วันใหม่คือชีวิตใหม่ วันนี้คือชั่วชีวิต

(หมอสันต์พูดกับสมาชิก SR-34)

เช้าวันนี้ผมจะให้เล่นเกมเล็กๆเกมหนึ่งชื่อว่า “วันใหม่คือชีวิตใหม่ วันนี้คือชั่วชีวิต”

เราทุกคนมาที่นี่เพื่อเสาะหาวิธีและฝึกปฏิบัติทักษะที่จะทำให้ชีวิตเราเป็นสุข นั่นหมายความว่าเราต้องการชีวิตใหม่ที่แตกต่างไปจากชีวิตเดิมที่ทำให้เราเป็นทุกข์ ดังนั้นในเกมนี้เราจะไม่คิดอย่างที่เคยคิดในอดีต เราจะไม่ทำอย่างที่เคยทำในอดีต งานวิจัยทางจิตวิทยาพบว่าความคิดวันนี้ 90% เหมือนความคิดเมื่อวานนี้ ถ้าหากเราเอาแต่คิดแบบเดิมๆ ตัดสินใจเลือกแบบเดิมๆ ทำอะไรแบบเดิมๆ มีอารมณ์แบบเดิมๆอยู่อย่างนี้ แล้วชีวิตของเราที่มีความทุกข์จะเปลี่ยนเป็นชีวิตใหม่ที่มีความสุขได้อย่างไร

เกมนี้เราจะเล่นกันเป็นขั้นๆนะ จะใช้เวลารวมทั้งหมดสักสามสิบนาที

ขัั้นที่ 1. ผมจะให้ทุกคนนั่งคุยกับตัวเองก่อน แบบ self dialogue คุณจะจดข้อสรุปที่ได้จากการคุยลงสมุด หรือจะใช้วิธีจำไว้ในหัวก็ได้ ประเด็นที่ผมอยากจะให้สรุปให้ได้จากการคุยกับตัวเองมีสี่ประเด็น คือ

ข้อ 1. เมื่อวานนี้คุณมีร่างกายแบบนี้ ในอนาคตคุณอยากเปลี่ยนให้ร่างกายของคุณเป็นแบบใด

ข้อ 2. เมื่อวานนี้คุณมีบุคลิกแบบนี้ ในอนาคตคุณอยากเปลี่ยนบุคลิกของคุณไปเป็นแบบไหน

ข้อ 3. เมื่อวานนี้คุณเป็นคนมีอารมณ์อย่างนี้ ในอนาคตคุณอยากเปลี่ยนไปเป็นคนมีอารมณ์แบบไหน

ข้อ 4. ผมแถมให้คุณเลือกประเด็นเองได้ จะเป็นเรื่องสุขภาพ ความสุขในชีวิต ความหมายในชีวิต การมีชีวิตที่มีประโยชน์ มีคุณค่า คุณอยากได้อะไรข้อนี้คุณเลือกเองตามใจชอบ เอาเฉพาะเรื่องของตัวเองนะ อย่าไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่น

สี่ข้อนะ 1. ร่างกาย 2. บุคลิค 3. อารมณ์ และ 4. ประเด็นแถม ผมให้คุณนั่งหลับตาสัมนากับตัวเองให้ลงตัวก่อน ผมให้เวลา 5 นาที ผมจะตีระฆังทุกนาทีเพื่อดึงให้คนที่เผลอใจลอยให้หันกลับมาทำการบ้าน

(เคาะระฆังรัว)

ขั้นที่ 2.

คราวนี้ผมจะให้คุณซ้อมการเป็นคนใหม่ในวันนี้ เพราะเราเพิ่งอยู่ตอนเช้าของวันใหม่ วันใหม่คือชีวิตใหม่ ซึ่งก็คือวันนี้ และวันนี้คือชั่วชีวิต จำชื่อเกมได้นะ “วันใหม่คือชีวิตใหม่ วันนี้คือชั่วชีวิต” ดังนั้นเอาแค่วันนี้วันเดียว ผมจะให้คุณซ้อมโดยการนั่งหลับตาสร้างจินตนภาพเอาตั้งแต่ว่าเมื่อจบการฝึกครึ่งชั่วโมงตอนเช้าที่สนามหญ้านี้แล้ว คุณจะลุกขึ้นจากตรงนี้ไปด้วยบุคลิกท่าทางแบบไหน จะเคลื่อนไหวอย่างไร จะคิดอย่างไร จะพูดอย่างไร ให้คุณซ้อมเฉพาะบทสำคัญที่จะทำในวันนี้ไว้ เอาเฉพาะบทไฮไลท์ก็พอ คุณจะจดไว้ในหัวว่าเป็นบท 1, 2, 3, 4, 5 … ก็ได้ ผมให้เวลาคุณซ้อม 5 นาที โดยผมจะเคาะระฆังเตือนสติทุกนาที

(เคาะระฆังรัว)

ขั้นที่ 3.

