หมอสันต์ด่าคนรุ่น Gen Y


ใช่อาจารย์หมอรายการ เดอร์ ซิมท่อม หรือเปล่าค่ะ
ถ้าใช่หนูชื่นชมอาจารย์มาก เพราะทำให้รู้อะไรหลาย ๆ อย่าง ที่ไม่เขียนชื่อภาษาอังกฤษเพราะเขียนไม่ถูกค่ะ หนูคิดว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่าไม่แน่ใจ มันหดหู่ไม่อยากทำอะไร ตอนนี้ก็ลาออกจากงานมาแล้ว เหมือนไม่อยากอยู่อีกต่อไป ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน อยากนอน เฉย ๆ ไม่ต้องคิดอะไร แต่หนูไม่ได้อดข้าวหรืออะไรนะคะ กินได้ตามปกติ จะเป็นเฉพาะเวลาอยู่คนเดียว

อาจารย์หมอช่วยหนูด้วย

............................................

ตอบครับ

มาอีกละ เด็ก Gen Y คนรุ่นใหม่ แหม ถ้าอยู่ใกล้ๆมือจะขอเขกสักโป๊กได้ไหมเนี่ย (อุ๊บ ขอโทษ ลืมตัวไปว่าตัวเองเป็นหมอนะ) มาตอบคำถามแบบหมอตอบคนไข้ก่อนดีกว่า จะดุด่าว่ากล่าวอะไรกันค่อยเอาไว้ตอนท้ายนะ ถ้ายังมีเวลา (ยังไม่ลืมหรอก)

       1.. ถามว่าหนูเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่า ตอบว่า “เป็นครับ” โดยทั่วไปโรคซึมเศร้าในวัยรุ่นมักวินิจฉัยยากเพราะอารมณ์ของวัยรุ่นนั้นขึ้นๆลงๆอยู่แล้ว แต่อาการอย่างคุณนี้ออกแนวคลาสสิก แบบว่ามีมุมมองต่อสิ่งรอบตัวผิดไปจากเดิม และมองอะไรเป็นลบไปหมด จินตนาการทางออกของชีวิตไม่ได้เอาเลย อาการอย่างเช่น ตั้งสติไม่ได้ ตัดสินใจไม่ถูก เปลี้ยล้า หงุดหงิด รู้สึกตัวเองไร้ค่าและเกลียดตัวเอง หมดความสนใจในทุกเรื่องแม้ในเรื่องที่เคยสนุก มีแต่ความสิ้นหวัง เศร้า คิดถึงแต่ความตาย เหล่านี้แหละครับ คืออาการโรคซึมเศร้าในวัยรุ่น นอกจากนี้การวินิจฉัยก็ดูเอาจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปด้วย เช่น ไม่รับผิดชอบการงานหรือการเรียน หลบหน้าผู้คน อย่างคุณนี้แหละ หรืออีกแบบหนึ่งก็คือออกแนวท้าทายกฎระเบียบทำอะไรผิดกฎหมาย เสพย์แอลกอฮอล์หรือยาเสพย์ติดไปโน่นเลย

2.. การรักษาโรคซึมเศร้าในวัยรุ่น แพทย์จะโฟกัสอยู่สี่เรื่องคือ

2.1 การใช้ยา(antidepressant) การใช้ยาต้านซึมเศร้าในเด็กและวัยรุ่นนั้นต้องอยู่ในความดูแลของจิตแพทย์อย่างเคร่งครัดเพราะยาต้านซึมเศร้าบางตัวเช่น SSRI เพิ่มอัตราการฆ่าตัวตายในวัยรุ่นได้ และยาต้านซึมเศร้ายอดนิยมบางตัวเช่นยาในกลุ่ม tricyclic antidepressant ก็ไม่ได้รับอนุมัติให้ใช้ในวัยรุ่น ดังนั้นคุณจึงควรไปพบจิตแพทย์แน่นอน ไม่มีทางที่จะหลีกเลี่ยงได้

2.2 การรักษาด้วยการพูด (talk therapy) ซึ่งแบ่งออกเป็นวิธีย่อยๆได้หลายวิธีเช่น

2.2.1 การสอนให้คิดใหม่ทำใหม่ (Cognitive-behavioral therapy) คือสอนให้รู้จักต่อสู้กับความคิดลบ สอนให้รู้จักอาการของโรคนี้ และให้รู้ว่าอะไรทำให้โรคนี้แย่ลง อะไรทำให้ดีขึ้น ขณะเดียวกันก็สอนทักษะการแก้ไขปัญหาในชีวิตไปด้วย

