะเสียเงินและเจ็บตัวไปทำไมละครับ

     5. ถามว่าในกรณีที่อยากลบสีเหลืองออกจากผิวหนังเพราะอยากสวยอยากหล่อจะทำอย่างไรดี ตอบว่าปัญหาที่คนเราเป็นทุกข์อยู่ทุกวันนี้เพราะไม่อยากได้สิ่งตัวเองมี แต่ไปอยากได้สิ่งที่ตัวเองไม่มี ยุทธศาสตร์ในการปลดทุกข์นี้ง่ายนิดเดียว คือเปลี่่ยนเป็นอยากได้สิ่งที่ตัวเองมีอยู่แล้วซะ และเลิกอยากได้สิ่งที่ตัวเองไม่มี แค่นี้ก็สุขได้แล้ว

     หากผมพูดอย่างนี้แล้วคุณยังไม่เก็ทก็เหลืออยู่อีกวิธีเดียวละครับ คือตากแดดให้มากๆเพื่อจะเปลี่ยนสีผิวหนังของคุณให้เข้มขึ้น แล้วสีเหลืองที่ผิวหนังก็จะถูกข่มด้วยสีดำเอง นี่เรียกว่าเป็นยุทธศาสตร์ "ดำ ขำคม ข่มเหลือง" หิ..หิ

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

กินคีโตไข่ต้มไก่ต้มทุกวันแล้วหลอดเลือดหัวใจตีบ

ความแก่..เหมือนหมาถูกต้อนเข้ามุมให้จนตรอก

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

เปลี่ยนอาหาร ปั่นจักรยาน น้ำตาลลด ความดันลด แต่ไขมันทำไมไม่ลด

ท่านอายุเก้าสิบแล้วยังไม่รู้ แล้วท่านจะรู้มันไปทำพรื้อละครับ

สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตคนเราคือความเบิกบาน (Joy)

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

มะเร็งต่อมลูกหมากแพร่กระจายไปกระดูกขาแล้ว จะไปต่อไงดี