รีทรีตฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็ง (Cancer Retreat) 4 วัน 3 คืน

ครั้งแรก 22-25 กย. 61

Motto "สิ่งที่ได้ผลดีที่สุดในการรักษามะเร็งของคุณคือ..ตัวคุณเอง"

     ความเป็นมา

     สิ่งที่วงการแพทย์รู้ในปัจจุบัน ยังห่างไกลที่จะรักษามะเร็งส่วนใหญ่ให้หายขาด รู้เพียงแต่ว่าระบบภูมิคุ้มกันและระบบฟื้นฟูตัวเองของร่างกายมนุษย์เป็นปราการที่เชื่อถือได้มากที่สุดในการรับมือกับโรคมะเร็งนี้ แต่กระบวนการรักษามะเร็งปัจจุบันพากันมุ่งไปที่จะกำจัดเซลมะเร็งออกไปจากร่างกาย แต่ไม่ได้ทำอะไรกับปัจจัยแวดล้อมภายในร่างกายที่เอื้อให้เกิดมะเร็งขึ้นมาจากเซลปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเครียดกังวล ความกลัว สัมพันธ์ภาพที่ลุ่มๆดอนๆกับคนรอบข้าง สไสตล์ชีวิตที่เร่งรีบกดดัน โภชนาการที่เต็มไปด้วยอาหารขยะ และการขาดเป้าหมายหรือขาดความหมายในชีวิต รีทรีตฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็งนี้จึงเปิดขึ้นมาเพื่อให้ผู้ป่วยได้เลิกวิถีชีวิตเดิมๆที่เอื้อให้เกิดมะเร็งขึ้นมานั้นเสีย หันมาทดลองใช้ไลฟ์สไตล์แบบใหม่ที่จะเพิ่มพูนพลังกายพลังใจให้เดินหน้าไปกับชีวิตใหม่ได้เต็มศักยภาพที่ธรรมชาติให้มา

     คอนเซ็พท์ของรีทรีตฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็ง

     ใช้ยุทธศาสตร์เจ็ดประการ คือ

     1. เปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่

     เลิกกลัวมะเร็ง เลิกมองมะเร็งว่าเป็นศัตรูของชีวิต มันเป็นเซลของเราเองที่กลายพันธุ์ไปอย่างกะทันหันซึ่งปกติก็เกิดอยู่บ่อยๆแต่ถูกทำลายทิ้งโดยระบบภูมิคุ้มกัน การที่มันแพร่พันธ์ุต่อได้เป็นการชี้บ่งว่าปัจจัยภายในร่างกายและสไตล์การใช้ชีวิตที่ผ่านมานั้นไม่เอื้อต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันแต่กลับไปเอื้อให้มะเร็งเติบโตจนเซลดีๆถูกเบียดเบียน
     ดังนั้น เมื่อรักษาตามกระบวนการแพทย์แผนปัจจุบันเช่นผ่าตัด ฉายแสง เคมีบำบัด จบแล้วก็ควรเลิกแสวงหาความช่วยเหลือภายนอกใดๆที่ไม่มีหลักฐานสนับสนุนว่าได้ผลเสีย แล้วหันกลับเข้ามาค้นหาตัวช่วยที่ภายในตัวเองเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและพลังในการฟื้นฟูตัวเองขึ้นมาใหม่ ความกลัวมะเร็งเป็นความเครียดที่ทำร้ายระบบภูมิคุ้มกัน ความกลัวทำให้ไขว่คว้าคาดหวังลมๆแล้งกับปัจจัยภายนอก ทั้งๆที่ศักยภาพหรือพลังมหาศาลที่จะเยียวยาตัวเองนั้นอยู่ที่ภายในและเป็นสิ่งที่ทุกคนมีอยู่แล้ว เราต้องเปิดพลังนี้ออกมาใช้ การฟื้นฟูตัวเองอย่างแท้จริงจึงจะเกิดขึ้น

