โรคลิ้นหัวใจไมทรัลโป่งพองหรือแล่บ (MVP)
เรียนคุณหมอสันต์ที่เคารพ
ผมได้พาลูกไปหาหมอด้านศัลยกรรมหัวใจ เนื่องจากเขามีอาการเจ็บแปล๊บๆที่หน้าอกด้านซ้ายเป็นพักๆ บางวันเป็น บางวันไม่เป็น บางวันเป็นหลายครั้ง ตลอดทั้งวัน ผลจากการตรวจ คุณหมอพบว่าเป็น ลิ้นหัวใจหย่อน MVP (Mitral Valve Prolapse) แต่ไม่มีอาการของลิ้นหัวใจรั่ว ผมได้แนบเอกสารผลการตรวจด้วย ecg และ echo มาให้ด้วยครับ
คุณหมอแจ้งว่าไม่เป็นอันตรายอะไร ไม่จำเป็นต้องทำการรักษา ให้เฝ้าระวังและนัดตรวจดูปีละหนึ่งครั้งครับ พร้อมกับให้ยามาทานแก้ปวด 10 วัน มี Gabapentin 100 mg ก่อนนอน และ Propranolol 5 mg เช้า-เย็น
แต่เนื่องจากอาการเจ็บแปล๊บๆยังคงอยู่ และค่อนข้างรบกวนคุณภาพชีวิต เขามักจะบ่นเสมอถ้าวันไหนมีอาการเจ็บถี่ๆตลอดทั้งวัน หรือติดต่อกันหลายวันครับ ผมจึงใคร่ขอให้คุณหมอให้คำแนะนำด้วยครับ
1) สามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อลดอาการเจ็บแปล๊บๆ หรือลดความถี่การเจ็บ ไม่ให้รบกวนหรือรบกวนน้อยที่สุดให้คุณภาพชีวิตที่เป็นปรกติมากขึ้นครับ
2) ในกรณีนี้ ถ้าไม่ต้องรักษาตามที่คุณหมอระบุ เราจะต้องทำอะไรเป็นพิเศษ เช่น อาหาร ออกกำลังกาย อื่นๆ เพื่อรักษาสภาพลิ้นหัวใจหย่อนไม่ให้เสื่อมไปมากกว่านี้หรือก่อนเวลาอันควรครับ
3) ถ้าต้องรักษา ต้องรักษาอย่างไรครับ
ขอแสดงความนับถือครับ
ขอบคุณอย่างสูงสำหรับคำแนะนำครับ
.......................................................
ตอบครับ
1. ถามว่าจะทำอะไรได้บ้างเมื่อเจ็บแปล๊บๆ ตอบว่าให้ฝึกสมาธิ ยอมรับอาการเสียวแปลบๆปลาบๆของร่างกาย รับรู้แล้วก็เฉยเสีย
2. ถามว่าถ้าหมอบอกว่าไม่ต้องรักษา จะมีอะไรต้องทำเป็นพิเศษอีกไหม ตอบว่าไม่มีครับ
3. ถามว่าถ้าต้องรักษา จะต้องรักษาอย่างไร ตอบว่า..อ้าว ก็ไม่ต้องรักษาแล้วจะถามว่าจะรักษาอย่างไรไปทำพรือละครับ
การรักษาจะทำเมื่อลิ้นหัวใจรั่วมากอย่างมีนัยสำคัญซึ่งแพทย์เขามีวิธีประเมินจากการทำงานของหัวใจ วิธีรักษาก็คือต้องผ่าตัดเปิดแบะหัวใจเข้าไปซ่อมลิ้น ซึ่งมีโอกาสตายเพราะการผ่าตัด 0.5 - 2.5% สุดแล้วแต่ว่าหมอคนไหนเป็นคนผ่า แต่ว่าถึงพระเจ้ามาทำผ่าตัดเองก็ยังมีโอกาสตายอยู่ดี คืออัตราตายเพราะการผ่าตัดยังไงก็ไม่เป็น 0% นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมหมอผ่าตัดไม่ยอมทำผ่าตัดให้เพราะมันไม่คุ้มกับประโยชน์ที่จะได้
