ปรับปรุงแค้มป์ปลีกวิเวกทางจิตวิญญาณ Spiritual Retreat ครั้งที่ 9 (SR9)

     แค้มป์ปลีกวิเวกทางจิตวิญญาณ Spiritual retreat ทำไปแล้วแปดครั้ง แต่ละครั้งก็มีเหตุให้ต้องปรับปรุงแก้ไขเนื้อหาสาระไปตามข้อมูลที่ได้จากการทำแค้มป์ก่อนๆ ครั้งนี้เป็นครั้งที่เก้า รับปีใหม่พอดี และมีเรื่องที่จะต้องให้ปรับปรุงครั้งใหญ่อีก

1. Spiritual Retreat คืออะไร

    Spiritual หมายถึงการเสาะหาหรือเดินทางฝ่าข้ามชีวิตส่วนที่เป็นร่างกายและความคิด หันเข้าไปสู่ส่วนลึกที่สุดที่ภายในคือความตื่นหรือความรู้ตัว (awareness) ซึ่งเป็นที่เป็นนิรันดร ไม่เปลี่ยนแปลง

     Retreat คือการปลีกวิเวกหลีกเร้น ไปอยู่ในสถานที่สงบเงียบเป็นธรรมชาติ เพื่อให้ได้มีเวลาที่สันโดษและเป็นส่วนตัว

     Spiritual retreat ก็คือการปลีกวิเวกหลีกเร้นเพื่อหันเหความสนใจจากโลกภายนอกกลับเข้าไปแสวงหาความสุขสงบเย็นภายในตัว โดยเรียนรู้ผ่านการอยู่ในสถานที่สงบเงียบเป็นเวลานานหลายวันบ้าง หลายสัปดาห์บ้าง หลายเดือนบ้าง อาจจะอยู่คนเดียว หรืออยู่กับกลุ่มที่ต่างมุ่งแสวงหา "ความหลุดพ้น" เหมือนกัน

    แค้มป์นี้ไม่เกี่ยวกับศาสนาใด ไม่มีพิธีกรรม ไม่ต้องปฏิบัติบูชา ไม่ต้องนุ่งห่มแบบใดแบบหนึ่งเป็นการเฉพาะ ไม่ต้องนอนตื่นเช้ามากๆ (เริ่มเรียน 6.30 น.)ไม่ต้องอดอาหาร ในแค้มป์จะพูดหรือทำสิ่งเดียวเท่านั้น คือเรื่องที่จะหลุดพ้นไปจากความยึดติดในความเป็นบุคคลไปสู่ความตื่น โดยโฟกัสที่..ที่นี่ เดี๋ยวนี้

2. สิ่งที่เรียนรู้จาก SR1 - SR8

     ปัญหาสำคัญที่สุดคือผู้มาเข้า Retreat ส่วนใหญ่เป็นผู้แสวงหาการบรรลุธรรม (enlightenment) หรือการตื่นรู้ทางจิตวิญญาณ (awakening) ที่มีประสบการณ์แสวงหาในเส้นทางของศาสนาของตนมาแล้วโชกโชนระดับสิบปี ยี่สิบปี สามสิบปีขึ้นไป มีความแม่นยำและเหนียวแน่นในคอนเซ็พท์ทางศาสนาหรือนิกายของตนมากระดับหนึ่ง ทำให้ "ภาษา" กลายเป็นอุปสรรคในการเรียนรู้ การติดตามผลหลังจากเข้ารีทรีตพบว่าบางคนยังเดินหน้ากับชีวิตด้วยการพยายามตีความภาษาทำให้ติดกับดักอยู่ในความคิดอย่างไม่มีวันจบสิ้น

3. สาระสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงใน SR 9

    เป้าหมายยังคงอยู่ที่การวางความคิดไปสู่ความรู้ตัวเหมือนเดิม แต่เรื่องใหญ่ที่สุดที่จะเปลี่ยนแปลงคือจะแยก Spiritual Retreat นี้ออกมาจากศาสนาใดๆเสียให้เด็ดขาด คือเป็น Atheist ร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยจะเลือกวิธีวางความคิดที่ไม่ต้องพึ่ง "ภาษา" มาเป็นวิธีหลักในการฝึก โดยจะไฮไลท์การรับรู้ผ่านอายตนร่างกาย (sensation and perception) หรือการปักหลักอยู่กับการรับรู้พลังงานในร่างกาย (internal body) วิธีนี้ไม่ต้องใช้ภาษา ไม่ต้องอยู่ใต้อิทธิพลของความคิด ไม่ต้องผูกติดกับคำสอนของค่ายใดๆ ผลของการเปลี่ยนแปลงวิธีเรียนนี้จะดีขึ้นหรือแย่ลงก็คงต้องติดตามดูกันต่อไป