     2. โฟกัสที่การจัดการความเครียดกังวล 

     ความเครียดไม่ใช่เป็นอะไรที่ "เกิดขึ้น" กับเรา แต่เป็นผลจากการที่เรา "สนองตอบ" ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร แม้ในสถานะการณ์คับขัน เราก็ยังเลือกวิธีสนองตอบได้อย่างไม่เครียดหากเราได้เรียนรู้เทคนิคการฝึกสติวางความคิดกลับไปสู่ความตื่นซึ่งจะทำให้เราพร้อมที่จะเลือกสนองตอบอย่างมีเหตุผล การฝึกสติสมาธิเพื่อการอยู่ในปัจจุบันก็ดี โยคะก็ดี ไทชิก็ดี หากรู้จักใช้ ล้วนเป็นเทคนิคที่จะเอื้อต่อการวางความคิดมาอยู่กับการรับรู้พลังงานของร่างกาย ซึ่งจะเป็นสะพานทอดไปหาความตื่นหรือความรู้ตัว อันเป็นที่สงบเย็นและมีศักยภาพและพลังฟื้นฟูตนเองมากที่สุด

     3. รู้ตัวทั่วพร้อม ผ่อนคลาย และตื่น

     การรับรู้พลังงานของร่างกายผ่านความรู้สึกบนผิวกายด้วยไทชิ เป็นการทิ้งความคิดมาอยู่กับพลังของร่างกาย การผ่อนคลายร่างกายด้วยโยคะ เป็นการปล่อยให้กายและใจถอยกลับมาสู่ความสุขอันเป็นธรรมชาติดั้งเดิมของมัน จากจุดนี้จะนำไปสู่สมาธิซึ่งจะก่อให้เกิดพลังบวกต่อร่างกาย ในภาวะใจเป็นสมาธิ เมื่อปล่อยใจไปไม่ต้องควบคุม ในภาวะที่ปลอดความคิด ก็จะเข้าสู่ความตื่นหรือความรู้ตัวซึ่งเป็นธรรมชาติดั้งเดิมที่สงบสุข ที่ตรงนี้ปัจจัยภายนอกที่เร่งรัดกดดันร่างกายผ่านความคิดจะสลายไป ร่างกายจะเป็นตัวของตัวเองตามธรรมชาติระบบภูมิคุ้มกันที่เคยถูกกดไว้ไม่ให้ทำงานก็จะได้รับการปลดปล่อย ระบบฟื้นฟูซ่อมแซมร่างกายก็จะทำงานได้เต็มที่

     4. เปลี่ยนวิธีใช้ชีวิตเสียใหม่

     รีทรีตฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็งไม่ได้มุ่งกำจัดเซลมะเร็ง แต่มุ่งฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมภายในที่ถูกกดดันเสียศูนย์จนมะเร็งขยายตัวได้ให้กลับมาทำงานได้ดีเต็มศักยภาพที่มีตามธรรมชาติของมัน นั่นหมายถึง วิธีคิด แบบแผนพฤติกรรมเดิมๆที่มีผลเสียต่อสุขภาพต้องถูกปรับเปลี่ยน
     มะเร็งคือสัญญาณเตือนให้ลงมือเปลี่ยนแปลง
     จากการเป็นผู้บ่มเพาะสิ่งเสียๆถมทับบนร่างกายมาเป็นผู้เสริมสร้างสิ่งดีๆให้ร่างกาย เปลี่ยนหมดไม่ว่าจะเป็นความคิดลบ อารมณ์ลบ ความสัมพันธ์ที่ไม่ดี หันมาเริ่มต้นกิจวัตรที่ทำสิ่งดีๆให้ตัวเอง ให้เวลาตัวเองอย่างน้อยวันละ 1-2 ชั่วโมง ซึ่งในรีทรีตนี้จะเรียกว่า morning ritual ใช้เวลานี้อยู่กับตัวเอง อยู่กับปัจจุบัน ออกกำลังกายให้ถึงมาตรฐานที่การแพทย์แผนปัจจุบันแนะนำ นอกจากนี้ยังทำ ไทชิ โยคะ ฝึกสติสมาธิ และต่อจากนั้นทั้งวันก็ใช้ชีวิตในลักษณะยอมรับสิ่งที่มีที่เป็นในปัจจุบันอย่างไม่มีเงื่อนไข ใช้สี่คำหลักคือ ขอบคุณ ขอโทษ ให้อภัย และเมตตา อย่างเป็นอาจิณ