4. ยาทั้งหมดที่ให้มาไม่ได้ช่วยรักษา MVP เพราะลิ้นหัวใจที่สายของมันหย่อนไปแล้วไม่มียาอะไรจะไปรักษามันได้หรอก ดังนั้นยาที่เขาให้มา จะกินก็ได้ ไม่กินก็ได้ สุดแล้วแต่รสนิยมของผู้ป่วย
5. สำหรับท่านผู้อ่านทั่วไป โรคลิ้นหัวใจไมทรัลโป่งหรือแล่บ (mitral valve prolapse - MPV)ซึ่งนิยามเป็นภาษาหมอว่าคือภาวะที่ลิ้นหัวใจไมทรัลโผล่ล้ำเข้าไปในเขตหัวใจห้องบนซ้ายในจังหวะปิดเป็นระยะ 2 มม.ขึ้นไป สองมิลเองนะ ไม่ใช่สองเซ็นต์ ร่วมกับการที่เห็นใบของลิ้นมีความหนาอย่างน้อย 5 มม. โรคนี้สมัยก่อนไม่มีหรอกครับ จะมีก็คือโรคลิ้นหัวใจไมทรัลรั่วไปเลย เพิ่งมามีเมื่อมนุษย์เราค้นพบเครื่องเอ็คโค ทำให้เห็นว่าอ้า..า ที่มันโป่งหรือแล่บแต่ยังไม่รั่วก็มีนะ พอตรวจพบอย่างนั้นหมอก็รีบบอกคนไข้ด้วยความดีใจเพราะได้ค้นพบอะไรสักอย่างแล้วไม่ใช่ตรวจเสียเงินตั้งแยะแล้วไม่พบอะไรสักอย่าง แต่เมื่อบอกคนไข้แล้วคนไข้ก็กลายเป็นโรคปสด. (แปลว่าประสาทแด๊กซ์) พังเพยไทยเรียกว่านี่มันเข้าตำราแกว่งตีนเอ๊ยไม่ใช่ ขอโทษ แกว่งเท้าหาเสี้ยนแท้ๆ เพราะคนปกติทั่วไปที่เดินถนนอยู่ ลองจับมาตรวจเอ็คโคสิ ผมพนันร้อยเอาขี้หมาก้อนเดียวว่า 2-6% จะพบว่ามี MPV อยู่ ที่กล้าพนันก็เพราะผมรู้สถิติอยู่ก่อนแร้ว..ว
การรักษามาตรฐานสำหรับโรคนี้ในกรณีที่ไม่มีลิ้นหัวใจรั่วอย่างมีนัยสำคัญคือ... ผมท่องให้ฟังแบบนักศึกษาแพทย์เขาท่องกันเลยนะ
(1) ยืนยันให้สบายใจว่ามันเป็นโรคกระจอก ไม่ทำให้ตาย
(2) ตรวจติดตามด้วยเอ็คโคทุก 3-5 ปีก็ดีนะ (แต่เพื่ออะไรไม่รู้)
(3) กระตุ้นให้ใช้ชีวิตและออกกำลังกายมากๆอย่างคนปกติทั่วไป
(4) ผู้ป่วยจำนวนหนึ่งมีอาการของระบบประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปกติ (dysautonomia) ซึ่งวงการแพทย์ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม อาการอาจจะเป็นลุกแล้วหน้ามืด ใจหวิวใจสั่น ในกรณีเช่นนั้น ให้แนะนำค่อยๆลุกค่อยๆนั่ง งดสารกระตุ้นหัวใจเช่นกาแฟ แอกกอฮอล์ บุหรี่ และอาจให้ติดเครื่อง Holter monitor สัก 24 ชั่วโมงเพื่อรักษาโรคประสาทหรือเพื่อดูว่ามีหัวใจห้องบนเต้นเร็วผิดปกติ (SVT) หรือไม่ ถ้ามีก็จะได้ไปลองจี้ไฟฟ้ารักษาดู
ทั้งหมดนี้คือมาตรการรักษาผู้มี MVP ที่ไม่มีลิ้นหัวใจรั่วครับ
