(เรื่องไร้สาระ 26) จะซ่อมม้า ไปจบที่รื้อเล้าไก่

วันหยุดยาวนี้ผมว่างอย่างน้อยก็สามวัน ไม่อยากทำอะไรซีเรียส แม้ตอบจดหมายเรื่องการเจ็บป่วยก็ผลัดเอาไว้ก่อน ขอนอนเตียงแป๊กมองออกไปนอกหน้าต่าง ดูภูเขาอย่างเกียจคร้านอย่างเดียว

จมูกหาย หางไม่มี ขาไม่มี ซ่อมเป็นม้าหมอบได้ก็บุญแล้ว

แต่มองได้ไม่กี่นาทีตาก็ไปสะดุดที่ม้าโยกสีขาวแบบเจงกิสข่านซึ่งผมซ่อมไว้ตั้งแต่ก่อนโควิด มันแข็งแรงทนทานใช้การได้ดีทีเดียว ว่างๆตัวผมเองก็ขึ้นขี่โยกเล่นเพราะสมัยเด็กๆอยากนั่งม้าโยกแต่ไม่ได้นั่ง เวลาเพื่อนบ้านมากินข้าวพาหลานมาด้วยเด็กๆก็ได้โยกกันสนุกสนาน ทำให้ปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่าวันหยุดสามวันนี้ซ่อมม้าไม้เก่าอีกตัวหนึ่งซึ่งชำรุดอย่างขนาดหนักกันดีกว่า ตัวนี้ถูกทิ้งตากฝนอยู่ในพงหญ้ามาราวสามปีได้แล้ว ส่วนหางนั้นหายสาบสูญไปนานแล้ว ส่วนหัวก็พิการ จมูกและฟันบนแหว่งหายราวกับถูกมีดดาบฟัน ขาทั้งสี่ไม่มีเลย แต่พอดูออกเลาๆว่ามันคงอยู่ในท่าวิ่ง ซ่อมเสร็จคงจะได้อย่างเก่งแค่เป็นม้าหมอบก็บุญแล้ว แต่ยิ่งซ่อมยากยิ่งอยากซ่อม เอาไว้ประดับสวนก็ยังดี เพราะพอแก่ได้ที่แล้วหมอสันต์เอ็นจอยซ่อมของเก่าใช้มากกว่าซื้อของใหม่

คิดได้ดังนั้นก็ลุกจากเตียงแป๊กตรงไปยังเล้าไก่ (shed) ซึ่งผมสร้างไว้เมื่อยี่สิบปีก่อน คอนเซ็พท์ของ shed ก็คือเป็นโรงช็อพสำหรับงานฝีมือเล็กๆน้อยๆของผู้ชาย เพื่อนฝรั่งคนหนึ่งแปลว่า “เขตปลอดเมีย” เพราะภรรยาไม่ชอบเข้ามาในที่บริเวณที่สามีทำงานช่างไม้เนื่องจากเธอบ่นไม่ได้ เพราะพอขยับปากจะบ่นสามีก็เดินเครื่องอะไรสักอย่างให้เสียงดังเข้าไว้ หรือไม่ก็เอาที่ครอบหูขึ้นครอบหูป้องกันเสีย (หิ..หิ ผมเปล่าทำอย่างนั้นนะ)

