อดนอนมากตายได้ครับ
จากการที่หนูเคยปรึกษาเกี่ยวกับเม็ดเลือดขาวสูง ก็คงไม่เกี่ยวข้องอะไรกับร่างกายที่มีอาการปวดกระดูก อย่างที่คุณหมอแนะนำคือออกกำลังกาย เนื่องจากว่าหนูทำงานตอนกลางคืนติดต่อกันมา 5 เดือนแล้ว เดือนหนึ่งหยุดแค่ 2 วัน ทำงาน 2 ทุ่ม เลิก8 โมงเช้า ทุกวัน ก็เลยไม่มีเวลาออกกำลังกายเลย หนูคิดว่าอายุหนูยังน้อย ยังสู้ไหวอยู่ แต่ระยะหลังมานี่ รู้สึกปวดกระดูก ก็ไปหาหมอมาเหมือนกันแต่ไม่ได้บอกรายระเอียดว่า เข้างานตอนกลางคืนมา 5 เดือนแล้ว มันเป็นผลกระทบหรือเปล่า เนื่องจากออกกะมา วันหนึ่งนอนแค่ 5 ชั่วโมง 2เดือนแรกก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย พอเข้าเดือนที่3 มานี่รู้สึกว่า นอน 6 ชั่วโมงก็ไม่พอ ตื่นขึ้นมาก็รู้สึกว่าเหมือนไม่มีแรง มันเหนื่อยล้าทั้งตัว แทบเดินไม่ไหว หน้าตาซีดมาก จนตาขาวข้างในกลายเป็นสีเหลืองเลยค่ะ แต่ก็มีคนในบริษัทแนะนำให้ไปเติมน้ำเกลือที่โรงพยาบาลดู เพราะรู้สึกว่าหนูจะแย่แล้ว เพราะตัวหนูโทรมมากน้ำหนักก็ลดด้วย อยากทราบว่าในกรณีแบบนี้ทางโรงพยาบาลจะเติมน้ำเกลือให้ได้ เหมือนพวกพี่เค้าแนะนำได้หรือเปล่าค่ะ
…………………………….
ตอบครับ
1. ปวดกระดูก เหนื่อยล้าทั้งตัว เกี่ยวกับอดนอนไหม ตอบว่าเกี่ยวสิครับ การขาดการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ทำให้เกิดอาการได้ทุกชนิด ทั้งอาการทางร่างกายและจิตใจ ทำให้ตายแบบปุบปับก็ยังได้เลยนะ
2. คนในบริษัทแนะนำให้ไปเติมน้ำเกลือรักษาอ่อนเพลียจากการอดนอน แหม เพื่อนที่บริษัทเนี่ยช่างแสน ..น จะหวังดีนะ สาธุ ความเป็นจริงก็คือน้ำเกลือใช้รักษาอาการอ่อนเพลียที่เกิดจากการอดนอนไม่ได้ ไม่เกี่ยวกันเลย เหมือนเขาบอกคุณว่าให้ใส่เสื้อแดงจะป้องกันฟ้าผ่าได้ คุณจะเชื่อเขาแมะ มันเกี่ยวกันไหมละ
ผมไม่ว่าคุณนะ ที่คุณตั้งอกตั้งใจโทรมตัวเองได้ขนาดนี้ ไม่ต่อว่าด้วยว่าคุณงกเงิน เพราะมีคนไข้ของผม และคนที่ผมรู้จักอีกมาก ที่เป็นอย่างคุณ ทั้งๆที่เป็นคนมีการศึกษาดี มีเงินมีทองใช้เหลือเฟือ แต่เขาก็ยังทำตัวแบบคุณเด๊ะ คือไม่เห็นความสำคัญของการให้ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ แแถมดูจะภาคภูมิใจเหลือเกินกับการได้ทำงานหนักแบกสี่จ๊อบห้าจ๊อบเพื่อให้ตัวเองป่วยเร็วขึ้น แต่ผมอยากติงคุณนิดหนึ่งว่าคนเราจะมีความสุข มีองค์ประกอบไม่มากเลย คือแค่มีสุขภาพร่างกายที่ดี และมีจิตใจที่ตั้งมั่นและผ่อนคลาย แค่เนี้ยะ ก็มีความสุขได้เต็มแม็กแล้ว การจะบรรลุการมีสุขภาพกายดีและสุขภาพใจดีนี้ ก็มีหลักไม่ยากเลย เพียงแค่คุณทำสี่ห้าอย่างนี้ คือ