     เมื่อตั้งใจจะตัดการรบกวนของภาษาให้หมด วิธีทำ meditation ที่ใช้เป็นวิธีหลักในการวางความคิดก็ต้องเปลี่ยนไปเป็นวิธีใหม่ที่ควบรวมสามองค์ประกอบเข้าด้วยกัน คือ
(1) ความสนใจ (attention)
(2) ร่างกาย โดยเน้นที่พลังงานในร่างกาย (internal body)
(3) พลังเมตตา (grace)

    โดยฝึกใช้แค่สามอย่างนี้คลุกเคล้ากันผ่านการรู้สึก (feeling) เท่านั้น ไม่ใช้ความคิด เพิกเฉยต่อความคิดอย่างสิ้นเชิง ตัดวิธีอื่นที่เปิดช่องให้ความคิดเข้ามาชี้นำทิ้งหมด

4. Spiritual Retreat เหมาะสำหรับใครบ้าง

     1. ผู้ที่มีความเครียดซึ่งแก้เองไม่ตก

     2. ผู้ที่ต้องการหาความสงบทางใจ

     3. ผู้ที่ต้องการค้นหาความหมายของชีวิต

5. ตารางกิจกรรม Spiritual Retreat

(สี่วันสามคืน)

สถานที่: เวลเนสวีแคร์เซ็นเตอร์

วันแรก

11.00 - 12.00 น. Getting to know you ทำความรู้จัก
12.00 - 14.00 น. Lunch break พักกลางวัน
14.00 - 14.30 น. Lecture1. "I" Though ความคิด "ฉัน"
14.30 - 15.00 น. Workshop1. Consciousness - Awareness รู้จักความรู้ตัว
15.00 – 15.30 น. Workshop2. Internal body and Body scan พลังงานในร่างกายกับการลาดตระเวณร่างกาย
15.30 - 16.00 น. Coffee Break พักผ่อนในความเงียบสงบ
16.00 - 17.00 น. Workshop3. Muscle relaxation through Yoga เรียนผ่อนคลายกล้ามเนื้อผ่านโยคะ
17.00 - 18.00 น. Workshop4. Body scan and relaxation meditation ฝึกวางความคิดด้วยวิธีลาดตระเวณและผ่อนคลายร่างกาย
18.00 - 19.00 น. Dinner อาหารเย็น
19.00 -               Private time เวลาพักผ่อนส่วนตัว

วันที่สอง

06.30 - 07.00 น. Workshop5. Am I aware? ฝึกวางความคิดด้วยคำถามคำเดียว
07.00 - 07.80 น. Workshop6. "Tai Chi" ตามรู้พลังงานในร่างกายขณะเคลื่อนไหวด้วยเทคนิคไทชิ
08.00 - 09.00 น. Breakfast รับประทานอาหารเช้า อาบน้ำ
09.00 – 10.30 น. Workshop7. การวางความคิดด้วยการสอบสวนความคิดๆละครั้งเดียว (Self Inquiry)
10.30 - 11.00 น. Coffee Break พักในความเงียบสงบ
11.00 - 12.00 น. Workshop8. Three components of mediation ฝึกวางความคิดแบบสามประสาน
12.00 - 14.00 น. Lunch Break พักกลางวัน
14.00 – 15.00 น. Workshop9. Walking meditation ฝึกวางความคิดในอริยาบทของร่างกาย
15.00 – 15.30 น. Sat Sang ตรวจสอบประสบการณ์จากการเดิน
15.30 - 16.00 น. Coffee Break ในความเงียบสงบ ไตร่ตรองสิ่งที่ได้เรียนรู้
16.00 - 17.00 น. Workshop10. Pain Acceptance And Surrender ฝึกวิธียอมรับยอมแพ้
                           โดยใช้ความเจ็บปวดเป็นสื่อการเรียน
17.00 - 18.00 น. Workshop11. Sunset meditation นั่งสมาธิกับแสงอาทิตย์
18.00 - 19.00 น. Dinner รับประทานอาหารเย็น

