ใครเขาจะมาพุทโธกับหญิงแก่ขี้เมา


คุณหมอคะ

ดิฉันกำลังลดน้ำหนัก ตอนนี้ 78 กก. สูง 158 ซม. อดอาหารมากเลย วันๆแทบไม่ได้ทานอะไร แต่น้ำหนักไม่ลด เช้าบางวันก็ไม่ทาน บางวันไปส่งลูกก็ทานข้าวราดแกงกับลูกหนึ่งจาน กลางวันอย่างมากก็ก๋วยเตี๋ยวหนึ่งชาม ตอนเย็นก็พยายามไม่ทาน เวลาพาลูกค้าไป entertain ก็จะดื่มแอลกอฮอล์เป็นเพื่อนลูกค้าโดยพยายามไม่แตะอาหาร เวลาดื่มจะดื่มกันพอสมควร คือถ้าเป็นวิสกี้ผสมโคกก็คืนละ 8-9 แก้ว ถ้าเป็นไวน์ก็ประมาณ 6-8 แก้ว ออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานนอกบ้านสัปดาห์ละสองครั้ง ทานยา Xenical และยา Fluoxetine ด้วย ขอคำแนะนำว่าควรทำอย่างไรเพิ่มเติมค่ะ

.......................................


ตอบครับ

1. คุณเป็นโรคอ้วน ข้อนั้นชัดเจน เพราะดัชนีมวลกายคำนวณได้ 32.1 แปลว่าอ้วนแน่

2. ฟังตามที่เล่ามา อาหารที่คุณทานส่วนใหญ่เป็นคาร์โบไฮเดรต แม้อาหารจะให้แคลอรี่ไม่มาก แต่แคลอรี่ของคุณมาจากแอลกอฮอล์ อย่าลืมว่าแอลกอฮอล์นี่ก็เป็นตัวให้แคลอรี่นะครับ ไหนๆก็เจอกับนักดื่มแล้ว ผมขอสอนความรู้เรื่องแอลกอฮอล์หน่อยนะครับ ว่า

2.1 หน่วยนับแอลกอฮอล์ในทางการแพทย์เรียกว่า “ดริ๊งค์” ซึ่งเท่ากับเนื้อแอลกอฮอลประมาณ 0.6 ออนซ์ หรือ 18 กรัม หรือเท่ากับเบียร์หนึ่งแก้ว (360 ซีซี.) หรือไวน์หนึ่งแก้ว (150 ซีซี)หรือวิสกี้หนึ่งเป๊ก (45 ซีซี.) ทั้งนี้โดยประมาณเอาว่าเบียร์นั้นมีแอลกอฮอล์ 5% ไวน์มี 15% วิสกี้มี 40%

2.2 เครื่องดื่มแต่ละชนิดแม้จำนวนดริ๊งค์เท่ากันแต่ให้แคลอรี่ไม่เท่ากัน คือในหนึ่งดริ๊งค์ เบียร์ให้ 153 แคลอรี่ ไวน์ให้ 123 แคลอรี่ วิสกี้ให้ 97 แคลอรี่ นี่เป็นค่ากลางๆ ค่าจริงบวกลบบ้างตามยี่ห้อและชนิด

2.3 นิยามของการดื่มมากน้อยในทางการแพทย์แบ่งเป็นสามระดับคือ

2,3,1 ดื่มพอควร (moderate) คือชายวันละไม่เกิน 2 ดริ๊งค์ หญิงวันละไม่เกิน 1 ดริ๊งค์ ระดับนี้ถือว่าไม่มีผลเสียต่อสุขภาพ

2.3.2 ดื่มหนัก (heavy drinking) คือชายดื่มเกิน 4 ดริ๊งต่อวันหรือเกิน 14 ดริ๊งค์ต่อสัปดาห์ หรือหญิงเกิน 3 ดริ๊งค์ต่อวันหรือเกิน 7 ดริ๊งค์ต่อ สัปดาห์

2.3.3 ดื่มหัวราน้ำ (bing drinking) คือชายดื่มมากกว่า 5 ดริ๊งค์ในสองชั่วโมงหรือหญิงมากกว่า 4 ดริ๊งค์ในสองชั่วโมง