Garden shed แปลว่า เขตปลอดภรรยา

ตลอดช่วงโควิดผมมัวแต่ไปทำงานนอกบ้าน ทิ้ง shed ไว้นานมากไม่ได้มาใช้ ตอนนี้พงหญ้าขึ้นรอบๆพองาม แต่เดิมผมเอากระเช้าขาวทำรังให้แม่ไก่ออกไข่ แขวนไว้หน้าเล้าเพราะกะจะเลี้ยงไก่แบบตัวจริงเสียงจริง สุ่มไก่ก็ซื้อมาแล้ว แต่หมอสมวงศ์ห้ามเลี้ยงเด็ดขาด เธอบอกว่าไม่อนุญาตให้นำสัตว์ใดๆมากักขังไว้… จบข่าว แต่อารมณ์อยากจะทำรังไว้ให้ไก่ออกไข่ก็ยังไม่จาง ผมจึงใส่ฟางในกระเช้าและวางมันไว้ในจุดรโหฐานลึกลับนิดๆเหมาะสำหรับการออกไข่ กะว่าหากหาแม่ไก่พลาสติกสวยๆได้จะเอามานั่งฟักไข่อยู่ในรังนี้ แต่ผ่านไปนานก็ยังหาแม่ไก่พลาสติกที่ถูกใจไม่ได้ มีอยู่ช่วงหนึ่งนกกาเหว่าตัวจริงมาไข่ไว้ในรังนี้ ผมก็ดีใจว่าเออ..ไก่ไม่ได้ใช้ นกได้ใช้ก็ยังดี แต่กาเหว่าไข่แล้วก็กลับทิ้งไข่ตัวเองไปเที่ยวสิบเอ็ด ร.ด.ที่ไหนไม่รู้ ไม่ยอมกลับมาฟักไข่ จนนานหลายเดือนผมต้องเอาไข่ออกไปทิ้งเพราะมันเสียแหงๆ มาวันนี้ผมผ่านมาเยี่ยมรังแม่ไก่อีกครั้งก็พบว่าผู้อยู่อาศัยได้เปลี่ยนหน้าไปอีกแล้ว คราวนี้เป็นหนู ใช่แล้ว หนูจิ๊ด..จี๊ดนี่แหละ ท่าทางจะมาครอบครองปรปักษ์อยู่กันนานพักใหญ่แล้ว เพราะขนเอาเข้าเปลือกที่ผมเตรียมไว้เลี้ยงไก่มาแทะกินตรงนี้เหลือแต่เปลือกข้าวกองเต็มรังไปหมด ช่างเป็นผู้อาศัยที่แอนตี้ความโรแมนติกได้ชะงัดซะ

ฉันไก่ตัวเล็กแต่ไข่ใบโต มีอะไรมะ?

เสียเวลารื้อรังแม่ไก่ซึ่งกลายเป็นรังหนูไปพักใหญ่ พอดีได้แม่ไก่และไข่ปลอมมาจากการเดินเที่ยวปากเกร็ดกับลูกเมีย จึงเอามาวางแทนของจริง มองแล้วขนาดผิดกันเอาเรื่องอยู่ แต่แม่ไก่เธอมองตาแป๋วและว่า

“ฉันไก่ตัวเล็ก แต่ไข่ใบใหญ่อะ คุณมีอะไรมะ?”

เสร็จจากรังไก่ กำลังจะไปเปิดเข้าไปหยิบเครื่องมือในเล้าไก่ พอเอามือเท้าราวระเบียงหน้าก็ต้องรีบปล่อยมือเพราะขอบล่างของระเบียงโดนปลวกกินเรียบ เหลือแต่ตัวซี่ซึ่งเป็นไม้สักปลวกไม่กินห้อยร่องแร่งอยู่เป็นแถว ค่อยๆบรรจงเปิดประตูเข้าไป..ไอ้หยา ทำไมมันรกรุงรังไร้ระเบียบอย่างนี้ อารมณ์จะซ่อมม้าไม้หายเกลี้ยง เปรียบเหมือนหมอผ่าตัดมาถึงห้องผ่าตัดแล้วพบว่าพยาบาลยังหลับไม่ตื่นไม่ได้จัดเครื่องมือให้แล้วจะผ่าได้ไงละครับ ผมมองดูปลวกที่กัดกินลังไม้ เป็นลังกระสุนปืนของทหารที่ผมซื้อมาทำเป็นที่ใส่เครื่องมือ ปลวกพากันกัดกินอย่างไม่เกรงใจจนเครื่องมือที่แขวนอยู่ในลังทรุดลงมากองอยู่กับพื้น กล่องเครื่องมือต่างๆที่ผมซื้อมาและตั้งเรียงรายไว้บนหิ้งอย่างเป็นระเบียบนั้นดูภายนอกก็ไม่น่าจะมีอะไรนอกจากฝุ่นและหยากไย่ แต่พอหยิบแต่ละกล่องออกมาก็พบว่าหนูหรือกระรอกได้เจาะรูเข้าออกด้านหลังแล้วเข้าไปทำรังอยู่ข้างในเหมือนอยู่คอนโดกันเลยทีเดียว โห..ทำไงดีเนี่ย รื้อทั้งหลังแล้วทำใหม่เสียเลยดีไหม อย่าเลย อย่าเลยคุณพี่ขา คุณพี่ไม่รู้ตัวเลยหรือว่าตัวเองอายุเท่าไหร่แล้ว อีกอย่างหนึ่งเล้าไก่นี้ตั้งอยู่ของมันมาได้ตั้งยี่สิบปีแล้วนะ แต่สิ่งที่บกพร่องไปก็คือการบำรุงรักษาจัดระเบียบเป็นระยะๆ แทนที่เอะอะจะรื้อลูกเดียวคุณพี่จะไม่ลองหัดสะสางทำความสะอาดเสียบ้างเลยหรือ

