คนที่มวกเหล็กวาลเลย์เขาเป็นคนอย่างไรกันบ้าง

อาจารย์คะ
อยากจะมาซื้อที่ดินในมวกเหล็กวาลเลย์อยู่ตอนเกษียณ ปลูกดอกไม้ ใช้ชีวิตอย่างสงบไม่ไกลกรุงเทพเพื่อให้ลูกๆมาหาสะดวก หนีน้ำท่วมด้วย อยากถามคุณหมอว่าคนที่มวกเหล็กวาลเลย์เขาเป็นคนอย่างไรกันบ้าง

..................................................................

ตอบครับ

     คุณไม่ใช่คนแรกที่ถามคำถามนี้กับผม บางคนแวะมากินอาหารที่เวลเนสวีแคร์เห็นบรรยากาศรอบๆแล้วอยากมาหาซื้อที่ดิน ก็ถามคำถามนี้กับผม บางคนมาเข้าแค้มป์ ได้มีโอกาสเดินออกกำลังกายไปรอบๆ แล้วก็มาถามคำถามนี้กับผม ผมจะมีคำตอบเดียวกันแต่แต่ละคนฟังอาจจะไม่เหมือนกัน ผมยกตัวอย่างเป็นคำสนทนาให้คุณฟังนะ

     คนแรกถามผมว่า

     "อยากออกมาอยู่ต่างจังหวัด ซื้อที่แปลงเล็กๆ ชอบที่นี่ คนที่นี่เขาเป็นอย่างไรกันบ้างคะ"

     ผมย้อนถามว่า

     "แล้วที่คุณอยู่ทุกวันนี้ คนที่นั่นเขาเป็นอย่างไรกันบ้างละครับ" เธอตอบว่า

     "หมู่บ้านที่หนูอยู่แทบทุกคนจะเอาแต่ประโยชน์ของตัวเอง เวลามีงานอะไรส่วนกลางไม่มีใครโผล่ออกมาช่วยหรอก แต่พอตัวเองไม่ได้ผลประโยชน์เท่ากับคนอื่นก็จะออกมาโวยวาย"

     ผมตอบเธอไปว่า

     "คนที่นี่ก็เป็นประมาณนั้นกระมังครับ"

     คนที่สองถามผมว่า

     "อากาศที่นี่ดีกว่าที่ผมคาดไว้มากเลย คุณหมอครับ ถ้าผมมาหาซื้อที่แถวนี้พอมีที่ขายไหม แล้วคนที่นี่เขาเป็นอย่างไรบ้างครับ" ผมก็ย้อนถามเขาไปว่า

     "ที่ดินนะมีขายทุกแห่งอยู่แล้ว ยิ่งที่นี่เป็นหมู่บ้านกึ่งร้าง คือมีคนอยู่กะหร็อมกะแหร็ม ยิ่งหาซื้อที่ดินได้ง่าย ส่วนเรื่องคนนั้น แล้วที่คุณอยู่ทุกวันนี้ คนที่นั่นเขาเป็นอย่างไรกันบ้างละครับ" เขาตอบว่า

     "ผมอยู่ชานเมือง เป็นชุมชนทั่วไปไม่ใช่หมู่บ้านจัดสรร คนก็อยู่กันแบบชาวบ้าน ส่วนใหญ่มีอัธยาศัยไมตรี เดินไปบ้านไหนก็แทบจะเข้านอกออกในคุยกันได้ทุกบ้าน เพราะทุกบ้านยินดีต้อนรับกันและกันหมด"

     ผมตอบเขาไปว่า

     "คนที่นี่ก็เป็นประมาณนั้นแหละครับ"

     ถึงแม้คำตอบที่ให้ทั้งสองคนจะไม่ตรงกันฟังดูเหมือนตรงข้ามกันด้วยซ้ำไป แต่ผมไม่ได้โกหก เพราะการที่คนที่เข้ามาอยู่ใหม่จะพบเห็นเพื่อนบ้านใหม่ว่าเป็นคนแบบไหน จะเจอสิ่งแวดล้อมแบบไหน มันขึ้นอยู่กับว่าเขามีอะไรอยู่ล่วงหน้าแล้วในใจ เขาก็จะได้พบได้เห็นได้สัมผัสแบบนั้น เพราะสิ่งแวดล้อมหรือผู้คนที่เรานึกว่าอยู่ข้างนอกตัวเรานั้น แท้จริงแล้วใจของเราเป็นผู้สร้างมันขึ้นมา สิ่งที่มีอยู่แล้วในใจเราจะเลือกหยิบด้านที่สอดคล้องกันในตัวของผู้คนหรือสิ่งแวดล้อมข้างนอกขึ้นมาไฮไลท์ ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลกับเพื่อนบ้านใหม่หรือสิ่งแวดล้อมใหม่ดอก แค่คุณเปิดใจรับว่าพวกเขาเป็นคนอย่างไร พวกเขาก็จะเป็นอย่างนั้นในใจคุณ

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

กินคีโตไข่ต้มไก่ต้มทุกวันแล้วหลอดเลือดหัวใจตีบ

ความแก่..เหมือนหมาถูกต้อนเข้ามุมให้จนตรอก

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

เปลี่ยนอาหาร ปั่นจักรยาน น้ำตาลลด ความดันลด แต่ไขมันทำไมไม่ลด

ท่านอายุเก้าสิบแล้วยังไม่รู้ แล้วท่านจะรู้มันไปทำพรื้อละครับ

สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตคนเราคือความเบิกบาน (Joy)

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

มะเร็งต่อมลูกหมากแพร่กระจายไปกระดูกขาแล้ว จะไปต่อไงดี