1. ออกกำลังกายให้หนักจนได้เหงื่อหรือจนหอบเหนื่อยทุกวัน
2. ดูแลโภชนาการของตัวเองให้ดี อย่ากินมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่ากินแคลอรี่ที่มาพร้อมกันไขมันและน้ำตาลที่มาพร้อมกับเครื่องดื่มมากเกินไป ขณะเดียวกันก็กินผักและผลไม้ให้มากๆ ผลไม้สามจานผักสองจานต่อวัน เป็นผักที่ไม่ใช่ผัดหรือทอดด้วยนะ คือเป็นผักสดหรือต้มนึ่งย่าง
3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ วันหนึ่งควรมีเวลานอนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง คนทำงานเป็นกะอาจจะต้องนอนถึง 9 – 10 ชั่วโมงต่อวัน เพราะคุณภาพการนอนเวลากลางวันมันไม่เท่าการนอนกลางคืน นอกจากเวลานอนที่พอเพียงแล้ว ยังต้องมีเวลาผ่อนคลายจิตใจให้ใจได้สงบๆสบายๆพอควรอีกด้วยบ้าง
4. ประเมินปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพตนเองเป็นระยะ จะประเมินเองหรือไปหาหมอสักปีละครั้งก็ได้ การประเมินเองก็ไม่ยาก เช่นเรื่องการออกกำลังกายเราทำได้พอหรือยัง อาหารถูกต้องหรือยัง นอนพอหรือยัง เป็นต้น ถ้าไปหาหมอๆอาจประเมินลึกซึ้งอีกหน่อย เช่นดัชนีมวลกายเกินไปหรือเปล่า ความดันเลือดโอเค.ไหม ไขมันในเลือด น้ำตาลในเลือดเป็นอย่างไร เป็นต้น ประเมินแล้ว รู้ว่าเรายังมีความเสี่ยงสุขภาพในเรื่องไหนแล้ว ก็ลงมือจัดการความเสี่ยงนั้นเสีย
5. ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่ป้องกันได้ให้ครบถ้วน เพราะมีหลายโรคที่คนเราต้องมาป่วยมาทรมานทั้งๆมันป้องกันได้ด้วยวัคซีน
ถ้าคุณทำห้าอย่างนี้ได้ ชีวิตก็มีความสุขได้แล้ว ไม่ต้องมีเงินก็ยังได้ เพราะมีงานวิจัยทางการสังคมหลายชิ้นที่ให้ผลตรงกันว่าเงินไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะทำให้เรามีความสุข คุณอาจไม่เชื่อผมก็ได้ ชีวิตคุณ คุณเลือกทางเดินเองครับ
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
…………………………….
