ผลตรวจภายในได้ผลเป็น ASCUS และ HPV เป็นบวกซ้ำซาก
สวัสดีค่ะคุณหมอ
มีเรื่องมารบกวนปรึกษาค่ะ ปัจจุบันอายุ 47 ปี โสด ไม่เคยมีลูกค่ะ ขออนุญาตเล่าประวัติการตรวจปากมดลูกย้อนหลังไป 3 ปีที่แล้วก่อนนะคะ ก่อนหน้านี้ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว (2559) ได้เคยตรวจ ThenPrep + HPV ที่ สถาบัน ... ได้ผลตรวจ ThenPrep และ HPV เป็นบวก คุณหมอแนะนำให้ตรวจ colposcopy จึงได้เอาผลนี้ไปแจ้งตรวจกับ รพ. ที่ทำประกันสังคม เพื่อส่องกล้อง colposcopy และได้ส่องแล้วผลออกมาเป็น LSIL ทางหมอจึงได้นัดให้ตรวจปากมดลูกทุก 6 เดือน แต่ยังไม่ทันครบ 6 เดือนก็ต้องเปลี่ยน รพ. ที่ทำประกันสังคม เนื่องจากที่เก่าไม่ทำแผนกประกันสังคมแล้ว ดังนั้น จึงได้เอาผลทั้งหมดไปให้ที่ รพ. แห่งใหม่ และได้ทำการตรวจปากมดลูกตามนัดทุก 6 เดือน ผลตาม file ประวัติการตรวจปากมดลูก-2016-2019
มาปีนี้ ได้ตรวจสุขภาพกับสถาบัน ... อีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 18/09/2019 ทั้ง ThinPrep + HPV และ ultra sound ช่องท้องส่วนล่าง จากการตรวจ Thenprep ได้ผลคือ ASC-US และ HPV DNA test เป็นบวก
และในครั้งนี้ พึ่งเคยตรวจ Ultrasound ช่องท้องส่วนล่าง พบก้อนเนื้อ 2 ก้อนในมดลูก วันที่ฟังผล งงมากว่ามีผลเป็น ASC-US ได้อย่างไร ในเมื่อเดือนสิงหาคมตรวจกับประกันสังคม ยังปกติอยู่เลย แล้วผลตรวจตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ปกติหมด (ช่วงนั้นดิฉันไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับใครเลย)
หมอที่สถาบัน ... ก็แนะนำให้ตรวจ colposcopy และ ultrasound อีกครั้ง ก็เลยเอาผลนี้ พร้อมกับคำแนะนำของหมอที่นี่ ไปให้ที่ รพ.ประกันสังคมเช่นเดิม และวันนี้ (13/10/19) หมอเขาได้ ultrasound และพบว่ามีก้อนเนื้อประมาณ 3 cm จำนวน 4 ก้อน ขนาดมดลูกมีขนาด 7 cm หมอพูดทิ้งท้ายด้วยว่า อาจจะมีก้อนเล็กๆ น้อยๆ อีกเยอะ หมอบอกว่า จะนัดตรวจ colposcopy ในวันที่ 27/10/19 และบอกว่าถ้าผลเป็นบวก แนะนำให้ตัดมดลูกและปากมดลูกออก โดยถามว่าเราจะมีลูกอีกไหม (ก็ไม่แน่ใจว่าจะมีหรือเปล่า ตอนนั้นยังงงๆ กับคำว่า ตัดออกทั้งหมด และกลัวมาก ก็ตอบว่า ไม่น่าจะมี) เขาบอกว่า วิธีการรักษาที่ดีที่สุดคือตัดออก จะได้ไม่ต้องมากังวลว่าจะเป็นอีกไหม เพราะในเคสนี้ มีทั้งปัญหาที่ปากมดลูกและก้อนเนื้อที่มดลูก