2.2.1        ครอบครัวบำบัด (family therapy) หมายความว่าเอาคนทั้งครอบครัวมานั่งคุยกัน ซึ่งจะมีประโยชน์กรณีโรคมีพื้นฐานจากความขัดแย้งในครอบครัว วิธีนี้เป็นการดึงเอาสมาชิกครอบครัวมาช่วยรักษา ซึ่งหลักการเดียวกันนี้ก็ดึงเอาครูและเพื่อนที่โรงเรียนมาช่วยรักษาได้เช่นกัน

2.2.2        จิตวิทยาบำบัด (psychotherapy) เป็นการใช้คำพูดโอ้โลมพยุงทางใจชี้ให้เห็นประเด็นที่เป็นเหตุให้เกิดพฤติกรรม ความคิด อารมณ์ ที่ผิดปกติ

2.2.3        กลุ่มบำบัด (group therapy) ก็คือจับเอาวัยรุ่นหัวอกเดียวกันมานั่งคุยกัน ซึ่งจะเกิดการแชร์ความรู้สึก เรียนรู้ทางออกจากกันและกัน และเกิดพลังร่วม

2.3 การสนับสนุนให้วัยรุ่นที่ซึมเศร้าได้ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อหวังให้สารเอ็นดอร์ฟินที่เกิดจากการออกกำลังกายรักษาช่วยอาการซึมเศร้าไปด้วย

2.4 การสนับสนุนให้วัยรุ่นมีคนที่ไว้ใจและที่รักและหวังดีต่อตัวเองไว้เป็นที่พึ่งพาพูดคุยเวลาที่เจอทางตัน เพื่อลดอุบัติการณ์ฆ่าตัวตายในระหว่างการรักษา

     ทั้งหมดนั่นเป็นหลักวิชาแพทย์ในการแก้ปัญหาโรคซึมเศร้าในวัยรุ่น ซึ่งผมจาระไนให้ครบแล้ว ถือว่าหมดหน้าที่ของหมอสันต์แล้ว ที่นี้ขอผมในฐานะ “ลุงสันต์” หน่อยนะ ขอทำ talk therapy ในสูตรของผมเองบ้างนะ ไม่มีในตำราแพทย์ดอก จะเรียกว่าขอ “ด่า” สักหน่อยก็คงไม่ผิดเพราะมันคันปากมานานแล้ว

     คือวัยรุ่นสมัยนี้หรือ Generation Y นี่ เขาเป็นอะไรของเขานะ เอะอะก็จะซึมเศร้าไม่เอาถ่านกันท่าเดียว แต่ละคนก็ใช่ว่าจะยากไร้หรือพิกลพิการอะไร เปล่าเลย ทุกคนมีมือเท้าและอวัยวะครบสามสิบสอง เรียนหนังสือก็มาก ส่วนใหญ่ก็หล่อๆสวยๆเป็นลูกผู้ดีเศรษฐีมีเงิน จริงอยู่ที่พ่อแม่มีฐานะธรรมดาหรือมาจากครอบครัวที่แตกแยกก็มีไม่น้อย แต่ทุกคนก็มีข้าวกินไม่เคยได้อดอยากสักครึ่งสักหนึ่งของผมสมัยที่ตัวผมเป็นวัยรุ่นด้วยซ้ำ นี่มันเหมือนกับที่มีใครบางคนพูดไว้เปี๊ยะเลยว่า

     “..ส่วนที่ขาดทางร่างกายไม่ได้หมายความว่าชีวิตจะพิการ แต่จิตที่ไม่สู้  ใจที่ไม่เอางานต่างหาก ที่เป็นความพิการของชีวิต คนตาบอดยังพอมีโอกาสเห็นแสงแห่งชีวิต ส่วนคนจิตบอดจะไม่มีโอกาสเห็นแสงอะไรเลย แม้อยู่ใกล้ทางออกของชีวิต ก็ยังหาไม่เจอ เพราะจิตที่มืดมน ทำให้ใจต้องมืดมัว..”

