สะเก็ดเงิน กับการไม่ยอมรับ (non-acceptance)

เรียน นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

 ดิฉันอายุ 43 ปี ได้สนใจปฏิบัติธรรมตามแนวทางที่คุณหมอแนะนำจริงจังมาเป็นปีแล้ว ความบันดาลใจส่วนหนึ่งดิฉันเป็นโรคสะเก็ดเงิน ไม่สวย บางช่วงถึงกับน่าเกลียด ทั้งคัน ทั้งปวด ทั้งเครียด หมอก็ได้แต่บอกว่ามันเป็นโรคที่ไม่หาย แต่ก็ให้ยาจัง ตอนนี้ได้ Azathioprine และ Neo-Tigason และ Cyclosporine ดิฉันอยากถามคุณหมอสันต์ว่า
1. โรคสะเก็ดเงินนอกจากรักษาด้วยยากินแล้วมีวิธีรักษาอย่างอื่นอีกไหม
2. คนเป็นสะเก็ดเงินควรกินอาหารอย่างไร
3. คนเป็นสะเก็ดเงินควรออกกำลังกายอย่างไร
4. การปฏิบัติธรรมมีผลต่อสะเก็ดเงินอย่างไร
5. เมื่อหันมาปฏิบัติธรรมแล้วทำไมมีความคิดลบมากขึ้น มีความกลัวว่าสะเก็ดเงินจะเป็นมากขึ้นบ้าง กลัวโน่นกลัวนี่บ้าง มีความโกรธ มีความอิจฉา โดยเฉพาะอิจฉาน้องสาวที่เขาสวยกลายเป็นดาวดวงเด่นเป็นขวัญใจทุกคนขณะที่ดิฉันเป็นหญิงตัวลาย และบางครั้งมีความเกลียด เกลียดคนที่ใจแคบและปิดกั้นคนที่ไม่เหมือนตัวเอง สรุปว่ายิ่งปฏิบัติธรรมยิ่งทุกข์ ดิฉันควรจะทำอย่างไร
ขอขอบพระคุณคุณหมอ และขอให้อยู่ตอบคำถามไปนานๆดิฉันจะได้มีที่พึ่งทางใจเมื่อยามทุกข์

.........................................................................

ตอบครับ

     ก่อนตอบคำถามขอพูดถึงโรคสะเก็ดเงินสักหน่อยนะว่า โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) นี้ เป็นผื่นผิวหนังที่เกิดจากอะไรไม่รู้ แต่วงการแพทย์เดาเอาว่าคงเกิดจากภูมิคุ้มกันของตัวเองไปแหย่ให้เซลผิวหนังแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว กลายเป็นผื่นผิวหนังสีแดงปนเงิน บางครั้งก็เป็นดอกๆ บางครั้งก็เป็นปื้นๆ โรคนี้วงการแพทย์ยังไม่มีวิธีรักษาจำเพาะ

     เอาละ ตอบคำถามนะ

     1. ถามว่านอกจากกินยาแล้ว โรคสะเก็ดเงินมีวิธีรักษาอย่างอื่นไหม ตอบว่ายังมีอีกสองวิธีครับ ซึ่งได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง ได้แก่

     1.1 วิธีอบรังสีอุลตร้าไวโอเล็ตบี. (UVB) แบบว่าเอาคนไข้เข้าไปอยู่ในกล่องคล้ายโลงแก้วที่เปิดไฟไว้เหมือนเตาอบ พอผิวเกรียมได้ที่แล้วก็เอาออกมา

     1.2 วิธีย่างด้วยแสงอุลตร้าไวโอเล็ทเอ. (PUVA ย่อมาจาก psoralen – ultraviolet A therapy) คุณเคยเห็นเขาย่างเขียดไหม นั่นแหละ แต่เป็นการย่างในท่ายืน ปิดตาซะก่อน ปิดจู๋ซะด้วยเพื่อป้องกันมะเร็งที่จู๋ โดยก่อนย่างให้กินหรือทายา psoralen ก่อน ยานี้จะเข้าไปอยู่ในยีนที่ศูนย์กลางของเซล พอเซลโดนแสงอุลตร้าไวโอเล็ทเอ.เซลก็จะแตกดังปุ๊ (apoptosis) ตายคาที่ ทำให้เซลผิวหนังที่เป็นโรคหลุดลอกออกไปง่าย

     2. ถามว่าคนเป็นสะเก็ดเงินควรกินอาหารอย่างไร ตอบว่ามีหลักฐานวิทยาศาสตร์พอใช้ตอบคำถามนี้ได้อยู่สองชิ้น  คือ