ตอนนั้นจิตตก ช๊อคมาก เพราะว่า ตอนที่ปรึกษากับคุณหมอที่สถาบัน ... เขาก็แนะนำว่าที่ปากมดลูกให้ colposcopy และอาจต้องทำ leep และในส่วนของก้อนเนื้อที่มดลูก ให้เฝ้าติดตามทุก 6 เดือน ว่าจะเพิ่มขนาดไหม ถ้าเพิ่มก็ค่อยว่ากันและบอกอีกว่า ปกติ ผู้หญิงส่วนใหญ่มีกันทั้งนั้นเพียงแต่ไม่ได้ตรวจ และโอกาสเป็นมะเร็งน้อยมาก มาเจอวันนี้บอกให้ตัดออกให้หมดเลย ก็พยายามถามหมอว่า เรารักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้หรือคะ เช่น Leep หรือดูขนาดของก้อนเนื้อ หมอถามกลับมาว่า ที่หมอบอกคือวิธีรักษานะครับ ถ้าทำ leep แล้วมันไม่หมดก็ต้องมารักษาใหม่ ในส่วนของรอดูขนาดก้อนเนื้อ จะรอไปถึงเมื่อไร ถ้ามันลามล่ะ ไปถึงต่อมน้ำเหลือง คราวนี้รักษายากมากเลยนะ เรื่องใหญ่กว่าตัดออกอีก จะรอให้เมนส์หมดแล้วลีบไปเองก็อีก 3 ปี แน่ใจหรือว่ามันจะลีบ แล้วถ้าไม่ลีบละ แล้วถ้ามันเป็น.. อะบอกตรงๆเลยนะ มะเร็ง หน่ะ จะทำยังไง ถ้าเอาออกทั้งหมด ก็สบายใจได้ว่ามันจะไม่เป็นอีกแน่นอน และหน้าตาแบบรำคาญมากว่าจะเก็บมันไว้ทำไม น้ำตาแทบร่วงเลยค่ะ
คือเจอคำพูดเหล่านี้ แทบหมดแรงเลยค่ะ ขอถามความเห็นของหมอหน่อยนะคะ คือก่อนหน้านี้ก็ได้อ่านบทความของคุณหมอที่ตอบไว้ใน Web เกี่ยวกับคนที่เป็น ASC-US และ HPV+ ก็ยังสบายใจ เพราะคิดว่าการรักษาปากมดลูกกับ ก้อนเนื้อ มันคนละส่วนและมีวิธีการรักษาที่ต่างกัน แล้วที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน ในความเข้าใจ มันยังผิดปกติในระดับอนุบาลมาก
มาถึงตรงนี้ก็ยังงงๆ ว่า ก้อนเนื้อนี้ ก็ยังไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร มันจะร้ายแรงขนาดเป็นมะเร็งเลยหรือคะ อ่านใน Web คนที่เขาทำ Leep เขาก็ยังใช้ชีวิตอยู่ได้ดี แต่จะต้องตามตรวจตามหมอสั่งเท่านั้น รบกวนขอความเห็นของคุณหมอด้วยนะคะว่าเคสแบบนี้ ควรทำอย่างไร ร้อนใจมาก คุณหมอที่นี่บอกว่าจะเอาผล colposcopy ไปประกอบเรื่องขออนุญาตโรงพยาบาลทำการผ่าตัดออกให้หมด ทั้งมดลูกและปากมดลูก น่าจะผ่าตัดได้ประมาณต้นปีหน้า
การใช้ชีวิตประจำวันตอนนี้ยังปกติค่ะ ไม่มีปัญหาเรื่องตกขาวหรือประจำเดือนหรือปวดท้อง มีเริ่มหน่วงๆนิดหน่อยแบบสะกิดนิดๆตรงแถวๆขาหนีบ ด้านซ้าย ก่อนมีปจด หลังจากหมด ก็ไม่ปวด และตั้งแต่ที่ทราบผล HPV เมื่อ 3 ปีที่แล้วก็ลดอาหารขยะ แทบจะเรียกว่างดเลยก็ได้ และออกกำลังกายประจำ ตอนนี้วันหยุดจะตื่นวิ่งประมาณ 1.30 ชม ทุกเช้า วันธรรมดาก็จะเดินเร็วประมาณ 30 นาที
ขอขอบพระคุณคุณหมอล่วงหน้าด้วยค่ะ
......................................................