     5. โภชนาการพืชเป็นหลักที่หลากหลายและไขมันต่ำ

     โภชนาการในรีทรีตเน้นอาหารพืชเป็นหลักแบบไขมันต่ำ ไม่มีเนื้อสัตว์เลย เสริมวิตามินเท่าที่จำเป็น โดยไฮไลท์ให้ได้รับสารต้านอนุมูลอิสระที่หลากหลาย ทุกวันที่อยู่ในรีทรีตผู้ป่วยจะได้ดื่ม Trace Elements ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่คัดเอายอดพืชผักสมุนไพรที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงนับร้อยชนิดตามตำหรับรักษามะเร็งของแพทย์แผนไทย แผนอินเดีย แผนจีน แผนยุโรป ที่ปลูกอยู่ในสวนสมุนไพรในฟาร์มของเรามาในรูปแบบของผักสดมาปั่นแบบไม่ทิ้งกากเดี๋ยวนั้นเพื่อให้เป็นเครื่องดื่มประจำวัน เพื่อให้ร่างกายได้รับธาตุอาหารที่ต้องการน้อยแต่หายากครบถ้วน อันจะเป็นการเอื้อต่อการฟื้นตัวของระบบภูมิคุ้มได้เต็มที่

     6. ใช้ประโยชน์จากทุกเทคนิคโดดเด่นที่มนุษย์มี

     โดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์การแพทย์แผนปัจจุบันเป็นแก่นกลาง โดยมีแพทย์แผนปัจจุบันเป็นผู้กำกับควบคุม รีทรีตฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็งใช้ศาสตร์ทุกอย่างที่มนุษย์มีและที่มีหลักฐานแน่ชัดแล้วว่าไม่มีผลเสียมาร่วมฟื้นฟูร่างกายและจิตใจให้ผู้ป่วย ทั้งพืชผักสมุนไพร ของไทย อินเดีย จีน ยุโรป ที่ปลูกไว้ในฟาร์มของเราเอง ทั้งการแพทย์แผนไทย และการแพทย์แบบอายุรเวดะของอินเดีย ซึ่งรวมถึงระบบโภชนาการที่ดี วิตามินและอาหารเสริมตามความจำเป็น การบรรเทาปวด ด้วยวิธีต่างๆ เป็นต้น

     7. สร้างความบันดาลใจจากกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน

     นอกจากจะสร้างบรรยากาศให้แต่ละคนมีความมุ่งมั่นความบันดาลใจด้วยตัวเองแล้ว รีทรีตยังอาศัยกลุ่มหรือทีมของคนมีหัวอกเดียวกันซึ่งมีพลวัตที่มีลักษณะเฉพาะฟอร์มกันขึ้นมาเป็นกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน การเข้าร่วมกลุ่มแม้จะโดยตั้งใจจะไปช่วยสร้างความบันดาลใจให้คนอื่นแต่ผลสุดท้ายจะได้ความบันดาลใจนั้นเสียเองเป็นทวีคูณ นี่เป็นพลังที่เกิดขึ้นโดยที่เราทำเองไม่ได้ อนึ่ง ความบันดาลใจแม้จะสร้างขึ้นได้แล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะอยู่ยั้งยืนยง ยังต้องการกระบวนการกระตุ้นที่ต่อเนื่อง กลุ่มหรือทีมจะต้องพบกันบ่อย ให้โอกาสกันและกัน สนับสนุนกันและกัน โดยกลุ่มหรือทีมเมื่อตั้งขึ้นในรีทรีตแล้ว ก็จะสื่อสารช่วยเหลือเป็นกำลังใจให้กันและกันตลอดไป

ตารางกิจกรรมรีทรีตฟื้นฟูผู้ป่วยมะเร็ง

สถานที่: เวลเนสวีแคร์เซ็นเตอร์ (Wellness We care Center) มวกเหล็ก-เขาใหญ่

ครั้งแรก 22-25 กย. 61

วันแรก

8.00-14.00
Registration- Meet with doctor
-ลงทะเบียนเข้าแค้มป์ เช็คอินเข้าห้องพัก
-วัดดัชนีมวลกาย วัดความดันเลือด ตรวจหัวใจ (auscultation & ECG) ตรวจการทำงานของปอด (lung function) ตรวจบันทึกสภาพผิวหนัง จัดทำเวชระเบียนส่วนบุคคล
-แพทย์ตรวจร่างกายและวางแผนจัดการโรคร่วมกับแพทย์ (คนละ 20 นาที)
-พักรับประทานอาหารว่างและอาหารกลางวันในขณะผลัดกันเข้าพบแพทย์