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
ผมได้พาลูกไปหาหมอด้านศัลยกรรมหัวใจ เนื่องจากเขามีอาการเจ็บแปล๊บๆที่หน้าอกด้านซ้ายเป็นพักๆ บางวันเป็น บางวันไม่เป็น บางวันเป็นหลายครั้ง ตลอดทั้งวัน ผลจากการตรวจ คุณหมอพบว่าเป็น ลิ้นหัวใจหย่อน MVP (Mitral Valve Prolapse) แต่ไม่มีอาการของลิ้นหัวใจรั่ว ผมได้แนบเอกสารผลการตรวจด้วย ecg และ echo มาให้ด้วยครับ
คุณหมอแจ้งว่าไม่เป็นอันตรายอะไร ไม่จำเป็นต้องทำการรักษา ให้เฝ้าระวังและนัดตรวจดูปีละหนึ่งครั้งครับ พร้อมกับให้ยามาทานแก้ปวด 10 วัน มี Gabapentin 100 mg ก่อนนอน และ Propranolol 5 mg เช้า-เย็น
แต่เนื่องจากอาการเจ็บแปล๊บๆยังคงอยู่ และค่อนข้างรบกวนคุณภาพชีวิต เขามักจะบ่นเสมอถ้าวันไหนมีอาการเจ็บถี่ๆตลอดทั้งวัน หรือติดต่อกันหลายวันครับ ผมจึงใคร่ขอให้คุณหมอให้คำแนะนำด้วยครับ
1) สามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อลดอาการเจ็บแปล๊บๆ หรือลดความถี่การเจ็บ ไม่ให้รบกวนหรือรบกวนน้อยที่สุดให้คุณภาพชีวิตที่เป็นปรกติมากขึ้นครับ
2) ในกรณีนี้ ถ้าไม่ต้องรักษาตามที่คุณหมอระบุ เราจะต้องทำอะไรเป็นพิเศษ เช่น อาหาร ออกกำลังกาย อื่นๆ เพื่อรักษาสภาพลิ้นหัวใจหย่อนไม่ให้เสื่อมไปมากกว่านี้หรือก่อนเวลาอันควรครับ
3) ถ้าต้องรักษา ต้องรักษาอย่างไรครับ
ขอแสดงความนับถือครับ
ขอบคุณอย่างสูงสำหรับคำแนะนำครับ
.......................................................
ตอบครับ
1. ถามว่าจะทำอะไรได้บ้างเมื่อเจ็บแปล๊บๆ ตอบว่าให้ฝึกสมาธิ ยอมรับอาการเสียวแปลบๆปลาบๆของร่างกาย รับรู้แล้วก็เฉยเสีย
2. ถามว่าถ้าหมอบอกว่าไม่ต้องรักษา จะมีอะไรต้องทำเป็นพิเศษอีกไหม ตอบว่าไม่มีครับ
3. ถามว่าถ้าต้องรักษา จะต้องรักษาอย่างไร ตอบว่า..อ้าว ก็ไม่ต้องรักษาแล้วจะถามว่าจะรักษาอย่างไรไปทำพรือละครับ
การรักษาจะทำเมื่อลิ้นหัวใจรั่วมากอย่างมีนัยสำคัญซึ่งแพทย์เขามีวิธีประเมินจากการทำงานของหัวใจ วิธีรักษาก็คือต้องผ่าตัดเปิดแบะหัวใจเข้าไปซ่อมลิ้น ซึ่งมีโอกาสตายเพราะการผ่าตัด 0.5 - 2.5% สุดแล้วแต่ว่าหมอคนไหนเป็นคนผ่า แต่ว่าถึงพระเจ้ามาทำผ่าตัดเองก็ยังมีโอกาสตายอยู่ดี คืออัตราตายเพราะการผ่าตัดยังไงก็ไม่เป็น 0% นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมหมอผ่าตัดไม่ยอมทำผ่าตัดให้เพราะมันไม่คุ้มกับประโยชน์ที่จะได้
