หัวใจห้องบนเต้นผิดจังหวะเป็นพักๆแบบไฟฟ้าปล่อยออกมาจากห้องบน (PAC)

เรียนคุณหมอที่เคารพ
ดิฉันอายุ52สูง148หนัก48 เป็นแฟนคุณหมอมานานแล้วค่ะ เพราะกำลังสู้กับเบาหวานน่ะ ไม่มีอาการใดๆนะคะ เช้าวิ่ง 6 km 6 วัน สบายๆ ไม่เหนือยค่ะ หัวใจบางครั้งเต้นเร็ว ร้อยนิดๆค่ะ เป็นมาเกิน10ปีค่ะ
พึ่งไปหาหมอหัวใจค่ะ หมอให้ติด Holter และ abp 24 hrs พบว่า หัวใจเต้นผิดจังหวะตอนออกกำลังกาย
และ bp สูง คือเกิน140/80 นิดๆ หมอให้กินยา bisoprolol 1 เม็ดหลังอาหารเช้าค่ะ กินแล้ว หัวใจเต้นช้าลง  แต่เหนื่อยมาก วิ่ง2โลก็เหนื่อยสุดๆ ขึ้นบันไดก็เวียนหัวค่ะ
ขอเรียนถามคุณหมอค่ะ
1ที่กินยาเพราะเชือว่าหัวใจเต้นช้าลง คงได้พักมากขึ้นน่าจะมีอายุการใช้งานดีขึ้น  เป็นความเชื่อที่ถูกมั้ยคะ
2ทำไมต้องให้หัวใจเต้นต่ำกว่า100คะ จำเป็นรึเปล่า
3 เลิกกินยาดีมั้ยคะ รึทนๆไป ก็พอทนได้นะคะ ถ้ากินแล้วมันดีจริงก็จะอดทนค่ะ
ขอบพระคุณมากค่ะ
ส่งจาก iPad ของฉัน

..........................................................

ตอบครับ

ภาพคลื่นหัวใจที่ส่งมาเป็น paroxysmal atrial tachycardia (PAC) สลับการมีไฟฟ้าผิดปกติปล่อยแทรกออกมาจากผนังหัวใจห้องล่าง (PVC) นานๆครั้ง คำว่า PAC นี้แปลว่า
   
     "ภาวะที่หัวใจห้องบนเต้นผิดจังหวะแบบเร็วกว่าปกติเป็นพักๆโดยที่ไฟฟ้าถูกปล่อยออกมาจากหัวใจห้องบน"

     นี่เป็นคำแปลของหมอสันต์เองนะ คำแปลของราชบัญฑิตไม่มีหรอก คำว่าไฟฟ้าปล่อยมาจากหัวใจห้องบน หมายถึงเป็นการปล่อยใกล้กับจุดปล่อยปกติ ไฟฟ้าจะให้จังหวะการเต้นกับหัวใจทุกห้องให้เต้นตามกันไปแบบมีจังหวะจะโคน นอกจากจะกำหนดให้เต้นเร็วหรือช้าแล้วเมื่อไฟฟ้าออกไปจากตรงนี้การเต้นของแต่ละห้องก็จะเข้าขากันเป็นอันดีมีก่อนมีหลังตามลำดับไม่ลัดคิว ทำให้หัวใจส่งเลือดออกไปเลี้ยงร่างกายได้เป็นปกติ ดังนั้น PAC นี้จึงเป็นภาวะที่ไม่มีอันตรายอะไร ไม่ทำให้อายุสั้น ไม่ทำให้เกิดลิ่มเลือดง่าย สามารถออกกำลังกายได้เหมือนคนปกติ ไม่ต้องกินยากันเลือดแข็ง ต่างจากกรณีที่ไฟฟ้าถูกปล่อยรัวออกมาจากที่อื่นซึ่งไม่ได้มีหน้าที่ในการปล่อยไฟฟ้าโดยตรง เช่นสมมุติว่าปล่อยรัวออกมาจากผนังของห้องล่าง (VF) หัวใจจะเต้นรัวแบบเต้นแร้งเต้นกาผิดจังหวะจะโคนบางทีก็เต้นขย่มกันเองจนหัวใจไม่สามารถส่งเลือดออกไปเลี้ยงร่างกายทำเอาตายได้ง่ายๆ แพทย์จึงต้องรีบทำโน่นนี่นั่นสาระพัด หรืออย่างเบาะๆกรณีไฟฟ้าปล่อยรัวออกมาจากผนังของห้องบน (AF) หัวใจห้องบนก็จะเต้นรัวไม่เป็นส่ำยุบยิบยับแบบถุงที่เอาหนอนเป็นพันใส่ไว้ข้างใน เลือดจึงไม่ไปไหนได้แต่ไหลวนไปวนมาอยู่นั่นแล้วจนเกิดเป็นลิ่มเลือดขึ้น เมื่อลิ่มเลือดหลุดพลั้วะไปก็ไปอุดตันหลอดเลือดต่างๆทำให้เกิดเรื่องร้ายขึ้นได้ จนต้องกินยากันเลือดแข็งเพื่อป้องกันการก่อตัวของลิ่มเลือด แต่กรณี PAC หรือกรณีมี PVC แทรกนานๆครั้งนี้ไม่มีเรื่องร้ายๆเหล่านั้นใดๆทั้งสิ้นเลย

