ขอโทษ ผมปากเสีย แต่ก็เป็นความจริง
อยากรบกวนถามคุณหมอว่า...
แฟนดิฉันเป็นคนที่ท้องเสียบ่อยมากค่ะ หลายครั้งมีเลือดปนอยู่ด้วย สังเกตว่าทุกครั้งที่กินเผ็ดจะท้องเสียทันที มีเสียงร้องเหมือนท้องเดือดปุดๆ และท้องอืดแน่นท้องเกือบทั้งวันและทุกวัน ไม่ทราบว่าอาการข้างต้นเป็นอันตรายไหมคะ หรือเป็นเพราะเค้าอ้วนมาก เค้าอายุ 30 แต่น้ำหนัก 105-106 แล้วค่ะ ไม่ชอบทานผักและปลา ชอบทานของทอดๆ ค่ะ บอกให้ไปตรวจก็ไม่กล้า บอกว่าอายหมอค่ะ รบกวนคุณหมอด้วยนะคะ
…………………………………
1. อาการท้องเสียบ่อย ทางการแพทย์เรียกว่าว่า abnormal bowel habit ถือเป็นความผิดปกติ ยิ่งถ้าบางครั้งถ่ายมีเลือดปน นี่เป็นสัญญาณร้ายแล้วละครับ แสดงว่ามีความผิดปกติของลำไส้แน่นอน ยังไม่รู้แน่ว่าเป็นอะไร แต่ควรจะคิดไว้ก่อนว่าอาจจะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ไว้ก่อน จนกว่าจะได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่ สิ่งที่พึงทำทันที คือการไปส่องตรวจลำไส้ใหญ่ (colonoscopy) ซึ่งเป็นทั้งการวินิจฉัยอาการที่เป็น และเป็นการคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นเรื่องที่ต้องทำ (must do) สำหรับแฟนคุณ
2. อาการท้องเดือดปุดๆ ท้องอืด แน่นท้อง มีต้นเหตุหลายอย่าง เช่น ชนิดอาหารที่ทาน (อาหารบางชนิดให้แก้สมาก) มีการอักเสบของลำไส้ (ลำไส้พยายามบีบตัวมาก) ขาดการออกกำลังกาย (ลำไส้ไม่เคลื่อนไหว แก้สค้าง) อ้วน (ลำไส้เคลื่อนไหวน้อย) เป็นต้น ในกรณีของแฟนคุณ ทั้งหมดนั้นอาจร่วมกันเป็นสาเหตุ ก็ต้องแก้ไปให้ครบทุกสาเหตุละครับ
3. อายุ 30 ปี น้ำหนักเกินร้อย ไม่ทราบสูงเท่าไหร่ แต่อย่างไรเสียก็เป็นโรคอ้วนแน่ๆ แถมโภชนาการไม่ถูกต้องอีกต่างหาก คือทานแต่อาหารให้แคลอรี่ (ของทอด) เรียกว่ากำลังมีวิถีชีวิตที่ผิดทาง การแก้ปัญหามีวิธีเดียว คือปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเสียใหม่อย่างสิ้นเชิง ขอโทษ ต้องเปลี่ยนแบบหน้ามือเป็นหลังตีน ฝรั่งเรียกว่า total lifestyle modification คือเปลี่ยนเป็นคนละคน คือ
3.1 ต้องเลิกทานอาหารให้แคลอรี่ หันมาทานแต่ผักผลไม้และอาหารที่ให้โปรตีน ต้องทานผักผลไม้วันละเป็นถาดๆ
3.2 ต้องออกกำลังกายให้ได้มากกว่ามาตรฐานสำหรับคนทั่วไป มาตรฐานสำหรับคนทั่วไปคือต้องออกกำลังกายให้ได้ระดับหนักพอควร คือหอบเหนื่อยจนร้องเพลงไม่ได้ นาน 30 นาที สัปดาห์ละ 5 ครั้ง บวกกับการเล่นกล้ามอีกสัปดาห์ละ 2 ครั้ง แต่แฟนคุณเป็นโรคอ้วน ต้องออกกำลังกายมากกว่านี้อีก คือออกกำลังกายให้ถึงระดับหนักมาก คือเหนื่อยจนพูดไม่ออก วันละอย่างน้อยชั่วโมงหรือสองชั่วโมง ทุกวัน
3.3 ต้องดูแลเรื่องการพักผ่อนด้วย ต้องมีเวลานอนมากพอ วันละอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง และจัดการความเครียดตัวเองให้ดี
3.4 ต้องไปตรวจสุขภาพเพื่อประเมินปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ อย่างน้อยก็ต้องไปส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่เพื่อคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ และควรถือโอกาสตรวจระดับน้ำตาล ระดับไขมัน ความดันเลือดไปด้วย เมื่อทราบว่ามีปัจจัยเสี่ยงสุขภาพอะไรแล้ว ก็ต้องลงมือจัดการปัจจัยเสี่ยงนั้นให้หมดไป
3.5 ต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปีด้วย เพราะคนอ้วนตายง่ายเมื่อเจอไข้หวัดใหญ่
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่แฟนคุณต้องทำ และคุณต้องช่วยเขาทำให้สำเร็จ มิฉะนั้นคุณก็จะต้องอยู่เลี้ยงลูกต่อไปคนเดียวโดยไม่มีเขา ขอโทษ.. ผมปากเสีย แต่ก็เป็นความจริง อะจ๊าก..ก
