ใช้ยาลดไขมันแล้วผมร่วงและปวดกล้ามเนื้อ
สวัสดีค่ะคุณหมอ
ก่อนอื่นต้องขอบอกคุณหมอว่าชอบรายการหมอยอดนักสืบมากๆเลยค่ะ มีสาระดีอีกทั้งดูคุณหมอเป็นหมอที่ nice มากๆ
ประทับใจคุณหมอมากเลยค่ะ ดิฉันมีเรื่องรบกวนคุณหมอดังนี้ค่ะ
1. เคยอ่านในเอกสารกำกับยาว่า side effect ของ zimmex นั้นสามารถทำให้เกิดอาการ alopecia ซึ่งขณะนี้ ดิฉันกำลังมีอาการ hair loss อย่างมาก หากต้องการเปลี่ยนไปใช้ตัวอื่น ควรเป็นตัวไหนดีคะ
2. side effect อีกอันที่เอกสารกำกับยาบอกไว้ ก็คืออาการเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ ดิฉันไม่แน่ใจว่าอาการที่ตัวเองเป็นอยู่ จะเป็น effect จากยาหรือเปล่า รู้แต่ว่าจะรู้สึกเหมือนกล้ามเนื้อแผ่นหลัง มันเจ็บ ตึง มากๆ ความรู้สึกคล้ายๆมันแข็งและหดตัว เกร็งตัว เคยถึงขั้นต้องไปฉัดยา ดิฉันไม่สามารถทำงานหนักๆได้เลย แค่ถูบ้านก็แย่แล้ว เรียกว่าถ้าถูบ้านเมื่อไหร่ ก็ต้องกินยา norgesic แล้วประคบน้ำร้อน ทายา counterpain และต้องนอนพักไปหลายวันเลย (จริงๆแล้วชอบที่จะทำงานที่ต้องออกแรงและได้เหงื่อด้วยซ้ำไป) พอทำไม่ได้ และไม่ได้ออกแรง เห็นบ้านสกปรก ก็รู้สึกหงุดหงิด แต่พอทำทีไร เดี้ยง ชนิดถ้าจะเทียบก็ต้องบอกว่า ออกแรงไปแค่ 10 แต่เจ็บปวดถึงขั้นต้องกินยา ทายา วางกระเป๋าน้ำร้อน นอนพัก ไปซะ 100 เลยละค่ะ อ้อ อีกอาการหนึ่งคือจะรู้สึกปวดในน่อง ตรงกลางน่อง ความรู้สึกเหมือนเส้นเลือดเส้นเอ็นมันเขม็งตึงอยู่ลึกๆข้างในกลางน่อง แต่ก่อนพอมีอาการ จับที่น่องดู น่องจะเย็นๆ แต่เดี๋ยวนี้อาการน่องเย็นๆไม่มี แต่มีอาการปวดเมื่อยๆลึกๆ จนต้องวางน่องลงไปบนอะไรที่แข็งๆแล้วกดน่องลงไป เพราะมือไม่สามารถกดให้แรงพอที่จะรู้สึกสบายขึ้นมาได้ อาการหลังแข็งนี่แหละทำให้ดิฉันไม่สามารถเพลิดเพลินกับไวโอลินแสนรักได้เท่าที่ควร เนื่องจาก พอเล่นไปได้สักพักอาการที่หลังจะเริ่มแข็ง เจ็บ ปวด ตึง กล้ามเนื้อเริ่มเครียด (เซ็งมากค่ะ) แต่ก่อน เวลาตื่นนอนตอนเช้า ลุกแทบไม่ขึ้นเลยค่ะ หลังมันแข็ง เดี๋ยวนี้ดีขึ้นหน่อย แต่ก็ไม่สามารถทำงานหนักได้เลย ดิฉันมีอาการปวดส้นเท้าด้วย แต่ก่อนปวดเฉพาะส้นเท้า เดี๋ยวนี้บางครั้งไม่ได้ปวดอย่างเดียวแต่จะมีอาการเจ็บๆ แสบๆ ร่วมด้วย การไป shopping ก็เลยไม่สนุก เพราะเดินได้ไม่นาน (แต่ก็ดีนะคะ เดินได้ไม่นาน ไม่เปลืองเงินดี) อาการที่เป็นที่เท้านั้นดิฉันอยู่กับมันจนชินแล้ว ปวดจนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว เวลาไปเดิน shopping แล้วฝืนเดินต่อทั้งๆที่เริ่มปวดเท้า ถ้าไม่หยุดเดิน คราวนี้มันจะปวดลามขึ้นไปบนบั้นเอวเลยค่ะ เอวจะเริ่มแข็งๆขึ้นมาเลย ที่วิตกกังวลคืออาการที่แผ่นหลังทั้งแผ่นน่ะค่ะ ทำอะไรนิดหน่อย เดี้ยง ทันทีค่ะ ไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะที่บ้านไม่มีคนทำงานบ้าน (สมัยนี้หาคนทำงานบ้านยากจังค่ะ)
กราบขอบพระคุณคุณหมอมาล่วงหน้า ณ ที่นี้ค่ะ
(ป.ล.- อาการ hair loss ตอนนี้ดิฉันเสีย self มากเลยค่ะ (ผู้ชายสมัยนี้หากศรีษะล้านบางครั้งบางคนดูดี ดูเท่ห์ไปอีกแบบ แต่เป็นผู้หญิงแล้วยังไงก็ไม่ดูดีเอาเสียเลย)
............................................