ตอบครับ
แหม อ่านซะเมื่อยเลย ตอบทันทีดีกว่า
1. ถามว่าตรวจ HPV ได้ผลเป็นบวก หมายความว่าอย่างไร ตอบว่า หมายความว่าอยู่ในระหว่างติดเชื้อเอ็ชพีวี. ซึ่งคำว่า HPV ในผลตรวจทางนรีเวชนี้หมายถึงเชื้อที่เป็นสายพันธ์ความเสี่ยงสูง (hrHPV) เท่านั้น เชื้อนี้จะทำให้มีการอักเสบที่ปากมดลูก แล้วการอักเสบนั้นอาจเป็นปฐมเหตุนำไปสู่การเป็นมะเร็งปากมดลูกในอนาคต ดังนั้นคนที่ตรวจ HPV ได้ผลบวกก็หมายความว่ามีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูกมากกว่าคนที่ตรวจแล้วได้ผลลบ
2. ถามว่าเมื่อหมอส่องตรวจปากมดลูก (colposcopy) แล้วตัดชิ้นเนื้อออกมาตรวจดูได้ผลว่าเป็น LSIL หมายความว่าอย่างไร ตอบว่า LSIL ย่อมาจาก Low Squamous Intraepithelial Lesion เป็นการมองโรคนี้จากมุมมองความผิดปกติของเยื่อบุปากมดลูก ผลที่รายงานว่า LSIL แปลว่าเยื่อบุมีรอยโรคน้อย จิ๊บจ๊อย และไม่ได้เป็นมะเร็ง
3. ถามว่าต่อมาหลายปีไปตรวจภายในได้ผลเป็น ASCUS หมายความว่าอย่างไร ตอบว่า ASCUS (atypical squamous cells of undetermined significance) เป็นการมองโรคจากนี้มุมมองความแก่กล้าของการเป็นมะเร็ง (Cervical Intraepithelium Neoplasia - CIN) หากมองจากมุมนี้ ผลตรวจที่เป็น ASCUS หมายถึงมีความแก่กล้าของการเป็นมะเร็งจิ๊บจ๊อยน้อยมาก หรือเรียกว่าเป็น CIN1 (ขณะที่หากเป็นมะเร็งเต็มยศก็เป็น CIN3) ศัพท์แสงแยะ วุ่นวายดีแมะ ถ้าจะเทียบกับมุมมองความผิดปกติของเยื่อบุปากมดลูก การตรวจได้ผลว่าเป็น ASCUS ก็เทียบได้หรือเหมือนกับตรวจได้ผล LSIL นั่นแหละ คือมีศักดิ์ศรีเท่ากันว่ายังไม่ได้เป็นโรค แต่เป็นการมองมาจากคนละมุม
4. การตรวจอุลตร้าซาวด์ต่อมาพบเนื้องอกมดลูก 3 ซม.หลายก้อน จะเพิ่มโอกาสเป็นมะเร็งไหม ต้องผ่าตัดไหม ตอบว่าเนื้องอกมดลูก (myoma) ไม่ใช่มะเร็ง ไม่ได้เป็นญาติก้บมะเร็ง ไม่ได้เพิ่มโอกาสการเป็นมะเร็ง ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ยกเว้นมันจะโตคับบ้านค้บเมืองไปกดอวัยวะข้างๆเช่นกระเพาะปัสสาวะ หรือมันโตเร็ว โดยทางการแพทย์นิยามคำว่าโตเร็วว่าคือการเพิ่มขนาดหนึ่งเท่าตัวในเวลา (doubling time) 6-12 เดือน