ขวดเกี้ยมฉ่ายเรียงรายใส่ตะปูและน็อต โปรดสังเกตอุกรณ์ช่างสำรวจที่มุมห้อง

นี่จึงเป็นที่มาของโปรเจ็คใหม่สำหรับเทศกาลวันหยุดนี้ คือสะสางทำความสะอาดเล้าไก่และจัดระเบียบเครื่องมือ เริ่มจากข้างในก่อน ขนของออกหมด แล้วทำความสะอาดและซ่อมแซม บางส่วนก็เพิ่มเติมเข้าไป เริ่มต้นด้วยการสร้างระบบจัดเก็บตะปูและน็อตรุ่นต่างๆเสียใหม่ อาศัยที่ ม. มีรากเป็นคนจีนชอบกินเกี้ยมฉ่าย ผมจึงได้ใช้ขวดเกี้ยมฉ่ายมาทำเป็นที่เก็บตะปูและน็อต แขวนไว้สูงเป็นแถวให้มองทะลุเห็นขนาดตะปูที่อยู่ข้างให้เพื่อให้หยิบใช้ง่าย แล้วก็เช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์กล้องส่องระดับที่ซื้อมาใช้ในงานปลูกป่าเก็บรวมกันไว้ที่มุมห้อง

หลังจากขับไล่ผู้บุกรุกสร้างคอนโดอยู่บนหิ้งโดยพลการไปแล้ว ก็มาถึงการวางระบบป้องกันไม่ให้เหล่าผู้บุกรุกกลับมาอีก การที่ผมเก็บเครื่องมือไว้ในกล่องและรังทึบมันเป็นบรรยากาศที่เหมาะแก่การบุกรุก อย่ากระนั้นเลย เปลี่ยนเป็นกล่องพลาสติดใสมองทะลุได้ตั้งเรียงรายแทนดีกว่า จึงตั้งใจว่าจะขับรถไปโฮมโปรปากช่อง แต่หมอสมวงศ์ติงว่าช่วงนี้รถบนถนนมิตรภาพติดมากนะ และแนะนำให้ไปหาซื้อเอาจากร้านยี่สิบบาทในตลาดมวกเหล็กแทน โห.. ยี่สิบบาทสำหรับกล่องใส่เครื่องมือของช่างระดับเนี้ยเนี่ยนะ แต่ด้วยความกลัวรถติดผมจึงยอมไปสำรวจร้านยี่สิบบาท แล้วก็ได้เรียนรู้ว่ามันเป็นโลกอีกใบหนึ่งซึ่งผมไม่เคยคาดคิดเลย ทุกอย่างราคาถูก..ขอโทษ ถูกเป็นอึเลย อย่างกล่องพลาสติกใสขนาดเขื่องต้องใช้สองมืออุ้มมีฝาปิดแน่นหนานี่ก็สามสิบบาทเป็นอย่างแพง ของแบบนี้ในร้านอย่างโฮมโปรราคาต้องระดับร้อย ผมจึงซื้อกล่องใสแบบที่ต้องการมาหลายใบกะให้วางเรียงได้เต็มหิ้งในเล้าไก่ ซึ่งก็พอดีของหมดร้าน