     เอาละ คราวนี้มาตอบคำถามของคุณ

     1. ถามว่าที่หมอให้กินยานี้คุณยอมกินเพราะเชื่อว่าหัวใจเต้นช้าลง คงได้พักมากขึ้น น่าจะมีอายุการใช้งานดีขึ้น  เป็นความเชื่อที่ถูกมั้ยคะ ตอบว่าเป็นความเชื่อที่ผิดครับ ความเป็นจริงคือการที่หัวใจเต้นเร็วบ้างช้าบ้างในภาวะ PAC ไม่ว่าจะมีหรือไม่มี PVC แทรกบ้างก็ตาม ไม่มีผลทอนอายุการใช้งานของกล้ามเนื้อหัวใจแต่อย่างใด และการกินยาก็ไม่มีผลยืดอายุการใช้งานของกล้ามเนื้อหัวใจแต่อย่างใด

     2. ถามว่าทำไมหมอต้องให้หัวใจเต้นต่ำกว่า 100 คะ ตอบว่าก็เพราะหมอชอบตัวเลขกลมๆ นะสิครับ ไม่ใช่แต่หมอหรอกที่ชอบตัวเลขกลมๆ นักบัญชีก็ชอบ (ขอโทษ นอกเรื่อง กลับมาที่เรื่องของเราดีกว่า) คือสิ่งที่หมอเขาสนใจมากในกรณี PAC และหรือ PVC นานครั้งคืออาการที่รบกวนคุณภาพชีวิตของคนไข้ เพราะหมอเขาถือว่าตัวเองจะได้ทำความดีหากได้ทำอะไรที่ได้ยืดอายุคนไข้หรือได้เพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนไข้ ในกรณีของ PAC และ PVC นี้คนไข้ไม่ได้อายุสั้นจึงไม่ต้องไปยืดอายุให้เขา แต่คนไข้เป็นทุกข์เพราะอาการใจสั่น การลดอาการนี้แหละที่เป็นเป้าหมายของหมอในการรักษาโรคนี้ และความที่อัตราการเต้นของหัวใจก็มักไปกับอาการใจสั่นของคนไข้ คือยิ่งหัวใจเต้นเร็วยิ่งมีอาการใจสั่นมาก หมอจึงวางแนวทางการรักษาว่าถ้าอัตราเต้นเร็วกว่าจุดสมมุติ ณ จุดหนึ่งก็สมควรใช้ยาเบรกไว้เสียหน่อย จุดสมมุตินั้นก็เหมาเอาว่าเอากันตรงตัวเลขกลมๆ 100 ครั้งต่อนาทีนี่ก็แล้วกัน แต่บางหมอก็ไม่เอา 100 นะ แล้วแต่ใครชอบเลขอะไร หมอบางคนชอบเลขเก้าก็เอา 90 บางหมอที่เกิดมาเพื่อจ่ายยาหากหัวใจเต้น 80 ครั้งเขาก็จ่ายยาให้แล้ว เป็นต้น

