นักเรียน SR เล่าเรื่องการหลุดพ้นของตนเอง
(ภาพวันนี้ / ลัดดาวรรณ์)
(กรณีอ่านจาก fb กรุณาคลิกที่ภาพข้างล่างเพื่ออ่านบทความเต็ม)
อาจารย์ครับ
ผมนักเรียน SR จดหมายนี้ฉบับที่ 3 แล้วครับ ฉบับแรกที่ถามเรื่องตาที่ 3 ตอนนี้เกทแล้วว่าคืออะไร ขอบคุณมากครับ อ.
ผมได้สรุปคอนเสปของการหลุดพ้นไว้ดังนี้
“..รีวิวเส้นทางการเดินทางสู่อิสรภาพที่แท้จริงฉบับ ลัด สั้น ตรง ชีวิตที่ไม่มีทุกข์เลย มีอยู่จริงๆครับ
ก่อนที่จะพิมพ์เนื้อหา ผมจะพิมพ์ benefit ง่ายๆที่เกิดขึ้นใน 2-3 วันมานี้ หลังจากผมหลุดกรอบออกมาครับ
-เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ ผมกับพ่อตึงๆใส่กันมาตลอด หายสนิทเป็นปลิดทิ้ง และไม่ทะเลาะกันอีกเลย ส่วนเหตุผลเพราะอะไรผมจะใส่ใน part เนื้อหาครับ
-ช่วงขับรถมากทม. ตอนขับไม่มีความรู้สึกเหนื่อย หรือเมื่อไรจะถึง ขับมาเรื่อยๆชิวสบายๆ ไม่โมโหรถปาดหน้า ถ้าเป็นเมื่อก่อนต้องบีบแตรอัดรัวๆอย่างแน่นอน
-ช่วงขับรถในกทม.ปกติผมจะหงุดหงิดกับรถติดมากๆ ตอนนี้อยากไปไหนมาไหนสะดวกสบายลื่นปรื้ดๆ ไม่ใช่ถนนนะ แต่ใจผมเนี่ยแหละ แยกแครายในตำนานชิดซ้ายไปเลยถ้าเทียบกับใจที่เป็นอิสระของผม
-เหมือนเดิมครับ ปกติผมจะไม่ชอบไปที่คนเยอะ ร้านอร่อยต่อให้คิวยาวแค่ไหนอย่าหวังจะได้เจอผม
ล่าสุดแฟนชวนกินร้านที่ต้องต่อคิวในกทม.ต่อคิวไปเกือบชม.ผมก็ชิวมาก เพราะใจเราเป็นอิสระแล้ว
ต่อไปเป็น part เนื้อหา
Part 1 : เกริ่นนำ ทำไมคนเราถึงเป็นทุกข์ ขาดอิสรภาพ รู้สึกว่ามีอะไรในชีวิตที่ขาดหายไป
-ผมเคยคิดมาตลอดว่าผมเป็นคนรักสงบ ใช้ชีวิตอย่างร่มเย็นท่ามกลางธรรมชาติ ใช้ชีวิตอยู่ตจว.ที่รถไม่ติดแล้วผมจะมีความสุข
-ผมจึงทำทุกอย่างในชีวิตเพื่อให้ได้อิสรภายนอกมาจนหมดแล้ว เราอยากทำอะไรทำ กินอะไรกิน ไปเที่ยวไหนไป อยู่ที่ไหนอยู่ ไม่มีใครมาบังคับควบคุมเราอีกแล้ว
แต่มาพบเอาตอนหลังว่า นี่มันไม่ใช่อิสรภาพที่แท้จริง
นี่มันคุกชัดๆ มันคือการที่ผมยึดติดในไลฟ์สไตล์แบบนี้ แปลว่าถ้าเกิดใครมาทำอะไรหลุดจากสิ่งที่ผมชอบไป ผมจะหงุดหงิดหรือโกรธทันที และใช้วิธีหนีไปวิเวก
-การที่เราอยู่ที่ไหนก็ได้ ทำหรือไม่ทำอะไรก็ได้ แล้วใจเป็นอิสระ นั่นหนะคือ ” อิสรภาพที่แท้จริง “