14.00 - 16.00
Getting to know each other ทำความรู้จักกันและเรียนรู้เรื่องโรคของกันและกัน

16.00 – 16.30
Tea break พักรับประทานน้ำชา

16.30 - 17.30
Briefing. Concept of cancer retreat ยุทธศาสตร์ในการฟื้นฟูตนเองจากโรคมะเร็ง (นพ.สันต์)

18.00 - 20.30
Dinner and peer support group activity อาหารเย็นและกิจกรรมผ่อนคลายกับกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน

วันที่สอง

06.30 - 08.00 น.
Morning Ritual กิจวัตรยามเช้า
-Trace Element drink ดื่มเครื่องดื่มเทรซอีลีเมนท์
-Yoga relaxation โยคะแบบผ่อนคลาย
-Muscle strength training ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

08.00 - 9.30 น.
รับประทานอาหารเช้า อาบน้ำ พักผ่อนส่วนตัว

9.30 – 10.30 น.
Immunity system ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายกับมะเร็ง

10.30 - 11.00  น.
Coffee Break พักดื่มกาแฟ

11.00 - 12.00 น.
Workshop. Awareness การวางความคิดกลับไปอยู่กับความตื่น

12.00 - 14.00 น.
Lunch Break พักรับประทานอาหารกลางวัน และพักผ่อนส่วนตัว

14.00 – 15.00 น.
Cancer Nutrition โภชนาการผู้ป่วยมะเร็ง

15.00 – 15.30 น.
Workshop. Walking meditation เดินจงกลม

15.30 - 16.00 น.
Coffee Break พักรับประทานน้ำชา

16.00 - 18.00 น.
Workshop. Microgreen and sprout การปลูกและใช้ต้นอ่อนและเมล็ดงอก

18.00 - 20.30
Dinner & Group activities รับประทานอาหารเย็นและผ่อนคลายกับกลุ่ม

วันที่สาม

06.30 - 08.00 น.
Morning Ritual กิจวัตรยามเช้า (ในสวน)
-Trace Element drink ดื่มเครื่องดื่มเทรซอีลีเมนท์
-Taichi ไทชิ
-Body scan & relaxation รู้ตัวทั่วพร้อมและผ่อนคลาย
-Posture and balance exercise ท่าร่างและออกกำลังกายแบบเสริมการทรงตัว

08.00 - 9.30 น.
รับประทานอาหารเช้า อาบน้ำ พักผ่อนส่วนตัว

9.30 – 10.30 น.
Workshop. Peer support group activities จัดตั้งกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน

10.30 - 11.00  น.
Coffee Break พักดื่มกาแฟ

11.00 - 13.00 น.
Workshop. PBWF cooking การทำอาหารพืชเป็นหลักไขมันต่ำและอาหารกลืนง่าย

13.00 - 14.00 น.
Lunch Break พักรับประทานอาหารกลางวัน และพักผ่อนส่วนตัว

14.00 – 15.00 น.
Nervous system and stress ระบบประสาทและความเครียด

15.00 – 16.00 น.
Coping with pain การรับมือกับอาการปวด

16.00 - 16.15 น.
Coffee Break พักรับประทานน้ำชา

16.15 - 18.00 น.
Workshop. Herb garden tour ทัวร์สวนสมุนไพร (ฟาร์ม)

18.00 - 20.30
Dinner & Group activities
รับประทานอาหารเย็นและร้องเพลงผ่อนคลายกับกลุ่ม

วันที่สี่

06.30 - 08.00 น.
Morning Ritual กิจวัตรยามเช้า
-Trace Element drink ดื่มเครื่องดื่มเทรซอีลีเมนท์
-Aerobic exercise ออกกำลังกายแบบแอโรบิก (บ้านบนเขา)
-Tai chi ไทชิ