ตอบครับ
1. ปวดกระดูก เหนื่อยล้าทั้งตัว เกี่ยวกับอดนอนไหม ตอบว่าเกี่ยวสิครับ การขาดการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ทำให้เกิดอาการได้ทุกชนิด ทั้งอาการทางร่างกายและจิตใจ ทำให้ตายแบบปุบปับก็ยังได้เลยนะ
2. คนในบริษัทแนะนำให้ไปเติมน้ำเกลือรักษาอ่อนเพลียจากการอดนอน แหม เพื่อนที่บริษัทเนี่ยช่างแสน ..น จะหวังดีนะ สาธุ ความเป็นจริงก็คือน้ำเกลือใช้รักษาอาการอ่อนเพลียที่เกิดจากการอดนอนไม่ได้ ไม่เกี่ยวกันเลย เหมือนเขาบอกคุณว่าให้ใส่เสื้อแดงจะป้องกันฟ้าผ่าได้ คุณจะเชื่อเขาแมะ มันเกี่ยวกันไหมละ
ผมไม่ว่าคุณนะ ที่คุณตั้งอกตั้งใจโทรมตัวเองได้ขนาดนี้ ไม่ต่อว่าด้วยว่าคุณงกเงิน เพราะมีคนไข้ของผม และคนที่ผมรู้จักอีกมาก ที่เป็นอย่างคุณ ทั้งๆที่เป็นคนมีการศึกษาดี มีเงินมีทองใช้เหลือเฟือ แต่เขาก็ยังทำตัวแบบคุณเด๊ะ คือไม่เห็นความสำคัญของการให้ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ แแถมดูจะภาคภูมิใจเหลือเกินกับการได้ทำงานหนักแบกสี่จ๊อบห้าจ๊อบเพื่อให้ตัวเองป่วยเร็วขึ้น แต่ผมอยากติงคุณนิดหนึ่งว่าคนเราจะมีความสุข มีองค์ประกอบไม่มากเลย คือแค่มีสุขภาพร่างกายที่ดี และมีจิตใจที่ตั้งมั่นและผ่อนคลาย แค่เนี้ยะ ก็มีความสุขได้เต็มแม็กแล้ว การจะบรรลุการมีสุขภาพกายดีและสุขภาพใจดีนี้ ก็มีหลักไม่ยากเลย เพียงแค่คุณทำสี่ห้าอย่างนี้ คือ
1. ออกกำลังกายให้หนักจนได้เหงื่อหรือจนหอบเหนื่อยทุกวัน
2. ดูแลโภชนาการของตัวเองให้ดี อย่ากินมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่ากินแคลอรี่ที่มาพร้อมกันไขมันและน้ำตาลที่มาพร้อมกับเครื่องดื่มมากเกินไป ขณะเดียวกันก็กินผักและผลไม้ให้มากๆ ผลไม้สามจานผักสองจานต่อวัน เป็นผักที่ไม่ใช่ผัดหรือทอดด้วยนะ คือเป็นผักสดหรือต้มนึ่งย่าง
3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ วันหนึ่งควรมีเวลานอนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง คนทำงานเป็นกะอาจจะต้องนอนถึง 9 – 10 ชั่วโมงต่อวัน เพราะคุณภาพการนอนเวลากลางวันมันไม่เท่าการนอนกลางคืน นอกจากเวลานอนที่พอเพียงแล้ว ยังต้องมีเวลาผ่อนคลายจิตใจให้ใจได้สงบๆสบายๆพอควรอีกด้วยบ้าง
4. ประเมินปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพตนเองเป็นระยะ จะประเมินเองหรือไปหาหมอสักปีละครั้งก็ได้ การประเมินเองก็ไม่ยาก เช่นเรื่องการออกกำลังกายเราทำได้พอหรือยัง อาหารถูกต้องหรือยัง นอนพอหรือยัง เป็นต้น ถ้าไปหาหมอๆอาจประเมินลึกซึ้งอีกหน่อย เช่นดัชนีมวลกายเกินไปหรือเปล่า ความดันเลือดโอเค.ไหม ไขมันในเลือด น้ำตาลในเลือดเป็นอย่างไร เป็นต้น ประเมินแล้ว รู้ว่าเรายังมีความเสี่ยงสุขภาพในเรื่องไหนแล้ว ก็ลงมือจัดการความเสี่ยงนั้นเสีย
5. ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่ป้องกันได้ให้ครบถ้วน เพราะมีหลายโรคที่คนเราต้องมาป่วยมาทรมานทั้งๆมันป้องกันได้ด้วยวัคซีน
ถ้าคุณทำห้าอย่างนี้ได้ ชีวิตก็มีความสุขได้แล้ว ไม่ต้องมีเงินก็ยังได้ เพราะมีงานวิจัยทางการสังคมหลายชิ้นที่ให้ผลตรงกันว่าเงินไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะทำให้เรามีความสุข คุณอาจไม่เชื่อผมก็ได้ ชีวิตคุณ คุณเลือกทางเดินเองครับ
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์