ของคุณนี้คืนหนึ่งล่อเข้าไป 8-9 ดริ๊งค์ น่าจะนับเป็นระดับดื่มหัวราน้ำได้แล้วครับ

3. ขอคำแนะนำหรือครับ ได้.. แต่คุณจะเก็ทหรือไม่นั่นก็สุดแต่บุญกรรมนะ ผมแนะนำว่า

3.1 เลิกดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาด เพราะคนอย่างคุณเป็นมนุษย์พันธ์ไม่รู้ว่าเส้นแบ่งของการดื่มอย่างรับผิดชอบอยู่ตรงไหน จะใช้วิธีลดลงเหลือวันละหนึ่งดริ๊งค์คงจะยากส์..ส์ มีตัวเอสด้วยนะครับ แปลว่าหลายๆยากมารวมกันเป็นยากส์

3.2 ปรับโภชนาการใหม่ มื้อเช้าและกลางวันไม่ต้องทานข้าว ปั่นผักและผลไม้ดื่มแทนอาหารปกติ ปั่นวันละเป็นลิตรแล้วหิ้วไปที่ทำงาน หิวก็ดื่ม หิวก็ดื่ม แต่ห้ามทานข้าว มื้อเย็นอดเลยถ้าทำได้ ถ้าทำไม่ได้ก็ทานน้อยๆก่อนเวลานอนอย่างน้อย 3 ชม.

3.3 ออกกำลังกายอย่างเอาเป็นเอาตาย ตื่นสักตีสี่มาออกกำลังกายแบบมุทำอยู่คนเดียว ไม่ต้องไปอ้อนใครให้มาช่วยลุ้น ออกกำลังกายแบบต่อเนื่องให้ถึงระดับหนักพอควร หรือหอบแฮ่กๆจนร้องเพลงไม่ได้ อย่างน้อยนานครึ่งชั่วโมงสัปดาห์ละอย่างน้อย 5 วัน ควบกับเล่นกล้ามอีกอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง

3.4 ชั่งน้ำหนักทุกสัปดาห์

3.5 เลิกกินยาทั้งหลายซะให้หมด การลดความอ้วนตามหลักวิชาแพทย์ ไม่โฟคัสที่การใช้ยา ยาที่ FDA อนุมัติให้ใช้มีตัวเดียวคือยาระงับการดูดซึมไขมัน Xenical แต่มันก็เป็นการแก้ปัญหาไม่ตรงจุดอยู่ดี ส่วนยา Fluoxetine นั้นเป็นยาต้านซึมเศร้า หมอเขาคงใช้แบบ off label คืออาศัยฤทธิ์ข้างเคียงที่มันทำให้เบื่ออาหารมาช่วยลดความอ้วน ซึ่งในความเห็นของผมการใช้ยาลดความอ้วนแบบนี้มันไม่น่าจะคุ้มกับผลเสียจากยา

3.6 คุยกับตัวเองบ่อยๆว่าเราเป็นใคร เกิดมาทำไม่ เราจะไปที่ไหน ชีวิตบั้นปลายเราจะเป็นอย่างไร ถ้าเราเป็นหญิงแก่ป่วยด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง จะมีใครมาพุทโธกับเราไหม หรือว่าจะมีแต่คนถุยน้ำลายใส่ มีทางเลือกในชีวิตที่ดีกว่านี้ให้เดินหรือเปล่า อะไรแบบเนี้ยะ ตอนนี้ไม่ต้องคิดถึงคนอื่น ไม่ต้องประท้วงใคร เอาตัวเองให้รอดก่อน ปฏิบัติการครั้งนี้คือการปีนขึ้นมาจากปากหลุมลึก ได้ไม่ได้ก็อยู่ที่ตัวคุณเองละครับ ผมก็ทำได้แต่ส่งกำลังใจมาช่วย เอ้า..ปีนขึ้นมา..อึ๊บ

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เจ็ดใครหนอ

สอนวิธีแปลผลเคมีของเลือด

กินคีโตไข่ต้มไก่ต้มทุกวันแล้วหลอดเลือดหัวใจตีบ

ความแก่..เหมือนหมาถูกต้อนเข้ามุมให้จนตรอก

ชีวิตเมื่อตายไปแล้ว

เปลี่ยนอาหาร ปั่นจักรยาน น้ำตาลลด ความดันลด แต่ไขมันทำไมไม่ลด

ท่านอายุเก้าสิบแล้วยังไม่รู้ แล้วท่านจะรู้มันไปทำพรื้อละครับ

สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตคนเราคือความเบิกบาน (Joy)

อายุ 70 ปีถูกคนในบ้านไล่ให้ไปฉีดวัคซีนไข้เลือดออก

มะเร็งต่อมลูกหมากแพร่กระจายไปกระดูกขาแล้ว จะไปต่อไงดี