08.00 - 9.30 น.
รับประทานอาหารเช้า อาบน้ำ พักผ่อนส่วนตัว

9.30 – 10.30 น.
Living with cancer เรียนรู้เทคนิคดีๆจากประสบการณ์ของผู้เปลี่ยนชีวิตตัวเองได้เมื่อรู้ว่าเป็นมะเร็ง

10.30 - 11.00  น.
Coffee Break พักดื่มกาแฟ

11.00 - 12.00 น.
Peer to peer sharing แชร์ประสบการณ์เทคนิคการวางคิด (ความคาดหวังและความกลัว) ในกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน

12.00 - 14.00 น.
Lunch Break พักรับประทานอาหารกลางวัน และพักผ่อนส่วนตัว

14.00 – 1600 น.
Personal consultation นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ ตอบคำถามและให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพส่วนตัวเป็นรายคน รวมทั้งปรึกษาผลแล็บ เอกซเรย์และผลการตรวจพิเศษต่างๆ โดยผู้ร่วมแค้มป์ท่านอื่นสามารถนั่งฟังและร่วมแชร์ความรู้และประสบการณ์กันในห้องได้

16,00           
ปิดแค้มป์
             
ค่าลงทะเบียน

     ราคาในปี2561 ท่านละ 9,000 บาท รวมอาหารทุกมื้อ ที่พัก อุปกรณ์การเรียน แต่ไม่รวมค่าเดินทางยังเวลเนสวีแคร์ (ผู้เรียนต้องเดินทางไปเอง) ที่พักนอนคู่สองคนต่อห้อง

วิธีลงทะเบียนเข้าเรียน

   ลงทะเบียนผ่านเว็บไซท์ได้ที่

https://www.wellnesswecare.com/th/program/good-health-by-yourself-th/13 ถ้าไม่สำเร็จให้โทรศัพท์หาคุณเอ๋ย (เชิญขวัญ) ที่เบอร์ 0636394003
การเตรียมตัวไปเข้าคอร์ส

     แนะนำให้เตรียมเครื่องแต่งกายที่ออกกำลังกายสะดวก ควรมีรองเท้าผ้าใบที่เดินบนพื้นหินขรุขระได้ และควรมีหมวกกันแดด และครีมกันแดด

การเดินทางไปเข้าคอร์ส

     สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถตู้กทม.-มวกเหล็ก (ขึ้นที่ใต้ทางด่วนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) หรือรถไฟ (ลงสถานีมวกเหล็ก) ในกรณีเดินทางด้วยรถตู้หรือรถไฟ ต้องหารถรับจ้างจากตลาดมวกเหล็กเข้ามาส่ง ค่ารถมอเตอร์ไซค์ส่งจากตลาดราว 100 บาท ที่เวลเนสวีแคร์ ซึ่งตั้งอยู่ในมวกเหล็กวาลเลย์ อยู่ห่างจากตลาดมวกเหล็กราว 4 กม. อาจให้รถตู้จากกทม.แวะเข้ามาส่งก็ได้โดยต้องเพิ่มเงินให้เ้ขาประมาณ 120 บาท ในกรณีที่จะให้เวลเนสวีแคร์ช่วยระสานงานหารถรับจ้างเหมาไปจากกทม. ต้องติดต่อล่วงหน้า ค่าจ้างแทกซี่ 1,500 บาทเฉพาะขาไปจากกทม.ขาเดียว หรือ 3,000 บาทสำหรับการไปส่งแล้วไปรับกลับกทม. เวลเนสวีแคร์ไม่มีบริการขนส่ง ต้องจัดหาเอง

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

.......................................

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

ทะเลาะกันเรื่องฝุ่น PM 2.5 บ้าจี้ เพ้อเจ้อ หรือว่าไม่รับผิดชอบ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

แจ้งข่าวด่วน หมอสันต์ตัวปลอมกำลังระบาดหนัก

เลิกเสียทีได้ไหม ชีวิตที่ต้องมีอะไรมาจ่อคิวต่อรอให้ทำอยู่ตลอดเวลา

ไปเที่ยวเมืองจีนขึ้นที่สูงแล้วกลับมาป่วยยาว (โรค HAPE)

หมอสันต์สวัสดีปีใหม่ 2568 / 2025

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

"ลู่ความสุข" กับ "ลู่เงิน"