5. ถามว่าเมื่อตรวจปากมดลูกพบว่าเป็น ASCUS ซ้ำซาก ร่วมกับตรวจพบการติดเชื้อ HPV ซ้ำซาก และผลส่องตรวจปากมดลูกก็เป็นแต่ LSIL คือไม่ได้เป็นมะเร็ง การที่หมอแนะนำให้ตัดมดลูกยกยวงแบบรูดมหาราชความเห็นของหมอสันต์เห็นว่าเป็นคำแนะนำที่เข้าท่าไหม ตอบว่า อ้าว.. ถามแบบนี้จะหาเรื่องให้หมอสันต์ทะเลาะกับชาวบ้านละสิ ผมไม่ตอบคุณหรอก แต่ผมจะให้ข้อมูลคุณว่าวิธีรักษามาตรฐานที่กำหนดโดยสมาคมส่องตรวจปากมดลูกและพยาธิวิทยาปากมดลูกอเมริกัน (ASCCP) ซึ่งเป็นผู้กำหนดมาตรฐานในเรื่องนี้ ฉบับล่าสุด (2012) แนะนำว่า ในกรณีที่ผลตรวจเซลไม่พบเซลผิดปกติชัดเจน (คือผลเป็น ASCUS) ร่วมกับ hrHPV ได้ผลบวก และส่องตรวจปากมดลูกตัดชิ้นเนื้อแล้วได้ผลว่าไม่เป็นมะเร็ง เป็นแค่ LSIL) อย่างคุณนี้ ให้ติดตามตรวจภายในแบบตรวจควบทั้งเอ็ชพีวี.และเซล (co-test) ไปปีละครั้งอย่างน้อยสองปี หากครบสองปีแล้วยังได้ผลว่าเซลเป็น LSIL หรือ ASCUS ร่วมกับ HPV ได้ผลบวกเหมือนเดิมอีก ให้เลือกรักษาได้สองทางเลือก คือ
ทางเลือกที่ 1. คือตรวจภายในเพื่อคัดกรองแบบ co-test ไปทุกปี จนกว่าผลจะกลับมาเป็นปกติ หรือจนกว่าหมอหรือคนไข้จะเบื่อกันไปข้างหนึ่ง (หิ หิ พูดเล่น) หรือจนกว่าอายุจะพ้น 65 ปี ซึ่งเป็นวัยเลิกตรวจคัดกรอง
ทางเลือกที่ 2. คือลงมือรักษาเลยทันทีให้รู้แล้วรู้รอด วิธีรักษาที่ ASCCP แนะนำมีสองวิธีคือ
วิธีที่ 1. ตัดแซะออก (excision) ซึ่งก็หมายถึงการทำ LEEP ( loop electrosurgical excision procedure) นั่
นแหละ
วิธีที่ 2. จี้ทำลายเนื้อเยื่อ (ablation) ด้วยความเย็นหรือเลเซอร์
6. ถามว่ากรณีที่มีเนื้องอกที่มดลูกร่วมด้วยอย่างนี้จำเป็นต้องทำผ่าตัดแบบยกยวงไปเสียเลยให้รู้แล้วรู้รอดไหม ตอบว่าเนื้องอกที่มดลูกขนาด 3 ซม.กี่ก้อนก็ตาม ไม่ใช่ข้อบ่งชี้ที่จะให้ทำผ่าตัดเอามดลูกออก ดังนั้นขอให้แยกพิจารณาทีละประเด็น เรื่องเนื้องอกที่มดลูกให้เอาไว้ก่อนไม่ต้องเอามาพิจารณาร่วม แล้ววัยของคุณนี้เนื้องอกที่มดลูกส่วนใหญ่มันมีแต่จะเหี่ยวลง ไม่ใช่จะโตขึ้น ดังนั้นในการรักษาให้คุณพิจารณาแต่ประเด็นตรวจพบ ASCUS + HPV ได้ผลบวก + ผลตัดชิ้นเนื้อไม่พบมะเร็ง เท่านั้น อย่าเอาเรื่องอื่นคนละเรื่องมาพันกันให้ตัวเองเจ็บตัวมากเกินความจำเป็น
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
