เรียนรู้โควิดจากเรื่องคนที่ถูกกลิ่นบุหรี่ของเพื่อนบ้านรังควาญ

กราบเรียน คุณหมอสันต์ ที่เคารพ

ขอรบกวนคุณหมอหน่อยค่ะ

สรุปแบบย่อๆ สืบเนื่องตั้งแต่โควิด ทำให้คนอยู่บ้านตลอด เพื่อนบ้านสูบบุหรี่(หลังๆได้กลิ่นยาเส้นแทน)ในบ้าน ตั้งแต่สายยันค่ำ พัดลมดูดอากาศชั้นสองไม่เคยปิด เปิดประตูหน้าต่างระบายกลิ่นด้วย เพื่อนบ้านรอบๆได้กลิ่นเป็นระยะ  ร้องเรียนทุกทางแล้วก็ไม่เป็นผล(จนท.รัฐไม่ทำหน้าที่) ยังคงไม่มีความละอาย เพื่อนบ้านได้แต่คอยปิดประตูหน้าต่างเมื่อได้กลิ่น(ทั้งหน้าบ้าน หลังบ้าน) ปิดๆเปิดๆทั้งวัน จริงๆปิดยังไงกลิ่นก็เข้ามาได้อยู่ดี  ผ่านมาปีกว่า วันนึง ดิฉัน(ปีหน้า 60 ไม่มีโรคประจำตัว) รู้สึกว่ากลิ่นมันแรงมากจนปวดหัว แสบคอ มึนไปหมด อยู่ห้องแอร์ หรือเปิดพัดลมสักพัก กลิ่นยิ่งแรง รู้สึกกลิ่นติดที่จมูก หลอนแทบตลอดเวลา ของใช้ เสื้อผ้าในบ้านเต็มไปด้วยกลิ่น ผ่านมาระยะหนึ่งค่อยเอะใจ จึงค้นหาในเน็ต อาการเข้าข่าย ภูมิแพ้ ไซนัส หรือ โพรงจมูกอักเสบ ช่วงเวลานี้ ใครจะกล้าไปโรงพยาบาล ดิฉันก็ลองหนีจากสิ่งแวดล้อมนี้โดยขอหลวงพ่อไปเจริญสติที่แห่งหนึ่งสองอาทิตย์ ระหว่างนั้นได้ซื้อชุดน้ำเกลือมาล้างจมูกทุกวัน และสูดดมอากาศยาวๆบ่อยๆ มันดีขึ้นมาก แต่เมื่อกลับมาอยู่ที่บ้าน อาการมันกำลังกลับมาใหม่เพราะแสบคอทุกวัน ตอนนี้แม้แต่กลิ่นหอมยังทนไม่ได้เลย กลายเป็นคนจมูกไวต่อทุกกลิ่น

สงสัยค่ะว่า กลิ่นกับสารพิษของบุหรี่(หรือยาเส้น)มันมาด้วยกันไหม นี่ขนาดอยู่บ้านเดี่ยว(ในกทม.) กลิ่นมันโชยมาไกล 10-30 เมตร สารพิษมันตามมาด้วยไหมค่ะ หรือแค่กลิ่น หรือไม่มีกลิ่นก็มีสารพิษที่เป็นฝุ่น PM 2.5 จริงๆดิฉันอยากไปอยู่ที่อากาศดีๆ มีน้ำไฟ อย่างที่คุณหมอแนะนำ หามาหลายปีก็ยังหาไม่ได้ เพราะเขาขายแต่แปลงใหญ่ แต่ตัวเองขอแค่บ้านเล็กแบบบ้านพักคนสวน(หรือเถียงนา) แล้วไปซื้อหาผักผลไม้ไร้สารพิษไม่ไกลมาก (เพราะปลูกเองได้ไม่กี่อย่าง ลองแล้วมันไม่ง่าย) แล้วช่วงโควิดนี้อีกยาวไกล คงต้องอยู่บ้านนี้ไปก่อนและยอมรับสภาพ คิดว่าคนสูบมันไม่ตายง่ายๆ แล้วเราจะป่วยก่อนได้ไง  ขอคำแนะนำจากคุณหมอหน่อยค่ะ เกี่ยวกับการรักษาตัวเอง และสถานการณ์นี้

กราบขอบพระคุณคุณหมอมากค่ะ

……………………………………………………………………..

