รู้แค่ที่ทั้งสองศาสนาสอนเหมือนกันก็พอ

(ภาพวันนี้: ดอกโพธิ์ทะเล)

เรียนคุณหมอสันต์

เห็นคุณหมอสันต์ศึกษาปฏิบัติแนวฮินดูและลัทธิโยคีมามากและรู้หลักศาสนาพุทธด้วย ผมรบกวนคุณหมอให้ช่วยแชร์หน่อย เพราะหาคนแบบนี้ได้ยาก ผมอยากรู้จริงๆว่าแท้จริงแล้วศาสนาฮินดูกับศาสนาพุทธเหมือนหรือต่างกันที่ตรงไหน เพราะอ่านเอาจากหนังสือศาสนาเปรียบเทียบแล้วผมรู้สึกว่ามันเป็นคำอธิบายที่ตื้นไป

เป็นการขอความรู้เชิงเปรียบเทียบเฉพาะเนื้อหานะครับ ไม่เกี่ยวกับรูปแบบความยึดติดเปลือกนอก

………………………………………………………..

ตอบครับ

1.. ถามว่าฮินดูกับพุทธเหมือนกันตรงไหน ตอบว่าเหมือนกันตรงที่..อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา หมายฟามว่า (1) สิ่งทั้งหลายทั้งปวงล้วนไม่เที่ยง (2) ตัวตนเราเขาอย่างที่เราสมมุติกันขึ้นนั้นไม่ใช่ของจริง (3) หากเราหลงไปยึดถือว่าตัวตนของเราเป็นเรื่องจริงก็จะเกิดความทุกข์

2.. ถามว่าฮินดูกับพุทธต่างกันอย่างไร โอ้..นี่เป็นคำถามที่ลึกซึ้งนะ แต่ขอตอบแบบตื้นๆก่อน ว่าต่างกันที่ฮินดูพูดถึง “อาตมัน” อันหมายถึงวิญญาณ ซึ่งเป็นชีวิตที่แท้จริงของทุกชีวิต และพูดถึง “ปรมาตมัน” ซึ่งเป็นสภาวะสูงสุดหรือสิ่งที่เหลืออยู่เมื่อพ้นไปจากความหลอนของโลกและชีวิตนี้แล้ว ขณะที่พุทธไม่พูดถึงเลย

แต่ถ้าจะให้ตอบแบบลึกซึ้ง ก็ต้องตอบว่าฮินดูสอนคนให้พ้นทุกข์แบบนุ่มนวลโดยเชียร์ให้ปล่อยวางตัวตนสมมุติที่เรียกว่า “self” นี้เสียก่อนโดยค่อยๆถอยลึกเข้าไปเป็นตัวตนส่วนลึกหรือตัวตนสูงสุดซึ่งเขียนง่ายว่า “Self” (ใช้ S ตัวใหญ่นะ) ซึ่งไม่มีผลประโยชน์อะไรเกี่ยวข้องกับ self

แต่พุทธสอนให้คนพ้นทุกข์แบบเตะผ่าหมากโครมว่า ทั้งหมดที่ประกอบขึ้นเป็นชีวิตนี้คือเรื่องโกหกพกลมทั้งเพ เมื่อเข้าไปดูในรายละเอียดแยกส่วนออกไปแล้วก็ไม่มีอะไรเหลือ แต่เมื่อถูกจี้ถามว่าแล้วมันเหลืออะไรนอกจากนั้นไหมละ มันไม่มีอะไแบบโบ๋โจ๋ว่างเปล่าเลยหรือ หรือว่ามันมีอะไรเหลือในรูปแบบอื่นที่เราไม่รู้จัก ซึ่งพระพุทธเจ้าก็ตอบด้วยการ…เงียบ

3.. ถามหมอสันต์ว่าวิธีสอนแบบฮินดูและแบบพุทธ วิธีไหนที่ได้ผลดีกว่ากัน ตอบว่าผมไม่ทราบ ทราบแต่ว่าคล้อยหลังพระพุทธเจ้ามาได้ 500 ปีศาสนาพุทธก็เกือบเกลี้ยงไปจากอินเดีย กลับไปเป็นฮินดู..เหมียนเดิม ตัวผมเองเคยเห็นพระ (ฝรั่ง) องค์หนึ่งที่มาเป็นพระในศาสนาพุทธตระเวณอยู่ไปมาแล้วทั้งไทย พม่า ศรีลังกา ได้สิบกว่าปี แล้วก็ย้ายวิกเปลี่ยนไปเป็นพระฮินดูอยู่ที่อินเดีย ถ้าประเมินจากพระองค์นี้ท่านก็คงมองว่าวิธีของพุทธยาก

แต่ขณะเดียวกันผมก็เคยเห็นครูสอนทางจิตวิญญาณ ทั้งที่สอนตามฮินดูบ้าง และทั้งที่สอนตามพุทธบ้าง ข้างละหลายคน ที่เอาคำสอนที่ตัวเขาเองสอนมาใช้ในชีวิตจริงของเขาเองได้จริงๆทั้งสองค่าย คือผมเห็นมีคนหลุดพ้นจากความคิดยึดถือในตัวตนของตัวเองในทั้งสองค่าย แถมยังเห็นคนที่หลุดพ้นได้โดยไม่ได้เข้าค่ายไหนทั้งสองค่ายนี้เลย คือมาคนละทางเลย แสดงว่าความหลุดพ้นนี้คงไม่ได้ผูกขาดว่าจะต้องเข้าค่ายใดค่ายหนึ่งจึงจะหลุดพ้นได้กระมังครับ

ดังนั้นผมแนะนำว่าให้คุณสนใจแค่ที่ทั้งสองศาสนานี้สอนตรงกันก็พอ คือ

“คุณไม่ใช่ร่างกายนี้

คุณไม่ใช่ความคิดนี้”

ความรู้แค่นี่ก็เหลือแหล่มากเกินพอที่จะทำให้คุณหลุดพ้นได้แล้ว

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

กินคีโตไข่ต้มไก่ต้มทุกวันแล้วหลอดเลือดหัวใจตีบ

ความแก่..เหมือนหมาถูกต้อนเข้ามุมให้จนตรอก

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

เปลี่ยนอาหาร ปั่นจักรยาน น้ำตาลลด ความดันลด แต่ไขมันทำไมไม่ลด

ท่านอายุเก้าสิบแล้วยังไม่รู้ แล้วท่านจะรู้มันไปทำพรื้อละครับ

สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตคนเราคือความเบิกบาน (Joy)

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

มะเร็งต่อมลูกหมากแพร่กระจายไปกระดูกขาแล้ว จะไปต่อไงดี