ทำไมการใช้ชีวิตจึงยากจัง

อาจารย์ครับ
ทำไมการใช้ชีวิตจึงยากจัง มีแต่ล้มเหลว ไม่ประสบความสำเร็จ เหงา หดหู่ (คำถามจาก OnLineClinic5)

ตอบครับ

     ถามว่าทำไมการใช้ชีวิตจึงยากจัง ตอบว่าการใช้ชีวิตยากอย่างที่คุณว่าจริง ถ้าคุณใช้ชีวิตแบบมุ่งไปเสาะหาความสุข ซึ่งมันมีโอกาสพบน้อย หรือพบก็อยู่ได้แป๊บเดียว ทั้งนี้เป็นเพราะความสุขมันไม่ใช่สิ่งที่อยู่ข้างนอกตัว แต่การใช้ชีวิตของเรามุ่งเสาะหาสิ่งที่มันไม่ได้อยู่ที่นั่น มันจึงยาก

     ความสุขเป็นธรรมชาติของส่วนลึกของชีวิตเรา มันอยู่ข้างใน ผมพูดบ่อยๆว่าชีวิตประกอบขึ้นง่ายๆจากสามส่วน คือร่างกาย ความคิด และความรู้ตัว ใจของเรานี้เมื่อวางความคิดลงไปหมดก็จะเหลือแต่ความรู้ตัว ซึ่งมีธรรมชาติเป็นความตื่น ความสามารถรับรู้ และความสงบเย็นเบิกบาน ตรงนี้แหละคือที่ความสุขที่แท้จริงอยู่ ไม่ใช่ที่ความสำเร็จที่ข้างนอก

     ความรู้ตัวสงบเย็นอยู่ได้ตลอดเวลาเพราะมันไม่มีเอี่ยวอะไรกับความเป็นบุคคลหรือ identity ของเราซึ่งเราสร้างขึ้นมาจากการยำรวมร่างกายนี้เข้ากับความคิดและคอนเซ็พท์ต่างๆเข้าด้วยกันแล้วเหมาเอาว่านี่คือตัวตนของเรา ความรู้ตัวไม่ได้เป็นญาติกับ identity ของเรา ความรู้ตัวจึงไม่ต้องเดือดร้อนคอยตามอวยหรือตามปกป้อง identity ของเรา ไม่เหมือนความคิดที่ร้อยทั้งร้อยถูกชงขึ้นมาจากสำนึกว่าเป็นบุคคลและแทบจะมีหน้าที่เดียวคือคอยอวยหรือปกป้อง identity ของเราซึ่งเป็นงานสุดยากเพราะ identity มันเป็นของสมมุติที่ไม่ใช่ของจริงอันถาวรไม่ว่าใครก็ปกป้องมันให้คงอยู่สูงเด่นตลอดไปไม่ได้หรอก

     ผมแนะนำให้คุณเปลี่ยนนโยบายการใช้ชีวิตใหม่นะ คือก่อนที่จะออกไปใช้ชีวิต ให้ตั้งต้นด้วยการมีความสุขก่อน หมายความว่าให้คุณวางความคิด ถอยความสนใจออกจากความคิด หมายถึงการทิ้ง identity ของตัวเองไปเสีย แล้วถอยเข้าไปอยู่กับความรู้ตัว หรือไปเป็นความรู้ตัว แบบที่เขาเรียกว่าอยู่กับปัจจุบัน ที่ตรงนั้นคุณจะสงบเย็นและเบิกบาน คือคุณมีความสุขแล้วจากการถอยจากนอกเข้าใน ประเด็นคืออย่าเริ่มต้นด้วยการออกไปใช้ชีวิต แต่เริ่มต้นด้วยการถอยจากนอกเข้าในให้ตัวเองมีความสุขสงบเย็นก่อน

     เมื่อตัวเองมีความสุขสงบเย็นแล้ว จึงค่อยเริ่มต้นออกไปใช้ชีวิต การออกไปใช้ชีวิตคราวนี้จะมีวาระเดียวเท่านั้น คือไปช่วยโลก หรือช่วยสังคม หรือช่วยชีวิตอื่น ไม่ใช่ไปหาความสุข เพราะเรามีความสุขเรียบร้อยแล้วไม่ต้องไปเสาะหาอีก ไม่ต้องอวยหรือปกป้อง identity ของเราเพราะเราทิ้งมันไปแล้วไม่ด้องปกป้องอะไรอีก การออกไปรอบนี้มีแต่จะมุ่งช่วยโลกช่วยชีวิตอื่นเท่านั้น ทุกเวลานาทีก็ท่องอยู่แต่ว่าจะช่วยโลกช่วยชีวิตอื่นได้อย่างไร ซึ่งมันเริ่มได้ง่ายๆ เช่นปลูกต้นไม้ต้นหนึ่งคุณก็ช่วยโลกแล้ว ยิ้มให้คนที่เดินสวนกันทีหนึ่งคุณก็ช่วยคนอื่นแล้ว การออกไปใช้ชีวิตแบบนี้ไม่ยาก และคุณจะประสบความสำเร็จแทบทุกครั้ง ไม่ยากเหมือนการอวยหรือปกป้อง identity ของเราเองซึ่งยากเย็นกว่ากันมาก ผลพลอยได้จากการใช้ชีวิตแบบนี้ก็คือทุกคนมีแต่ได้ คุณได้ตรงที่อัตตาหรือ identity ที่เป็นเหตุแห่งทุกข์ของคุณนั้นมันจะฝ่อเล็กลงๆเพราะคุณทิ้งมัน คนอื่นหรือโลกก็จะได้เต็มๆเพราะคุณทำอะไรก็ทำเพื่อคนอื่นหรือเพื่อโลก

     ลองดูนะ

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

กินคีโตไข่ต้มไก่ต้มทุกวันแล้วหลอดเลือดหัวใจตีบ

ความแก่..เหมือนหมาถูกต้อนเข้ามุมให้จนตรอก

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

เปลี่ยนอาหาร ปั่นจักรยาน น้ำตาลลด ความดันลด แต่ไขมันทำไมไม่ลด

ท่านอายุเก้าสิบแล้วยังไม่รู้ แล้วท่านจะรู้มันไปทำพรื้อละครับ

สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตคนเราคือความเบิกบาน (Joy)

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

มะเร็งต่อมลูกหมากแพร่กระจายไปกระดูกขาแล้ว จะไปต่อไงดี