ที่เดียวในโลกที่ผู้ชายอายุยืนเท่าผู้หญิง
(ผมเขียนบทความนี้จากคำบอกเล่าของเพื่อนฝรั่งคนหนึ่งชื่อ แดน บิวท์เนอร์)
ไซลานัส (Silanus) เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่จังหวัดนูโอโร (Nuoro) บนเกาะซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 437 เมตร มีชาวบ้านอยู่ราว 2400 คน มีคนสูงอายุที่อายุเกินร้อยมากกว่าสิบคน มีผู้ชายมากพอๆกับผู้หญิง 1:1 เป็นที่ที่มีคนอายุเกินร้อยมากกว่าสหรัฐถึง 10 เท่า ความอายุยืนของที่นี่คิดจากคนที่เกิดและตายที่นี่ย้อนหลังไป 17,865 คน พบว่าที่อายุเกินร้อยมีถึง 91 คน
ที่นี่เป็นบ้านนอกชนบทห่างไกลเมือง ผู้คนยังมีชีวิตแบบเก่าๆ ล่าสัตว์ ตกปลา ปลูกพืชและเก็บเกี่ยวไว้กิน เกาะติดกับครอบครัว คบเพื่อนก็มักคบกันยาวนานตลอดชีวิต หัวเราะด้วยกัน ดื่มไวน์ด้วยกัน นายกเทศมนตรีเล่าว่า
"..คนที่อายุยืนล้วนเป็นคนทำไร่ทำสวนหรือเลี้ยงแกะ พวกเขาเป็นคนง่ายๆ ทำงานกันจนอายุเกินแปดสิบปีขึ้นไป มีครอบครัวที่แน่นแฟ้น มีลูก มีหลาน มีเหลน มีเพื่อน เรียกว่าคนแก่ที่นี่ไม่มีเหงา"
งานวิจัยของมหาวิทยาลัยมิเนโซต้าพบว่าคนที่นี่กินอาหารที่มีพืชเป็นหลัก และกินแบบไขมันต่ำ กินขนมปังโฮลวีท 100% ซึ่งมีเท็กซ์เจอร์หยาบและแข็งโป๊ก ได้พลังงานจากธัญพืชแบบไม่ขัดสีเสียตั้ง 65% กินถั่วต่างๆ ผักสวนครัว ผลไม้กันเต็มโต๊ะ แต่จะกินเนื้อสัตว์กันก็เฉพาะวันอาทิตย์ซึ่งถือว่าเป็นวันพิเศษ โอกาสพิเศษ
งานวิจัยชิ้นนี้พบว่าถั่วเป็นอาหารคู่ขวัญกับการมีอายุยืน ความสัมพันธ์ระหว่างการกินถั่วกับการมีอายุยืนนั้นแน่นอนถึงขนาดคำนวณออกมาได้ว่าทุก 20 กรัมของถั่วแห้งที่กินเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน จะลดอัตราตายก่อนเวลาอันควรลงได้ 8% ที่ว่าถั่วนี้หมายถึงถั่วทุกชนิด ทั้งถั่วฟาวา ถั่วดำ ถั่วเลนทิล ถั่วเหลือง ถั่วเหล่านี้มีธรรมชาติว่ามันจะเหลือโมเลกุลที่ให้พลัังงานชื่อโอลิโกแซคคาไรด์ซึ่งร่างกายคนใช้ประโยชน์ไม่ได้ไปให้แก่บักเตรีในลำไส้ ทำให้คนกินถั่วมีบักเตรีที่เป็นมิตรอยู่ในลำไส้มาก
คนที่นี่เอาครอบครัวเป็นหลัก คนในครอบครัวดูแลกันและกัน แทบไม่มีใครเป็นโรคซึมเศร้า เครีียด หรือฆ่าตัวตาย คนที่นี่นับถือคนแก่ ปู่ย่าตายายเป็นผู้ให้ความรัก เลี้ยงดู ให้คำปรึกษาทางการเงิน ให้คำแนะนำแก่ลูกหลาน
คนที่นี่เดินเฉลี่ยวันละ 5 ไมล์ เดิน เดิน เดิน กันอย่างเดียวในการทำงานอาชีพและเดินไปโน่นมานี่ ไม่มีใครวิ่งจ๊อกกิ้งออกกำลังกาย ไม่มีใครเข้าโรงยิม มีแต่เดิน เดิน เดิน และทำไร่ทำสวนเป็นกิจวัตรประจำวัน
คนที่นี่ หากเป็นผู้ชายก็จะดื่มไวน์แดงวันละแก้วสองแก้วทุกวัน ทำให้เหล่าผู้ชายไม่เครียด นอกจากนั้นพวกผู้ชายยังหัวเราะเก่ง หัวเราะกับเพื่อนๆ มีมุขแยะ วันๆพอว่างก็จับกลุ่มคุยเล่น หรือเดินห้ัวเราะกันตามข้างทาง