แผงเก็บอุปกรณ์เซฟตี้ อีเกียสงเคราะห์

คราวนี้ก็มาที่เก็บอุปกรณ์เซฟตี้อันได้แก่แว่นตากันสะเก็ดต่างๆกระเด็น ถุงมือ ปลั๊กอุดหู ซึ่งนิสัยช่างไทยเมื่อของไม่อยู่ใกล้มือก็จะพาลไม่ใช้ ผลก็คือการบาดเจ็บจากการทำงาน นอกจากนี้ยังมีของที่ใช้บ่อยแทบทุกครั้งที่ทำงานช่างซึ่งหากไปอยู่ในกล่องก็จะเพิ่มขั้นตอนการทำงานโดยไม่จำเป็นเช่น คีม ไขควง เทปวัด เลื่อยมือปากกา ดินสอ คัตเตอร์ กรรไกร ยางรัด เป็นต้น โชคดีที่หลายวันก่อนผมตามภรรยาไปห้างอิเกียพบว่าเขามีแผ่นไม้อัดฉลุรูแบบใช้เสียบตะขอแขวนเครื่องมือในโรงจอดรถตามบ้านฝรั่งขายด้วย ผมซื้อติดมือมาสองแผ่นทั้งๆที่ยังไม่มีแผนจะใช้งาน คราวนี้จึงสบโอกาสเอาออกมาทดลองใช้งาน มันเท่เชียว แถมใช้งานได้สะดวกด้วย ผมจึงตั้งชื่อว่าเป็นแผง “อีเกียสงเคราะห์”

คราวนี้ก็มาถึงงานซ่อมราวระเบียงที่ห้อยร่องแร่งเพราะปลวกกินส่วนล่างไปหมด นี่เป็นงานไม้ระดับไม่ใหญ่ไม่เล็ก ผมต้องเปิดใช้โต๊ะเลื่อยวงเดือนตัดไม้ที่ตั้งซุกพงหญ้าข้างเล้าไก่ เลื่อยชุดนี้ผมรับเซ้งมาจากเพื่อนซึ่งเป็นนายช่างสายอุปกรณ์ดีเด่น เขาคนเดียวมีเลื่อยคล้ายๆกันนี้สามชุด ผมจึงสงเคราะห์เขาด้วยการรับเซ้งมาหนึ่งชุดเพราะเห็นแก่ภรรยาเขาจะได้มีที่วางข้าวของในบ้านมากขึ้น มันเป็นเลื่อยที่ช่วยงานผมได้มากทีเดียว ด้วยเลื่อยอันนี้ในที่สุดผมก็ซ่อมระเบียงร่องแร่งได้สำเร็จโดยวิธีหาไม้กระดานเก่ามาตัดแล้วยึดและบังขาระเบียงผุๆส่วนล่างทั้งหมดไว้ มั่นคงแข็งแรงมาก แถมมองจากข้างนอกแล้วดูดีเชียว

ระเบียงร่องแร่งหลังการซ่อมด้วยแผ่นไม้กระดานเก่าสีน้ำเงิน

เสร็จจากงานการทั้งผอง เหงื่อโทรมกาย ก็มานั่งเอกเขนกพักหน้าเล้าไก่มองออกไปยังวิวหน้าบ้านเห็นท้องฟ้าสีฟ้าฟ้า ภูเขาน้ำเงินน้ำเงิน สวนดอกไม้ที่ไม่มีดอก สวนครัวที่เห็นแต่ตะไคร้รกๆ และสนามหญ้าเขียวๆ แล้วรู้สึก อ้า..เอ็นดอร์ฟิน จนเสียงเพลง “ลูกทุ่ง” ของเมืองมนต์ สมบัติเจริญ ดังขึ้นในหัว

“….หนุนฟางแทนต่างฟูกหมอน

ไม่อาทรว่าใครจะข่มเหง

นาของเราทำเมื่อใดไม่หวันเกรง

ไม่มีใครเบ่งเป็นเจ้านายคอยใช้…”

เสร็จงานแล้วนั่งมองวิวหน้าเล้าไก่ อ้า..เอ็นดอร์ฟิน

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

กินคีโตไข่ต้มไก่ต้มทุกวันแล้วหลอดเลือดหัวใจตีบ

ความแก่..เหมือนหมาถูกต้อนเข้ามุมให้จนตรอก

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

เปลี่ยนอาหาร ปั่นจักรยาน น้ำตาลลด ความดันลด แต่ไขมันทำไมไม่ลด

ท่านอายุเก้าสิบแล้วยังไม่รู้ แล้วท่านจะรู้มันไปทำพรื้อละครับ

สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตคนเราคือความเบิกบาน (Joy)

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

มะเร็งต่อมลูกหมากแพร่กระจายไปกระดูกขาแล้ว จะไปต่อไงดี