ตอบครับ
1. ความสัมพันธ์ระหว่างยา simvastatin (เช่น Zimmex) กับอาการผมร่วง ณ ขณะนี้วงการแพทย์มีแต่หลักฐานว่ามันมีความสัมพันธ์กันแต่ไม่ทราบว่ามันมีกลไกทำให้ผลร่วงอย่างไร จึงยังไม่รู้วิธีป้องกันผมร่วงจากการใช้ยานี้ครับ จากสถิติยาลดไขมันกลุ่ม statin ทุกตัวทำให้ผมร่วงเหมือนกันหมด แต่รายงานผมร่วงจากยาลดไขมันกลุ่มอื่นที่ไม่ใช่ statin มีน้อยกว่า ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเพราะยอดยาอื่นที่ไม่ใช่ statin ในตลาดมีน้อยกว่า โดยสรุป ณ ขณะนี้ไม่มีหลักฐานบอกว่ายาลดไขมันตัวไหนจะทำให้ผมร่วงน้อยกว่าตัวไหน
2. อาการปวดกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะหลังจากออกแรง เป็นผลจากยาลดไขมันได้แน่นอน ตรงนี้คุณต้องระวังให้ดี เพราะคนใช้ยาลดไขมันกลุ่ม statin มีโอกาส 1 ใน 3,000 ที่จะเกิดภาวะกล้ามเนื้อสลายตัว (rhabdomyolysis) ซึ่งหากวินิจฉัยไม่ได้และรักษาไม่ทันก็อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงเช่นไตวายเฉียบพลันและเสียชีวิตได้ มีผู้เสียชีวิตด้วยเหตุนี้มาแล้วด้วย ดังนั้นเมื่อคุณเริ่มมีอาการปวดกล้ามเนื้อขณะใช้ยานี้ คุณต้องหยุดยานี้ทันที และหยุดจนกว่าอาการปวดกล้ามเนื้อจะหายไปจึงจะเริ่มยาใหม่ได้ อย่าใช้ยานี้ไปทั้งๆที่มีอาการปวดกล้ามเนื้ออยู่ ถ้าคุณอ่านฉลากยาให้ดี เขาไม่แนะนำให้ใช้ยานี้ในคนที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อนะครับ
3. ผมไม่ทราบว่าทำไมคุณจึงใช้ยาลดไขมัน หมายความว่าคุณอายุเท่าไร มีโรคอะไรบ้าง ผลตรวจสุขภาพพบอะไรบ้าง และคุณได้จัดการปัญหาไขมันในเลือดสูงด้วยวิธีปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต (lifestyle modification) ไปแล้ว อย่างไรบ้าง การที่ไขมันในเลือดสูงปุ๊บ แล้วกินยาลดไขมันปั๊บนั้นไม่ใช่วิธีรักษาโรคไขมันในเลือดสูงที่ถูกต้องตามหลักวิชา การรักษาโรคไขมันในเลือดสูงที่ถูกต้องตามหลักวิชา คุณต้องเริ่มด้วยการปรับวิถีชีวิตอย่างสิ้นเชิง หมายความว่าปรับอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้ง (1) การออกกำลังกายให้ได้ถึงระดับมาตรฐาน คือออกกำลังกายแบบต่อเนื่องให้ถึงระดับหนักพอควร คือหอบจนร้องเพลงไม่ได้ นานอย่างน้อยสามสิบนาที สัปดาห์ละอย่างน้อยห้าวัน ควบกับการเล่นกล้ามอีกสัปดาห์ละ 2 ครั้ง (2) ปรับโภชนาการ ลดอาหารให้แคลอรี่อันได้แก่ไขมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งไขมันทรานส์ และลดคาร์โบไฮเดรตโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวและน้ำตาลที่เพิ่มมาในเครื่องดื่มต่างๆ ควบกับเพิ่มการ กินผักและผลไม้ได้ให้มากกว่าวันละ 5 เสริฟวิ่งขึ้นไป เรื่องพวกนี้หมอเขาไม่มีเวลาบอกคุณ คุณต้องทำความเข้าใจและลงมือทำเอง อย่าเอาง่ายเข้าว่าเอะอะก็กินยา ยาไม่ใช่ขนม ยาทุกชนิดมีพิษของมันอยู่ การใช้ต้องชั่งน้ำหนักพิษกับประโยชน์ให้ดีก่อน กรณีของคุณนี้ พิษที่ได้รับ มากกว่าประโยชน์ของยาแน่นอน ผมแนะนำให้เลิกใช้ยาลดไขมัน และหันกลับมาใช้วิธีปรับวิถีชีวิตด้วยการออกกำลังกายและปรับโภชนาการแทน ถ้าคุณลงมือทำไปแล้วมันติดขัดอะไร คุณเขียนมาถามผมได้ แต่ถ้ายังไม่ได้ลงมือทำอะไร ไม่ต้องเขียนมาก็ได้ครับ
4. แถมอีกหนึ่งเรื่องนะครับ อาการปวดแบบครอบจักรวาลของคุณนี้ ฟังดูแล้วเป็นอะไรที่มีนัยสำคัญกับชีวิตคุณมากทีเดียว เวลาไปตรวจสุขภาพประจำปีครั้งหน้า ผมแนะนำให้ขอหมอตรวจดูการทำงานของต่อมไทรอยด์ (TSH และ FT4) เพราะบ่อยครั้งที่พบว่าคนที่มีอาการปวดแบบรูดมหาราชอย่างนี้เกิดจากโรคไฮโปไทรอยด์
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
ก่อนอื่นต้องขอบอกคุณหมอว่าชอบรายการหมอยอดนักสืบมากๆเลยค่ะ มีสาระดีอีกทั้งดูคุณหมอเป็นหมอที่ nice มากๆ
ประทับใจคุณหมอมากเลยค่ะ ดิฉันมีเรื่องรบกวนคุณหมอดังนี้ค่ะ
1. เคยอ่านในเอกสารกำกับยาว่า side effect ของ zimmex นั้นสามารถทำให้เกิดอาการ alopecia ซึ่งขณะนี้ ดิฉันกำลังมีอาการ hair loss อย่างมาก หากต้องการเปลี่ยนไปใช้ตัวอื่น ควรเป็นตัวไหนดีคะ
2. side effect อีกอันที่เอกสารกำกับยาบอกไว้ ก็คืออาการเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ ดิฉันไม่แน่ใจว่าอาการที่ตัวเองเป็นอยู่ จะเป็น effect จากยาหรือเปล่า รู้แต่ว่าจะรู้สึกเหมือนกล้ามเนื้อแผ่นหลัง มันเจ็บ ตึง มากๆ ความรู้สึกคล้ายๆมันแข็งและหดตัว เกร็งตัว เคยถึงขั้นต้องไปฉัดยา ดิฉันไม่สามารถทำงานหนักๆได้เลย แค่ถูบ้านก็แย่แล้ว