มีเรื่องมารบกวนปรึกษาค่ะ ปัจจุบันอายุ 47 ปี โสด ไม่เคยมีลูกค่ะ ขออนุญาตเล่าประวัติการตรวจปากมดลูกย้อนหลังไป 3 ปีที่แล้วก่อนนะคะ ก่อนหน้านี้ เมื่อ 3 ปีที่แล้ว (2559) ได้เคยตรวจ ThenPrep + HPV ที่ สถาบัน ... ได้ผลตรวจ ThenPrep และ HPV เป็นบวก คุณหมอแนะนำให้ตรวจ colposcopy จึงได้เอาผลนี้ไปแจ้งตรวจกับ รพ. ที่ทำประกันสังคม เพื่อส่องกล้อง colposcopy และได้ส่องแล้วผลออกมาเป็น LSIL ทางหมอจึงได้นัดให้ตรวจปากมดลูกทุก 6 เดือน แต่ยังไม่ทันครบ 6 เดือนก็ต้องเปลี่ยน รพ. ที่ทำประกันสังคม เนื่องจากที่เก่าไม่ทำแผนกประกันสังคมแล้ว ดังนั้น จึงได้เอาผลทั้งหมดไปให้ที่ รพ. แห่งใหม่ และได้ทำการตรวจปากมดลูกตามนัดทุก 6 เดือน ผลตาม file ประวัติการตรวจปากมดลูก-2016-2019
มาปีนี้ ได้ตรวจสุขภาพกับสถาบัน ... อีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 18/09/2019 ทั้ง ThinPrep + HPV และ ultra sound ช่องท้องส่วนล่าง จากการตรวจ Thenprep ได้ผลคือ ASC-US และ HPV DNA test เป็นบวก
และในครั้งนี้ พึ่งเคยตรวจ Ultrasound ช่องท้องส่วนล่าง พบก้อนเนื้อ 2 ก้อนในมดลูก วันที่ฟังผล งงมากว่ามีผลเป็น ASC-US ได้อย่างไร ในเมื่อเดือนสิงหาคมตรวจกับประกันสังคม ยังปกติอยู่เลย แล้วผลตรวจตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ปกติหมด (ช่วงนั้นดิฉันไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับใครเลย)
หมอที่สถาบัน ... ก็แนะนำให้ตรวจ colposcopy และ ultrasound อีกครั้ง ก็เลยเอาผลนี้ พร้อมกับคำแนะนำของหมอที่นี่ ไปให้ที่ รพ.ประกันสังคมเช่นเดิม และวันนี้ (13/10/19) หมอเขาได้ ultrasound และพบว่ามีก้อนเนื้อประมาณ 3 cm จำนวน 4 ก้อน ขนาดมดลูกมีขนาด 7 cm หมอพูดทิ้งท้ายด้วยว่า อาจจะมีก้อนเล็กๆ น้อยๆ อีกเยอะ หมอบอกว่า จะนัดตรวจ colposcopy ในวันที่ 27/10/19 และบอกว่าถ้าผลเป็นบวก แนะนำให้ตัดมดลูกและปากมดลูกออก โดยถามว่าเราจะมีลูกอีกไหม (ก็ไม่แน่ใจว่าจะมีหรือเปล่า ตอนนั้นยังงงๆ กับคำว่า ตัดออกทั้งหมด และกลัวมาก ก็ตอบว่า ไม่น่าจะมี) เขาบอกว่า วิธีการรักษาที่ดีที่สุดคือตัดออก จะได้ไม่ต้องมากังวลว่าจะเป็นอีกไหม เพราะในเคสนี้ มีทั้งปัญหาที่ปากมดลูกและก้อนเนื้อที่มดลูก