     3. ถามว่าจำเป็นหรือเปล่าในภาวะ PAC และ PVC ที่ต้องกินยากดให้หัวใจเต้นช้ากว่า 100 ครั้งต่อนาที ตอบว่าไม่จำเป็นหรอกครับ แต่หากคนไข้เป็นทุกข์กับอาการใจสั่นหมอเขาก็อยากทำอะไรสักอย่างมากกว่าจะเอามือซุกหีบอยู่เฉยๆ คนไข้อุตสาห์มาหาแล้วจะยืนเอามือซุกหีบเฉยอยู่ได้ไง อีกอย่างหนึ่งมันขึ้นกับว่าคุณไปหาหมอคนไหนด้วย คุณไปหาหมอท่านหนึ่งท่านอาจช่วยคุณด้วยการให้ยากดการเต้นของหัวใจให้ช้าลง แต่ถ้าคุณมาหาหมอสันต์แล้วคุยโขมงโฉงเฉงว่าหนูเนี่ยวิ่ง6 กม.สัปดาห์ละ 6 วันนะคะ ผมก็จะถามคุณว่าแล้วคุณเดือดร้อนอะไรไหมกับอาการใจสั่น หากคุณตอบว่าคุณไม่เดือดร้อน ผมก็จะไม่ยุ่งอะไรกับคุณ ผมหมายความว่าจะไม่ให้คุณกินยาอะไร ก็ในเมื่อคุณไม่เดือดร้อนก็แสดงว่าคุณภาพชีวิตคุณยังดีอยู่ แล้วยาจะไปเพิ่มคุณภาพชีวิตให้คุณได้ตรงไหนละครับ ถูกแมะ

     4. ถามว่าเลิกกินยาดีไหม หรือจะให้ทนๆไป ตอบว่าตรงนี้คุณตัดสินใจเองได้แล้ว คุณก็ตัดสินใจเองสิ คือผมให้ข้อมูลคุณแล้วว่า PAC และ PVC ไม่ทำให้อายุคุณสั้นลง ยาก็ไม่ทำให้อายุคุณยาวขึ้น แต่กรณีที่คุณทุกข์กับอาการใจสั่น ยาช่วยลดอาการใจสั่นได้ ก็เท่ากับว่ายาช่วยให้คุณภาพชีวิตของคุณดีขึ้นได้ แต่หากยากินแล้วทำให้คุณหมดเรี่ยวหมดแรงแสดงว่ายาไปลดคุณภาพชีวิตในอีกด้านหนึ่งคือทำให้คุณวิ่งไม่ได้เท่าเดิม คุณก็ต้องชั่งน้ำหนัก ว่าด้านหนึ่งใจสั่น ด้านหนึ่งหมดแรง คุณจะเลือกข้างไหน แล้วตัดสินใจเอง คือให้เอาความทุกข์จากอาการเป็นหลัก อย่าเอาโรคเป็นหลักในการตัดสินใจใช้ยา เพราะ PAC และ PVC เป็นโรคที่เป็นเองหายเอง ไม่มียาตัวไหนไปทำให้มันหายหรอก

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

ทะเลาะกันเรื่องฝุ่น PM 2.5 บ้าจี้ เพ้อเจ้อ หรือว่าไม่รับผิดชอบ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

แจ้งข่าวด่วน หมอสันต์ตัวปลอมกำลังระบาดหนัก

เลิกเสียทีได้ไหม ชีวิตที่ต้องมีอะไรมาจ่อคิวต่อรอให้ทำอยู่ตลอดเวลา

ไปเที่ยวเมืองจีนขึ้นที่สูงแล้วกลับมาป่วยยาว (โรค HAPE)

หมอสันต์สวัสดีปีใหม่ 2568 / 2025

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

"ลู่ความสุข" กับ "ลู่เงิน"