   งานวิจัยชิ้นที่ 1. เป็นงานวิจัยติดตามดูผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน 3,557 คนที่ได้รับการรักษาด้วยการให้กินอาหารแบบเมดิเตอเรเนียน (ซึ่งเป็นอาหารที่กินผลไม้ ผัก ธัญพืชไม่ขัดสี ขนมปังโฮลวีท ปลา ถั่ว นัท น้ำมันมะกอก มาก) เมื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มงวดกับการกินในแนวทางอาหารเมดิเตอเรเนียนกับความรุนแรงของการเกิดผื่น พบว่ายิ่งผู้ป่วยเข้มงวดกับแนวทางอาหารเมดิเตอเรเนียนมาก (กินพืชผักมาก) ความรุนแรงของการเกิดผื่นยิ่งน้อยลง

     งานวิจัยชิ้นที่ 2. เป็นงานวิจัยดั้งเดิมที่ทำมานานแล้ว เอาคนไข้โรคผิวหนังต่างๆมาทดลองอดอาหารแล้วตามด้วยให้เริ่มอาหารแบบใหม่เป็นมังสะวิรัติร้อยเปอร์เซ็นต์ (vegan) คือมังแบบ ไม่เนื้อ + ไม่ไข่ + ไม่นม แล้วพบว่าคนไข้โรคผิวหนังทุกชนิดผื่นยุบลงช่วงอดอาหาร แต่พอเริ่มกินอาหารใหม่ (อาหาร vegan นะ) โรคผิวหนังชนิดอื่นผื่นกลับเห่อขึ้นมาใหม่ แต่คนไข้โรคสะเก็ดเงินผื่นหายแล้วหายเลยไม่กลับเป็นใหม่

     ดังนั้น จากงานวิจัยทั้งสองนี้ผมแนะนำว่าคนเป็นสะเก็ดเงินหากทำได้ควรกินอาหารเจแบบไขมันต่ำไม่กินเนื้อสัตว์ใดๆทั้งสิ้น แต่ถ้าทำไม่ได้ก็กินอาหารพืชเป็นหลัก มีเนื้อสัตว์ให้น้อยที่สุด

     3. ถามว่าคนเป็นสะเก็ดเงินควรออกกำลังกายอย่างไร ตอบว่าควรออกกำลังกายตามแบบมาตรฐานสำหรับคนทั่วไปนั่นแหละ กล่าวคือให้ออกกำลังกายแบบแอโรบิกให้ถึงระดับหนักพอควร (หอบแฮ่กๆ ร้องเพลงไม่ได้) วันละ 30 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 ครั้ง ควบกับการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (เล่นกล้าม) อีกสัปดาห์ละ 2 ครั้ง

     4. ถามว่าการปฏิบัติธรรมมีผลต่อสะเก็ดเงินอย่างไร ตอบว่ามีงานวิจัยระดับสุ่มตัวอย่างเปรียบเทียบซึ่งเป็นงานวิจัยระดับสูงสุดเสียด้วย ทำวิจัยกันที่แมสซาจูเส็ท เอาผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) ที่ต้องรักษาด้วยการย่างแบบ PUVA จำนวน 37 คนมาสุ่มตัวอย่างแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งให้ฝึกสติ (MBSR) ควบไปด้วย อีกกลุ่มหนึ่งไม่ได้ฝึกสติ แล้วใช้การประเมินผิวหนังหรือภาพถ่ายผิวหนังโดยแพทย์โรคผิวหนังที่ถูกปิดบังข้อมูลวิจัยเป็นตัวชี้วัด พบว่ากลุ่มที่ฝึกสติไปด้วยมีอัตราการหายของผื่นผิวหนังมากกว่าและเร็วกว่าอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นผมจึงตอบคุณได้เต็มปากเต็มคำว่าการปฏิบัติธรรมหากทำถูกต้องจะทำให้โรคสะเก็ดเงินดีขึ้นนะ

     5. ถามว่าทำไมเมื่อหันมาปฏิบัติธรรมแล้วมีความคิดลบมากขึ้น ตอบว่าเพราะคุณกำลังปฏิบัติอยู่ในสนามเบื้องต้น คือสนามของความคิด ถ้าเปรียบเหมือนการเตะบอลกันในอังกฤษก็เท่ากับว่าคุณนึกว่าคุณเตะมาถึงระดับชาติแล้ว แต่ว่าความจริงถึงจะเป็นการเตะระดับชาติแต่คุณยังอยู่โน่น ดิวิชั่น 5 อยู่เลย ชาตินี้จะได้ขึ้นไปเตะในพรีเมียร์ลีกหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ เมื่อคุณปฏิบัติอยู่ในสนามของความคิด มันจึงเป็นธรรมดาที่คุณจะรับรู้ความคิดได้มากขึ้น