ตอนนั้นจิตตก ช๊อคมาก เพราะว่า ตอนที่ปรึกษากับคุณหมอที่สถาบัน ... เขาก็แนะนำว่าที่ปากมดลูกให้ colposcopy และอาจต้องทำ leep และในส่วนของก้อนเนื้อที่มดลูก ให้เฝ้าติดตามทุก 6 เดือน ว่าจะเพิ่มขนาดไหม ถ้าเพิ่มก็ค่อยว่ากันและบอกอีกว่า ปกติ ผู้หญิงส่วนใหญ่มีกันทั้งนั้นเพียงแต่ไม่ได้ตรวจ และโอกาสเป็นมะเร็งน้อยมาก มาเจอวันนี้บอกให้ตัดออกให้หมดเลย ก็พยายามถามหมอว่า เรารักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้หรือคะ เช่น Leep หรือดูขนาดของก้อนเนื้อ หมอถามกลับมาว่า ที่หมอบอกคือวิธีรักษานะครับ ถ้าทำ leep แล้วมันไม่หมดก็ต้องมารักษาใหม่ ในส่วนของรอดูขนาดก้อนเนื้อ จะรอไปถึงเมื่อไร ถ้ามันลามล่ะ ไปถึงต่อมน้ำเหลือง คราวนี้รักษายากมากเลยนะ เรื่องใหญ่กว่าตัดออกอีก จะรอให้เมนส์หมดแล้วลีบไปเองก็อีก 3 ปี แน่ใจหรือว่ามันจะลีบ แล้วถ้าไม่ลีบละ แล้วถ้ามันเป็น.. อะบอกตรงๆเลยนะ มะเร็ง หน่ะ จะทำยังไง ถ้าเอาออกทั้งหมด ก็สบายใจได้ว่ามันจะไม่เป็นอีกแน่นอน และหน้าตาแบบรำคาญมากว่าจะเก็บมันไว้ทำไม น้ำตาแทบร่วงเลยค่ะ
คือเจอคำพูดเหล่านี้ แทบหมดแรงเลยค่ะ ขอถามความเห็นของหมอหน่อยนะคะ คือก่อนหน้านี้ก็ได้อ่านบทความของคุณหมอที่ตอบไว้ใน Web เกี่ยวกับคนที่เป็น ASC-US และ HPV+ ก็ยังสบายใจ เพราะคิดว่าการรักษาปากมดลูกกับ ก้อนเนื้อ มันคนละส่วนและมีวิธีการรักษาที่ต่างกัน แล้วที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน ในความเข้าใจ มันยังผิดปกติในระดับอนุบาลมาก
มาถึงตรงนี้ก็ยังงงๆ ว่า ก้อนเนื้อนี้ ก็ยังไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร มันจะร้ายแรงขนาดเป็นมะเร็งเลยหรือคะ อ่านใน Web คนที่เขาทำ Leep เขาก็ยังใช้ชีวิตอยู่ได้ดี แต่จะต้องตามตรวจตามหมอสั่งเท่านั้น รบกวนขอความเห็นของคุณหมอด้วยนะคะว่าเคสแบบนี้ ควรทำอย่างไร ร้อนใจมาก คุณหมอที่นี่บอกว่าจะเอาผล colposcopy ไปประกอบเรื่องขออนุญาตโรงพยาบาลทำการผ่าตัดออกให้หมด ทั้งมดลูกและปากมดลูก น่าจะผ่าตัดได้ประมาณต้นปีหน้า
การใช้ชีวิตประจำวันตอนนี้ยังปกติค่ะ ไม่มีปัญหาเรื่องตกขาวหรือประจำเดือนหรือปวดท้อง มีเริ่มหน่วงๆนิดหน่อยแบบสะกิดนิดๆตรงแถวๆขาหนีบ ด้านซ้าย ก่อนมีปจด หลังจากหมด ก็ไม่ปวด และตั้งแต่ที่ทราบผล HPV เมื่อ 3 ปีที่แล้วก็ลดอาหารขยะ แทบจะเรียกว่างดเลยก็ได้ และออกกำลังกายประจำ ตอนนี้วันหยุดจะตื่นวิ่งประมาณ 1.30 ชม ทุกเช้า วันธรรมดาก็จะเดินเร็วประมาณ 30 นาที
ขอขอบพระคุณคุณหมอล่วงหน้าด้วยค่ะ
......................................................