เรียกว่าถ้าถูบ้านเมื่อไหร่ ก็ต้องกินยา norgesic แล้วประคบน้ำร้อน ทายา counterpain และต้องนอนพักไปหลายวันเลย (จริงๆแล้วชอบที่จะทำงานที่ต้องออกแรงและได้เหงื่อด้วยซ้ำไป) พอทำไม่ได้ และไม่ได้ออกแรง เห็นบ้านสกปรก ก็รู้สึกหงุดหงิด แต่พอทำทีไร เดี้ยง ชนิดถ้าจะเทียบก็ต้องบอกว่า ออกแรงไปแค่ 10 แต่เจ็บปวดถึงขั้นต้องกินยา ทายา วางกระเป๋าน้ำร้อน นอนพัก ไปซะ 100 เลยละค่ะ อ้อ อีกอาการหนึ่งคือจะรู้สึกปวดในน่อง ตรงกลางน่อง ความรู้สึกเหมือนเส้นเลือดเส้นเอ็นมันเขม็งตึงอยู่ลึกๆข้างในกลางน่อง แต่ก่อนพอมีอาการ จับที่น่องดู น่องจะเย็นๆ แต่เดี๋ยวนี้อาการน่องเย็นๆไม่มี แต่มีอาการปวดเมื่อยๆลึกๆ จนต้องวางน่องลงไปบนอะไรที่แข็งๆแล้วกดน่องลงไป เพราะมือไม่สามารถกดให้แรงพอที่จะรู้สึกสบายขึ้นมาได้ อาการหลังแข็งนี่แหละทำให้ดิฉันไม่สามารถเพลิดเพลินกับไวโอลินแสนรักได้เท่าที่ควร เนื่องจาก พอเล่นไปได้สักพักอาการที่หลังจะเริ่มแข็ง เจ็บ ปวด ตึง กล้ามเนื้อเริ่มเครียด (เซ็งมากค่ะ) แต่ก่อน เวลาตื่นนอนตอนเช้า ลุกแทบไม่ขึ้นเลยค่ะ หลังมันแข็ง เดี๋ยวนี้ดีขึ้นหน่อย แต่ก็ไม่สามารถทำงานหนักได้เลย ดิฉันมีอาการปวดส้นเท้าด้วย แต่ก่อนปวดเฉพาะส้นเท้า เดี๋ยวนี้บางครั้งไม่ได้ปวดอย่างเดียวแต่จะมีอาการเจ็บๆ แสบๆ ร่วมด้วย การไป shopping ก็เลยไม่สนุก เพราะเดินได้ไม่นาน (แต่ก็ดีนะคะ เดินได้ไม่นาน ไม่เปลืองเงินดี) อาการที่เป็นที่เท้านั้นดิฉันอยู่กับมันจนชินแล้ว ปวดจนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว เวลาไปเดิน shopping แล้วฝืนเดินต่อทั้งๆที่เริ่มปวดเท้า ถ้าไม่หยุดเดิน คราวนี้มันจะปวดลามขึ้นไปบนบั้นเอวเลยค่ะ เอวจะเริ่มแข็งๆขึ้นมาเลย ที่วิตกกังวลคืออาการที่แผ่นหลังทั้งแผ่นน่ะค่ะ ทำอะไรนิดหน่อย เดี้ยง ทันทีค่ะ ไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะที่บ้านไม่มีคนทำงานบ้าน (สมัยนี้หาคนทำงานบ้านยากจังค่ะ)
กราบขอบพระคุณคุณหมอมาล่วงหน้า ณ ที่นี้ค่ะ
(ป.ล.- อาการ hair loss ตอนนี้ดิฉันเสีย self มากเลยค่ะ (ผู้ชายสมัยนี้หากศรีษะล้านบางครั้งบางคนดูดี ดูเท่ห์ไปอีกแบบ แต่เป็นผู้หญิงแล้วยังไงก็ไม่ดูดีเอาเสียเลย)
............................................