     แต่สนามนี้ก็ใช่ว่าจะพัฒนาคุณไม่ได้ ในสนามความคิด หากคุณรู้จักเลือกความคิด คุณก็พัฒนาขึ้นไปเตะในดิวิชั่นสูงๆขึ้นไปได้ ในสนามนี้ผมสอนให้คุณเอาชนะอุปสรรคตัวเดียวคือการไม่ยอมรับ (non-acceptance) ทุกอย่างที่คุณมีอยู่เป็นอยู่เดี๋ยวนี้ให้ได้เสียก่อน เพราะการไม่ยอมรับเป็นอุปสรรคสำคัญทำให้คุณขึ้นไปเตะลีกสูงขึ้นไปไม่ได้ ได้แต่วนเวียนอยู่กับความคิด กลัว อิจฉา โกรธ เกลียด อยู่นั่นแหละ ในสนามระดับนี้แค่คุณรู้จักมองรู้จักคิด คุณก็พลิกเกมได้แล้ว ตรงนี้ผมขอยกกวีของรูมี (Rumi) มาให้คุณอ่านแทนคำพูดของผมนะ รูมีสอนว่า

      "..แล้วอะไรหรือที่เป็น "ความกลัว" ในชีวิตเรานี้ 

     ก็การไม่ยอมรับว่าทุกอย่างในชีวิตนี้มันล้วนไม่แน่นอนนั่นแหละคือความกลัวในชีวิต หากเรายอมรับความไม่แน่นอนในชีวิตได้ ชีวิตก็เป็นเรื่องของการผจญภัยไม่ใช่เรื่องของความกลัวอีกต่อไป

     แล้วอะไรหรือที่เป็น "ความอิจฉา" ในชีวิตเรา 

     ก็การไม่ยอมรับความดีงามของคนอื่นนั่นแหละคือความอิจฉา ถ้าเรายอมรับความดีงามของคนอื่น สิ่งเหล่านั้นก็จะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เรามุ่งหามุ่งทำสิ่งดีๆต่อไป

     แล้วอะไรหรือที่เป็น "ความโกรธ" ในชีวิตเรา 

     ก็การที่ไม่ยอมรับว่าสิ่งทั้งหลายในชีวิตเรานี้มันอยู่นอกเหนือการควบคุมของเรานั่นแหละคือความโกรธ หากเรายอมรับความจริงอันนี้ได้มันก็จะกลายเป็นความเอื้ออาทรโอนอ่อนผ่อนปรนไป

     แล้วอะไรหรือที่เป็น "ความเกลียด" ในชีวิตเรา 

     ก็การไม่ยอมรับคนอื่นอย่างที่เขาเป็นนั่นแหละคือความเกลียดในชีวิตเรา หากเรายอมรับคนอื่นอย่างที่เขาเป็นได้ มันก็จะกลายเป็นความรักหรือเมตตาธรรมไป.."

      แต่ว่าถึงบรมครูรูมีจะสอนให้คิดดีอย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดอย่างไรเสียคุณก็ต้องขึ้นมาเล่นในสนามที่สูงขึ้นมาจากสนามของความคิด ผมแนะนำให้คุณถอยความสนใจออกมาจากความคิดมาเป็นผู้สังเกตมองดูความคิด aware of a thought ถ้าคุณทำได้ นั่นก็คือคุณหลุดขึ้นไปเล่นในพรีเมียร์ลีกได้แล้วนะ เพราะเมื่อหมดความคิดคุณเป็นกลายเป็นความตื่นไปแล้ว สนามลึกสุดระดับนี้มันขึ้นมาถึงยากก็จริง แต่มาถึงแล้วมันกลับเล่นไม่ยาก คุณพยายามขึ้นไปให้ถึงก่อนแล้วจะเห็นจริงตามที่ผมว่า

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

บรรณานุกรม

1. Phan C, Touvier M et al. Association Between Mediterranean Anti-inflammatory Dietary Profile and Severity of Psoriasis. Results From the NutriNet-Santé Cohort. JAMA Dermatol. Published online July 25, 2018. doi:10.1001/jamadermatol.2018.2127
2. Lithell H, Bruce A, Gustafsson IB, Höglund NJ, Karlström B, Ljunghall K, Sjölin K, Venge P, Werner I, Vessby B. A fasting and vegetarian diet treatment trial on chronic inflammatory disorders. Acta Derm Venereol. 1983;63(5):397-403.
3. Kabat-Zinn, J., Wheeler, E., Light, T., Skillings, A., Scharf, M. J., Cropley, T. G., et al. (1998). Influence of a mindfulness meditation-based stress reduction intervention on rates of skin clearing in patients with moderate to severe psoriasis undergoing phototherapy (UVB) and photochemotherapy (PUVA). Psychosomatic Medicine, 60(5), 625.

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

กินคีโตไข่ต้มไก่ต้มทุกวันแล้วหลอดเลือดหัวใจตีบ

หนังสือคัมภีร์สุขภาพดี (Healthy Life Bible) จะพิมพ์ครั้งที่ 3 แน่นอนแล้ว เชิญสั่งซื้อได้

ความแก่..เหมือนหมาถูกต้อนเข้ามุมให้จนตรอก

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตคนเราคือความเบิกบาน (Joy)

วิตามินดีเกิน 150 หมอบอกมากเกินไป ท้ังๆที่ไม่ได้ทานวิตามินดี

Life Skill Camp for Kids แค้มป์ทักษะชีวิตเยาวชนที่มิวเซียมสยาม 16 พย. 67