ตอบครับ

แหะแ..หะ คิดไม่ถึงเรื่องอย่างนี้ก็มีคนเอามาถามหมอสันต์ด้วย

ก่อนจะตอบคำถามของคุณ ขอถือโอกาสเอาจดหมายของคุณเป็นเครื่องมือให้ความรู้แฟนบล็อกเรื่องการแพร่กระจายของโรคโควิดเสียเลย ว่าโรคโควิดแพร่จากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งได้สองวิธี คือ

(1) โดยเกาะไปกับเม็ดเสมหะหรือน้ำลาย (droplets) ซึ่งเป็นเม็ดมีขนาดโตเวลาไอก็กระจายไปได้เป็นเมตร แต่ว่าการใส่ผ้าปิดจมูกจะป้องกันการแพร่กระจาย (ขาออก) ผ่านทางเม็ดเสมหะหรือน้ำลายนี้ได้เด็ดขาด

(2) โดยเกาะไปกับฝอยละออง(aerosol) ในอากาศ ซึ่งมีขนาดเล็กมาก เล็กกว่า 1 ไมครอน กลิ่นในควันบุหรี่เป็นตัวอย่างที่ดีของ aerosol มันล่องลอยไปได้ไกลมาก อย่างในกรณีของคุณนี้ก็คือลอยข้ามบ้านเดี่ยวข้ามรั้วมาได้เลย และลอยอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศได้นานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้องปิดประตูปิดหน้าต่าง (ก็คือห้องแอร์นั่นแหละ) งานวิจัยของฮาร์วาร์ดทดลองเอาเชื้อโควิดเกาะไปกับฝอยละอองแล้วตามดูว่ามันจะลอยเท้งเต้งอยู่ได้นานแค่ไหน พบว่าสามชั่วโมงผ่านไปแล้ว จำนวนหนึ่งก็ยังล่องลอยอยู่ในอากาศในห้องนั่นแหละไม่ไปไหน

ประเด็นของผมคือเราสวมมาสก์นั้นดีแน่ช่วยป้องกันไม่ให้ใครสูดเอาเม็ดเสมหะน้ำลายของเราเข้าไป แต่เราต้องระวังหลีกเลี่ยงการเข้าไปในห้องแอร์ที่มีคนอยู่กันมากแบบไม่รู้เป็นใครมาจากไหนกันบ้างด้วย เพราะมันมีโอกาสที่ฝอยละอองขนาดเล็กมากที่เราสูดผ่านมาสก์เข้ามาอาจฟลุ้คๆมีเชื้อโควิดเป็นของแถมติดมาจากระยะไกลด้วย

โอเค. คราวนี้กลับมาตอบคำถามของคุณ ผมแยกเป็นสองประเด็นนะ ประเด็นแรกคือเพื่อนบ้านเฮงซวยไม่เอาไหน พูดภาษาคนไม่รู้เรื่อง จะทำอย่างไรดี ตอบว่าผมไม่ทราบครับ เพราะสมัยผมเป็นนักเรียนในโรงเรียนแพทย์เขาไม่ได้สอนเรื่องนี้ หิ..หิ จบข่าว

ขอตอบเฉพาะประเด็นที่สอง คือ จะแก้ปัญหามลภาวะในอากาศที่เป็นฝอยละอองขนาดเล็กมากๆในบ้านได้อย่างไร ข้อนี้ผมตอบได้เพราะสมัยเป็นผอ.รพ.ต้องทำห้องสาระพัดแบบเช่นห้องผ่าตัด ห้องคลอด ห้องแยกคนไข้ที่ชอบปล่อยเชื้ออันตรายไปติดคนอื่น ห้องแยกคนไข้ที่จะตายง่ายถ้าติดเชื้อจากคนอื่น ในกรณีของคุณนี้ต้องทำห้องแยกแบบสำหรับคนที่จะตายง่ายถ้าติดเชื้อจากคนอื่น วิธีการก็ไม่ยาก เขาเรียกว่าทำห้องความดันบวก (positive pressure) ความจริงห้องแอร์ทั่วไปก็เป็นห้องความดันบวกอยู่แล้ว เพียงแต่คุณต้อง