-ไต่สวนไปต่อ จะพบว่าสุดท้ายแล้วสิ่งต่างๆที่ทำให้คนเป็นทุกข์ร้อนในชีวิต คือเรื่องของความคิด
-อย่างของผม ผมมีความคิดยึดติดกับความอิสระ พอผมเจออะไรที่ไม่ได้ดังใจผม ผมก็เป็นทุกข์
-เดี๋ยวจะมีคนสวนผมมาว่า เพราะผมยังไม่มีเงินมากพอที่จะได้ทุกอย่างที่อยากได้ เหมือนเสกได้ดั่งใจ
-ในชีวิตผมได้กระทบไหล่คนรวยมากมาย ผมก็ยังเห็นว่าเค้าก็ยังมึความทุกข์อยู่ ตราบใดที่ยังมีเรื่องที่ยึดติดอยู่ ถ้าไม่เชื่อผมคุณลองเปิดดูข่าวคนรวยด่าทอ หรือตีกันเยอะแยะมากมาย
-หลวงพ่อเทียนกล่าวว่า เงินซื้อได้แค่ความสะดวก ความพอใจ แต่ซื้อชีวิตที่ไม่มีทุกข์ไม่ได้
-มาถึงคำถามที่ผมอยากถาม คือถ้าเลือกได้แค่1อย่างระหว่างมีเงินแสนล้านกับมีชีวิตที่ไม่มีทุกข์ เราจะเลือกอะไร
เพราะถ้ามีชีวิตที่ไม่มีทุกข์แล้วจะมีเงินเท่าไรก็ไม่สำคัญแล้วเพราะคุณไม่ทุกข์ร้อนกับอะไรเลยในชีวิตนี้
แต่กลับกันสมมติมีเงินแสนล้านแต่อยากได้ในสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้ ใจก็เป็นทุกข์ (เช่น เงินซื้อความสัมพันธ์ที่ดีไม่ได้)
Part 2 : ค้นหาคำตอบ
เมื่อผมรู้สึกว่า something missing ผมจึงเริ่มค้นหาคำตอบ ลงเรียนคลาสพัฒนาจิตวิทยา พัฒนาตนเองมากมาย เรียนของต่างประเทศ เสียเงินไปหลายแสน เอามาปฏิบัติทั้งหมดก็แล้วทำมาหลายปี แต่มันก็แค่ชั่วครั้งชั่วคราว มันดับทุกข์ถาวรไม่ได้ หรืออย่างทฤษฏี maslow ที่บอกว่าให้ contribute เพื่อสังคมเพื่อเติมเต็ม สิ่งนี้คือการยึดติดในความคิดว่าต้อง contribute ถ้าไม่ได้ไปทำตรงนี้ต่อแล้วไปอยู่บ้านเฉยๆ หรือการที่ไปชวนคนอื่นมาทำ แล้วเค้าไม่ทำด้วยกันก็ไปหาว่าเค้าเป็นคนไม่ดี ใจก็เป็นทุกข์
ชีวิตแท้จริงนั้นไร้เรื่องราว ไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้ถ้าใจเป็นอิสระ แต่ถ้าใจคุณเป็นอิสระแล้วคุณมักทำสิ่งที่สร้างสรรค์เอง อ่านมาถึงตรงนี้คงมีคนคิดว่า นั่นก็เป็นชีวิตที่ไร้ค่าสิ ถ้าคุณคิดแบบนั้นคุณจะติดกับดักความคิดเรื่องชีวิตที่มีค่าไปแล้วละ คุณว่าทำไมคนเกษียณไม่ยอมเกษียณกลับไปทำงานต่อหรือถ้ายอมเกษียณแต่มักเป็นซึมเศร้าแทน เพราะติดกับกรอบความคิดนี้แล
อิสรภาพที่แท้จริงคือการ acceptance คือยอมรับทุกสิ่งที่ชีวิตมอบให้มาไม่ว่าเรื่องอะไร ตราบใดที่ใจคุณเป็นอิสระ ใจคุณก็ไม่ทุกข์ร้อนกับอะไร