ตอบครับ
แหม อ่านซะเมื่อยเลย ตอบทันทีดีกว่า
1. ถามว่าตรวจ HPV ได้ผลเป็นบวก หมายความว่าอย่างไร ตอบว่า หมายความว่าอยู่ในระหว่างติดเชื้อเอ็ชพีวี. ซึ่งคำว่า HPV ในผลตรวจทางนรีเวชนี้หมายถึงเชื้อที่เป็นสายพันธ์ความเสี่ยงสูง (hrHPV) เท่านั้น เชื้อนี้จะทำให้มีการอักเสบที่ปากมดลูก แล้วการอักเสบนั้นอาจเป็นปฐมเหตุนำไปสู่การเป็นมะเร็งปากมดลูกในอนาคต ดังนั้นคนที่ตรวจ HPV ได้ผลบวกก็หมายความว่ามีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูกมากกว่าคนที่ตรวจแล้วได้ผลลบ
2. ถามว่าเมื่อหมอส่องตรวจปากมดลูก (colposcopy) แล้วตัดชิ้นเนื้อออกมาตรวจดูได้ผลว่าเป็น LSIL หมายความว่าอย่างไร ตอบว่า LSIL ย่อมาจาก Low Squamous Intraepithelial Lesion เป็นการมองโรคนี้จากมุมมองความผิดปกติของเยื่อบุปากมดลูก ผลที่รายงานว่า LSIL แปลว่าเยื่อบุมีรอยโรคน้อย จิ๊บจ๊อย และไม่ได้เป็นมะเร็ง
3. ถามว่าต่อมาหลายปีไปตรวจภายในได้ผลเป็น ASCUS หมายความว่าอย่างไร ตอบว่า ASCUS (atypical squamous cells of undetermined significance) เป็นการมองโรคจากนี้มุมมองความแก่กล้าของการเป็นมะเร็ง (Cervical Intraepithelium Neoplasia - CIN) หากมองจากมุมนี้ ผลตรวจที่เป็น ASCUS หมายถึงมีความแก่กล้าของการเป็นมะเร็งจิ๊บจ๊อยน้อยมาก หรือเรียกว่าเป็น CIN1 (ขณะที่หากเป็นมะเร็งเต็มยศก็เป็น CIN3) ศัพท์แสงแยะ วุ่นวายดีแมะ ถ้าจะเทียบกับมุมมองความผิดปกติของเยื่อบุปากมดลูก การตรวจได้ผลว่าเป็น ASCUS ก็เทียบได้หรือเหมือนกับตรวจได้ผล LSIL นั่นแหละ คือมีศักดิ์ศรีเท่ากันว่ายังไม่ได้เป็นโรค แต่เป็นการมองมาจากคนละมุม
4. การตรวจอุลตร้าซาวด์ต่อมาพบเนื้องอกมดลูก 3 ซม.หลายก้อน จะเพิ่มโอกาสเป็นมะเร็งไหม ต้องผ่าตัดไหม ตอบว่าเนื้องอกมดลูก (myoma) ไม่ใช่มะเร็ง ไม่ได้เป็นญาติก้บมะเร็ง ไม่ได้เพิ่มโอกาสการเป็นมะเร็ง ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ยกเว้นมันจะโตคับบ้านค้บเมืองไปกดอวัยวะข้างๆเช่นกระเพาะปัสสาวะ หรือมันโตเร็ว โดยทางการแพทย์นิยามคำว่าโตเร็วว่าคือการเพิ่มขนาดหนึ่งเท่าตัวในเวลา (doubling time) 6-12 เดือน
