สร้างสรรค์เป็นอย่างไรคะ

(ภาพวันนี้: สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตทุกวันนี้คือ..ความมืด)

คุณหมอคะ

ดูรายการเจาะใจตอนของคุณหมอ ท้ายรายการมีประเด็นว่าผู้อยู่ในวัยเกษียณ เป้าหมายคือใช้ชีวิตแต่ละขณะ ให้ สงบเย็น และสร้างสรรค์  รบกวนคุณหมอขยายความคำว่าสร้างสรรค์  และยกตัวอย่างประกอบด้วยได้มั้ยคะ  เท่าที่ดิฉันคิดได้ การไม่สร้างปัญหาให้กับคนรอบข้าง ช่วยให้คนอยู่ใกล้เราสบายใจ ถือว่าอยู่ในคำนี้มั้ยคะ หรือต้องทำออกมาเป็นชิ้นงานที่จับต้องได้คะ

………………………………………………………..

ตอบครับ

ถามว่าที่หมอสันต์ให้ใช้ชีวิตไปทีละขณะอย่างสงบเย็นและสร้างสรรค์ เฉพาะคำว่าสร้างสรรค์ในที่นี้หมายความว่าอย่างไร หมายความว่าอยู่แบบเจี๋ยมเจี้ยมไม่สร้างปัญหาให้กับคนรอบข้างใช่ไหม ตอบว่าแหะ แหะ เรากำลังพูดถึงสินค้าคนละสะเป๊กกันนะครับ

ก่อนอื่นมาพูดถึงการทำลายกับการสร้างสรรค์ก่อนว่าแต่ละอันมันมีรากมาจากไหน การทำลายก็อย่างเช่นสงคราม การฆ่า การทำร้าย การผลาญทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งหมดนี้มันมีรากมาจาก identity (ตัวตน) หรือการสำคัญมั่นหมายว่าเรานี้เป็นบุคคล หรือเป็นกลุ่มคน หรือเป็นชาติ หรือเป็นศาสนา ทำให้เกิดความงกอยากเอาเข้าพกเข้าห่อของตัวเอง พวกตัวเอง ชาติของตัวเอง ศาสนาของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่นสงครามครูเสดรบกันอยู่สองร้อยปีเพียงแค่ต่างฝ่ายต่าง identify ตัวเองว่าเป็นคนละศาสนากับอีกฝ่ายหนึ่ง สงครามยูเครนมีรากมาจากการ identify ว่าต่างฝ่ายต่างเป็นคนละประเทศกัน เมื่อมี identity ก็ต้องมีการปกป้องและเชิดชูให้ identity ที่ตัวเองยึดถือนั้นปลอดภัยและสูงเด่น กล่าวโดยสรุป ที่ไหนมี identity ที่นั่นมีการทำลายสิ่งหรือฝ่ายที่ถูกนิยามว่าไม่ใช่ identity เดียวกัน

แล้วการสร้างสรรค์ละ มันมีรากมาจากไหน มันมีรากมาจากบ่อรวมพลังปัญญา (wisdom หรือ insight หรือ intuition) ซึ่งทุกชีวิตเข้าถึงได้หากทิ้งเปลือกหุ้มอันได้แก่ความคิดที่ชงขึ้นมาโดย identity ไปเสียให้หมดก่อน เมื่อหมดความคิดที่จะปกป้องอัตตา ชีวิตก็จะเหลืออยู่แต่ความรู้ตัว (awareness) ซึ่งจะเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกับพลังปัญญานี้ ผู้เข้าถึงพลังปัญญานี้สามารถนำมันออกมาใช้ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด และไม่ว่าจะใช้มันทำอะไร การใช้มันมักจะเป็นไปเพื่อชีวิตอื่น ไม่ใช่เพื่อตัวเอง เพราะผู้เข้าถึงพลังปัญญานี้มักเป็นผู้หลุดพ้นไปจาก identity หรือความคิดที่จะหวงแหนปกป้องหรือเชิดชูตัวตนใดๆแล้ว เมื่อมันเป็นไปเพื่อชีวิตอื่น มันจึงไม่มุ่งทำลายล้าง ตรงกันข้าม มันมุ่งไปทางสร้างสรรค์ ช่วยเหลือ อุ้มชู แบ่งปัน โดยอัตโนมัติ

ที่ผมพูดว่าเมื่อเกษียณอายุแล้วควรมุ่งใช้ชีวิตไปทีละขณะอย่างสงบเย็นและสร้างสรรค์ ก็หมายความว่าทิศทางการดำเนินชีวิตของผู้สูงวัยควรมุ่งวางความคิดปกป้องเชิดชูตัวตนซึ่งเป็นแค่ความคิดยึดถือ และเป็นแค่เรื่องราวผูกพันกับอดีตอนาคตซึ่งไม่ได้มีอยู่จริง หันมาใช้ชีวิตอยู่ที่เดี๋ยวนี้ซึ่งเป็นของจริง ให้ความคิดยึดถือในตัวตนนั้นมันบางลงๆจนหมดไปได้ยิ่งดี ยิ่งมันบางลงมากเท่าใด ชีวิตก็ยิ่งสงบเย็นมากเท่านั้น เพราะเมื่อไม่ต้องพะวงปกป้องอัตตาก็ไม่มีเรื่องอะไรให้เร่าร้อน และยิ่งความคิดยึดถือในตัวตนบางลงเท่าได้ ก็ยิ่งเข้าถึงพลังปัญญาหรือปัญญาญาณได้มากขึ้นเท่านั้น ก็จะสามารถทำอะไรที่มีคุณค่าแก่ชีวิตอื่นหรือแก่โลกได้มากขึ้น

กล่าวอีกอย่างหนึ่ง การทำอะไรสร้างสรรค์เป็นคอนเซ็พท์ที่สื่อถึงการทิ้งตัวตนและเข้าถึงปัญญาญาณได้ ไม่ได้นับกันเป็นชิ้นงาน แต่งานที่ออกมามันจะนับเป็นชิ้นแบบการนับไก่นับปลาในตลาดก็ได้เหมือนกัน อย่างเช่นเดินออกไปซอยหน้าบ้านแล้วยิ้มให้คนที่เดินสวนกันมา นี่ก็เป็นการสร้างสรรค์แล้ว แม้จะเป็นชิ้นงานที่เล็กจนแทบนับไม่ได้ ปลูกต้นไม้สักต้นหนึ่งเอาไว้ให้คนอื่นได้อาศัยร่มเงา เล่นดนตรีเพราะๆสักเพลงหนึ่งให้คนอื่นฟัง เขียนภาพสวยๆขึ้นมาภาพหนึ่งให้คนอื่นมีความสุขเมื่อได้ชม อะไรก็ได้ที่ทำเพื่อชีวิตอื่นไม่ใช่เพื่อปกป้องเชิดชูอัตตาตัวเอง เป็นการสร้างสรรค์ทั้งนั้น

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

 

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

กินคีโตไข่ต้มไก่ต้มทุกวันแล้วหลอดเลือดหัวใจตีบ

ความแก่..เหมือนหมาถูกต้อนเข้ามุมให้จนตรอก

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

เปลี่ยนอาหาร ปั่นจักรยาน น้ำตาลลด ความดันลด แต่ไขมันทำไมไม่ลด

ท่านอายุเก้าสิบแล้วยังไม่รู้ แล้วท่านจะรู้มันไปทำพรื้อละครับ

สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตคนเราคือความเบิกบาน (Joy)

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

มะเร็งต่อมลูกหมากแพร่กระจายไปกระดูกขาแล้ว จะไปต่อไงดี