ชีวิตมาก่อน สารัตถะของชีวิตมาทีหลัง (Existence Precedes Essence)
1. Existence precedes essence ซึ่งหมอสันต์แปลว่า "ชีวิตมาก่อน สารัตถะของชีวิตมาทีหลัง" หมายความว่าคนเกิดมามีชีวิต ตื่น รู้ตัว หายใจได้ก่อน ส่วนกฎกติกามารยาทสังคมหรือคุณค่าและความหมายของชีวิตนั้นเกิดขึ้นทีหลัง พูดง่ายๆว่าของที่เกิดก่อนเป็นของจริง ของเกิดทีหลังเป็นของปลอม
2. Freedom & responsibility แปลว่ามนุษย์เกิดมามีอิสระเสรี อยากได้อยากทำอยากเชื่ออะไรก็เลือกเอาเลือกทำเลือกเชื่อเองเถิด เลือกแล้วก็รับผลสุขทุกข์เอาเองด้วยนะอย่าไปโทษใคร อย่าไปอ้อนวอนขออะไรจากใคร อย่าไปสนคำชี้แนะสำเร็จรูปของศาสนาหรือพวกปั้นพระเจ้าขายซึ่งไร้สาระ
3. Authenticity vs Bad Faith ในการใช้ชีวิตต้องเลือกว่าจะไปข้างไหน ข้างเป็นตัวของตัวเอง (authenticity) ซึ่งคือการใช้ชีวิตไปตามคุณค่าที่ตัวเองเลือกและรับผิดชอบต่อผลของมันแบบเต็ม ๆ คนเดียว โดยไม่ต้องสนการชี้นำหรือแรงกดดันสังคมหรือศาสนา ขณะที่สุดโต่งอีกด้านหนึ่งก็คือ bad faith หรือการหลับหูหลับตาใช้ความศรัทธาระดับโฮ่..ฮม..ฮาย นำทางชีวิตไปดุ่ย ดุ่ย ดุ่ย
4. Dizziness of freedom เสรีภาพนี้ดูเผินๆเป็นของดี แต่พอจะหยิบฉวยใช้ประโยชน์เข้าจริงแล้วจะพบว่ามันทำให้เกิด "ความกลัวเสรีภาพ" ขึ้นมา คนที่ฝ่าความกลัวนี้ไม่ไหวก็ต้องกลับเข้าไปมุดอยู่ในกรงของความศรัทธาในพระในเจ้าหรือศรัทธาในรัฐบาลเหมือนเดิมต่อไป
5. Absurdity การที่คนส่วนใหญ่พากันหลับหูหลับตาเสาะหาคุณค่าและความหมายของชีวิตไปตามที่พวกผู้นำศาสนาและผู้นำสังคมสั่งสอนต่อๆกันมานั้นช่างเป็นเรื่องงี่เง่าอย่างน่าขัน สาธุชนพึงเอาชนะความงีเง่านี้ด้วยความกล้าหาญเถิด แทนที่จะสิ้นหวังกับมัน
6. Facticity เสรีภาพไม่ใช่การปฏิเสธทุกอย่างที่มีอยู่ที่เป็นอยู่ไปเสียตะพึด เพราะบางอย่างมันเป็นสิ่งที่ได้มาเรียบร้อยแล้วจะเป็นอื่นไปไม่ได้ ก็ต้องยอมรับมัน เช่น เพศ ชาติกำเนิด สีผิว ร่างกายสูงต่ำดำขาว ถิ่นประเทศที่ตัวเองเกิดมา เป็นต้น
ทั้งหมดนี้คือสาระประมาณ 90% ของ existentialism เท่าที่หมอสันต์คิดทบทวนขึ้นมาได้ คุณอ่านให้เข้าใจและเข้าถึงมันก็อาจจะใช้ประโยชน์จากมันได้อยู่นะ แต่ถ้าเอาไปตอบข้อสอบของอาจารย์แล้วอาจารย์ให้คุณสอบตกผมไม่รู้ด้วย หิ..หิ
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์