     ประเด็นที่ผมจะยกรุ่นด่าเลยก็คือ “ความฝันอันยิ่งใหญ่ จิตใจที่ต่อสู้” ของคนรุ่น Gen Y มันหายไปไหน ทำไมเกิดมาเป็นคนไม่มีไฟไม่มีฝันเสียตั้งแต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรตอบแทนบุญคุณของโลกหรือของผู้คนที่ชุบเลี้ยงตนเองมาจนได้เป็นผู้เป็นคนซะอย่างนี้ จิตใจที่สูงส่งของความเป็นมนุษย์ หรือ ความกตัญญูอันเป็นเครื่องหมายของคนดี ของพวกคุณมีไหม ไม่อายหรืออย่างไรที่คิดแต่จะเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางแล้วเรียกร้องให้ใครต่อใครมาแก้ปัญหาให้ด้วยการประท้วงทำลายตัวเองหรือทรมานคนที่เรารู้อยู่แก่ใจว่าเขารักตัวเรามากให้เขาเจ็บปวด อย่างนี้เรียกว่ากตัญญูหรือเนรคุณ โลกนี้แย่ลงทุกวันเพราะคนเลวมีมากขึ้น ขณะที่คนที่คิดว่าตัวเองเป็นคนดีก็หลบไปอยู่ในร่มเงาของโรคซึมเศร้า เคยไหมที่คุณจะถามตัวเองสักคำว่าจะทำอย่างไรจึงจะได้รับใช้มนุษยชาติ เคยถามตนเองไหมว่าตัวเองมีพรสวรรค์อะไร ชอบทำอะไร เพื่อจะได้เอาสิ่งนั้นไปทำประโยชน์แก่ผู้คนหรือแก่โลก

          เลิกท้อแท้กับชีวิตเสียทีเถอะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเราในวันนี้ ความเป็นจริงก็คือมันเป็นสิ่งที่เราทำมันขึ้นมาเอง แม้คุณจะแย้งว่าหนูอยู่เฉยๆไม่ได้ทำอะไร ก็การอยู่เฉยๆนั่นแหละที่ทำให้คุณต้องป่วยอยู่นี่ไง เพราะการไม่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหรือไม่ทำอะไรนั่นแหละคือเหตุของปัญหา เปลี่ยนตัวเองเสียทีสิครับ ทำไมต้องใช้เวลาเป็นปี เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น เพราะใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีก็เปลี่ยนได้แล้ว เพราะใจของเรานั้นเปลี่ยนได้ทุกเสี้ยววินาที สำคัญที่ว่าคุณมีไฟมีฝันไหม ใจของคุณพร้อมที่จะเปลี่ยนหรือยัง จิตของคุณเข้มแข็งพอหรือไม่ เท่านั้น

     อย่าโทษสถานการณ์รอบตัว เพราะสถานการณ์ที่เลวร้ายมิอาจทำอะไรกับคนที่มีความตั้งใจมุ่งมั่นจะทำดีได้ ความคิดที่เลวร้ายต่างหากที่ทำร้ายตัวเราเอง จำไว้เลยว่า

     "คิดลบ จะทำให้พบกับปัญหาอยู่ร่ำไป”

     อย่าโทษว่าตัวเราไม่มีพรสวรรค์ หรือไม่สามารถ เพียงแค่เราไม่เก่งเรื่องภาษาอังกฤษ ใช่ว่าเราจะฉลาดไม่ได้ เพียงแค่เราไม่เก่งคณิตศาสตร์หรือการคิดคำนวณ ใช่ว่าเราจะสร้างสรรค์สิ่งดีๆไม่ได้ คนเก่งคือคนที่รู้จักเลือกกลั่นเอาความรักชอบส่วนตัวจากประสบการณ์ในอดีต มาผสมคลุกเคล้ากับการเรียนรู้ในปัจจุบัน แล้วสร้างเป็นความฝัน หรือ passion ที่บันดาลใจตัวเองให้มุ่งมันไปให้ถึงทำให้สำเร็จเพื่อฝากผลงานดีๆที่ทำด้วยใจและด้วยฝีมือเราไว้ให้กับโลกนี้ อย่าโทษว่าสิ่งดีๆที่คุณรู้ว่าคุณมีเป็นสิ่งที่สังคมไม่ยอมรับ ทำไมเราต้องไปทุ่มเทมากมายกับวิชาหรือการงานที่มันไม่ใช่ตัวเรา แล้วปล่อยให้สมองด้านที่ใช่ตัวเรามันไม่ได้ใช้งาน คุณต้องทุ่มเทให้กับสิ่งทีใช่ตัวเรา ที่เราชอบและมีความสุขที่ได้ทำ เพื่อสรรสร้างชีวิตใหม่ให้ดีกว่า เพราะความสามารถพิเศษของแต่ละคน ย่อมจะมีความต้องการใช้ประโยชน์เชิงสร้างสรรค์จากมัน ณ ที่ใดที่หนึ่งบนโลกนี้เสมอ อย่ามองตัวเองว่าเป็นคนไม่มีใครเอา แต่จงมองตัวเองว่าคุณเป็นคนพิเศษ คุณเกิดมาเพื่อทำเป้าหมายบางอย่างให้บรรลุ มีบางอย่างที่คุณเท่านั้นที่ทำได้ดีกว่าใครๆในโลก