นักวิจัยจากทั่วโลกแห่กันมาทำงานวิจัยพันธุกรรมหลายชิ้นที่นี่ เพื่อจะค้นหายีนที่ทำให้อายุยืน แต่ก็พบว่าคนที่อายุยืนกับคนที่อายุสั้น หรือคนที่นี่กับคนที่อื่น ต่างก็ล้วนมียีนไม่แตกต่างกัน ดังนั้นพันธุกรรมจึงไม่น่าจะเป็นประเด็น
เคล็ดลับของการมีอายุยืนของคนที่นี่คือการเคลื่อนไหว นักวิจัยตามดูคุณโทนิโน โทลา ผู้ชายอายุ 75 ปี ตามไปดูตั้งแต่เช้า พบว่าพอมาถึงสิบเอ็ดโมงคุณปู่แกรีดนมวัวด้วยมือเปล่าสี่ตัวเสร็จ ฝ่าฟืนอีกครึ่งกองเสร็จ ชำแหละเนื้อลูกวัวเสร็จ และต้อนแกะไปทุ่งหญ้าเป็นระยะทางสี่ไมล์เสร็จแล้วเรียบร้อย พอเที่ยงก็เข้าร่มกินอาหารกลางวันกับลูกหลานและแขก แจกไวน์แดงคนละแก้ว กินขนมปังโฮลวีทร้อยเปอร์เซ็นต์ และกินอาหารที่เต็มไปด้วยพืชผักผลไม้ถั่วและนัทซึ่งส่วนใหญ่ปลูกเองหลังบ้านกันอย่างสนุกสนาน
ทั้งหมดนี้ภรรยาของเขาเป็นผู้รับภาระเครียดๆเกี่ยวกับการบริหารจัดการเรื่องในบ้านและการเงินการทอง ขณะที่ตัวเขาเองนั้นตัวปลิวทำงานหนักตากแดดแต่สบายอารมณ์อยู่นอกบ้านทั้งวัน นี่อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ผู้ชายที่นี่มีอายุยืนตีตื้นขึ้นมาเท่าผู้หญิงก็ได้
เมื่อถูกถามว่าชีวิตซ้ำๆซากๆแบบนี้น่าเบื่อบ้างไหม คุณปู่ตอบว่า
"ผมรักและสนุกกับชีวิตที่นี่ทุกๆวันมาตลอดชีวิตของผม"
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
ไซลานัส (Silanus) เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่จังหวัดนูโอโร (Nuoro) บนเกาะซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 437 เมตร มีชาวบ้านอยู่ราว 2400 คน มีคนสูงอายุที่อายุเกินร้อยมากกว่าสิบคน มีผู้ชายมากพอๆกับผู้หญิง 1:1 เป็นที่ที่มีคนอายุเกินร้อยมากกว่าสหรัฐถึง 10 เท่า ความอายุยืนของที่นี่คิดจากคนที่เกิดและตายที่นี่ย้อนหลังไป 17,865 คน พบว่าที่อายุเกินร้อยมีถึง 91 คน
ที่นี่เป็นบ้านนอกชนบทห่างไกลเมือง ผู้คนยังมีชีวิตแบบเก่าๆ ล่าสัตว์ ตกปลา ปลูกพืชและเก็บเกี่ยวไว้กิน เกาะติดกับครอบครัว คบเพื่อนก็มักคบกันยาวนานตลอดชีวิต หัวเราะด้วยกัน ดื่มไวน์ด้วยกัน นายกเทศมนตรีเล่าว่า
"..คนที่อายุยืนล้วนเป็นคนทำไร่ทำสวนหรือเลี้ยงแกะ พวกเขาเป็นคนง่ายๆ ทำงานกันจนอายุเกินแปดสิบปีขึ้นไป มีครอบครัวที่แน่นแฟ้น มีลูก มีหลาน มีเหลน มีเพื่อน เรียกว่าคนแก่ที่นี่ไม่มีเหงา"
งานวิจัยของมหาวิทยาลัยมิเนโซต้าพบว่าคนที่นี่กินอาหารที่มีพืชเป็นหลัก และกินแบบไขมันต่ำ กินขนมปังโฮลวีท 100% ซึ่งมีเท็กซ์เจอร์หยาบและแข็งโป๊ก ได้พลังงานจากธัญพืชแบบไม่ขัดสีเสียตั้ง 65% กินถั่วต่างๆ ผักสวนครัว ผลไม้กันเต็มโต๊ะ แต่จะกินเนื้อสัตว์กันก็เฉพาะวันอาทิตย์ซึ่งถือว่าเป็นวันพิเศษ โอกาสพิเศษ