ตอบครับ
1. ความสัมพันธ์ระหว่างยา simvastatin (เช่น Zimmex) กับอาการผมร่วง ณ ขณะนี้วงการแพทย์มีแต่หลักฐานว่ามันมีความสัมพันธ์กันแต่ไม่ทราบว่ามันมีกลไกทำให้ผลร่วงอย่างไร จึงยังไม่รู้วิธีป้องกันผมร่วงจากการใช้ยานี้ครับ จากสถิติยาลดไขมันกลุ่ม statin ทุกตัวทำให้ผมร่วงเหมือนกันหมด แต่รายงานผมร่วงจากยาลดไขมันกลุ่มอื่นที่ไม่ใช่ statin มีน้อยกว่า ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเพราะยอดยาอื่นที่ไม่ใช่ statin ในตลาดมีน้อยกว่า โดยสรุป ณ ขณะนี้ไม่มีหลักฐานบอกว่ายาลดไขมันตัวไหนจะทำให้ผมร่วงน้อยกว่าตัวไหน
2. อาการปวดกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะหลังจากออกแรง เป็นผลจากยาลดไขมันได้แน่นอน ตรงนี้คุณต้องระวังให้ดี เพราะคนใช้ยาลดไขมันกลุ่ม statin มีโอกาส 1 ใน 3,000 ที่จะเกิดภาวะกล้ามเนื้อสลายตัว (rhabdomyolysis) ซึ่งหากวินิจฉัยไม่ได้และรักษาไม่ทันก็อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงเช่นไตวายเฉียบพลันและเสียชีวิตได้ มีผู้เสียชีวิตด้วยเหตุนี้มาแล้วด้วย ดังนั้นเมื่อคุณเริ่มมีอาการปวดกล้ามเนื้อขณะใช้ยานี้ คุณต้องหยุดยานี้ทันที และหยุดจนกว่าอาการปวดกล้ามเนื้อจะหายไปจึงจะเริ่มยาใหม่ได้ อย่าใช้ยานี้ไปทั้งๆที่มีอาการปวดกล้ามเนื้ออยู่ ถ้าคุณอ่านฉลากยาให้ดี เขาไม่แนะนำให้ใช้ยานี้ในคนที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อนะครับ
3. ผมไม่ทราบว่าทำไมคุณจึงใช้ยาลดไขมัน หมายความว่าคุณอายุเท่าไร มีโรคอะไรบ้าง ผลตรวจสุขภาพพบอะไรบ้าง และคุณได้จัดการปัญหาไขมันในเลือดสูงด้วยวิธีปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต (lifestyle modification) ไปแล้ว อย่างไรบ้าง การที่ไขมันในเลือดสูงปุ๊บ แล้วกินยาลดไขมันปั๊บนั้นไม่ใช่วิธีรักษาโรคไขมันในเลือดสูงที่ถูกต้องตามหลักวิชา การรักษาโรคไขมันในเลือดสูงที่ถูกต้องตามหลักวิชา คุณต้องเริ่มด้วยการปรับวิถีชีวิตอย่างสิ้นเชิง หมายความว่าปรับอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้ง (1) การออกกำลังกายให้ได้ถึงระดับมาตรฐาน คือออกกำลังกายแบบต่อเนื่องให้ถึงระดับหนักพอควร คือหอบจนร้องเพลงไม่ได้ นานอย่างน้อยสามสิบนาที สัปดาห์ละอย่างน้อยห้าวัน ควบกับการเล่นกล้ามอีกสัปดาห์ละ 2 ครั้ง (2) ปรับโภชนาการ ลดอาหารให้แคลอรี่อันได้แก่ไขมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งไขมันทรานส์ และลดคาร์โบไฮเดรตโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวและน้ำตาลที่เพิ่มมาในเครื่องดื่มต่างๆ ควบกับเพิ่มการ กินผักและผลไม้ได้ให้มากกว่าวันละ 5 เสริฟวิ่งขึ้นไป เรื่องพวกนี้หมอเขาไม่มีเวลาบอกคุณ คุณต้องทำความเข้าใจและลงมือทำเอง อย่าเอาง่ายเข้าว่าเอะอะก็กินยา ยาไม่ใช่ขนม ยาทุกชนิดมีพิษของมันอยู่ การใช้ต้องชั่งน้ำหนักพิษกับประโยชน์ให้ดีก่อน กรณีของคุณนี้ พิษที่ได้รับ มากกว่าประโยชน์ของยาแน่นอน ผมแนะนำให้เลิกใช้ยาลดไขมัน และหันกลับมาใช้วิธีปรับวิถีชีวิตด้วยการออกกำลังกายและปรับโภชนาการแทน ถ้าคุณลงมือทำไปแล้วมันติดขัดอะไร คุณเขียนมาถามผมได้ แต่ถ้ายังไม่ได้ลงมือทำอะไร ไม่ต้องเขียนมาก็ได้ครับ
4. แถมอีกหนึ่งเรื่องนะครับ อาการปวดแบบครอบจักรวาลของคุณนี้ ฟังดูแล้วเป็นอะไรที่มีนัยสำคัญกับชีวิตคุณมากทีเดียว เวลาไปตรวจสุขภาพประจำปีครั้งหน้า ผมแนะนำให้ขอหมอตรวจดูการทำงานของต่อมไทรอยด์ (TSH และ FT4) เพราะบ่อยครั้งที่พบว่าคนที่มีอาการปวดแบบรูดมหาราชอย่างนี้เกิดจากโรคไฮโปไทรอยด์
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์