(1) ซื้อเครื่องเป่าลมเข้าห้อง (positive pressure ) ให้เกิดความดันข้างในและข้างนอกแตกต่างมากกว่าปกติสักหน่อย อย่าลืมว่าตอนนี้คุณทำตรงกันข้ามอยู่นะ คุณเปิดพัดลมดูดอากาศไว้ทั้งวัน เท่ากับว่าคุณทำให้ห้องของคุณเป็น negative pressure มันยิ่งเรียกแขกคือมันจะดูดเอาควันบุหรี่ของเพื่อนบ้านเข้ามาในบ้านคุณ

(2) ยาขอบประตูหน้าต่างให้มิดชิด

(3) ต้องติดตั้งเครื่องเป่าลมเข้าห้องโดยดูดอากาศมาจากทิศตรงกันข้ามกับเพื่อนบ้านขี้ยาหรือดูดลงมาจากท้องฟ้าเลยยิ่งดี

(4) เครื่องที่ซื้อมาต้องมีแผ่นกรองที่เรียกว่า HEPA filter ทางด้านพัดลมเป่าลมเข้าห้องเพื่อดักฝอยละอองขนาดเล็กกว่า 1 ไมครอน

(5) เครื่องที่ซื้อมาต้องมีการติดชั้นกรองดูดกลิ่นด้วยถ่าน (activated carbon) หรือสารกรองกลิ่นอีกชั้นหนึ่งเพราะควันบุหรี่มีโมเลกุลกลิ่นเรียกว่า volatile organic compounds หรือ VOCs ซึ่งเล็กมากและบางส่วนลอด HEPA filter ได้และเจ้าตัว VOCs นี่แหละที่เป็นสารพิษตัวจริง

ทั้งหมดนี้ฟังดูยุ่งยากแต่ความจริงไม่ยากเพราะซื้อเครื่องมาราคาระดับใกล้ๆหมื่นแล้วจ้างช่างเขาเจาะผนังติดให้ หากจะเอาให้ง่ายกว่านั้นก็คือซื้อเครื่องฟอกอากาศ air purifier ที่มีทั้ง HEPA filter และชั้นกรองดูดกลิ่นที่มีคุณภาพดีหน่อยมาตั้งดื้อๆก็พอได้เหมือนกัน

หรือถ้าจะเอาให้ง่ายยิ่งกว่านั้นอีกก็เอาแบบที่คุณได้ลองทำมาแล้วนั่นไง คือ หนีไปอาศัยหลวงพ่อ หิ..หิ

หรือถ้าจะเอาให้ง่ายกว่านั้นอีกก็ยังมีอีกวิธีหนึ่งนะ คือยอมรับมัน (acceptance) เอาธรรมะเข้าขย่ม แบบว่า ปลงเสียเถอะ แม่จำเนียร ฮี่..ฮี่ นี่เป็นวิธีง่ายสุดสุดจีจี

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

กินคีโตไข่ต้มไก่ต้มทุกวันแล้วหลอดเลือดหัวใจตีบ

ความแก่..เหมือนหมาถูกต้อนเข้ามุมให้จนตรอก

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

เปลี่ยนอาหาร ปั่นจักรยาน น้ำตาลลด ความดันลด แต่ไขมันทำไมไม่ลด

ท่านอายุเก้าสิบแล้วยังไม่รู้ แล้วท่านจะรู้มันไปทำพรื้อละครับ

สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตคนเราคือความเบิกบาน (Joy)

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

มะเร็งต่อมลูกหมากแพร่กระจายไปกระดูกขาแล้ว จะไปต่อไงดี