คราวนี้เราจะนั่งสมาธิกันจริงๆซึ่งจะใช้เวลา 15 นาทีโดยมีเป้าหมายที่จะวางความคิดทิ้งไปให้หมดเหลือแต่ความรู้ตัว ห้ามคิดห้ามซ้อมอะไรอีกแล้ว เจตนาการทำสมาธิคือเราจะ set zero หมายความว่าล้างเรื่องเก่าทิ้งหมดเพื่อลงไปตั้งต้นเช้าวันใหม่ที่เลขศูนย์เลย ให้คุณเหยียดแข้งเหยียดขา วอร์มตัวเองก่อนได้ ในการนั่งสมาธิเช้านี้เราจะผสมผสานเครื่องมือวางความคิดที่เราได้ฝึกปฏิบัติไปบ้างแล้วเมื่อวานนี้สี่อย่างเข้าด้วยกัน คือ 1. ความสนใจ (attention) 2. การผ่อนคลาย (relaxation) 3. การหายใจ (breathing) 4. การรับรู้พลังชีวิต (body scan) เราเพิ่งเรียนมาแค่นี้เราก็จะใช้แค่นี้ก่อน

เอ้าพร้อมนะ มาเริ่มกันเลย

เราจะเริ่มด้วยการเอาความสนใจมาตามรับรู้ลมหายใจ เป็นการควบเครื่องมือสองชิ้นแรกเข้าด้วยกัน หายใจเข้ารู้ว่าหายใจเข้า หายใจออกรู้ว่าหายใจออก

ขั้นต่อไปเราจะผ่อนคลายร่างกายในทุกจังหวะการหายใจ หายใจเข้าลึกๆ กลั้นไว้ ยิ้มที่มุมปาก หายใจออก ผ่อนคลายร่างกาย ใครถนัดนับก็ให้ใช้วิธีนับ 4-4-8 เข้า 1, 2, 3, 4 กลั้นไว้ 1, 2, 3, 4 ออก 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8 ผ่อนคลาย relax ผ่อนคลายใบหน้า ยิ้ม ผ่อนคลายคอบ่าไหล

ขั้นต่อไปเราจะเอาการรับรู้พลังชีวิตหรือ body scan เข้ามาร่วมกับสามเครื่องมือแรก เราจะใช้สูตร “สูดลม กองลม กระจายลม” สูดลมก็คือสูดหายใจเข้าลึกๆ กองลมก็คือกลั้นหายใจไว้นิดหนึ่ง จินตนาการว่าเอาลมไปกองไว้ในตัวจะกองไว้ที่ในอกหรือในท้องก็ตามสะดวก กระจายลมก็คือหายใจออกพร้อมกับรับรู้ความรู้สึกวูบวาบซู่ซ่าที่แผ่สร้านออกไปจากตัวผ่านทุกรูขุมขน ซึ่งสื่อถึงการเคลื่อนไหวของพลังชีวิต

ถึงตอนนี้เราควบรวมเครื่องมือสี่แล้วอย่างนะ ความสนใจ การหายใจ การผ่อนคลาย และการรับรู้พลังชีวิต

มีความคิดโผล่ขึ้นมา เราไม่สนใจ หันหลังให้ สนใจแค่การใช้สี่เครื่องมือผสมกันเพื่อวางความคิดให้สำเร็จเท่านั้น

(เคาะระฆังรัว)

ขั้นที่ 4.

โอเค. เรานั่งสมาธิกันมาครบ 15 นาทีแล้ว คราวนี้ผมจะให้คุณลุกจากที่นี่ไปใช้ชีวิตในวันนี้ตามที่คุณได้ซ้อมไว้แล้ว ทำแบบจริงจังแต่ผ่อนคลายสบายๆ ถ้าลืมเผลอไม่ได้ทำก็ไม่เป็นไร คิดขึ้นได้ก็ทำซะใหม่ เน้นเฉพาะบทไฮไลท์ที่คุณจดจำไว้ว่าจะทำ แล้วเรามีนัดจะพบกันอีกทีตอนสี่โมงเย็นเพื่อมาทำขั้นที่ห้าด้วยกัน ซึ่งใน

ขั้นที่ 5.