     ลุกขึ้นมาสิ ทำอะไรก็ได้ที่คุณชอบ อย่าไปเชื่อคนที่ไม่เคยประสบความสำเร็จในชีวิตของเขาเองที่คอยจะบอกคุณว่าถ้าคุณทำในสิ่งที่คุณชอบแต่ไม่อยู่ในแนวนิยมของสังคมแล้วคุณจะไปไม่รอด คนที่พูดอย่างนั้นเขาก็ไปไหนไม่รอดเพราะการไม่กล้าทำอะไร เมื่อคุณมีฝัน คุณต้องเกาะติดฝันนั้นและทำฝันนั้นให้เป็นความจริง ถ้าคุณไม่มีฝัน คุณต้องค้นหาฝันของคุณให้พบ ค้นหาไปในอดีต สอบถามตัวเองไปทีละอย่างทีละประเด็น แล้วคุณก็จะพบมัน คนเราอนาคตจะดีถ้ามีฝัน คนไม่มีฝันจะขาดไฟในการดำเนินชีวิต คนอย่างนั้นอันตราย คุณอย่าเป็นคนอย่างนั้น และอย่าเข้าไปใกล้คนอย่างนั้นเชียวนะ เพราะจะพาลถูกดูดพลังชีวิตให้ดับมอดไปด้วย

     แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก ได้ด่าคนรุ่น Gen Y สมใจแล้ว ค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อย ตบหัวแล้วอดไม่ได้ที่จะลูบหลังหน่อยนะ ทั้งหมดที่พูดมาเนี่ย อย่าถือโทษโกรธคนแก่เลย เพราะพูดด้วยรักและเห็นคุณค่าเชิงสร้างสรรค์ของคุณ อีกอย่างหนึ่งผมพูดไปก็เพื่อตัวเองด้วย เพราะวันหนึ่งผมก็ต้องแก่หง่อม นอนงอก่องอขิงอยู่ในอ้อมแขนของคนรุ่นคุณ ถ้าคนรุ่นคุณพากันไปฝังตัวเองอยู่ในกระดองเต่าตราโรคซึมเศร้าหรือไปฆ่าตัวตายกันเสียหมด แล้ววันนั้นใครจะมาดูแลผมละครับ

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์    

บรรณานุกรม  
1.      US Preventive Services Task Force. Screening and treatment for major depressive disorder in children and adolescents: US Preventive Services Task Force Recommendation Statement. Pediatrics. 2009;123:1223-1228.
2.      Cheung AH, Zuckerbrot RA, Jenson PS, Ghalib K. Treatment and ongoing management guidelines for adolescent depression in primary care. Pediatrics. 2007;120:e1313-e1326.
3.      Antidepressant Medications for Children and Adolescents: Information for Parents and Caregivers. National Institute of Mental Health (NIMH). January 13, 2010. Accessed March 25, 2012.

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

กินคีโตไข่ต้มไก่ต้มทุกวันแล้วหลอดเลือดหัวใจตีบ

ความแก่..เหมือนหมาถูกต้อนเข้ามุมให้จนตรอก

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตคนเราคือความเบิกบาน (Joy)

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

วิตามินดีเกิน 150 หมอบอกมากเกินไป ท้ังๆที่ไม่ได้ทานวิตามินดี

Life Skill Camp for Kids แค้มป์ทักษะชีวิตเยาวชนที่มิวเซียมสยาม 16 พย. 67

มะเร็งต่อมลูกหมากแพร่กระจายไปกระดูกขาแล้ว จะไปต่อไงดี