4. ยาทั้งหมดที่ให้มาไม่ได้ช่วยรักษา MVP เพราะลิ้นหัวใจที่สายของมันหย่อนไปแล้วไม่มียาอะไรจะไปรักษามันได้หรอก ดังนั้นยาที่เขาให้มา จะกินก็ได้ ไม่กินก็ได้ สุดแล้วแต่รสนิยมของผู้ป่วย
5. สำหรับท่านผู้อ่านทั่วไป โรคลิ้นหัวใจไมทรัลโป่งหรือแล่บ (mitral valve prolapse - MPV)ซึ่งนิยามเป็นภาษาหมอว่าคือภาวะที่ลิ้นหัวใจไมทรัลโผล่ล้ำเข้าไปในเขตหัวใจห้องบนซ้ายในจังหวะปิดเป็นระยะ 2 มม.ขึ้นไป สองมิลเองนะ ไม่ใช่สองเซ็นต์ ร่วมกับการที่เห็นใบของลิ้นมีความหนาอย่างน้อย 5 มม. โรคนี้สมัยก่อนไม่มีหรอกครับ จะมีก็คือโรคลิ้นหัวใจไมทรัลรั่วไปเลย เพิ่งมามีเมื่อมนุษย์เราค้นพบเครื่องเอ็คโค ทำให้เห็นว่าอ้า..า ที่มันโป่งหรือแล่บแต่ยังไม่รั่วก็มีนะ พอตรวจพบอย่างนั้นหมอก็รีบบอกคนไข้ด้วยความดีใจเพราะได้ค้นพบอะไรสักอย่างแล้วไม่ใช่ตรวจเสียเงินตั้งแยะแล้วไม่พบอะไรสักอย่าง แต่เมื่อบอกคนไข้แล้วคนไข้ก็กลายเป็นโรคปสด. (แปลว่าประสาทแด๊กซ์) พังเพยไทยเรียกว่านี่มันเข้าตำราแกว่งตีนเอ๊ยไม่ใช่ ขอโทษ แกว่งเท้าหาเสี้ยนแท้ๆ เพราะคนปกติทั่วไปที่เดินถนนอยู่ ลองจับมาตรวจเอ็คโคสิ ผมพนันร้อยเอาขี้หมาก้อนเดียวว่า 2-6% จะพบว่ามี MPV อยู่ ที่กล้าพนันก็เพราะผมรู้สถิติอยู่ก่อนแร้ว..ว
การรักษามาตรฐานสำหรับโรคนี้ในกรณีที่ไม่มีลิ้นหัวใจรั่วอย่างมีนัยสำคัญคือ... ผมท่องให้ฟังแบบนักศึกษาแพทย์เขาท่องกันเลยนะ
(1) ยืนยันให้สบายใจว่ามันเป็นโรคกระจอก ไม่ทำให้ตาย
(2) ตรวจติดตามด้วยเอ็คโคทุก 3-5 ปีก็ดีนะ (แต่เพื่ออะไรไม่รู้)
(3) กระตุ้นให้ใช้ชีวิตและออกกำลังกายมากๆอย่างคนปกติทั่วไป
(4) ผู้ป่วยจำนวนหนึ่งมีอาการของระบบประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปกติ (dysautonomia) ซึ่งวงการแพทย์ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม อาการอาจจะเป็นลุกแล้วหน้ามืด ใจหวิวใจสั่น ในกรณีเช่นนั้น ให้แนะนำค่อยๆลุกค่อยๆนั่ง งดสารกระตุ้นหัวใจเช่นกาแฟ แอกกอฮอล์ บุหรี่ และอาจให้ติดเครื่อง Holter monitor สัก 24 ชั่วโมงเพื่อรักษาโรคประสาทหรือเพื่อดูว่ามีหัวใจห้องบนเต้นเร็วผิดปกติ (SVT) หรือไม่ ถ้ามีก็จะได้ไปลองจี้ไฟฟ้ารักษาดู
ทั้งหมดนี้คือมาตรการรักษาผู้มี MVP ที่ไม่มีลิ้นหัวใจรั่วครับ
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์