ผมในตอนนั้นมองออกไปในชีวิตข้างหน้า ไม่เห็นว่าจะเจอความสุขที่ไหนได้เลย ล่าเป้าหมาย A ได้มาแล้วก็ว่างเปล่า ไป B ต่อ ได้มาว่างเปล่า ไป C ถึง Z ต้องทำแบบนี้ถึงเมื่อไร ถึงจะเจอความสุขที่แท้จริง(เป็นนิรันดร์ )
จนผมมาเจอคำตอบในเรื่องการแสวงหาทางจิตวิญญาณที่พบว่ามันมีวันจบ ซึ่งวิธีการมันมีหลากหลายมากทั่วโลกแล้วแต่ใครจะถูกจริตไหน
แต่วันนี้ผมจะมารีวิวเส้นทางที่ทำให้ผมหลุดจากทุกกรอบความคิดและใจเป็นอิสระได้แบบนิรันดร์ ซึ่งวิธีนี้ผมมองว่า ลัด สั้นตรงที่สุด เพราะไม่ได้ prove แค่ผม แต่ prove จากครูบาอาจารย์รอบตัว อย่างช้าสุดไม่เกิน 3 ปี อย่างเร็วสุด 7 วันถ้าเอาจริง โดยก่อนหน้านี้ผมเจอคนที่ค้นพบใจเป็นอิสระเป็นๆมา 4 คน มี 1 คนใช้วิธีอื่น (ผมไม่ทราบระยะเวลาที่เค้าหลุดด้วยวิธีนั้น) แต่อีก 3 คนใช้แนวทางที่ผมจะพูดถึง และบางคนใช้เวลาหลักวัน มากสุด 2 ปี เพราะฉะนั้นในโพสต์นี้ผมจะไม่พูดถึงวิธีการอื่น แต่จะพูดถึงวิธีการที่ผมใช้จนหลุด ซึ่งใช้เวลา 6 เดือน
(ทำบ้างไม่ทำบ้าง แต่ถ้านับเฉพาะช่วงที่มา all in คือประมาณไม่เกิน 7 วันก็หลุดแล้ว)
Part 3 : องค์ประกอบที่จะทำให้คนหลุดพ้นได้
1.ศรัทธาในเส้นทาง ต้องเชื่ออย่างสุดหัวใจว่าวิธีนี้จะทำให้คุณหลุดพ้นได้ ของผมผมเห็นหลักฐานจาก3คนข้างต้น และมีคลิป youtube คลิปนึงที่ทำให้ผมเข้าใจคอนเสปและมีความเชื่ออย่างสุดหัวใจ
2.ความเพียร จะเกิดได้ต้องมีศรัทธามาก่อน ความเพียรของผมเกิดจากการที่ผมมองออกไปหาความสุขในทางโลกๆไม่เจอแล้ว เที่ยวหรอ ก็ pattern เดิมๆอะ ดูซีรีย์ กินอาหาร มันก็ได้ดั่งใจหมดแล้ว ไม่เห็นจะเจอความสุขที่แท้จริงเลย ผมจึงตัดสินใจ all in เราจะไม่ทำ pattern เดิมละ เลยชีวิตผมมีแค่ นอน กินข้าว ปฏิบัติ จำวันเป๊ะๆไม่ได้ แต่ไม่เกินสัปดาห์ก็หลุดพ้นทันทีเมื่อตัดสินใจ all in