วันที่สาม

06.30 - 08.00 น. Workshop12. Forest Walk  วางความคิดด้วยการเดินในป่า
08.00 - 09.00 น. Breakfast รับประทานอาหารเช้า
09.00 - 17.00 น. Rotation training แยกกลุ่มหมุนเวียนทำกิจกรรม
Workshop13. (1 ชม.) Process focus, and intuition through clay work เรียนการทำงานแบบไม่หวังผลและการฝึกใช้ปัญญาญาณจากงานปั้นดินเหนียว
Workshop14. (1 ชม.) Process focus, and intuition through drawing เรียนการทำงานแบบไม่หวังผลและฝึกใช้ปัญญาญาณจากงานเขียนภาพลายเส้น
Workshop15. (1 ชม.) Sensation, feeling & imagination through painting เรียนการรับรู้สิ่งเร้าในปัจจุบัน การเกิดความรู้สึกผสานกับการใช้จินตนาการในงานระบายสีน้ำ
Workshop16. (15 นาที)(Dr. Love) Bringing relaxation to your daily life by Ayurveda ประยุกต์ใช้อายุรเวดะในชีวิตประจำวัน
Workshop17. (30 นาที)(TTM therapist) Sensation through massage. วางความคิดมารับรู้การนวดสัมผัส
Workshop18. (15 นาที) Remedy พบนพ.สันต์ ตัวต่อตัวเพื่อแก้ไขความติดขัดในการวางความคิด
17.00 - 18.30 น. แชร์ประสบการณ์การปฏิบัติ focus on process และ intuition
18.30 - 19.30 น. Dinner รับประทานอาหารเย็น

วันที่สี่ (วันสุดท้าย) 

06.30 - 08.00 น. Workshop19. Silence meditation on the mountain ฝึกอยู่ในความเงียบ
08.30 - 09.30 น. รับประทานอาหารเช้าและทำกิจส่วนตัว
09.30 – 10.00 น. Lecture2: Choices in the now การเลือกประสบการณ์ที่ปัจจุบัน
10.00 - 10.30 น. Workshop20. Balanced walking วางความคิดด้วยการเคลื่อนไหวแบบทรงตัว
10.30 - 11.00 น. Coffee Break ในความเงียบสงบ
11.00 - 12.00 น. Satsang: Summary of techniques สรุปเทคนิคการวางความคิดที่เรียนแล้วทั้งหมด แชร์ประสบการณ์และแลกเปลี่ยน
12.00 - 13.00 น. ปิดแค้มป์ รับประทานอาหารกลางวันแล้วอำลา


...............................................

6. ค่าใช้จ่ายในการมาเข้าแค้มป์ Spiritual Retreat

     คนละ 9,000 บาท ราคานี้รวมอาหารวันละสามมื้อ อาหารว่างวันละสองเบรค ค่าที่พักห้องพักเดี่ยวห้องละ 1 คน สี่วัน สามคืน (กรณีมาคู่ที่แชร์ห้องเตียงคู่ห้องเดียวกันได้ ลดเหลือคนละ 8,000 บาท) ทั้งหมดนี้ไม่รวมค่าเดินทาง ทุกคนต้องเดินทางไปและกลับด้วยค่าใช้จ่ายของตนเอง

7. จำนวนที่รับเข้าแค้มป์

     รับไม่เกิน 15 คน (ยกเว้นมาคู่นับเป็นหนึ่งได้)

8. วิธีลงทะเบียนเข้าแค้มป์

ลงทะเบียนบนเว็บและจ่ายเงินทางออนไลน์ โดยท่านสามารถลงทะเบียนได้โดยโทรศัพท์ติดต่อคุณเอ๋ย (เชิญขวัญ) ที่หมายเลข 0636394003 หรือไลน์ @wellnesswecare หรืออีเมล chernkwan@wellnesswecare.com

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

กินคีโตไข่ต้มไก่ต้มทุกวันแล้วหลอดเลือดหัวใจตีบ

หนังสือคัมภีร์สุขภาพดี (Healthy Life Bible) จะพิมพ์ครั้งที่ 3 แน่นอนแล้ว เชิญสั่งซื้อได้

ความแก่..เหมือนหมาถูกต้อนเข้ามุมให้จนตรอก

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตคนเราคือความเบิกบาน (Joy)

วิตามินดีเกิน 150 หมอบอกมากเกินไป ท้ังๆที่ไม่ได้ทานวิตามินดี

Life Skill Camp for Kids แค้มป์ทักษะชีวิตเยาวชนที่มิวเซียมสยาม 16 พย. 67