5. ถามว่าเมื่อตรวจปากมดลูกพบว่าเป็น ASCUS ซ้ำซาก ร่วมกับตรวจพบการติดเชื้อ HPV ซ้ำซาก และผลส่องตรวจปากมดลูกก็เป็นแต่ LSIL คือไม่ได้เป็นมะเร็ง การที่หมอแนะนำให้ตัดมดลูกยกยวงแบบรูดมหาราชความเห็นของหมอสันต์เห็นว่าเป็นคำแนะนำที่เข้าท่าไหม ตอบว่า อ้าว.. ถามแบบนี้จะหาเรื่องให้หมอสันต์ทะเลาะกับชาวบ้านละสิ ผมไม่ตอบคุณหรอก แต่ผมจะให้ข้อมูลคุณว่าวิธีรักษามาตรฐานที่กำหนดโดยสมาคมส่องตรวจปากมดลูกและพยาธิวิทยาปากมดลูกอเมริกัน (ASCCP) ซึ่งเป็นผู้กำหนดมาตรฐานในเรื่องนี้ ฉบับล่าสุด (2012) แนะนำว่า ในกรณีที่ผลตรวจเซลไม่พบเซลผิดปกติชัดเจน (คือผลเป็น ASCUS) ร่วมกับ hrHPV ได้ผลบวก และส่องตรวจปากมดลูกตัดชิ้นเนื้อแล้วได้ผลว่าไม่เป็นมะเร็ง เป็นแค่ LSIL) อย่างคุณนี้ ให้ติดตามตรวจภายในแบบตรวจควบทั้งเอ็ชพีวี.และเซล (co-test) ไปปีละครั้งอย่างน้อยสองปี หากครบสองปีแล้วยังได้ผลว่าเซลเป็น LSIL หรือ ASCUS ร่วมกับ HPV ได้ผลบวกเหมือนเดิมอีก ให้เลือกรักษาได้สองทางเลือก คือ
ทางเลือกที่ 1. คือตรวจภายในเพื่อคัดกรองแบบ co-test ไปทุกปี จนกว่าผลจะกลับมาเป็นปกติ หรือจนกว่าหมอหรือคนไข้จะเบื่อกันไปข้างหนึ่ง (หิ หิ พูดเล่น) หรือจนกว่าอายุจะพ้น 65 ปี ซึ่งเป็นวัยเลิกตรวจคัดกรอง
ทางเลือกที่ 2. คือลงมือรักษาเลยทันทีให้รู้แล้วรู้รอด วิธีรักษาที่ ASCCP แนะนำมีสองวิธีคือ
วิธีที่ 1. ตัดแซะออก (excision) ซึ่งก็หมายถึงการทำ LEEP ( loop electrosurgical excision procedure) นั่
นแหละ
วิธีที่ 2. จี้ทำลายเนื้อเยื่อ (ablation) ด้วยความเย็นหรือเลเซอร์
6. ถามว่ากรณีที่มีเนื้องอกที่มดลูกร่วมด้วยอย่างนี้จำเป็นต้องทำผ่าตัดแบบยกยวงไปเสียเลยให้รู้แล้วรู้รอดไหม ตอบว่าเนื้องอกที่มดลูกขนาด 3 ซม.กี่ก้อนก็ตาม ไม่ใช่ข้อบ่งชี้ที่จะให้ทำผ่าตัดเอามดลูกออก ดังนั้นขอให้แยกพิจารณาทีละประเด็น เรื่องเนื้องอกที่มดลูกให้เอาไว้ก่อนไม่ต้องเอามาพิจารณาร่วม แล้ววัยของคุณนี้เนื้องอกที่มดลูกส่วนใหญ่มันมีแต่จะเหี่ยวลง ไม่ใช่จะโตขึ้น ดังนั้นในการรักษาให้คุณพิจารณาแต่ประเด็นตรวจพบ ASCUS + HPV ได้ผลบวก + ผลตัดชิ้นเนื้อไม่พบมะเร็ง เท่านั้น อย่าเอาเรื่องอื่นคนละเรื่องมาพันกันให้ตัวเองเจ็บตัวมากเกินความจำเป็น
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์