Part 4 : เส้นทางที่ผมใช้ หลายๆคนเข้าใจผิดว่าการนั่งสมาธิเท่านั้นที่จะทำให้หลุดพ้น เพราะมาจากภาพจำว่าพระพุทธเจ้านั่งสมาธิ แต่จริงๆแล้วสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนและเป็นหลักสำคัญที่สุดในการบรรลุความหลุดพ้นนั้นคือการมีสติในทุกอริยาบถไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอนซึ่งคือการเจริญสติ แนวทางที่ผมใช้เป็นแนวทางการเจริญสติแบบเคลื่อนไหว โดยผู้ริ่เริ่มแนวทางนี้ในไทยเท่าที่พอจะทราบมาคือหลวงพ่อเทียน โดยท่านได้สอนให้เจริญสติแบบเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นการเดินจงกรมแบบไม่เพ่ง เดินชิวๆหลวมๆ หรือการยกมือ 14 ขั้นตอน (ซึ่งผมไม่ถูกจริตอันนี้ผมเลยไม่ได้ใช้ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่าผมใช้อะไร แล้ว keyword คืออะไร
ส่วนตัวช่วงที่ผมใช้วิธีรู้สึกตัวสะสม เช่นพลิกหงายมือ แบกำมือ เดินจงกรมแบบไม่เพ่ง ขยับนิ้วมือ ถูนิ้วมือ
ซึ่งไม่ว่าทำอะไรหรือเผลอคิดอะไรไป ให้กลับมารู้สึกตัวทันทีและออกจากทุกความคิด
องค์ประกอบที่จะทำให้บรรลุความหลุดพ้น
1.ทำต่อเนื่องให้สะสมเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่
2.ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เผลอคิดอะไรไปไม่เป็นไร อย่าไปสนใจ ให้กลับมารู้สึกตัว
3.ทำแบบปล่อยวางผลลัพธ์ สร้างเหตุไปเรื่อยๆ
4.มาถูกทาง
จะรู้ได้อย่างไรว่ามาถูกทาง แบ่งเป็น2กรณี
กรณี 1 ไม่มีครูบาอาจารย์ ให้ดูว่าทำแล้วในชีวิตประจำวันท่านรู้ทันอารมณ์ต่างๆไวแค่ไหน ถ้าไวขึ้นเยอะ แปลว่าท่านมาถูกทางแล้ว ในชีวิตผมพบคนนึง (พบทางyoutube) ที่ไม่มีครู แล้วทำเองจนบรรลุ
กรณี 2 มีครูบาอาจารย์ ช่วยสอบทานอารมณ์ อันนี้ง่าย เพราะเค้าจะช่วย guide ว่าเราติดอะไร ของผมได้มีคนใกล้ชิดที่หลุดพ้นไปก่อนแล้ว ให้โทรหาตลอดจึงบรรลุได้ในไม่เกิน 7 วัน ถ้าไม่มีก็แนะนำว่าไปเข้าคอร์ส คอร์สนี้ไม่มีกำไรอาจารย์ที่ทำยังเข้าเนื้ออยู่เลย ราคาค่าบำรุงสถานที่วันละ 700 บาทอาหาร 3 มื้อ เข้าประมาณ 5 วัน ก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลง แต่ละคนมากน้อยไม่เท่ากันขึ้นกับเหตุที่เคยสะสมมา
นิพพาน ปรมัง สุขัง “สุขอื่นใดเหนือนิพพานนั้นไม่มี“ แล้วคุณจะพบเจอ “อิสรภาพที่แท้จริง…”
ตอบครับ
จดหมายของคุณมีความสมบูรณ์อยู่ในตัวเองแล้ว ผมไม่ต้องตอบหรือเพิ่มเติมอะไร ขอบคุณที่แชร์สาระดีๆให้เพื่อนสมาชิก SR และแฟนๆบล็อกหมอสันต์ทุกท่านได้อ่าน
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์