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์
แฟนดิฉันเป็นคนที่ท้องเสียบ่อยมากค่ะ หลายครั้งมีเลือดปนอยู่ด้วย สังเกตว่าทุกครั้งที่กินเผ็ดจะท้องเสียทันที มีเสียงร้องเหมือนท้องเดือดปุดๆ และท้องอืดแน่นท้องเกือบทั้งวันและทุกวัน ไม่ทราบว่าอาการข้างต้นเป็นอันตรายไหมคะ หรือเป็นเพราะเค้าอ้วนมาก เค้าอายุ 30 แต่น้ำหนัก 105-106 แล้วค่ะ ไม่ชอบทานผักและปลา ชอบทานของทอดๆ ค่ะ บอกให้ไปตรวจก็ไม่กล้า บอกว่าอายหมอค่ะ รบกวนคุณหมอด้วยนะคะ
…………………………………
1. อาการท้องเสียบ่อย ทางการแพทย์เรียกว่าว่า abnormal bowel habit ถือเป็นความผิดปกติ ยิ่งถ้าบางครั้งถ่ายมีเลือดปน นี่เป็นสัญญาณร้ายแล้วละครับ แสดงว่ามีความผิดปกติของลำไส้แน่นอน ยังไม่รู้แน่ว่าเป็นอะไร แต่ควรจะคิดไว้ก่อนว่าอาจจะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ไว้ก่อน จนกว่าจะได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่ สิ่งที่พึงทำทันที คือการไปส่องตรวจลำไส้ใหญ่ (colonoscopy) ซึ่งเป็นทั้งการวินิจฉัยอาการที่เป็น และเป็นการคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นเรื่องที่ต้องทำ (must do) สำหรับแฟนคุณ
2. อาการท้องเดือดปุดๆ ท้องอืด แน่นท้อง มีต้นเหตุหลายอย่าง เช่น ชนิดอาหารที่ทาน (อาหารบางชนิดให้แก้สมาก) มีการอักเสบของลำไส้ (ลำไส้พยายามบีบตัวมาก) ขาดการออกกำลังกาย (ลำไส้ไม่เคลื่อนไหว แก้สค้าง) อ้วน (ลำไส้เคลื่อนไหวน้อย) เป็นต้น ในกรณีของแฟนคุณ ทั้งหมดนั้นอาจร่วมกันเป็นสาเหตุ ก็ต้องแก้ไปให้ครบทุกสาเหตุละครับ
3. อายุ 30 ปี น้ำหนักเกินร้อย ไม่ทราบสูงเท่าไหร่ แต่อย่างไรเสียก็เป็นโรคอ้วนแน่ๆ แถมโภชนาการไม่ถูกต้องอีกต่างหาก คือทานแต่อาหารให้แคลอรี่ (ของทอด) เรียกว่ากำลังมีวิถีชีวิตที่ผิดทาง การแก้ปัญหามีวิธีเดียว คือปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเสียใหม่อย่างสิ้นเชิง ขอโทษ ต้องเปลี่ยนแบบหน้ามือเป็นหลังตีน ฝรั่งเรียกว่า total lifestyle modification คือเปลี่ยนเป็นคนละคน คือ
3.1 ต้องเลิกทานอาหารให้แคลอรี่ หันมาทานแต่ผักผลไม้และอาหารที่ให้โปรตีน ต้องทานผักผลไม้วันละเป็นถาดๆ
3.2 ต้องออกกำลังกายให้ได้มากกว่ามาตรฐานสำหรับคนทั่วไป มาตรฐานสำหรับคนทั่วไปคือต้องออกกำลังกายให้ได้ระดับหนักพอควร คือหอบเหนื่อยจนร้องเพลงไม่ได้ นาน 30 นาที สัปดาห์ละ 5 ครั้ง บวกกับการเล่นกล้ามอีกสัปดาห์ละ 2 ครั้ง แต่แฟนคุณเป็นโรคอ้วน ต้องออกกำลังกายมากกว่านี้อีก คือออกกำลังกายให้ถึงระดับหนักมาก คือเหนื่อยจนพูดไม่ออก วันละอย่างน้อยชั่วโมงหรือสองชั่วโมง ทุกวัน
3.3 ต้องดูแลเรื่องการพักผ่อนด้วย ต้องมีเวลานอนมากพอ วันละอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง และจัดการความเครียดตัวเองให้ดี
3.4 ต้องไปตรวจสุขภาพเพื่อประเมินปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ อย่างน้อยก็ต้องไปส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่เพื่อคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ และควรถือโอกาสตรวจระดับน้ำตาล ระดับไขมัน ความดันเลือดไปด้วย เมื่อทราบว่ามีปัจจัยเสี่ยงสุขภาพอะไรแล้ว ก็ต้องลงมือจัดการปัจจัยเสี่ยงนั้นให้หมดไป
3.5 ต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปีด้วย เพราะคนอ้วนตายง่ายเมื่อเจอไข้หวัดใหญ่
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่แฟนคุณต้องทำ และคุณต้องช่วยเขาทำให้สำเร็จ มิฉะนั้นคุณก็จะต้องอยู่เลี้ยงลูกต่อไปคนเดียวโดยไม่มีเขา ขอโทษ.. ผมปากเสีย แต่ก็เป็นความจริง อะจ๊าก..ก
นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์