งานวิจัยชิ้นนี้พบว่าถั่วเป็นอาหารคู่ขวัญกับการมีอายุยืน ความสัมพันธ์ระหว่างการกินถั่วกับการมีอายุยืนนั้นแน่นอนถึงขนาดคำนวณออกมาได้ว่าทุก 20 กรัมของถั่วแห้งที่กินเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน จะลดอัตราตายก่อนเวลาอันควรลงได้ 8% ที่ว่าถั่วนี้หมายถึงถั่วทุกชนิด ทั้งถั่วฟาวา ถั่วดำ ถั่วเลนทิล ถั่วเหลือง ถั่วเหล่านี้มีธรรมชาติว่ามันจะเหลือโมเลกุลที่ให้พลัังงานชื่อโอลิโกแซคคาไรด์ซึ่งร่างกายคนใช้ประโยชน์ไม่ได้ไปให้แก่บักเตรีในลำไส้ ทำให้คนกินถั่วมีบักเตรีที่เป็นมิตรอยู่ในลำไส้มาก
คนที่นี่เอาครอบครัวเป็นหลัก คนในครอบครัวดูแลกันและกัน แทบไม่มีใครเป็นโรคซึมเศร้า เครีียด หรือฆ่าตัวตาย คนที่นี่นับถือคนแก่ ปู่ย่าตายายเป็นผู้ให้ความรัก เลี้ยงดู ให้คำปรึกษาทางการเงิน ให้คำแนะนำแก่ลูกหลาน
คนที่นี่เดินเฉลี่ยวันละ 5 ไมล์ เดิน เดิน เดิน กันอย่างเดียวในการทำงานอาชีพและเดินไปโน่นมานี่ ไม่มีใครวิ่งจ๊อกกิ้งออกกำลังกาย ไม่มีใครเข้าโรงยิม มีแต่เดิน เดิน เดิน และทำไร่ทำสวนเป็นกิจวัตรประจำวัน
คนที่นี่ หากเป็นผู้ชายก็จะดื่มไวน์แดงวันละแก้วสองแก้วทุกวัน ทำให้เหล่าผู้ชายไม่เครียด นอกจากนั้นพวกผู้ชายยังหัวเราะเก่ง หัวเราะกับเพื่อนๆ มีมุขแยะ วันๆพอว่างก็จับกลุ่มคุยเล่น หรือเดินห้ัวเราะกันตามข้างทาง
นักวิจัยจากทั่วโลกแห่กันมาทำงานวิจัยพันธุกรรมหลายชิ้นที่นี่ เพื่อจะค้นหายีนที่ทำให้อายุยืน แต่ก็พบว่าคนที่อายุยืนกับคนที่อายุสั้น หรือคนที่นี่กับคนที่อื่น ต่างก็ล้วนมียีนไม่แตกต่างกัน ดังนั้นพันธุกรรมจึงไม่น่าจะเป็นประเด็น
เคล็ดลับของการมีอายุยืนของคนที่นี่คือการเคลื่อนไหว นักวิจัยตามดูคุณโทนิโน โทลา ผู้ชายอายุ 75 ปี ตามไปดูตั้งแต่เช้า พบว่าพอมาถึงสิบเอ็ดโมงคุณปู่แกรีดนมวัวด้วยมือเปล่าสี่ตัวเสร็จ ฝ่าฟืนอีกครึ่งกองเสร็จ ชำแหละเนื้อลูกวัวเสร็จ และต้อนแกะไปทุ่งหญ้าเป็นระยะทางสี่ไมล์เสร็จแล้วเรียบร้อย พอเที่ยงก็เข้าร่มกินอาหารกลางวันกับลูกหลานและแขก แจกไวน์แดงคนละแก้ว กินขนมปังโฮลวีทร้อยเปอร์เซ็นต์ และกินอาหารที่เต็มไปด้วยพืชผักผลไม้ถั่วและนัทซึ่งส่วนใหญ่ปลูกเองหลังบ้านกันอย่างสนุกสนาน
ทั้งหมดนี้ภรรยาของเขาเป็นผู้รับภาระเครียดๆเกี่ยวกับการบริหารจัดการเรื่องในบ้านและการเงินการทอง ขณะที่ตัวเขาเองนั้นตัวปลิวทำงานหนักตากแดดแต่สบายอารมณ์อยู่นอกบ้านทั้งวัน นี่อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ผู้ชายที่นี่มีอายุยืนตีตื้นขึ้นมาเท่าผู้หญิงก็ได้
เมื่อถูกถามว่าชีวิตซ้ำๆซากๆแบบนี้น่าเบื่อบ้างไหม คุณปู่ตอบว่า
"ผมรักและสนุกกับชีวิตที่นี่ทุกๆวันมาตลอดชีวิตของผม"
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์