ผมจะให้คุณใช้เวลาอีก 5 นาที นั่งสัมนากับตัวเองว่าในการเล่นเกมในชีวิตจริงที่ผ่านมาตลอดวันนี้มันผิดแผกไปจากที่ซ้อมไว้ขณะนั่งสมาธิเมื่อเช้านี้ตรงไหนบ้าง มันไม่สำเร็จตรงไหน มันหลุดไปตรงไหน ครั้งต่อไปหากจะทำให้สำเร็จควรจะแก้ไขมันอย่างไร คือให้คุณทำตัวเป็นนักวอลเลย์บอลทีมชาติที่ฉายวิดิโอดูตัวเองกำลังตบตีลูกอย่างจดจ่อซ้ำแล้วซ้ำอีกเพื่อแก้ไขความบกพร่องและลีลาการเล่นของตัวเอง สัมนากับตัวเองให้จบก่อน ให้ได้แนวปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมก่อน ต่อจากนั้นหลับตาซ้อมการแก้ไขนี้สักพักแล้วจดจำไว้ เราจะเล่นเกมนี้ทุกเช้าและเย็น ตลอดสามสี่วันที่เราอยู่ด้วยกันที่นี่

ทั้งหมดห้าขั้นตอนนะ และอย่าลืมสโลแกนของเกม

“วันใหม่คือชีวิตใหม่

วันนี้คือชั่วชีวิต”

หมายความว่าในการเล่นเกมนี้ให้ลืมอดีตไปซะ หันมาโรม้านซ์กับความมหัศจรรย์ของเดี๋ยวนี้ ของวันนี้ เอาชีวิตนี้เป็นเครื่องทดลอง มองหาความเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆในชีวิตเมื่อเริ่มทดลอง นี่เป็นความสนุกของเกมนี้

เลิกโทษคนอื่นและสิ่งรอบตัวเสียด้วย บอกตัวเองว่าความคิดและอารมณ์ที่เกิดขึ้นในหัวฉัน ตัวฉันเป็นผู้รับผิดชอบและเป็นผู้ทำให้เกิดขึ้นแต่ผู้เดียว คนอื่นไม่เกี่ยว เมื่อคุณเป็นผู้สร้างทุกอย่างขึ้นในชีวิตของคุณเอง คุณก็ต้องตั้งใจอย่างแรง ใส่อารมณ์เต็มที่ ในการจะเปลี่ยนแปลงตัวเองในวันนี้ สาธิตสอนแสดงชีวิตใหม่ในสมาธิเช้านี้ แล้วเอาไปใช้ในชีวิตจริงวันนี้

ในการเล่นเกมนี้ผู้ที่จะทำให้คุณแพ้เกมคือความอึดอัดต่อต้านจากร่างกายและความคิดหรืออัตตาของคุณ มันต่อต้านสิ่งที่มันไม่คุ้นเคย มันอยากกลับไปสู่ความคุ้นเคยเดิมๆ ร่างกายจะเริ่มมีอิทธิพลต่อความคิด ความคิดจะพาคุณกลับไปสู่การคิดแบบเดิมๆ พูดแบบเดิมๆ ทำแบบเดิมๆ แล้วคุณก็จะแพ้เกม..ระวัง!

แต่หากคุณเล่นจนชนะเกม คุณจะได้เข้าไปสู่พื้นที่ที่คุณไม่เคยไม่รู้จัก จะมีพลังงานไหลเข้ามา จะมีความรู้สึกดีๆเกิดขึ้นในตัวคุณเองโดยไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์แวดล้อมภายนอก นั่นคือได้คุณพบกับอิสรภาพ คุณเป็นอิสระจากเรื่องราวในชีวิตและแรงกดดันรอบตัว คุณจะทำนายอนาคตของคุณเองได้อย่างแม่นยำ เพราะคุณเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเองแบบวันต่อวัน

ส่วน “เมื่อวานนี้” และ “วันพรุ่งนี้” เราไม่พูดถึง เพราะ

“วันใหม่คือชีวิตใหม่ วันนี้คือชั่วชีวิต”

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

กินคีโตไข่ต้มไก่ต้มทุกวันแล้วหลอดเลือดหัวใจตีบ

ความแก่..เหมือนหมาถูกต้อนเข้ามุมให้จนตรอก

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

เปลี่ยนอาหาร ปั่นจักรยาน น้ำตาลลด ความดันลด แต่ไขมันทำไมไม่ลด

ท่านอายุเก้าสิบแล้วยังไม่รู้ แล้วท่านจะรู้มันไปทำพรื้อละครับ

สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตคนเราคือความเบิกบาน (Joy)

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

มะเร็งต่อมลูกหมากแพร่กระจายไปกระดูกขาแล้ว จะไปต่อไงดี